Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 829 -830

บทที่ 829 -830

บทที่ 829 : หึงหวง!
กว่าจะเสร็จภารกิจทุกอย่างในเช้าวันนี้ก็ปาเข้าไปเที่ยงตรงแล้วหลิงหยุนเป็นห่วงว่าเกาเฉินเฉินที่อยู่บ้านคนเดียวจะหิว จึงสั่งให้ตี้เสี่ยวอู๋รีบขับรถกลับไปที่บ้านโดยเร็ว..
“ฉันเป็นแฟนของหลิงหยุนห้องนี้เป็นห้องของฉัน!”
“อะไรนะ!เธอพูดว่าฉันเป็นแฟนหลิงหยุนงั้นเหรอ?! แต่ฉันเป็นคู่หมั้น แล้วห้องนี้ก็เป็นห้องของฉัน!”
ทันทีที่รถสีดำขับเข้าไปในบ้านเสียงทะเลาะกันของหญิงสาวทั้งสองคนก็ดังมาเข้าหูของหลิงหยุนทันที เขาถึงกับขมวดคิ้ว..
หลงหวู่มาที่บ้านของหลิงหยุนและกำลังทะเลาะกับเกาเฉินเฉิน ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งคู่ต่างก็ไม่มีใครยอมใครด้วยสิ!
เวลานี้ตี้เสี่ยวอู๋ได้พัฒนาขั้นขึ้นมาแล้วเช่นกันจึงสามารถได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเกาเฉินเฉินกับหลงหวู่ได้อย่างชัดเจน ในใจได้แต่คิดว่า ‘ชิบหายแล้ว!’ พร้อมกับหันไปมองหน้าหลิงหยุนตาโต
“พี่หยุน..ทำไงดี!”
หลิงหยุนมองตี้เสี่ยวอู๋ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าคงทำอะไรไม่ได้! แล้วตอบไปว่า “จะให้ทำยังไงล่ะ ก็ต้องรีบไปห้ามน่ะสิ รีบลงจากรถเร็วเข้า!”
โดยไม่รอให้รถจอดสนิทหลิงหยุนผลักประตูรถออก แล้วพุ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้านทันที
ระหว่างที่วิ่งเข้าไปนั้นหลิงหยุนได้เปิดจิตหยั่งรู้สำรวจดูก่อนล่วงหน้า และพบว่าเกาเฉินเฉินกำลังยืนพิงกรอบประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องนอนของหลิงหยุน และกำลังจ้องหน้าหลงหวู่ที่ยืนประจันหน้าอยู่ อีกทั้งยังไม่ยอมให้หลงหวู่เข้าไปในห้องอีกด้วย
หลงหวู่ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงยีนส์รัดรูปสีฟ้าที่คุ้นตา กำลังยืนเอามือขวาเท้าเอว สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังโมโหอย่างมาก และพร้อมที่จะกัดกินเกาเฉินเฉินได้เช่นกัน
ห้องที่สองสาวกำลังทะเลาะแก่งแย่งกันนั้นก็คือห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของหลิงหยุนนั่นเอง แล้วก็เป็นห้องที่หลงหวู่กับหลินเมิ่งหานเคยทะเลาะแย่งกันก่อนหน้านี้ด้วย แต่ท้ายที่สุดทั้งสองคนก็ไม่มีใครได้ครอบครองห้องนี้..
เมื่อคืนนี้..หลิงหยุนได้จัดการให้เกาเฉินเฉินนอนพักผ่อนในห้องนี้ เพราะไม่สามารถให้เธอนอนในห้องของไป๋เซียนเอ๋อ หรือเสี่ยวเม่ยหนิงได้อย่างแน่นอน หลิงหยุนจึงต้องให้เกาเฉินเฉินนอนห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของตนเอง และเมื่อหลงหวู่ต้องการจะเข้าไป เกาเฉินเฉินจึงยืนขวางทางไว้ไม่ยอมให้หลงหวู่เข้าไปด้านใน
หลงหวู่นั้นมีปกตินิสัยเป็นคนเจ้าอารมณ์อยู่แล้วก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ยอมให้หลินเมิ่งหาน และตอนนี้เมื่อเห็นว่าเกาเฉินเฉินมาอยู่ในห้อง จึงถึงกับหักห้ามความโกรธไม่อยู่!
เมื่อหลิงหยุนกลับมาทั้งคู่ก็ยังไม่มีใครยอมใครหลังจากที่ได้ทะเลากันมาร่วมชั่วโมงแล้ว!
“อะไรนะ!เธอนี่นะเป็นคู่หมั้นของหลิงหยุน? น่าหัวเราะสิ้นดี! ถ้าเธอเป็นคู่หมั้น แล้วฉันควรจะเป็นอะไรดีนะ?”
เมื่อได้ยินว่าหลงหวู่เป็นคู่หมั้นของหลิงหยุนในใจของเกาเฉินเฉินก็ลุกเป็นไฟขึ้นมาทันที และตอบโต้กลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน!
ตลอดเช้าตั้งแต่หลิงหยุนออกจากบ้านไปพร้อมกับถังเมิ่งนั้นเกาเฉินเฉินก็เดินสำรวจรอบๆบ้าน
ดังคำพูดว่า..สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!
เพราะหลังจากที่เดินสำรวจนั้นเกาเฉินเฉินกลับยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นเมื่อพบว่า ห้องนอนสองห้องที่อยู่ด้านซ้ายและขวาของห้องนอนหลิงหยุนนั้น ห้องหนึ่งก็คือห้องของไป๋เซียนเอ๋อ ส่วนอีกห้องก็คือห้องนอนของเสี่ยวเม่ยหนิงกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมา ทั้งสองห้องนั้นได้รับการทำความสะอาดอย่างดี และสภาพห้องก็บ่งบอกว่าเป็นห้องที่มีการใช้งานเป็นปกติ
ส่วนด้านล่างก็จะมีห้องนอนพิเศษสำหรับฉินตงเฉี่วยกับหนิงหลิงยู่หลังจากที่เกาเฉินเฉินเดินสำรวจรอบๆ ในใจก็รู้สึกเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก และรู้สึกว่าตลอดสามเดือนที่ผ่านมานั้น เธอพลาดข่าวคราวเกี่ยวกับหลิงหยุนไปมากมายเลยทีเดียว
เกาเฉินเฉินนั้นรู้จักเสี่ยวเม่ยหนิงเป็นอย่างดีแต่กับเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั้นเธอก็แค่พบเจอที่โรงเรียนเท่านั้น ส่วนไป๋เซียนเอ๋อเธอไม่เคยพบเจอเลยสักครั้ง
หลังจากพบว่ามีสาวงามมากมายรายล้อมอยู่รอบกายหลิงหยุนเธอก็เริ่มรู้สึกระวนกระวายใจ และปัญหาต่างๆก็เข้ามารุมเร้าจิตใจอย่างไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพุดได้..
และในช่วงเวลาที่เกาเฉินเฉินกำลังถูกปัญหาต่างๆรุมเร้าจิตใจนั้นหลงหวู่ก็โผล่เข้ามาพอดี และเมื่อทั้งคู่เผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็ทะเลาะเบาะแว้งอย่างที่ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ
อาจดูเหมือนทั้งคู่กำลังทะเลาะกันเรื่องห้องนอนแต่ความจริงแล้วหญิงสาวทั้งสองคนรู้ดีอยู่แก่ใจว่า พวกเธอกำลังทะเลาะกันเพราะแย่งหลิงหยุนนั่นเอง!
หลงหวู่ได้ยินเกาเฉินเฉินถามเช่นนั้นจึงเบะปากพร้อมกับพูดเย้ยหยัน “เธอเป็นใครน่ะเหรอ ฉันคงไม่เสียเวลามาจัดลำดับให้เธอหรอก แล้วฉันก็เป็นคู่หมั้นที่ถูกต้องตามประเพณีของหลิงหยุน เพราะฉะนั้นไม่ช้าก็เร็วห้องนี้จะต้องเป็นของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่!”
เกาเฉินเฉินได้ฟังถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมา“เธอนั่นล่ะ.. ออกไป!”
“หยุด..หยุด.. หยุด!”
เพียงแค่เกาเฉินเฉินพูดคำสุดท้ายออกมาหลิงหยุนก็มาถึงทันเวลาพอดี เขาใช้มังกรพรางร่างตรงเข้าไปกั้นระหว่างร่างของหญิงสาวทั้งสองคนพร้อมกับห้ามปรามทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้!พวกคุณสองคนทะเลาะกันเสียงดังหนวกหูไปถึงถนนด้านนอก ไม่อับอายกันบ้างหรือยังไง”
เมื่อหลิงหยุนเห็นเหตุการณ์เขาก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องรีบแยกหญิงสาวทั้งสองคนก่อนไม่เช่นนั้นทั้งคู่คงต้องไม่มีใครยอมลดละอย่างแน่นอน
ทั้งหลงหวู่และเกาเฉินเฉินที่กำลังทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดงนั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมองด้านหน้าอีกครั้ง ก็พบร่างของหลิงหยุนยืนขวางหน้าไว้ ทั้งคู่ถึงกับกรีดร้องออกมา และวิ่งเข้าไปหาหลิงหยุนทันที
เมื่อหลิงหยุนเห็นเช่นนั้นเขาจึงขยับร่างมาเป็นหันข้างให้กับสองสาวแทน และเมื่อทั้งคู่พุ่งเข้ามาหา จึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุนทันที และภาพที่ทั้งคู่วิ่งจนหน้าอกกระเพื่อมเข้ามานั้น ก็เป็นภาพที่น่ามองยิ่งนักสำหรับหลิงหยุน
หลงหวู่เห็นหลิงหยุนมาจึงยอมหยุดทะเลาะกับเกาเฉินเฉินไว้ก่อน และรีบโอบกอดแขนของหลิงหยุนไว้แน่นพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“หลิงหยุน..นายกล้าหนีฉันไปปักกิ่งโดยไม่บอก รู้มั๊ยฉันคิดถึงนายแทบตาย!”
หลงหวู่พูดจบก็เอนกายและใบหน้าเข้าซบอกของหลิงหยุนทันที..
“ฮึ่ม..”
เมื่อเกาเฉินเฉินเห็นหลงหวู่ออดอ้อนหลิงหยุนเช่นนี้เธอก็ถึงกับโกรธจนตัวสั่น และทำเสียงคำรามใส่หลงหวู่ทันทีเช่นกัน
เกาเฉินเฉินแยกกับหลิงหยุนตั้งแต่เช้าและรู้ว่าหลิงหยุนไปทำอะไร จึงไม่จำเป็นที่เธอจะต้องถาม..
หลิงหยุนรู้ว่าหญิงสาวทั้งสองคนต่างก็หึงหวงตนเองและรู้ว่าจำเป็นจะต้องปลอบทั้งคู่ให้เย็นลงก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี จึงได้แต่แสร้งทำเป็นโง่ไปก่อน..
“เอาล่ะ..พวกเราไปหาข้าวเที่ยงกินกันก่อนดีกว่า.. บ่ายนี้ผมมีอะไรต้องทำอีกมากมาย!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็เดินโอบไหล่ของเกาเฉินเฉินด้วยมืออีกข้างหนึ่ง และพาสองสาวเดินลงบันไดไป
ตี้เสี่ยวอู๋ไม่ได้เดินขึ้นบันไดมาด้วยจึงมีเพียงสามคนที่อยู่ชั้นสอง และหากหลงหวู่กับเกาเฉินเฉินยังคงตั้งหน้าตั้งตาที่จะทะเลาะกันต่อไป หลิงหยุนก็คงหมดปัญญาที่จะจัดการเช่นกัน
การพาสองสาวลงไปด้านล่างจึงน่าจะดีกว่าข้างบนเพราะอย่างน้อยก็มีตี้เสี่ยวอู๋อยู่ด้วย ทั้งหลงหวู่และเกาเฉินเฉินคงจะไม่กล้าทะเลาะกันต่อหน้าตี้เสี่ยวอู๋เป็นแน่ และหลิงหยุนก็จะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำลายห้ามปราม..
เมื่อทั้งหมดลงมาด้านล่าง..ตี้เสี่ยวอู๋ก็ยืนกุมมือนิ่งอยู่ในห้องรับแขก เขาแทบไม่กล้าจะหายใจด้วยซ้ำไป
หลิงหยุนกระแอมเบาๆสองครั้งเพื่อให้ตี้เสี่ยวอู๋เงยหน้ามองเขาพร้อมกับสั่งว่า “เสี่ยวอู๋.. นายรีบโทรไปที่ภัตตาคารจิงฉู ให้เขาจัดการส่งอาหารชั้นดีมาที่นี่โดยเร็วที่สุด!”
ตี้เสี่ยวอู๋พยักหน้าและรีบโทรไปที่ภัตตาคารทันที หลิงหยุนใช้มือทั้งสองข้างดันร่างของเกาเฉินเฉินกับหลงหวู่ให้ไปนั่งที่โซฟา จากนั้นตัวเขาก็นั่งลงตรงกลางระหว่างสองสาวทันที
หลิงหยุนเหลือบมองสองสาวทางซ้ายและขวาพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบาว่า
“คราวนี้..พวกคุณทั้งคู่ก็บอกผมมาได้แล้วว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ค่อยๆพูดล่ะ..”
เกาเฉินเฉินที่ยังคงขุ่นเคืองแต่ก็กัดริมฝีปากพร้อมกับดวงตาแดงก่ำ และพูดออกไปอย่างสำนึกผิด
“ก็เธอบอกว่าเธอเป็นคู่หมั้นของนายแล้วยังไม่ยอมให้ฉันอยู่ในห้องนอนที่ตรงข้ามกับห้องของนายด้วย..”
ถึงแม้เกาเฉินเฉินจะรู้ดีว่ารอบกายของหลิงหยุนนั้นมีสาวงามรายล้อมอยู่มากมาย และได้เตรียมใจไว้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความหึงหวงตามสัญชาติญาณาของผู้หญิงได้ จึงได้แต่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป..
แต่หลงหวู่ที่ดูเหมือนจะดุดันกว่ามากนั้นสีหน้าของเธอเองก็บ่งบอกว่ารู้สึกผิดอย่างมากพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“นี่..หลายวันนี้ฉันก็เป็นห่วงนายอยู่ทุกวัน แต่นายไปปักกิ่งไม่กี่วัน ก็พาผู้หญิงกลับมาด้วย แล้วยังให้มานอนในห้องนอนของฉันอีก..”
“ห้องนั่นแม้แต่ฉันกับพี่หลินก็ยังไม่สามารถอยู่ได้แล้วทำไมถึงให้เธออยู่ได้ล่ะ!”
หลิงหยุนนั่งนิ่งฟังคำบ่นของหญิงสาวทั้งสองคนจากนั้นจึงยกมือขึ้นปัดผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากพร้อมกับพูดขึ้นช้าๆ
“อะไรนะ!นี่พวกคุณสองคนยังไม่รู้จักกันอีกเหรอ?”
“มา..ผมจะแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักกัน!”
หลิงหยุนยกมือทั้งสองข้างพร้อมกับผายไปทางหญิงสาวทั้งสองคนพร้อมกับพูดขึ้นว่า “นี่คือเกาเฉินเฉิน.. ส่วนนี่ก็คือหลงหวู่..”
หญิงสาวทั้งสองคนต่างก็ทักทายกันด้วยน้ำเสียงเย็นชา..
แต่หลิงหยุนไม่ใส่ใจพร้อมกับพูดต่อว่า“เกาเฉินเฉินเป็นเพื่อนนักเรียนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับผม แล้วก็เป็นหัวหน้าชั้นด้วย”
“ส่วนหลงหวู่..โต๊ะเรียนที่คุณนั่งนั้น ก็คือโต๊ะเดิมที่เกาเฉินเฉินเคยนั่ง!”
เมื่อเกาเฉินเฉินได้ยินใบหน้างดงามของเธอก็ก็หันไปจ้องมองหลงหวู่อย่างเปิดเผยพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อ่อ..ที่แท้เป็นเธอเองงั้นเหรอ!”
หลิงหยุนเกาเฉินเฉิน และฉางหลิง ทั้งหมดต่างก็เป็นเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน หลังจากที่เกาเฉินเฉินกับฉางหลิงได้พบกันที่ปักกิ่งนั้น ทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกันแทบทุกเรื่อง และแน่นอนว่าเรื่องของหลงหวู่ที่ไปนั่งแทนเกาเฉินเฉินก็ไม่พลาดเช่นกัน เพราะนี่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และฉางหลิงก็ได้เล่าเรื่องระหว่างหลงหวู่กับหลิงหยุนให้เกาเฉินเฉินฟังด้วย
หลงหวู่เองก็ไม่ได้มีท่าทียี่หระอะไรและทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่ใยดีนัก “ทำไม เหรอ ในเมื่อเธอเองก็ไม่ได้เรียนแล้ว จะไม่ให้คนอื่นเขามานั่งแทนเลยหรือไง? ห๊ะ?!”
เมื่อหลิงหยุนเห็นว่าไม่มีใครยอมใครเช่นนี้เขาจึงเอนกายลงบนโซฟาพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“เช้านี้ผมไปจัดการเรื่องผลสอบเอนทรานซ์มาแล้ว..มีใครอยากฟังบ้างมั๊ย”
เวลานี้..วิธีที่ดีที่สุดก็คือการดึงความสนใจของทั้งคู่ไปที่เรื่องอื่น หลิงหยุนจึงเปลี่ยนเรื่องพูดทันที และรีบหยิบกระดาษคำตอบของตนเองออกมา
“นี่คือหลักฐานว่าผลคะแนนสอบของผมนั้นยอดเยี่ยมแค่ใหน!”
นับว่าได้ผลอย่างมากทันทีที่หลิงหยุนพูดจบ ทั้งหลงหวู่กับเกาเฉินเฉินก็ไม่สนใจที่จะทะเลาะกันอีก สีหน้าของทั้งคู่เปลี่ยนเป็นมีความสุขอย่างมาก และมือทั้งสี่ข้างก็ยื่นออกไปคว้ากระดาษคำตอบพร้อมๆกัน
บทที่ 830 : สาวงามมากมาย!
ทันทีที่คว้ากระดาษคำตอบของหลิงหยุนไปได้หลงหวู่ก็กวาดสายตาไปที่กระดาษคำตอบที่กลับหัวทันที!
หลงหวู่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธ“ที่แท้ก็มีการเปลี่ยนชื่อผู้สอบนี่เอง!”
เกาเฉินเฉินเองก็มีท่าทีโมโหไม่ต่างกัน..
หลิงหยุนได้เห็นท่าทีของสองสาวก็ได้แต่นึกโล่งอกอยู่ในใจเงียบๆ
สำหรับหลิงหยุนแล้ว..การจัดการกับความหึงหวงของผู้หญิงนั้น ยากยิ่งกว่าการจัดการกับเรื่องผลสอบเอนทรานซ์ของตนเองเสียอีก!
“ยังจะรอกินข้าวอะไรกันอีก!ไปเร็วเข้า.. พวกเรารีบไปที่สำนักงานการศึกษากัน!”
หลงหวู่ที่โมโหจนควันออกหูนั้นถือกระดาษคำตอบของหลิงหยุนพุ่งออกไปด้านนอกทันที..
แต่เป็นจังหวะที่ตี้เสี่ยวอู๋กลับเข้ามาหลังจากที่โทรสั่งอาหารเสร็จพอดีจึงรีบห้ามหลงหวู่ไว้
“หลงหวู่..เมื่อเช้านี้พวกเราไปที่สำนักงานการศึกษามาแล้ว พี่หยุนจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และได้ใช้กระดาษคำตอบชุดนี้บีบบังคับให้ผู้อำนวยการหลู่กวนหวังลาออก!”
หลงหวู่หยุดนิ่งพร้อมกับหันไปมองหลิงหยุนทันทีก่อนจะถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ..
“จริงเหรอ!”
หลิงหยุนพยักหน้ายิ้มๆ“จริงสิ! ไม่อย่างนั้นจะได้กระดาษคำตอบมาเป็นหลักฐานได้ยังไง”
หลงหวู่อ้าปากหวอพร้อมกับพึมพำออกมา“รวดเร็วขนาดนี้เชียว!”
หลิงหยุนหัวเราะอีกครั้งพร้อมกับตอบด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก“แล้วตอนนี้ถังเมิ่งกับอาปิงก็กำลังพาคนไปยึดทรัพย์ของหลู่กวนหวังทั้งหมด รวมทั้งเงินสดแล้วก็ราวหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวน..”
และนี่คือเหตุผลว่าเหตุใดหลงหวู่จึงรู้ว่าหลิงหยุนกลับมาปักกิ่งแล้วในเมื่ออาปิงรู้ มีหรือที่หลงหวู่จะไม่รู้!
เกาเฉินเฉินยิ้มออกมาอย่างดีอกดีใจเป็นครั้งแรกและรีบถามขึ้นว่า “หลิงหยุน.. แล้วนายจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง”
หลิงหยุนกำลังจะอ้าปากตอบคำถามแต่แล้วก็มีเสียงร้องเรียกดังมาจากด้านนอก
“พี่หลิงหยุน!”
จากนั้น..เงาสีขาวก็พุ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทุกคนจะทันได้สังเกตเห็น เงาสีขาวนั้นก็ไปอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุนเรียบร้อยแล้ว!
กลิ่นหอมจางๆนั้นทำให้หลิงหยุนรู้สึกอบอุ่นจนต้องหัวเราะออกมา..
“เซียนเอ๋อคิดถึงท่านแทบตาย!”
และแทบไม่ต้องสงสัย..ร่างที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วนั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากไป๋เซียนเอ๋อจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง!
ไป๋เซียนเอ๋อซุกอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุนครู่หนึ่งจากนั้นจึงร้องขึ้นว่า “พี่หลิงหยุน.. เหตุใดท่านหายไปนานเช่นนี้ เซียนเอ๋อคิดถึงท่านแทบแย่!”
หลิงหยุนลูบแผ่นหลังของไป๋เซียนเอ๋ออย่างอ่อนโยนพร้อมตอบกลับไปว่า“ข้าไปไม่กี่วันเอง แล้วตอนนี้ก็กลับมาแล้วไงล่ะ!”
เมื่อเห็นหลิงหยุนโอบไป๋เซียนเอ๋อไว้ราวกับอยู่กันเพียงลำพังสองต่อสองเช่นนี้หลงหวู่ก็ได้แต่นึกอิจฉา แต่ทั้งเธอกับไป๋เซียนเอ๋อต่างก็เข้ากันได้ดี จึงได้แต่มองด้วยความไม่พอใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่เกาเฉินเฉินที่อยู่ข้างๆนั้นตกใจสุดขีด! และยิ่งเมื่อได้เห็นใบหน้าของไป๋เซียนเอ๋อชัดๆ เกาเฉินเฉินก็ยิ่งตกใจมากขึ้นกว่าเดิม!
‘ช่างงดงามเหลือเกิน!’
‘นี่..นี่น่ะเหรอไป๋เซียนเอ๋อ แล้วก็เป็นเจ้าขาวปุยสุนัขจิ้งจอกขาวตัวนั้น!’ เกาเฉินเฉินได้แต่แอบคิดด้วยความตะลึง
“พี่หลิงหยุน!”
แต่เพียงไม่นาน..ก็มีเสียงสดใสตะโกนเรียกชื่อหลิงหยุนอยู่ที่สวนด้านนอก และร่างของใครบางคนก็โผล่เข้ามา!
หลิงหยุนดันร่างของไป๋เซียนเอ๋อให้ลุกขึ้นยืนส่วนตัวเขาก็หันไปทางประตูพร้อมกับยิ้มทักทาย
“หนิงน้อย..มาเหมือนกันเหรอนี่”
เสี่ยวเม่ยหนิงเวลานี้อยู่ในระดับสูงสุดขั้นโฮ่วเทียน-4แล้ว การเคลื่อนที่ของเธอจึงรวดเร็วตามไปด้วย และเพียงเดี๋ยวเดียวร่างของเสี่ยวเม่ยหนิงก็โถมเข้าสู่อ้อมแขนของหลิงหยุนอีกคน
หลิงหยุนเองก็อ้าแขนข้างหนึ่งออกเพื่อรอรับร่างของเสี่ยวเม่ยหนิงที่พุ่งเข้ามาเช่นกัน..
“พี่หลิงหยุน..ถ้าพี่ไม่กลับมา ฉันว่าจะไปหาพี่ที่ปักกิ่งแล้วรู้มั๊ย”
“หนิงน้อย..ดูสิ! แค่รู้ว่าคนตัวใหญ่นิสัยไม่ดีกลับมาเท่านั้นล่ะ ก็วิ่งลงจากรถจนลืมใส่รองเท้าเลยเหรอ!”
เสียงพูดดังขึ้นมาที่หน้าประตูอีกครั้งก่อนที่ร่างของหญิงสาวในชุดสีเขียวมรกตปล่อยผมยาวสยาย จะเดินยิ้มหวานเข้ามาภายในห้องรับแขกอีกคน..
และหญิงสาวที่ตามมาก็คือเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเธอเดินส่ายสะโพกเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง ในมือถือรองเท้าส้นสูงของเสี่ยวเม่ยหนิงด้วย..
เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเดินตามเข้ามาอย่างไม่รีบร้อนและทันทีที่เข้ามาในห้องนั่งเล่น เธอก็โน้มตัวลงวางรองเท้าส้นสูงของเสี่ยวเม่ยหนิงไว้ที่พื้นทันที แล้วจึงยืดตัวตรง และเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับยิ้มมุมปาก
แต่เหมี่ยวเสี่ยวเหมาที่ไม่พบเจอหลิงหยุนมานานหลายวันกลับเพียงแค่ทักทายห้วนๆเท่านั้น “กลับมาแล้วเหรอ”
หลิงหยุนเองก็พยักหน้าและตอบกลับไปยิ้มๆ“กลับมาแล้ว..”
เมื่อเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเหลือบไปเห็นเกาเฉินเฉินก็รีบเดินตรงเข้าไปทักทายทันที
“สวัสดีเฉินเฉิน..ในที่สุดก็ได้พบกันอีกครั้ง!”เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อน
เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเอ่ยทักทายเกาเฉินเฉินอย่างกระตือรือร้นและอ่อนโยนเช่นนี้ทำให้เกาเฉินเฉินรู้สึกตื้นตันมาก เธอรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเหมี่ยวเสี่ยวเหมาพร้อมกับยื่นมือออกไปบีบมือที่อ่อนนุ่มของเหมี่ยวเสี่ยวเหมาไว้
“ห๊ะ! พี่เฉินเฉินงั้นเหรอ!” ในที่สุดเสี่ยวเม่ยหนิงก็สังเกตุเห็นเกาเฉินเฉินที่อยู่ในห้อง
แม้ว่าเสี่ยวเม่ยหนิงกับเกาเฉินเฉินจะแอบงัดข้อกันเพราะเรื่องของหลิงหยุนอยู่เงียบๆแต่ความเป็นพี่น้องของทั้งคู่ก็ยังไม่จางหาย เธอร้องอุทานออกมาทันทีเมื่อพบหน้าเกาเฉินเฉิน
เกาเฉินเฉินยิ้มให้และจงใจมองไปทางหลงหวู่ก่อนจะหันไปพูดกับเสี่ยวเม่ยหนิง..
“หนิงน้อย..เดี๋ยวนี้สวยกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะ..”
เด็กสาวตัวแสบและเกาเฉินเฉินกอดกันอย่างดีอกดีใจแต่แล้วเสี่ยวเม่ยหนิงก็กัดริมฝีปากมีท่าทางคล้ายลังเล ก่อนจะถามออกไปว่า
“พี่เฉินเฉิน..พี่ผอมไปมากเลย!”
ก่อนที่หลิงหยุนจะก้าวหน้าเช่นนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาเฉินเฉินกับเสี่ยวเม่ยหนิงนั้นราวกับพี่สาวน้องสาว เกาเฉินเฉินไปเยี่ยมเยียนเสี่ยวเม่ยหนิงแทบทุกวันหยุด แต่ถึงแม้ว่าเวลานี้ทั้งคู่จะชอบหลิงหยุนเหมือนกัน แต่มิตรภาพนั้นก็ไม่ได้หายไปเลย
เกาเฉินเฉินยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นลูบผมยาวดกดำของสาวน้อยตัวแสบพร้อมกับตอบด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“พอดีที่บ้านของพี่เกิดเรื่องนิดหน่อยแต่ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วล่ะ!”
ดวงตาของเสี่ยวเม่ยหนิงแดงก่ำขณะที่พยักหน้าหงึกๆเธอรู้ว่าที่บ้านของเกาเฉินเฉินคงจะต้องเกิดเรื่องใหญ่โตอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเกาเฉินเฉินคงจะไม่ซูบผอมถึงเพียงนี้
เวลานี้มีเพียงไป๋เซียนเอ๋อที่ยังคงเกาะแขนหลิงหยุนแน่นในเมื่อหลิงหยุนอยู่ที่นี่ด้วย ไป๋เซียนเอ๋อก็ไม่สนใจใครทั้งนั้น
หลงหวู่รู้สึกคล้ายตนเองแปลกแยกโดดเดี่ยวอยู่เพียงคนเดียวแต่หลังจากกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่นาน เธอก็กลับสู่สภาพเป็นปกติ
หลิงหยุนเห็นปฏิกิริยาของสาวๆทั้งหมดก็ได้แต่นึกตกใจว่า ‘นี่อย่าบอกนะว่าพวกนางกำลังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอยู่!’
แต่ความวุ่นวายยังไม่จบเพียงเท่านี้ทันทีที่ข่าวเรื่องการกลับมาจิงฉูของหลิงหยุนแพร่สะพรัดออกไป ผู้คนมากมายต่างก็เดินทางมาที่บ้านของเขา
หลินเมิ่งหานกับเหยาลู่เดินทางมาพร้อมกันคนหนึ่งสวมชุดแดง ส่วนอีกคนสวมชุดขาว ใบหน้าของทั้งคู่ยิ้มแย้ม และเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้กับหลิงหยุน
ส่วนกงเสี่ยวลู่นั้นเมื่อรู้ว่าหลิงหยุนบุกไปที่สำนักงานการศึกษาเมื่อเช้านี้ ก็รีบเดินทางมาหาเพราะกระวนกระวายใจใคร่รู้ผล แต่ทันทีที่เข้ามาในบ้าน เธอก็ถึงกับตกใจที่เห็นสาวงามอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้
มู่หลงเฟยจื่อที่ได้ยินว่าหลิงหยุนกลับมาจิงฉูแล้วก็รีบทิ้งงานทุกอย่างมาหาหลิงหยุนที่บ้านทันที
ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ชื่อซูปิงหยานที่ตามมาด้วยเช่นกันเพราะเธอเองก็คิดถึงหลิงหยุนไม่น้อยไปกว่าสาวงามคนอื่นๆ
ตั้งแต่ที่หลิงหยุนออกเดินทางไปปักกิ่งนั้นบ้านหลังนี้ก็ดูเหมือนจะแห้งเหี่ยวไม่ต่างจากทะเลทราย แต่ทันทีที่หลิงหยุนกลับมา ก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที ..
ทางด้านตี้เสี่ยวอู๋เมื่อได้เห็นสาวงามมากมายมารวมตัวดั่งดอกไม้บานเช่นนี้เขาก็เริ่มรู้สึกอึดอัดไม่สบาย และเริ่มหนาวๆร้อนๆขึ้นมาราวกับจับไข้ทันที เขาไม่กล้าที่จะอยู่ในบ้านอีกจึงรีบออกไปรอด้านนอกแทน..
หลิงหยุนจึงอยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียวและกำลังตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาเหล่าสาวงามทั้งหลาย ไม่เพียงหลิงหยุนจะไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ยังรู้สึกมีความสุขอย่างมากจนถึงกับยิ้มแก้มปริออกมาเลยทีเดียว
จะไม่ให้หลิงหยุนรู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไรในเมื่อเวลานี้ทั้งไป๋เซียนเอ๋อและเหยาลู่ ต่างก็กำลังยืนนวดหลับให้กับหลิงหยุนอยู่ ช่างเป็นความสุขสบายที่ใครก็ยากจะจินตนาการได้..
“เซียนเอ๋อ..บีบแรงอีกหน่อย! เหยาลู่ไปท้างซ้ายอีกนิด แล้วก็ขวาอีกหน่อย.. นั่นล่ะตรงนั้นล่ะ!”
หลิงหยุนรู้สึกราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์เขาส่ายหน้าไปมาอย่างมีความสุข..
ทั้งเกาเฉินเฉินกับหลงหวู่ที่ยืนมองอยู่นั้นได้แต่คิดในใจว่า.. ไว้ค่อยคิดบัญชีครวหลัง!
แต่แล้วความสุขทั้งหมดของหลิงหยุนก็ต้องจบสิ้นลงทันทีเมื่อเสียงดุดันดังขัดขึ้นมาพอดี
“หลิงหยุน..เจ้าเด็กดื้อ! เจ้าช่างกล้านักนะ กลับมาจิงฉูแต่กลับไม่โทรบอกข้า!”
ฉินตงเฉี่ยวก็มาเช่นกัน!
หลิงหยุนได้ยินเสียงถึงกับกระเด้งขึ้นจากโซฟาและรีบเปิดจิตหยั่งรู้สำรวจดูทันที แล้วร่างที่งดงามราวกับเทพธิดาของฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่ ก็ปรากฏขึ้นในจิตของหลิงหยุนทันที
“หลิงยู่..”
เมื่อหลิงหยุนได้เห็นหนิงหลิงยู่ในครั้งนี้ เขาถึงกับหายใจติดขัด!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท