WSSTH ตอนที่ 3,176 : ประชันความเร็ว!
“นั่นมันเสียงของกงซุนอู๋จี๋!”
“กงซุนอู๋จี๋กลับมาแล้ว!”
…
หลายคนจากคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ต่างๆที่มามุงชม เคยได้ยินเสียงของกงซุนอู๋จี๋ศิษย์หลักของคฤหาสน์ปี้ชิงมาก่อน เช่นนั้นจึงจำได้ทันทีว่าผู้มาคือกงซุนอู๋จี๋
จากนั้นไม่นานนัก ร่างในชุดคลุมสีดำหนึ่งก็ปรากฏตัวสู่สายตาทุกคน
เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา แววตาคมกริบ รูปร่างแลดูสมส่วน ตอนนี้มันลอยร่างเหนือน่านฟ้าเหนือค่ายคฤหาสน์ปี้ชิงไกลๆ กำลังมองจ้องมาทางต้วนหลิงเทียนตาเขม็ง
“เจ้าคือต้วนหลิงเทียน?”
ชายหนุ่มชักสายตาเฉยชามองต้วนหลิงเทียน พลางเอ่ยถามเสียงเย็น
“กงซุนอู๋จี๋?”
ต้วนหลิงเทียนมองสำรวจชายหนุ่มชุดดำเช่นกัน สองตายังเผยประกายวาบหนึ่ง
ตั้งแต่วันที่ได้ผลึกสำนึกผู้แข็งแกร่งที่สุดมา พลังของเขาก็ก้าวหน้าขึ้นไม่น้อย ต่างจากก่อนหน้าที่จะได้รับผลึกสำนึกผู้แข็งแกร่งที่สุดราวคนละคน!
เรียกว่าพลังของเขาต่างจากเดิมคนละโลก!
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้เปิดเผยพลังใดๆออกไป
กระทั่งการมาดักหน้าค่ายคฤหาสน์ปี้ชิงครั้งนี้ เขายังไม่ได้ฆ่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิง 2 คนที่เจอใกล้ๆหน้าค่ายด้วยซ้ำ แต่ปล่อยให้พวกมันรอดกลับมาที่นี่
เหตุผลการมาค่ายคฤหาสน์ปี้ชิงของเขา ไม่ได้มาเพื่อเก็บคะแนนอย่างเดียว
จุดประสงค์หลักของเขาคือบีบให้กงซุนอู๋จี๋ ศิษย์หลักของคฤหาสน์ปี้ชิงปรากฏตัวและสู้กับเขา!
การสู้กับกงซุนอู๋จี๋ไม่เพียงแต่จะเพื่อเปิดเผยพลังฝีมือขู่ขวัญเท่านั้น แต่ยังเพื่อคะแนนสะสมของกงซุนอู๋จี๋อีกด้วย
ก่อนที่เขาจะเดินทางมาค่ายคฤหาสน์ปี้ชิง เขาเลือกจะออกไปด้านนอก เพื่อดูตารางจัดอันดับโดยเฉพาะ
ตอนนั้นกงซุนอู๋จี๋อยู่ในอันดับ 2 ด้วยคะแนนสะสม 500 กว่าๆแล้ว…ในปัจจุบันคะแนนของกงซุนอู๋จี๋ก็มีแต่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่มีลดลงแน่!
“เจ้าพาผู้ใดมาช่วยก็บอกให้มันรีบไสหัวออกมาเสีย…อาศัยเจ้าคนเดียว หาใช่คู่มือข้าไม่!”
กงซุนอู๋จี๋มองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเสียงเย็น
มันรับทราบพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนดี
ถึงแม้มันจะไม่สนิทสนมกับซีเหมินฮ่าวซวนสักเท่าไหร่
ทว่ามันสนิทกับศิษย์คฤหาสน์หงเอี้ยที่รู้จักซีเหมินฮ่าวซวนอยู่บ้าง ทำให้มันก็ได้รับทราบพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนรวมถึงจุดเด่นจุดด้อยชัดเจน
จุดแข็งของต้วนหลิงเทียนคือการโจมตีอันทรงพลัง
ทว่าด้านความเร็วนั้น นับเป็นจุดด้อย และเป็นจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของต้วนหลิงเทียน!
“ข้าตัวคนเดียว ไม่มีคนช่วย”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกเสียงเบา “ส่วนจะเป็นคู่มือเจ้าได้รึเปล่า…ในเมื่อเจ้ายังไม่ลอง แล้วไฉนรีบด่วนสรุปนักเล่า?”
“แค่เจ้า?”
มุมปากกงซุนอู๋จี๋แสยะยิ้มค่อนแคะ สองตายังเริ่มฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟันอันน่ากลัว “ดูเหมือนวันนี้เจ้าจะแส่มาหาที่ตายโดยเฉพาะ!!”
“จะฆ่าข้าก็ต้องดูปัญญาสามารถเจ้าด้วย…”
เมื่อเล็งเห็นถึงจิตสังหารในแววตากงซุนอู๋จี๋ ลูกตาต้วนหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อยค่อยทอประกายเยียบเย็นเรืองขึ้นวาบหนึ่ง
ตั้งแต่วินาทีที่กงซุนอู๋จี๋ตั้งใจจะฆ่าเขา เช่นนั้นเขาก็ไม่คิดยั้งมือไว้ไมตรี และไม่มีวันปล่อยให้มันรอดกลับไปทั้งมีชีวิตได้แน่นอน!
“10 ลมหายใจ…ฆ่าเจ้า ข้าอาศัยแค่ 10 ลมหายใจก็เกินพอ!”
กงซุนอู๋จี๋เอ่ยออกเสียงเย็น
และพอกล่าวจบคำ ชุดคลุมสีดำบนร่างกงซุนอู๋จี๋ก็เริ่มกระพือสะบัด จากนั้นก็เริ่มปรากฏสายลมสีครามรุนแรงพัดวนไปทั่วร่าง
เห็นได้ชัดว่ากงซุนอู๋จี๋เข้าใจกฏแห่งลม!
ฟุ่บบบ!!
แทบจะเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ทั่วร่างกงซุนอู๋จี๋ปะทุสายลม สองตาแหลมคมมันก็มองเพ่งต้วนหลิงเทียนเขม็ง จากนั้นร่างพลันไหววูบคราหนึ่ง จากนั้นก็พร่าเลือนไปดั่งเงา ห้อเหยียดเสียดลมเข่นฆ่าไปทางต้วนหลิงเทียนฉับไว!
ฟุ่ฟ! ฟุ่ฟ! ฟุ่ฟ! ฟุ่ฟ! ฟุ่ฟ!
…
ขณะที่ร่างกงซุนอู๋จี๋พุ่งทานข้ามฟ้า ก็ปรากฏภาพติดตามากมายวูบวาบไปทางต้วนหลิงเทียน จากนั้นมวลอากาศก็ควบผนึกเป็นคมมีดสายลมมีสภาพเหินตามร่างมัน! ติดตามไปเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียน!!
ความเร็วในการเคลื่อนไหวของมันนับว่ารวดเร็วยิ่งนัก หลายคนที่มุงชมอยู่มองไม่เห็นมันด้วยซ้ำ!
“เร็วยิ่ง!!”
“กงซุนอู๋จี๋ผู้นี้สมควรเข้าใจความลึกซึ้งที่หนุนเสริมความเร็วเป็นหลักของกฏแห่งลมครบทุกประการแล้วเป็นแน่! หาไม่แล้วไฉนมันถึงได้ว่องไวปานนี้!”
“ในกาลก่อนข้าเพียงรู้ว่ากงซุนอู๋จี๋นั้นร้ายกาจมาก แต่ข้าไม่เคยเห็นมันยามลงมือสักครั้ง…คราวนี้ต้องขอบคุณต้วนหลิงเทียนแล้วจริงๆ ที่ทำให้ข้ามีโชคเห็นมันลงมือ!”
…
นอกจากศิษย์ของค่ายคฤหาสน์ปี้ชิงที่พึ่งเข้ามาชมดูเรื่องราวในค่ายโดยเฉพาะแล้ว เหล่าผู้ที่มาชมดูเรื่องราวนอกค่ายส่วนใหญ่ ให้อ่อนแอแค่ไหนก็ล้วนเป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศที่มีพลังงฝีมือพอตัวทั้งนั้น
ถึงแม้ความเร็วในการเคลื่อนไหวของกงซุนอู๋จี๋จะทำให้พวกมันตกใจ แต่พวกมันก็ยังพอมองเห็นได้อยู่
กงซุนอู๋จี๋เข้าใจความลึกซึ้งที่หนุนเสริมความเร็วเป็นหลักของกฏแห่งลมครบแล้ว!
‘ความเร็วของกงซุนอู๋จี๋ เทียบกับความเร็วของหว่านชิงชิงแล้วก็มีแต่จะเหนือกว่า…กระทั่งซีเหมินฮ่าวซวนก็ดูเหมือนจะด้อยกว่ามันอยู่บ้าง’
ในขณะที่กงซุนอู๋จี๋ปะทุพลังเข่นฆ่าสังหารไปทางต้วนหลิงเทียน ต้วนหลิงเทียนเองก็เห็นซึ้งถึงความเร็วของอีกฝ่าย และบอกได้เลยว่ามันรวดเร็วที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง
หากเป็นก่อนหน้านี้ ต่อให้เขาจะร่วมมือกับหว่านชิงชิง ทว่าหากพบเจอกงซุนอู๋จี๋แล้วอีกฝ่ายคิดหนี เกรงว่าหว่านชิงชิงก็ไม่อาจขวางมันได้
ความลึกซึ้งที่หนุนเสริมความเร็วเป็นหลักของกฏแห่งลม ไม่เพียงว่องไวเท่านั้น แต่การโจมตียังรุนแรงไม่ใช่ชั่ว คิดจะลุยฝ่ากรงเถาวัลย์หนีไปแต่แรกนับว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร
นี่เป็นข้อได้เปรียบของกงซุนอู๋จี๋ ที่ซีเหมินฮ่าวซวนซึ่งเข้าใจกฏทำลายล้างไม่มี
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าซีเหมินฮ่าวซวนจะอ่อนด้อยกว่ากงซุนอู๋จี๋ พวกมันเคยประมือกันในแดนสวรรค์ใต้โบบราณระดับกลางมาหลายครั้งแล้ว และก็ได้แต่เลิกรากันไป
แม้ความเร็วของซีเหมินฮ่าวซวนจะด้อยกว่ากงซุนอู๋จี๋ แต่ก็ด้อยกว่ากันแค่เล็กน้อย
วัดกันที่พลังฝีมือโดยรวม ก็แทบจะพอๆกัน ไม่มีใครทำอะไรอีกฝ่ายได้
วูบ!
ในขณะที่กงซุนอู๋จี๋วูบร่างตัดฟ้าเข่นฆ่ามาเจียนบรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียน ร่างต้วนหลิงเทียนก็อันตรธานหายวับไปในฉับพลัน ปรากฏตัวอีกทีก็ห่างออกไปจากจุดเดิมร้อยหมี่แล้ว!
“ความลึกซึ้ง เคลื่อนมิติ!!”
“นั่นรึ การเคลื่อนย้ายข้ามมิติในตำนาน!!”
“ให้ตายเถอะ ข้าไม่เห็นร่องรอยใดๆเลย ว่ามันย้ายจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้ยังไง…เหมือนมันวูบหายไปในความว่างเปล่าจุดเดิม แล้วไปผุดโผล่ยังความว่างเปล่าจุดใหม่ทันที!”
“ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ มันก็เป็นดั่งการเคลื่อนย้ายข้ามมิติในฉับพลัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่เห็นร่องรอยใดๆ”
…
ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติของต้วนหลิงเทียน ยามใช้ออกก็ทำให้สองตาเหล่าศิษย์คฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลายที่ไม่เคยเห็นสองตาลุกวาวกันเป็นแถบ หลายคนยังพึ่งเคยเห็นคนใช้ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติกับตาครั้งแรกด้วยซ้ำ
กฏมิติเป็น 1 ใน 4 กฏสูงสุด ยากนักที่จะเข้าใจ มองไปทั่วคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ของแดนสวรรค์ใต้แล้ว แม้จะมีคนเข้าใจกฏมิติอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เข้าใจแค่ความลึกซึ้งอย่างความหมายแห่งมิติ และความลึกซึ้งง่ายๆของกฏมิติเท่านั้น
คนที่เข้าใจความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ นับว่าหาได้ยากเหลือเกิน
“หึ!”
เห็นการเคลื่อนย้ายข้ามมิติของต้วนหลิงเทียน กงซุนอู๋จี๋ไม่ได้แลดูแปลกใจอะไร มันพ่นลมหายใจเสียงเย็นคำหนึ่ง ร่างก็วูบวาบดั่งเงาเลือนไปอีกครั้ง!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ภาพติดตาร่างกงวุนอู๋จี๋ปรากฏวูบวาบขึ้นไม่หยุด โจนทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเดิม!
และคราวนี้ร่างกงซุนอู๋จี๋ก็เข้าใกล้ร่างต้วนหลิงเทียนได้มากกว่าเดิม ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะวูบร่างหายไป แลดูฉิวเฉียดนัก!
ฉากดังกล่าวทำให้หลายคนอดหวาดเสียวแทนต้วนหลิงเทียนไม่ได้!
“ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ แม้จะเป็นการเคื่อนไหวลี้ลับอัศจรรย์ แต่มิใช่จะใช้ติดต่อได้ในพริบตา ยังมีช่วงเวลาหน่วงเหนี่ยวขณะรวมรั้งพลัง…หากพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน น่ากลัวต้วนหลิงเทียนจะวูบร่างหลบหนีได้อีกราวๆ 3 ครั้ง จากนั้นกงซุนอู๋จี๋ก็น่าจะเข้าถึงตัวต้วนหลิงเทียนได้ทัน ก่อนที่ร่างต้วนหลิงเทียนจะรวมรั้งพลังเคลื่อนย้ายข้ามมิติได้ทัน!”
ศิษย์คฤหาสน์อมตะระดับ 6 คนหนึ่งกล่าวออกเสียงเข้ม สองตาฉายประกายแหลมคมนัก
เห็นได้ชัดว่ามันเห็นเรื่องราวการรุกไล่เบื้องหน้าอย่างละเอียด
อันที่จริงก็มีหลายคนสังเกตเห็นเรื่องนี้
“ตอนนี้ผ่านไป 2 ลมหายใจแล้ว…ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจักหนีการโจมตีครั้งต่อไปของข้าได้ยังไง!!”
เสีงเย้ยเยาะของกงซุนอู๋จี๋ดังก้องไปทั่วฟ้า พาลให้เหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงในค่ายบังเกิดความตื่นเต้นยกใหญ่
“ศิษย์พี่กงซุน ฆ่ามันเสีย!!”
“ศิษย์พี่กงซุน ฆ่าต้วนหลิงเทียนนั่นให้ตาย!!”
“ศิษย์พี่กงซุน ไหนเลยต้องให้เวลามัน 10 ลมหายใจด้วย? 3 ลมหายใจก็มากพอฆ่ามันได้แล้ว!!”
…
เหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิง นับว่าเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจในตัวกงซุนอู๋จี๋นัก!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ภาพติดตาดั่งร่างแยกเงากลางอากาศปรากฏขึ้นไม่หยุด เห็นเป็นฉากกงซุนอู๋จี๋จู่โจมใส่ความว่างเปล่าและวูบเปลี่ยนทิศทางไปฉับไว เพราะต้วนหลิงเทียนวูบร่างหลบหนีห่างไป 100 หมี่ได้ทุกครา!
ดูเหมือนหากยังลงมือไม่สำเร็จ ก็ไม่มีทางปล่อยไป!
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนวูบร่างหลบมาได้หลายครั้ง ในที่สุดครั้งนี้ทุกคนก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องถูกกงซุนอู๋จี๋ไล่ทันแน่!
กระทั่งตัวกงซุนอู๋จี๋เองยังเชื่อแบบนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อร่างกงซุนอู๋จี๋ห่างจากร่างต้วนหลิงเทียนอีกแค่เล็กน้อย อยู่ดีๆร่างต้วนหลิงเทียนพลันวูบหายไปอีกครั้ง!!
“เป็นไปไม่ได้!!”
เห็นฉากดังกล่าว ร่างกงซุนอู๋จี๋ถึงกับชะงักหยุดลงกลางหาว สีหน้าท่าทีของมันยังแปรเปลี่ยนไปใหญ่หลวง
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันไรมันก็พบว่า…
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้วูบร่างห่างออกไป 100 หมี่…แต่ห่างออกไปแค่ 50 หมี่เท่านั้น!
“นั่นมันความลึกซึ้งส่งผ่าน!!”
“ให้ตายเถอะ เหลือเชื่อยิ่งนัก! ต้วนหลิงเทียนมันเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว!!”
“ด้วยด่านพลังฝึกปรือของมัน หากเข้าใจความลึกซึ้งเคลื่อนมิติกับส่งผ่านถึงขั้นตอนเบื้องต้น ในแดนสวรรค์ใต้โบรารระดับกลางความเร็วของมันก็จัดว่าอยู่ในระดับ 1…ตอนนี้จะให้เทียบกับหว่านชิงชิง ก็นับว่าไม่ได้ด้อยกว่ากันแม้แต่น้อย!!”
“ข้าหลงคิดว่าที่มันร่วมมือกับหว่านชิงชิง…ทั้งหมดเพราะคิดพึ่งพาความเร็วของหว่านชิงชิงเสียอีก แต่ความเร็วของมันดูเหมือนจะไม่ได้ด้อยไปกว่าหว่านชิงชิงเลย!”
“ดูเหมือนว่าเป้าหมายที่มันชักชวนหว่านชิงชิงให้ร่วมมือด้วยเดือนก่อน เป็นเพราะคิดหาผู้ช่วยที่จะคอยหน่วงรั้งศัตรูให้มากกว่า!”
…
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยความลึกซึ้งส่งผ่านของกฏแห่งมิติ เหล่าศิษย์ของคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลายที่ชมดูเรื่องราวอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเป็นแถบ…
‘มันเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนเบื้องต้นตั้งแต่เมื่อใดกัน?’
หว่านชิงชิงอดแปลกใจไม่ได้
เพราะนางรู้ว่าเมื่อเดือนก่อนต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้เข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น อย่างมากก็เข้าใจได้บางส่วนเท่านั้น ไม่งั้นหลังจัดการเหิงเฟิงได้แล้ว นางต้องถูกจัดการแน่นอน
เพราะหากเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนเบื้องต้นแล้ว หมายความว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้ด้อยไปกว่านางอีกต่อไป!
‘ดูเหมือนก่อนที่เจ้านั่นจะเข้ามาเดือนนี้ มันสมควรเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นได้แล้ว…มิน่าล่ะ ถึงได้หาญกล้ามาดักหน้าค่ายคฤหาสน์ปี้ชิง!’
เหิงเฟิงลอบทอดถอนในใจ
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ล่วงรู้พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน! ในฐานะที่เป็นคนที่โดนต้วนหลิงเทียนกำจัดออกมาสองเดือนติด มันย่อมล่วงรู้พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนดี!!
‘แต่ถึงมันจะเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนความลึกซึ้งเบื้องต้นแล้ว หากยังเอาแต่หนีถ่ายเดียว ความเร็วยังถือว่าด้อยกว่ากงซุนอู๋จี๋เล็กน้อย…ตราบใดที่กงซุนอู๋จี๋ทุ่มไล่ตามอย่างไม่ลดละ สุดท้ายก็ต้องตามมันได้ทันอยู่ดี’
‘ทว่าตอนนี้ น่ากลัวก่อนที่กงซุนอู๋จี๋จะตามมันทัน ไม่พ้นต้องโดนการโจมตีรุนแรงบัดซบนั่นก่อนแน่!’
เหิงเฟิงตระหนักได้ทันที ว่าการต่อสู้ครั้งนี้รู้ผลแล้ว