WSSTH ตอนที่ 3,300 : ความตายของตู๋กูเหวิน
2 ร่างมหึมาที่ปรากฏเบื้องหลังของตู๋กูเหวิน แน่นอนว่าเป็นมังกรชั่วร้าย…
เดิมทีมังกรชั่วร้ายทั้ง 2 นั้น อยู่ในแดนลับอัจฉริยะของแดนทักษินยุทธ์ อวี้หวงเทียน แต่เพราะฮ่วนเอ๋อได้ทำข้อตกลงกับพวกมัน พวกมันจึงปล่อยให้พวกเขาเข้าสู่แดนลับทวยเทพก่อนถึงกำหนด เพื่อแลกกับการพาพวกมันออกจากแดนลับอัจฉริยะ สุดท้ายก็อาศัยอยู่ในโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียน…
หลังจากนั้นวารีเทพชำระโลกาก็ไปเกลี้ยกล่อมจนทำให้มังกรชั่วร้ายทั้ง 2 ยอมรับต้วนหลิงเทียนเป็นนาย แต่หลังจากที่ด่านพลังของต้วนหลิงเทียนบรรลุถึงขอบเขตเทพแล้ว ต้องคืนอิสระให้พวกมัน
“ตอนพวกมันผสานพลังจู่โจมออกมา พลังโจมตีของมันมีอานุภาพไม่ต่างอะไรจากการลงมือเต็มกำลังของจักรพรรดิอมตะสมญานามทั่วไป…อย่างไรเสีย ในช่วงเวลาสั้นๆพวกมันสามารถปลดปล่อยการจู่โจมที่รุนแรงระดับนี้ได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น”
คำพูดที่วารีเทพชำระโลกาเคยกล่าวออก เหมือนจะดังซ้ำในหูต้วนหลิงเทียนอีกรอบ
ด้วยเหตุนี้หลังจากเขาใช้ความลึกซึ้งส่งผ่านมังกรชั่วร้ายทั้ง 2 ไปปรากฏเบื้องหลังตู๋กูเหวินแล้ว เขาก็ไม่รอช้า ถ่ายทอดพลังที่เหลือลงสู่กกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนก่อนมือจะสะบัดฉับไวดั่งเงาเลือน ตวัดกระบี่ว่องไวปานฟ้าฟาด!!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
เสียงกระบี่แหวกฟ้าฉับไวดังขึ้นถิ่บ อุบัติคลื่นกระบี่สีรุ้งห่าหนึง พุ่งซัดออกไปทำลายเถาวัลย์เส้นเขื่องที่รวบมัดกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวจนหมด!!
หากเป็นตอนปกติ เถาวัลย์ของตู๋กูเหวินที่เกิดจากการสานรวมความลึกซึ้ง 3 ผสานนี้ ย่อมสามารถฟื้นคืนสภาพได้ฉับไว
ทว่าสถานการณ์ตู๋กูเหวินตอนนี้ในเลยใช้คำปกติมาอธิบายได้?
ตู๋กูเหวินได้รับบาดเจ็บแล้ว
แถมยังเป็นการบาดเจ็บสาหัส!!
“อั๊คค!”
ตู๋กูเหวินที่ถูกลำแสงทำลายล้างสองผสานซัดเข้ากลางหลัง กระอักโลหิตออกมาไม่หยุด และมันพึ่งจะรู้สึกตัว ก็พบว่าต้วนหลิงเทียนได้ตัดเถาวัลย์ที่รวบมัดกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวไปหมดแล้ว!
จังหวะนี้สีหน้าของมันมืดดำคล้ำลง แววตาฉายชัดถึงความเย็นชาถึงขีดสุด ตะคอกคำออกมาอย่างเดือดดาล “สารเลวน้อย! เจ้ากล้าลอบกัดข้า!!”
วินาทีนี้หากตู๋กูเหวินยังไม่อาจตระหนักเรื่องราวได้ เกรงว่าชีวิตที่มันอยู่มาหลายปีคงไร้ค่าเยี่ยงชีวิตสุนัขแล้ว
วูบ!!
พร้อมๆกันกับที่ตู๋กูเหวินตะคอกออกมาเสียงดังลั่น ร่างของมันก็ไหววูบ คิดจะหลบหนีไปให้พ้นจากจุดนี้ก่อนมังกรชั่วร้ายทั้ง 2 จะจู่โจมออกมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามร่างมันพึ่งจะเคลื่อนไหวไปได้ไม่ทันไร ร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวก็พุ่งทะลุห้วงมิติมาปรากฏตัวเบื้องหน้ามันดั่งภูตผี จากนั้นกิ่งหลิวมากมายที่พึ่งได้อิสระกลับคืน ก็พุ่งออกไปฉับไวปานเงาพราย พริบตาก็รัดพันร่างตู๋กูเหวินเอาไว้แล้ว!!
“อยู่!!”
เมื่อเห็นว่าตู๋กูเหวินระเบิดพลังออกมาทั่วร่างหมายทำลายการรัดพันของกิ่งหลิว สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเย็นชาวูบวาบ ตะโกนออกมาอย่างดุดัน พร้อมจ่ายพลังชีวิตอีกขุมลงสู่ร่างอวตารกฏของต้นไม้เทพสนหลิว! จากนั้นกิ่งของต้นไม้เทพสนหลิวที่งอกเงยขึ้นมาอีกหลายสิบเส้นก็พุ่งไปช่วยกันมัดร่างตู๋กูเหวินทันที!!
สุดท้ายตู๋กูเหวินประหนึ่งน้ำน้อยแพ้ไฟ คนถูกกิ่งหลิวรัดตรึงขึงไว้กลางอากาศ จากนั้นกิ่งหลิวทั้งหมดก็โบกสะบัดฉับไว พาร่างตู๋กูเหวินให้หวนกลับไปหามังกรชั่วร้ายอีกครั้ง!!
“ลงมือ!!”
และแทบจะพร้อมๆกันกับที่ต้วนหลิงเทียนควบคุมกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวให้พาร่างตู๋กูเหวินกลับไปอยู่ในวิถีการยิง เสียงวารีเทพชำระโลกาก็ดังขึ้นสนั่น ทำให้ร่างเขื่องทั้ง 2 ไม่เว้นต้วนหลิงเทียนสะดุ้งไปอยู่บ้าง!
จากนั้นมังกรชั่วร้ายทั้ง 2 ก็เร่งเร้าพลังชั่วชีวิตออกมาพลางเหินทะยานเข้าใส่ตู๋กูเหวินอีกทางเพื่อความรวดเร็ว ก่อนจะพลังอันน่าพรั่นพรึงสองสายก็พวยพุ่งออกจากปากพวกมัน ไปหลอมรวมเป็นลำแสงทำลายล้างหนึ่งสาย เข่นฆ่าเข้าใส่ตู๋กูเหวินที่โดนขึง!!
“ไม่!!”
ตู๋กูเหวินที่โดนขึงไว้กลางหาวพยายามเบ่งพลังสุดตัวจนเส้นเลือดปูดโปนเต็มขมับ! อนิจจามันทำลายกิ่งของต้นไม้เทพสนหลิวไปได้ไม่ถึงครึ่ง ลำแสงมหาประลัยก็พุ่งซัดเข้าเต็มหน้ามันแล้ว!!
ตูมมมม!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงง!!!
…
พร้อมๆกับเสียงระเบิดดังสนั่นลั่นฟ้า ตู๋กูเหวินที่ไม่มีเวลามากพอให้หลุดพ้นพันธนาการ เมื่อทานรับลำแสงทำลายล้างของมังกรชั่วร้ายทั้ง 2 เข้าไปเต็มรัก มันก็บาดเจ็บสาหัสเจียนตายทันที!
“สารเลวน้อยสมควรตาย!!”
“จอมราชันอมตะตัวกระจ้อย กลับบีบคั้นให้ข้าตู้กูเหวินต้องตกอยู่ในสภาพนี้ได้…”
“อภัยไม่ได้! อภัยให้เจ้าไม่ได้!!”
ฟางอารมณ์สุดท้ายของตู๋กูเหวินได้ขาดผึงลงแล้ว
ทันใดนั้นร่างตู๋กูเหวินก็สั่นสะท้าน ก่อนจะปรากฏแสงสว่างเจิดจ้า จากนั้นคนก็กลับกลายเป็นเส้นไหมในชั่วพริบตา และอาศัยห้วงวินาทีล้ำค่า หลุดรอดออกมาจากการรัดพันของกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวได้สำเร็จ!
นี่เป็นหนึ่งในร่างนับร้อยพันที่บุปผาร้อยสีสามารถแปลงได้
“อ้อ หลุดออกมาได้แล้วหรือ?”
อย่างไรก็ตามตู๋กูเหวินที่แปลงร่างเป็นเส้นไหมบางๆสายหนึ่ง จนหลุดพ้นพันธนาการของกิ่งต้นไม้เทพสนหลิงมาได้ ก็พบว่าเบื้องหน้ามันมีร่างในชุดสีม่วงหนึ่งคอยท่าอยู่ แถมยังมองกล่าวกับมันด้วยท่าทางท้าทาย!
“ไอ้หนู ไม่มีต้นไมแทพสนหลิว ต่อให้ข้าจักบาดเจ็บเจียนตายเพียงใด เจ้าก็ไม่ใช่คู่มือข้า!!”
ทันใดนั้นเส้นไหมพลันเปล่งแสงสว่างก่อนจะกลับกลายเป็นเด็กชายวัย 13-14 ปีอีกครั้ง สองตามองจองต้วนหลิงเทียนเขม็ง ขณะเดียวกันหอกอมตะระดับจักรพรรดิที่ไม่ทราบถูกเรียกออกมาเมื่อไหร่ ก็จ้วงทะลวงเข่นฆ่าเข้าใส่หว่างคิ้วต้วนหลิงเทียนทันที!
วินาทีนี้มันตัดสินใจระเบิดพลังที่หลงเหลืออยู่ทั้งหมด พิฆาตต้วนหลิงเทียนให้ได้ในพริบตา! หาไม่แล้วเมื่อกิ่งของต้นไม้เทพสนหลิววกกลับมารัดพันมัน และมังกรชั่วร้ายยิ่งลำแสงพลังใส่มันอีกครั้ง ด้วยสภาพร่างกายมันที่บาดเจ็บสาหัสแทบตายตอนนี้ ไม่พ้นมันคงต้องตกตายลงจริงๆ!!
ตู๋กูเหวินรู้สึกอับอายขายหน้านัก!!
มัน จักรพรรดิอมตะสมญานาม กลับถูกจอมราชันอมตะตัวกระจ้อยผู้หนึ่งไล่ต้อนได้ถึงขนาดนี้!!
แน่นอนว่ามันยังรู้ดี ว่าเบื้องหน้าหาใช่จอมราชันอมตะธรรมดาไม่ ไม่ต้องกล่าวถึงร่างอวตารกฏของต้นไม้เทพสนหลิวที่อีกฝ่ายควบสร้างได้ เอาแค่การร่วมมือกันของมังกรชั่วร้าย 2 ตัวนั่น ก็สามารถปลดปล่อยการโจมตี ที่มีพลังอานุภาพทัดเทียมกับการโจมตีเต็มกำลังของจักรพรรดิอมตะสมญานามทั่วไปได้แล้ว!!
กระทั่งมันตอนนี้ ยังต้องบาดเจ็บสาหัสจนแทบวายปราณหลังโดนมังกรชั่วร้ายยิงลำแสงถล่มมา 2 ครั้งติดๆ!
“ต้วนหลิงเทียน ข้าอยากจะเห็นนัก ว่าไร้มังกรชั่วร้ายทั้ง 2 นั่นกับร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวคุ้มกะลาหัว! เจ้าจักเอาปัญญาที่ไหนมาสู้ข้า!!”
ร่างตู๋กูเหวินที่ทะยานข้ามฟ้ามาฉับไว เสือกแทงหอก 7 ฉื่อในมือที่เปล่งแสงพลังสีเขียวเจิดจ้าออกมาอย่างอำมหิต มันได้รวมรั้งพลังความลึกซึ้งของกฏแห่งไม้ทั้งหมดไว้ในหนึ่งหอกนี้แล้ว!!
และความลึกซึ้งผสาน 3 ของกฏแห่งไม้ก็สำแดงอานุภาพเด่นชัดกว่าใคร อุบัติงูหลามตัวเขื่องผุดจากแสงพลังข้างปลายหอก พุ่งเข่นฆ่านำมาก่อนใดอื่น!!
พร้อมๆกันนั้นควมาลึกซึ้งประการอื่นๆของกฏแห่งไม้ ก็ปลดปล่อยพลังไล่หลังมาตามติด!
“สภาพร่อแร่เยี่ยงสุนัขคลานผ่านดงตีนมาได้ของเจ้า…อย่างดีพลังเซียนอมตะที่เหลือก็เทียบได้กับจอมราชันอมตะทั่วๆไปเท่านั้น…คิดฆ่าข้า ยังไม่พอหรอก”
เผชิญหน้ากับเสียงปรามาสขู่ข่มของตู๋กูเหวิน กับการปะทุพลังชั่วชีวิตเข่นฆ่าเข้ามาของอีกฝ่าย ต้วนหลิงเทียนไม่มีทีท่าว่าจะหลบ มุมปากยังยกยิ้มแสยะ ร่างพลันไหววูบปานภูตพราย รวมรั้งพลังมิติทั้งหมดลงสู่กระบี่หลิง 7 เปลี่ยนในมือฉับไว!
กระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนตวัดฟันออกไปอีฉับไว ปรากฏคลื่นกระบี่สะบั้นพุ่งเข่นฆ่าสังหารเข้าใส่ตู๋กูเหวิน! นอกจากพลังมิติแล้วยังเปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งธาตุทั้ง 5!!
“นี่มัน…”
เมื่อคลื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่ามาถึงเบื้องหน้า ตู๋กูเหวินย่อมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังของธาตุทั้ง 5 ที่เอ่อล้นออกมาได้ชัดเจน
เปรี๊ยงงงง!!
ตูมมม!!!
…
อย่างไรก็ตาม ตู๋กูเหวินไม่ทันได้ตั้งตัวหรือตอบสนองสิ่งใด คลื่นกระบี่ 7 สีอมเทาของต้วนหลิงเทียน ก็ผ่าทำลายการโจมตี 2 ระลอกที่นำหน้าหอกของมันไปแล้ว…
กฏแห่งไม้ที่ตู๋กูเหวินเข้าใจนั้นร้ายกาจ…เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย
อย่างไรก็ตามไม่ว่าท่านจะเข้าใจกฏได้เลิศล้ำแค่ไหน แต่เพื่อสำแดงพลังอานุภาพของมัน ก็จำต้องใช้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดขับเคลื่อน…ทว่าสภาพร่างกายของตู๋กูเหวินตอนนี้ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของมันตกฮวบลงไปจนแทบจะพอๆกับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียน!
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว หากต้วนหลิงเทียนเข้าใจแค่ความลึกซึ้งของกฏมิติทั้งหมดถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ ย่อมไม่อาจตานทานกระบวนท่าของตู๋กูเหวินได้…
พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดระดับเดียวกัน แต่ความเข้าใจในกฏของตู๋กูเหวินกลับเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนหลายขั้น จนอุปกรณ์เทพก็ไม่อาจกลบถบช่องว่างนี้ได้…
เช่นนั้นย่อมจินตนาการออกได้ไม่ยาก ว่าใครจะเหนือกว่าใคร
และตู๋กูเหวินเองก็คิดแบบนี้เช่นกัน ทำให้แม้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดจะตกฮวบลงมาจนมีกลิ่นอายพอๆกับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียน แต่มันก็เชื่อว่าถึงมันจะเจียนตาย แต่คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนตรงหน้าก็เหลือแหล่! และขอแค่ฆ่าต้วนหลิงเทียนตายตกมันก็สามารถรักษาตัว รวมถึงเสพย์สุขกับอุปกรณ์เทพได้!!
อย่างไรก็ตาม ร้อยพันหมื่นคาด มันก็ไม่เคยคิด! ว่าที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของต้วนหลิงเทียนนั้น หาใช่ร่างอวตารกฏเทพของต้นไม้เทพสนหลิวไม่ ยังไม่ใช่กฏมิติที่ทุกความลึกซึ้งบรรลุถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ กระทั่งไม่แม้แต่จะเป็นอุปกรณ์เทพในมือ..
‘มัน…ที่แท้…ถึงกับครอบครองเทพเบญจธาตุได้ครบ’
นี่เป็นความคิดสุดท้ายของตู๋กูเหวิน ก่อนที่มันจะตาย
ในวินาทีที่คลื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนผ่าทำลายพลังที่จู่โจมนำไปของตู๋กูเหวิน ทั้งเข่นฆ่าทำลายพลังสภาวะของหอกจนหมดสิ้น ตู๋กูเหวินพลันตระหนักได้ทันที ว่าต้วนหลิงเทียนครอบครองเทพเบญจธาตุ!
ยิ่งไปกว่านั้นยังครอบครองเทพเบญจธาตุครบทุกธาตุ แถมแต่ละธาตุก็มีระดับขั้นไม่ใช่ชั่ว!!
“เฮ่อ…”
หลังเห็นตู๋กูเหวินถูกคลื่นสะบั้นผ่าร่าง และถูกพลังมิติป่นปี้ทำลายจนสลายหายไปในฟ้าดิน ต้วนหลิงเทียนก็พอได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเฮือกใหญ่ “ถึงวินาทีสุดท้ายมันสมควรพบว่าข้ามีเทพเบญจธาตุ…แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ในห้วงเวลาดุจฟ้าแลบนั่น มันจะมีปัญญาส่งข้อความแพร่งพรายเรื่องนี้ให้บุคคลที่ 3 ได้ทัน…”
และก็เป็นอย่างที่ต้วนหลิงเทียนพูดออกมาจริงๆ
ตู๋กูเหวินมาพบเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนถือครองเทพเบญจธาตุเอาตอนห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต มันจึงไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งข่าวให้ใครได้ทัน…
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีที่ตู๋กูเหวินแปลงเป็นเส้นไหมเพื่อหลบหนีออกจากการพันธนาการของกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวนั้น มันได้เร่งรุดส่งข้อความออกไป 2-3 ข้อความถึงตู๋กูหวู่
“พี่หวู่ ข้าเกือบเสียท่าสารเลวน้อยนี่แล้วจริงๆ…เป็นข้าประมาทมันเกินไป ไม่คิดเลยว่ามันไม่เพียงแต่จะมีอุปกรณ์เทพที่มีจิตวิญญาณไว้ในครอบครองเท่านั้น แต่มันยังมีมังกรชั่วร้าย 2 ตัวด้วย พลังของมังกรบัดซบทั้ง 2 นั่นตอนร่วมมือกัน ถึงกับเทียบจักรพรรดิอมตะสมญานามทั่วๆไปได้เลย…”
“ตอนนี้ข้าบาดเจ็บสาหัสเพราะถูกมังกรชั่วร้ายลอบกัด…มีเพียงต้องชิงฆ่าสารเลวน้อยให้ตายก่อนเท่านั้น…หากข้าฆ่ามันไม่ได้ ข้าต้องเป็นฝ่ายตายเองแน่!!”
“แต่ถึงข้าจะฆ่ามันได้แล้ว ข้าก็อาจถูกมังกรชั่วร้ายทั้ง 2 นั่นฆ่าอยู่ดี”
“พี่หวู่ ท่านรีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!”
ในห้วงเวลาดุจฟ้าแลบก่อนที่ตู๋กูเหวินจะระเบิดพลังแทงหอกสังหารใส่ต้วนหลิงเทียน มันก็ได้ส่งข้อความไม่กี่ข้อความถึงตู๋กูหวู่ติดต่อกัน…
“ไป!!”
หลังฆ่าตู๋กูเหวินตายแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เร่งเก็บแหวนพื้นที่รวมถึงสิ่งของอื่นๆของตู๋กูเหวิน ก่อนจะให้มังกรชั่วร้ายทั้ง 2 กลับบเข้าโลกใบเล็กภายในกายเขา จากนั้นก็ใช้ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ วูบร่างหลบหนีติดๆกันทันที
ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าตู๋กูเหวินไม่มีเวลามากพอแพร่งพรายเรื่องเทพเบญจธาตุของเขาออกไป
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่พ้นตู๋กูหวู่ต้องรู้ว่าตู๋กูเหวินพลาดท่าเสียทีเขาแล้ว และต้องเร่งรุดมาฆ่าเขาแน่ กระทั่งสิบในสิบอีกฝ่ายสมควรกำลังเดินทางมาหาเขาแล้วด้วยซ้ำ! เพราะต่อให้ครูของเขา ฉือหล่าง คิดถ่วงรั้งอีกฝ่ายแค่ไหน ก็คงทำได้ไม่นานนัก
ดังนั้นหลังฆ่าตู๋กูเหวินได้แล้ว ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวของเขาคือ รีบหนี!!
แน่นอนว่าในขณะที่ใช้เคลื่อนมิติติดต่อกันวูบผ่านระยะทางนับพันหมื่นลี้ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมส่งข้อความไปถึงฮ่วนเอ๋อ ฉือหล่างและคนอื่นๆ เพื่อบอกว่าเขาปลอดภัยแล้ว
“ข้าไม่เป็นไร…เจ้ากลับวังเทียนฉือไปพร้อมกับทุกคนก่อนเลย ข้าจะตามไปทีหลังคนเดียว”
ต้วนหลิงเทียนส่งข้อความดังกล่าวถึงฮ่วนเอ๋อ
และฮ่วนเอ๋อรวมถึงคนอื่นๆที่ยืนบนกระบี่มีสภาพเล่มเขื่องของฉือหล่างเพื่อเดินทางกลับวังเทียนฉือ ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อรู้ว่าต้วนหลิงเทียนปลอดภัยดี
ก่อนหน้านี้ทุกคนเงียบมาตลอดทาง ใจยังหนักอึ้งนัก
พอได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนปลอดภัยไร้เรื่องราวแล้ว ทั้งหมดจึงรู้สึกว่าเสมือนหินใหญ่ที่กดทับลงกลางอกได้หายแว้บไปในบัดดล ทำให้รู้สึกปลอดโปล่งโล่งสบาย ผ่อนคลายเป็นที่สุด!
“ศิษย์น้องเล็ก นี่เจ้าเอาตัวรอดจากตัวปัญหาเช่นนั้นได้อย่างไร?”
หูเหมยเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็แค่ฆ่ามันทิ้ง ตัวปัญหาก็ไม่อาจสร้างปัญหาอะไรได้อีก…”
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะตอบหูเหมยเท่านั้น แต่ยังบดขยี้ยันต์อมตะสื่อสารหลายอันพร้อมๆกันเพื่อตอบคำถาม ฉือหล่าง และเวิ่นหว่านเอ๋อที่กล่าวถามมาทำนองเดียวกัน
มีเพียงฮ่วนเอ๋อเท่านั้นที่ไม่ได้ถามอะไรเซ้าซี้
และจังหวะนี้ ไม่ว่าจะหูเหมย เวิ่นหว่านเอ๋อ หรือแม้แต่ฉือหล่างก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปด้วยความตกตะลึง ทั้งหมดอึ้งกับคำตอบของต้วนหลิงเทียนแล้วจริงๆ!
เมื่อครู่ต้วนหลิงเทียนพึ่งบอกว่า…ฆ่าตู๋กูเหวินไปงั้นหรือ?
เรื่องพรรค์นั้น…เป็นไปได้ด้วยเหรอ!?
ในเวลาเดียวกัน
ตู๋กูหวู่ที่ได้รับข้อความจากตู๋กูเหวินขณะกำลังประมือกับต้วนหลิงเทียน และรู้ว่าผู้น้องกำลังพบเจอปัญหาใหญ่หลวง ก็ปะทุพลังชั่วชีวิตพุ่งร่างตัดข้ามฟ้าไปด้วยความเร็วสูงล้ำ อยู่ๆก็ผงะไปเหมือนจะตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง มันจึงหยดร่างลงโดยพลัน และพอเห็นเศษซากลูกแก้ววิญญาณที่ผุดโผล่จากอากาศเหนือฝ่ามือ สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปทันที
“น้องเหวิน!!!”