หลังผ่านไป 100 ปี ต้วนหลิงเทียนที่กลับเข้ามายังแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอีกครั้ง รู้สึกห่างเหินไม่คุ้นเคยราวกับมันเปลี่ยนไปคนละโลก
เมื่อต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อมาปรากฏตัวในเขตปลอดภัยแห่งหนึ่งในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง แน่นอนว่าย่อมเป็นจุดสนใจทันที และสาเหตุก็ใช่ใดอื่น เป็นฮ่วนเอ๋อ
“มารดาเรา…ไฉนนางงดงามได้ถึงเพียงนั้นกัน!!”
“อา เกิดมาชั่วชีวิตข้ามิเคพบสตรีเลอโฉมเช่นนางมาก่อน…รูปโฉมนางช่างไร้ที่ใดให้ตำหนิจริงๆ!”
“ข้าว่าสตรีนางนี้ ต่อให้เป็นฮ่วนเอ๋อเมี่อร้อยปีก่อน ก็ไม่มีทางงดงามเทียบเท่าได้กระมัง!?”
…
นอกจากคนที่อยู่มานานนับหมื่นปีแล้ว บุรุษหลายคนที่อายุไม่กี่พันอดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจกับฮ่วนเอ๋อ
“นางคือฮ่วนเอ๋อ!!”
ตอนนี้เองพลันมีเสียงหนึ่งโพล่งดังขึ้น “เมื่อ100 ปีก่อนข้าถูกนางทุบตีจนต้องทำลายป้ายออกไป ข้าจดจำนางได้ไม่มีววันลืม!”
ที่โพล่งออกมาเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง สีหน้าแววตาของมันฉายชัดถึงความหวาดกลัว
“นั่น เซียวหงคุน!”
พริบตาก็มีคนที่จดจำชายวัยกลางคนที่โพล่งดังขึ้นมาได้ จึงเอ่ยนามมันออกมาทันที
และนามเซียวหงคุนก็มีชื่อเสียงในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงไม่น้อย อีกฝ่ายมักติดอยู่ใน 30 อันดับแรกเสมอ
ตัวตนเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะรู้จักชื่อ
“ที่แท้นางก็คือฮ่วนเอ๋อคนนั้นนี่เอง!”
“ว่าแต่นางไม่ได้ปรากฏตัวออกมาร้อยปีแล้วมิใช่หรือ?”
“ข้ายังจำได้ว่าเมื่อร้อยปีก่อน อายุของนางยังไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ แต่นางก็ร้ายกาจขนาดนั้นแล้ว…ตอนนี้พอผ่านไปร้อยปี ไม่ทราบนางจะร้ายกาจขึ้นสักเพียงใด”
“บอกตามตรงหากนางไม่เข้ามา ข้าก็หลงคิดว่านางน่าจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันอมตะไปแล้ว…แต่ในเมื่อนางเข้ามาแบบนี้ ด่านพลังของนางอยย่างน้อยๆก็ต้องเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ!”
“ในอดีตตอนนางเป็นราชาอมตะ 6 ผสานนางก็ติดอยู่ในอันดับที่ 15…ตอนนี้นางสมควรกลายเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ แถมร้อยปีผ่านไป กฏมิติของนางไม่ทราบเข้าใจไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ข้าเกรงว่าอย่างน้อยๆพลังฝีมือของนางก็ต้องทัดเทียมเหยียนหรูอวี้!”
“อาจเป็นได้”
…
เนื่องจากผลงานในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเมื่อ 100 ปีก่อนของฮ่วนเอ๋อมันน่าทึ่งเกินไป หลายคนจึงเชื่อว่านางที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านไป 100 ปีต้องทวีความร้ายกาจมากขึ้นแน่นอน!
ท่ามกลางสายตาทุกผู้คน ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อก็ไปหยิบป้ายหยกประจำตัว จากนั้นก็พากันออกนอกเขตปลอดภัยไป
ดุจเดียวกับครั้งก่อน ขณะออกจากเขตปลอดภัยทั้งคู่ก็ไม่ได้เปิดใช้อาคมล่องหนในป้ายหยกประจำตัว
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าลงมือจู่โจมทั้งคู่อีกต่อไป ทั้งหมดเพียงจับตามองทั้งคู่เหินร่างจากไปอย่างเงียบงัน เพราะเรื่องราวเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเป็นอุทาหรณ์สอนใจอย่างดี จึงไม่มีใครคิดจะเดินซ้ำรอยเดิม
ด้านนอกเขตปลอดภัย เหล่าผู้ที่ซุ่มตัวรอลงมือจัดการเหยื่อที่ผ่านไปมา ก็ไม่มีใครลงมือเช่นกัน เพราะสายที่อยู่ในเขตปลอดภัยก็เร่งส่งข้อความแจ้งมาถึงแต่แรก จึงอยู่อย่างเรียบๆร้อยๆไม่กล้าวู่วามลงมือ
ด้วยเหตุนี้ การออกจากเขตปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนกับอ่วนเอ๋อก็สงบราบรื่น ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ใด ราวทุกคนหายตัวไปหมด
“ฮ่วนเอ๋อ เป้าหมายของพวกเรารอบนี้ก็คือติดอยู่ในอันดับที่ 31 ถึง 100 ก็พอ…เพราะในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงตอนนี้ คงมีแต่แดนลับสมบัติระดับ 3 เท่านั้นที่สร้างแรงกดดันให้เจ้าได้มากพอ”
ต้วนหลิงเทียเอ่กับฮ่วนเอ๋อ
ด้วยเหตุนี้ ต้วนหลิงเทียนถึงไม่ได้แลดูกังวลอะไรแม้จะไม่พบเจอใครให้เก็บคะแนน
ไฉนเขาถึงได้ตัดสินใจเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอีกครั้ง ก่อนที่จะไปยังอวี้หวงเทียนนั้น ทั้งหมดเพราะคิดให้ฮ่วนเอ๋อหาโอกาสทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันอมตะ
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อกำลังออกเดินทางอย่างสบายๆไม่รีบไม่ร้อนในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง จางจินอี้ในนามตงเยวี่ยก็ได้ออกเข่นฆ่าผู้คนเป็นผักปลา เรียกว่าพบเทพฆ่าเทพพบพระสงฆ์ฆ่าพระสงฆ์!
อันดับของมันก็กำลังพุ่งทะยานขึ้นด้วยความรวดเร็ว
หลังจากเข้ามาได้เพียงเดือนเดียว มันก็ติดอยู่ในอันดับที่ 39 แล้ว
“หืม?”
ขณะที่มันกำลังจะค้นหาเป้าหมายต่อไป มันที่ลองตรวจสอบอันดับของตัวเองในป้ายดู ก็พบเจอกับนามอันคุ้นเคยหนึ่ง เป็นนามที่มันเฝ้ารอจะเห็นมาตลอดเวลา 100 ปี
ฮ่วนเอ๋อ!
อันดับที่ 96!
“นางเข้ามาแล้ว!?”
ลูกตาจางจินอี้หดเล็กลงแทบปิด ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจไม่น้อย “ครั้งสุดท้ายที่ข้าคิดเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงบัดซบนี่ เจ้ากลับปรากฏตัวขึ้นงั้นเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ…ดูเหมือนว่ากระทั่งทวยเทพยังช่วยเหลือข้า!!”
มันเฝ้ารอสตรีนางนี้มาร้อยปีแล้ว!
ในที่สุดนางก็ปรากฏตัวขึ้นเสียที!
“ข้าไม่อาจรีบไต่อันดับได้อีก…รอให้อันดับของนางกระเตื้องขึ้นมาจนแซงงข้าไปก่อน และข้าค่อยพยายามรักษาอันดับให้อยู่ในช่วงเดียวกับนาง”
จางจินอี้ลอบกล่าว
ตอนนี้จางจินอี้ไม่ได้รีบร้อนอะไร ทั้งไม่ได้ลืมความตั้งใจเดิม จึงไม่คิดจะไต่อันดับอะไรอีกต่อไป
พริบตาวันเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปอีกครึ่งเดือน
อันดับของฮ่วนเอ๋อก็กระเตื้องขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 82 แล้ว ขณะเดียวกันด้านต้วนหลิงเทียนก้อยู่ในอันดับที่ 89
“ยังอีก…”
จางจินอี้ได้มาซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ที่นี่มักมีผู้คนน้อยคนนแวะเวียนผ่านมา และถึงใครจะผ่านมา จางจินอี้ก็ไม่ฆ่า ทั้งไม่กำจัดคู่ต่อสู้ เพียงทำให้คู่ต่อสู้หวาดกลัวจนรีบหนีไป
ด้วยเหตุนี้ในเวลาแค่ครึ่งเดือนอันดับของมันจึงร่วงตกมาจากอันดับที่ 39 มาอยู่ในอันดับที่ 46
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ร้อนรนอะไร เพียงเฝ้ารออย่างเงียบงัน
มันรอมาร้อยปีแล้ว กะอีแค่รออีกไม่ถึงปีไฉนจะทำไม่ได้?
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เดือนแล้วเดือนเล่าดุจห้วงเวลาชั่ววพริบตา ไปๆมาๆรู้ตัวอีกทีก็เหลือเวลาอีกแค่ 1 เดือนก่อนที่อันดับในตารางจะถูกล้างใหม่แล้ว
“หืม?”
บัดนี้จางจินอี้ก็ได้พบว่าอันดับของต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อได้หยุดลงใน 40 อันดับแรกเท่านั้น
6 เดือนก่อนทั้งคู่ก็มีอันดับประมาณนี้ และตอนนี้ก็ยังมีอันดับประมาณนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
ฮ่วนเอ๋ออยู่ในอันดับที่ 35
ส่วนต้วนหลิงเทียนอยู่ในอันดับที่ 37
“พวกมัน…คงไม่ใช่คนอื่นมาสวมรอยหรอกนะ?”
พอคิดถึงุจดนี้ จางจินอี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วย่นยู่
ร้อยปีที่แล้ว คนที่สามารถติดอยู่ในอันดับที่ 15 ได้…ไฉนวันนี้กลับไม่แม้แต่จะติดอยู่ใน 30 อันดับแรก?
“ช่างเถอะ พวกมันจะจริงหรือหลอกเดี๋ยวก็รู้ สุดท้ายอันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงก็ไม่มีความหมายสำหรับข้า เช่นนั้นเข้าไปแดนลับสมบัติระดับ 3 พร้อมพวกมันยังจะนับเป็นอะไร”
“หากพวกมันไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตัวจริง…เช่นนั้นก็ให้พวกมันชดใช้ราคาความโง่เขลาครั้งนี้ด้วยชีวิตเสีย!”
สองตาจางจินอี้ทอประกายเยยียบเย็นวูบวาบ ใบหน้าฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟัน ราวกับจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน
ฟุ่บ!
ขณะเดียวกันจางจินอี้ก็เริ่มพุ่งร่างออกจากที่ซ่อน และคิดไปเข่นฆ่าหาคะแนนในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง
เพราะคะแนนสะสมในปัจจุบันของมัน ไม่พอให้ติดอยู่ใน 100 อันดับแรกอีกต่อไปแล้ว…
อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังฝีมือของจางจินอี้ แม้จะเหลือเวลาเพียงแค่ 1 เดือน มันก็สามารถเข่นฆ่าจนติดอยู่ใน 100 อันดับแรกได้อย่างง่ายดาย
…
นิกายวิถีวายุอัสนี
หอคุมกฏ
“สตรีนามว่าฮ่วนเอ๋อ ปรากฏตัวขึ้นแล้วรึ?”
รองจ้าวหอคุมกฏ จวินฉงซาน พอได้รับข่าวดังกล่าวสองตาก็ทอประกายสว่างจ้าขึ้นมาทันที แต่ไม่นานก็เริ่มหม่นแส คิ้วยังขมวดย่นเป็นปม “แต่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเกือบปีแล้ว แต่อันดับยังอยู่ที่ 30 กว่าๆ?”
“ชยหนุ่มนามต้วนหลิงเทียนข้างกาย ก็ติดอยู่ใน 40 อันดับแรกเท่านั้นเหมือนกัน?”
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ไฉนร้อยปีผ่านไป…พวกมันไม่ก้าวหน้าแต่กลับถดถอยลง?”
สุดท้ายจวินฉงซานก็ได้แต่ตัดสินไปว่า…
สิบในสิบสตรีนามฮ่วนเอ๋อที่ปรากฏขึ้นรอบนี้เป็นตัวปลอม
“สตรีนามฮ่วนเอ๋อนั่นเมื่อร้อยปีก่อนทั้งๆที่นางยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี พลังฝีมือก็ร้ายกาจขนาดนั้นแล้ว…ตอนนี้เวลาผ่านไปอีกร้อยปี พลังฝีมือของนางต้องก้าวหน้าขึ้นครั้งใหญ่แน่นอน กระทั่งเหยียนหรูอวี้อาจจะไม่ใช่คู่มือของนางแล้วด้วยซ้ำ”
“เผลอๆตอนนี้นางอาจจะทะลวงไปถึงขอบเขตจอมราชันอมตะไปแล้วก็เป็นได้”
“วั่งเฉิน ชิวเหอ…ปู่ไม่เอาไหน ไม่อาจล้างแค้นให้พวกเจ้าได้แล้ว…”
ถึงแม้ว่าจวินฉงซานจะยังคงมีความเกลียดชังล้นใจ แต่มันก็รู้ตัวดี…ว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับมัน ที่จะล้างแค้นให้หลานทั้งสองที่ถูกผู้อื่นเข่นฆ่าได้!
“เรียนรองจ้าวหอคุมกฏ มีศิษย์หลักคนหนึ่งมาขอเข้าพบท่านขอรับ!”
ทว่าทันใดนั้นเองพลันมีเสียงรายงานหนึ่งดังขึ้นปลุกสติของจวินฉงซาน พอกลับมารู้สึกตัวมันก็บอกให้พาตัวศิษย์หลักที่ว่าเข้ามา
“คารวะรองจ้าวหอคุมกฏ”
ไม่นานศิษย์หลักดังกล่าวก็เข้ามาคารวะทักทายอย่างเรียบๆร้อยๆ
“เจ้ามาขอพบข้า มีเรื่องอันใดหรือ?”
จวินฉงซานเอ่ยถามเสียงเรียบ ตอนนี้มันได้ขจัดความเศร้าโศกบนใบหน้าอกไปหมดสิ้น แลดูเหมือนคนปกติทั่วไป
“เรียนท่านรองจ้าวหอ เมื่อร้อยปีก่อนข้าถูกสตรีนามฮ่วนเอ๋อจัดการ…คราวนี้ข้าถูกต้วนหลิงเทียนที่อยู่ข้างกายนางจัดการ”
ศิษย์หลักคนนั้นกล่าวรายงานเสียงดังฉะฉาน “ข้าจึงมารายยงานท่านรองจ้าวหอให้ทราบโดยเฉพาะ…ว่าพวกมันเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอีกครั้งแล้ว…”
“อันใด!?”
จวินฉงซานที่ปักใจไปแล้วว่าต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตอนนี้สมควรเป็นตัวปลอม พอมาได้ยินวาจาของศิษย์หลักเบื้องหน้า ลูกตามันก็ฉายแสงจ้าทันที “เจ้าแน่ใจหรือว่าพวกมันคือต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตัวจริง…ไม่ใช่ผู้อื่นปลอมชื่อ?!”
“ข้ามั่นใจ”
ศิษย์หลักพยักหน้ารับแข็งขัน “เมื่อร้อยปีก่อนข้าถูกพวกมันจัดการ…ไหนเลยข้าจะจำหน้าพวกมันผิดพลาดได้”
“แล้วเจ้าไม่เห็นรึ…ว่าตอนนี้อันดับของพวกมันต่ำต้อยยกว่าครั้งก่อนมาก!”
จวินฉงซานเอ่ยถามเสียงหนัก
“สำหรับเรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ…บางทีพวกมันอาจจะอยากเข้าแดนลับสมบัติระดับ 3 ก็เป็นได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ก็มียอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศที่ทรงพลังมากมาย จงใจลดอันดับของตัวเองเพื่อเข้าสู่แดนลับสมบัติระดับ 3 โดยเฉพาะ”
ศิษย์หลักกล่าว
และวาจาของมันก็ทำให้สองตาจวินฉงซานสว่งวาบทันที จากนั้นการตัดสินใจอันกล้าหาญและบ้าบิ้นหนึ่งที่มันเคยตัดสินใจไว้นานแล้วพลันปรากฏขึ้นในใจของมันอีกครั้ง
“อย่าให้ข้ารู้ภายหลังว่าเจ้าโกหกข้า…หาไม่แล้วข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปง่ายๆ!”
จวินฉงซานมองจ้องศิษย์หลักตาเขม็ง หมายข่มขู่เพื่อดูท่าทีอีกฝ่าย แต่พอพบว่าอีกฝ่ายกล้าสบตามันตรงๆโดยไม่หวาดกลัวใดๆ มันก็ให้ศิษย์หลักดังกล่าวจากไปอย่างพึงพอใจ
“นับว่าฟ้ายังเมตตาข้าอยู่…วั่งเฉิน ชิวเหอ ปู่มีหนทางล้างแค้นให้พวกเจ้าแล้ว”
จวินวั่งเฉินกล่าวพึมพำกับตัวเบาๆ ในแววตาฉายประกายมุ่งมั่นแน่วแน่ประการหนึ่ง
ในเวลาต่อมา มันก็สะบัดมือเรียกหลอดแก้วบรรจุน้ำยาสีดำเปล่งแสงทมิฬสลัวๆออกมาหลอดหนึ่ง จากนั้นมันก็เปิดจุกแล้วกลืนน้ำยาสีดำดังกล่าวลงไปทันที! ทำให้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดทั่วร่างบังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังอำนาจค่อยๆถดถอยลง!!
จากจอมราชันอมตะ 1 ต้นกำเนิด ในเวลาไม่กี่ชั่วยามก็ถดถอยกลับมาอยู่ในขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศ!
“นับว่าใช้งานได้จริงๆ…ตอนนี้แม้พลังฝึกปรือของข้าจักเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ แต่อย่างไรข้าก็เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟครบทั้ง 9 ประการแถมยังบรรลุความเข้าใจถึงขั้นความสำเร็จเล็กน้อยแล้ว 4 ประการ กระทั่งเหยียนหรูอวี้นั่นก็ยังไม่ใช่คู่มือข้า!”
“หากสตรีนามฮ่วนเอ๋อนั่นแข็งแกร่งกว่าข้า เช่นนั้นก็แค่หนีนางออกมาเสีย…แต่หากนางอ่อนด้อยกว่า เช่นนั้นแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงจักเป็นที่ฝังร่างนาง!!”
ดวงตาจวินฉงซานทอแสงเย็นวูบวาบไม่หยุด จากนั้นมันก็หยิบจานค่ายกลออกมาเปิดใช้งาน เข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงทันที!