War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3183

ตอนที่ 3183

“ฮ่วนเอ๋อ”

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเอ่ยเรียกออกไป แผ่นหลังของร่างบางที่เหม่อมองไปยังคฤหาสน์เฉวียนโยวอยู่ก็สะท้านไปอย่างแรง จากนั้นนางก็ค่อยๆหันกลับมา

พอหันมาเห็นร่างชายหนุ่มชุดม่วงไม่ไกล แม้จะไม่ได้เห็นอีกฝ่ายมาสักพักแล้ว แต่นางก็จดจำได้ไม่มีลืม เพราะชายหนุ่มก็ไม่เปลี่ยนไปเลย

“พี่หลิงเทียน? ข้า…ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”

ฮ่วนเอ๋อยกมือขึ้นถอดหมวกกับผ้าคลุมหน้าออกทันที รูปโฉมอันงดงามไร้คู่เปรียบของนางเปิดเผยออกมาอีกครา พาลให้สรรพสิ่งโดยรอบแลหมองลงถนัดตา

จังหวะนี้กระทั่งจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยที่อยู่มา 30,000 กว่าปีที่ยืนอยู่ไกลๆ พอได้เห็นรูปโฉมฮ่วนเอ๋อ มันยังอดไม่ได้ที่จะหยีตาลง เพราะตลอดชั่วชีวิตของมันไม่เคยเห็นสตรีนางใดงดงามถึงขั้นนี้มาก่อน “ใต้หล้า…มีสตรีที่งดงงามสมบูรณ์แบบเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?”

“ฮวนเอ๋อ”

เมื่อเห็นโฉมหน้าฮ่วนเอ๋อชัดถนัดตา ต้วนหลิงเทียนก็ทนไม่ไม่ไหวสืบไป ร่างไหววูบเข้าหาฮ่วนเอ๋อทันที

ด้านฮ่วนเอ๋อก็คล้ายกลายเป็นสายลมหอบหนึ่ง พัดกรรโชกมาเร็วไว ก่อนจะโยนตัวเข้าอ้อมอกต้วนหลิงเทียน ทั้งกอดเอาไว้แน่น “พี่หลิงเทียน…ฮ่วนเอ๋อคิดถึงท่านยิ่ง คิดถึงท่านยิ่ง!”

หลังซุกอ้อมอกต้วนหลิงเทียนแล้ว ฮ่วนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยอารมณ์สะทกสะท้อน หยาดน้ำสองสายหลั่งรินจากดวงตาราดรดแก้มงาม ชวนให้แลดูน่าเวทนาสงสารเหลือเกิน

“พี่หลิงเทียนก็คิดถึงฮ่วนเอ๋อเหมือนกัน”

ต้วนหลิงเทียนเองก็กอดร่างบางในอกไว้แน่น ความกังวลที่สุมในอกมานานปีในที่สุดก็พรั่งพรูออกมา

ตอนนั้นหลังตื่นจากการบ่มเพาะมาแล้วไม่เจอฮ่วนเอ๋อ เขาก็กังวลแทบบ้า

ตอนนี้เมื่อเห็นนางปลอดภัยกับตา ในที่สุดเขาก็ได้ระบายลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเสียที

“ฮ่วนเอ๋อ สัญญากับพี่หลิงเทียน…วันหลังเจ้าห้ามจากไปโดยไม่ลาอีกรู้หรือไม่?”

หลังผ่านไปราวๆเค่อหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆผละร่างฮ่วนเอ๋อออกไป และมองกล่าวด้วยสายตาจริงจัง

“พี่ใหญ่หลิงเทียน หลายปีที่ฮ่วนเอ๋อหายไป…พี่หลิงเทียนคิดถึงฮ่วนเอ๋อบ้างไหม?”

ฮ่วนเอ๋อตอนนี้ บนแก้มงามไร้ตำหนิยังปรากฏคราบน้ำตาให้เห็น ชวนให้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความเวทนาจับใจ

“คิดถึง! พี่หลิงเทียนห่วงฮ่วนเอ๋อแทบตายที่หายไปคนเดียวแบบนั้น…พี่หลิงเทียนยังออกกตามหาฮ่วนเอ๋ออยู่หลายปีก็แต่กลับหาไม่เจอเลย ที่แท้ตอนนั้นฮ่วนเอ๋อไปอยู่ไหนมากันแน่?”

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามเสียงเข้ม

“เช่นนั้น ที่ฮ่วนเอ๋อจากไปก็ไม่ไร้ความหมายแล้ว”

ฮ่วนเอ๋อกล่าว

“เด็กโง่ ไฉนเจ้าคิดเช่นนั้นเล่า”

ได้ยินคำพูดของฮ่วนเอ๋อ ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกพูดไม่ออก ทั้งจนปัญญาอยู่บ้าง และทำให้เขาอดนึกถึงวาจาทิ้งทายที่ฮ่วนเอ๋อจากไปไม่ลาวันนั้นขึ้นมา

“พี่หลิงเทียน ตอนนี้ฮ่วนเอ๋อคงไม่ได้อยู่ข้างท่านแล้ว…ที่จริงฮ่วนเอ๋อไม่อยากไปไหนเลย แต่ฮ่วนเอ๋อคิดว่าหากฮ่วนเอ๋อหายตัวไป บางทีพี่หลิงเทียนอาจจะคิดถึงและเป็นห่วงฮ่วนเอ๋อบ้าง…เป็นห่วงฮ่วนเอ๋อเหมือนที่ห่วงพี่สาวมู่หรงปิง พี่สาวเค่อเอ๋อ พี่สาวลี่เฟย และพี่สาวเฟิ่งเทียนหวู่…”

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ฮ่วนเอ๋อจากไปในตอนนั้น

กระทั่งจนบัดนี้เมื่อนึกถึงเหตุผลดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็อดคิดไปไม่ได้ว่าฮ่วนเอ๋อช่างเอาแต่ใจราวเด็กน้อยเหลือเกิน…

อย่างไรก็ตามพอคิดอีกที ตอนนั้นฮ่วนเอ๋อก็เป็นเด็กน้อยจริงๆ และพึ่งจะออกมาพบเจอโลกกว้างหลังได้เจอเขาเท่านั้น…

เช่นนั้นการกระทำของนางย่อมอภัยให้ได้

หากจะโทษก็ต้องโทษเขาคนเดียว ที่ไม่ได้หาทางออกเรื่องนี้ให้ดี

“ฮ่วนเอ๋อ เจ้าต้องรับปากพี่หลิงเทียน ว่าต่อไปเจ้าจะไม่ทำแบบนี้อีก…ตั้งแต่วันที่ฮ่วนเอ๋อจากไป พี่หลิงเทียนรู้แล้วว่าในใจฮ่วนเอ๋อสำคัญขนาดไหน”

ต้วนหลิงเทียนกล่าว

ถึงแม้วาจาของต้วนหลิงเทียนฟังแล้วจะเหมือนปลอบใจและห้ามปรามไม่ให้นางทำอะไรแบบนั้นอีก แต่ที่พูดไปก็เป็นความจริง เพราะในใจเขาฮ่วนเอ๋อก็มีความสำคัญกว่าที่เขาคิดเอาไว้

“จริงหรือ?”

ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน ฮ่วนเอ๋อก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที จากนั้นก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนจริงจัง ราวกับจะรอฟังคำยืนยันของต้วนหลิงเทียน

“จริงสิ”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

“พี่หลิงเทียน วันหน้าฮ่วนเอ๋อจะไม่จากพี่หลิงเทียนไปไหนแล้ว”

ฮ่วนเอ๋อโยนตัวเข้าอ้อมอกต้วนหลิงเทียนอีกรอบ และคราวนี้ก็ไม่คิดจะปล่อยอยู่นาน จนเมื่อต้วนหลิงเทียนบอกว่ามีคนอยู่ด้วย ฮ่วนเอ๋อจึงผละออกมาด้วท่าทางเขินอายอยู่บ้าง

“ผู้อาวุโส นี่คือฮ่วนเอ๋อ เป็นน้องสาวข้าเอง”

ต้วนหลิงเทียนที่กุมมือฮ่วนเอ๋ออยู่หันไปกล่าวแนะนำตัวนางให้จ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยรู้จัก

“น้องสาว?”

ชายชราแย้มยิ้ม “ใช่น้องสาวที่รักหรือไม่?”

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหน้าม้านอยู่บ้าง เมื่อได้ยินคำของชายชรา กลับันด้านฮ่วนเอ๋อพอได้ฟังคำพูดของชายชราก็คลี่ยิ้มอย่างถูกใจ “ตาแก่เจ้าพูดน่าฟังยิ่ง เจ้าเป็นคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวด้วยหรือ?”

“ฮ่วนเอ๋อ อย่าได้หยาบคาย!”

ต้วนหลิงเทียนรีบปรามฮ่วนเอ๋อทันที

“ไม่เป็นไรหรอก”

ชายชราโบกมือส่งๆกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าดูแล้วยยาโถวน้อยนางนี้คงมิค่อยมีประสบการณ์ทางโลกมากนัก เป็นธรรมดาที่นางจะไม่เข้าใจเรื่องลำดับอาวุโสอันหยุมหยิมน่ารำคาญ…ว่าแต่นางไปทำอันใดมาหรือ ไฉนจึงโดนเผ่าจิ้งจอกมายาจับตาเช่นนั้นเล่า?”

ขณะกล่าวประโยคท้ายชายชราก็พยายามมองฮ่วนเอ๋ออย่างระวัง หากแต่มันก็ไม่พบเบาะแสใดๆ และไม่แม้แต่จะพบว่าที่แท้ฮ่วนเอ๋อไม่ใช่มนุษย์

ฮ่วนเอ๋อเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา ยากจะปรากฏในเผ่าจิ้งจอกมายาหากไม่ผ่านไปสักหลายล้านปี กลิ่นอายพลังของนางถูกปกปิดไว้ตามธรรมชาติ และด้วยระดับพลังฝึกปรือของฮ่วนเอ๋อตอนนี้ เว้นเสียแต่จะเป็นตัวตนขอบเขตจักรพรรดิอมตะขึ้นไป หาไม่แล้วคงไม่มีทางบอกได้เลยว่านางไม่ใช่มนุษย์

แน่นอนว่าถ้าเป็นคนของเผ่าจิ้งจอกมายาเหมือนกัน ย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเผ่าพันธุ์เดียวกันจากร่างนางจางๆ กระทั่งหากเป็นจิ้งจอกมายาที่มากความรู้มากประสบการณ์ ก็อาจจะมองออกว่านางคือจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา

“เรื่องนี้กล่าวไปค่อนข้างยาว ไว้มีเวลาข้าจะเล่าให้ผู้อาวุโสฟังภายหลัง”

ต้วนหลิงเทียนไม่อยากหลอกลวงชายชรา จึงได้แต่บอกปัดออกไปอย่างถนอมน้ำใจ “ผู้อาวุโส ให้ฮ่วนเอ๋อเข้าร่วมคฤหาสน์เฉวียนโยวด้วยคงไม่มีปัญหาอะไรกระมัง?”

“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา…ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่มีอายุไม่ถึงร้อยปี นับว่าเป็นอัจฉริยะปีศาจที่ร้ายกาจไม่ต่างอะไรจากเจ้าอีกคน พวกเจ้านับว่าบีบคั้นผู้อื่นแทบตายแล้วจริงๆ”

ชายชราได้แต่กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนก็พึ่งตระหนักได้ ว่าฮ่วนเอ๋อบรรลุถึงขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศแล้ว

เหมือนกับเขาเมื่อเดือนก่อน!

ต้องทราบด้วยว่า ที่เขาทะลวงถึงขุนนางอมตะ 10 ทิศได้ในเวลาสั้นๆ เพราะเขาใช้ผลเทพสังเวยสวรรค์!

แต่ฮ่วนเอ๋อไม่มีผลเทพสังเวยสวรรค์!!

‘หากฮ่วนเอ๋อไม่ได้พบเจอวาสนาปาฏิหาริย์อันใดเลยหลังแยกกับข้า…นับว่าจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาจริงๆ’

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็พอจะคาดเดาได้ ว่าไฉนที่ด่านพลังฝึกปรือของฮ่วนเอ๋อถึงก้าวหน้ารวดเร็วจนน่ากลัวขนาดนี้ อาจเป็นเพราะสายเลือดจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาของนาง

ทันใดนั้นเอง ชายชราพลันสะบัดมือเรียกกล่องใบหนึ่งออกมา

และพอเปิดกล่องดังกล่าวออก ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนตะลึงไปทันใด

เพราะในกล่องนั่นกลับมีผลไม้อมตะ 2 ผลที่เขาพึ่งใช้ไป…ผลราชาอัคคีและผลราชาน้ำแข็ง!

ผลไม้อมตะทั้ง 2 ผล หากใช้พร้อมกัน มันสามารถทำให้ขุนนางอมตะ 10 ทิศสามารถทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดได้ในเวลาอันสั้น!

ต้วนหลิงเทียนที่เคยใช้มันมาแล้ว ย่อมรู้ถึงพลังอำนาจของมันดี

อย่างไรก็ตาม เขาคาดไม่ถึงจริงๆ

ว่าจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยที่อยู่เบื้องหน้า หลังมอบผลไม้อมตะคู่นี้ให้เขาชุดหนึ่งแล้ว อีกฝ่ายยังหยิบออกมาอีกชุดอย่างเหนือความคาดหมาย

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผลราชาอัคคีและผลราชาน้ำแข็งมันแลดูไร้ค่าขนาดนี้?

“แม่หนูน้อย ข้าขอมอบสิ่งนี้ให้เจ้าเป็นของขวัญแรกพบ”

ชายชรายื่นส่งกล่องที่อ้าเปิดดังกล่าวให้ฮ่วนเอ๋อด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตามฮ่วนเอ๋อไม่ได้ตอบอะไร เพียงหันไปมองต้วนหลิงเทียน

“ผู้อาวุโส…มูลค่าของมันจะไม่สูงไปหน่อยหรือ?”

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามเสียงขรึม

ถึงแม้ว่าเขาก็อยากให้ฮ่วนเอ๋อได้ผลไม้อมตะทั้งสองจริงๆ เพราะตอนนี้นางอยู่ในขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศแล้ว หากใช้ก็สามารถบรรลุถึงขอบเขตราชาอมตะได้ในเวลาสั้นๆแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผลไม้อมตะสองผลนี่ พวกมันมีค่ามากจริงๆ!

จากนั้นไม่ทันที่ชายชราจะได้ตอบอะไร ต้วนหลิงเทียนก็เอ่ยเสริมว่า “เช่นนั้น…พวกเรายอมรับมัน แต่ถือว่าข้าติดค้างท่านเรื่องหนึ่ง?”

“เจ้าหนู เห็นชัดๆว่าเจ้าอยากได้มัน แต่ยังมาทำเป็นลีลาทั้งเกรงใจอยู่ได้…ข้าไม่ได้ให้เจ้า เช่นนั้นเจ้าจะมายุ่งวุ่นวายอะไร?”

ชายชราเอ่ยออกด้วยยน้ำเสียงปั้นปึ่ง “นี่เป็นของขวัญแรกพบที่ข้าให้แม่หนูน้อยนี่…นางเรียกว่า ฮ่วนเอ๋อใช่หรือไม่?”

จากฉากเรื่องราวที่เห็นกับตาก่อนหน้า ชายชราไหนเลยจะมองไม่ออกว่าฮ่วนเอ๋อคิดยังไงกับต้วนหลิงเทียน อีกทั้งยังเห็นด้วยว่าฮ่วนเอ๋อมีความสำคัญกับต้วนหลิงเทียนขนาดไหน

เช่นนั้นการส่งผลไม้อมตะทั้ง 2 ผลนี้ออกไปให้ฮ่วนเอ๋อ ก็ไม่ต่างอะไรกับจับต้วนหลิงเทียนผูกติดกับเรือมันแล้ว…

ยิ่งไปกว่านั้น มันเห็นฮ่วนเอ๋อที่แลดูไร้เดียงสาแล้วก็ถูกชะตาเหลือเกิน

“ฮ่วนเอ๋อ ในเมื่อผู้อาวุโสมอบมันให้เจ้าแล้ว เจ้ายังไม่รีบขอบคุณผู้อาวุโสอีก”

ต้วนหลิงเทียนเร่งกล่าวแนะฮ่วนเอ๋อทันที ขณะเดียวกันในใจก็มุ่งมั่นว่าวันหน้าต้องหาทางตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ให้ชายชราให้ได้

“ขอบคุณ”

ฮ่วนเอ๋อกล่าวขอบคุณอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะรับกล่องผลไม้อมตะมา จากนั้นก็ปิดฝากล่องแล้วยื่นส่งให้ต้วนหลิงเทียนทันที เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะเก็บไว้เอง

“ฮ่วนเอ๋อ เจ้าเก็บไว้ใช้เองเถอะ…อย่าได้ดูเบาผลไม้อมตะ 2 ผลนี่เชียว หลังจากเจ้ากินมันลงไปพร้อมๆกัน เจ้าสามารถทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะได้ในเวลาสั้นๆ”

เมื่อเห็นฮ่วนเอ๋อยื่นส่งกล่องมาให้ ต้วนหลิงเทียนก็เร่งกล่าวออกไปทันที

พอกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนยังไม่ลืมเสริมอีกว่า “ข้าใช้ผลไม้อมตะทั้ง 2 ไปแล้วเมื่อเดือนก่อน และตอนนี้ข้าก็ทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดแล้ว…”

กล่าวถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายชราเล็กน้อย พลางคิดว่าชายชรายังมีผลราชาอัคคีกับผลราชาน้ำแข็งอยู่อีกไหม หากมีจริงแล้วที่แท้อีกฝ่ายมีเก็บไว้กี่ชุดกันแน่?

“เจ้าหนู ไม่ต้องมามองข้าแบบนั้นเลย…ในมือข้ามีผลราชาอัคคีกับผลราชน้ำแข็งแค่ 2 ชุดเท่านั้น และตอนนี้ก็ให้พวกเจ้าไปหมดแล้ว”

เห็นสายตาที่มองมาของต้วนหลิงเทียน ชายชราคล้ายจะอ่านใจต้วนหลิงเทียนได้ออกว่าคิดอะไรอยู่ จึงกล่าวขัดคออีกฝ่ายออกไป

ด้านฮ่วนเอ๋อหลังได้ยินต้วนหลิงเทียนบอกว่าผลไม้อมตะทั้ง 2 ในกล่องทำอะไรได้บ้าง สองตากลมโตของนางก็ลุกวาวฉายแสงจ้าขึ้นมาทันที

และครู่ต่อมา จ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย ก็ใช้พลังหอบหิ้วร่างต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อกลับวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย

ตัวมันแน่นอนว่ากลับมาทะเลสาบที่สวนด้านหลังคนเดียว ไม่คิดรบกวนการกลับมาพบเจอกันอีกครั้งของทั้งคู่

“ฮ่วนเอ๋อ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

ต้วนหลิงเทียนที่พาฮ่วนเอ๋อกลับมาพักในห้อง ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา เพราะเขาอยากรู้จริงๆว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฮ่วนเอ๋อไปอยู่ที่ไหน และทำอะไรมาบ้าง ไฉนด่านพลังถึงได้บรรลุขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศ

ต่อมาพอได้ฟังเรื่องราวที่ฮ่วนเอ๋อเล่า ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าฮ่วนเอ๋อไม่ได้ไปไหนเลย นางแค่หาที่ร้างผู้คนและปิดด่านบ่มเพาะพลังเท่านั้น

สำหรับความก้าวหน้าของระดับบ่มเพาะนาง เรียกว่ามันเพิ่มขึ้นมาเองตามธรรมชาติ…

เรื่องนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนเสมือนถูกจู่โจมเข้าอย่างจัง ‘จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา ไม่ได้ยากพบพานในรอบหลายล้านปีของเผ่าจิ้งจอกมายาอย่างสูญเปล่าแล้วจริงๆ…ถึงกับมีศักยภาพท้าทายสวรรค์ขนาดนี้!’

ในสายตาของงต้วนหลิงเทียน

ฮ่วนเอ๋อที่ไม่มีผลเทพสังเวยสวรรค์แถมไม่มีผลึกเทพ และไม่น่าจะไปเข้าร่วมกับขุมกำลังใดๆ แต่กลับทะลวงถึงขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศได้ในเวลาอันสั้นแบบนี้ เกรงว่าให้มองทั่วทั้งหลิงหลัวเทียน คงไม่มีใครมีความเร็วในการบ่มเพาะเทียบนางได้อีกแล้ว…

“จริงสิ…ตอนนี้ฮ่วนเอ๋อเองก็คงเข้าใจกฏแล้วใช่ไหม?”

ทันใดนั้น ต้วนหลิงเทียนก็นึกเรื่องสำคัญดังกล่าวขึ้นได้

“อื้อ”

ฮ่วนเอ๋อพยักหน้า

“เจ้าเข้าใจกฏใดหรือ?”

สองตาต้วนหลิงเทียนฉายแสงจ้า เอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย

War sovereign Soaring The Heavens

War sovereign Soaring The Heavens

Status: Ongoing

จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย

การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้!

ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ …

ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท