War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3749 : หายนะโอสถ โอสถเทพขั้นสุดยอด!

ตอนที่ 3749 : หายนะโอสถ โอสถเทพขั้นสุดยอด!

  ในความคิดของต้วนหลิงเทียน โอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งนั้นมันเป็นแค่โอสถระดับเทพเท่านั้น แถมสูตรโอสถทั้ง 3 เม็ดไม่เว้นเคล็ดลับในการหลอมก็ถูกบันทึกไว้ในตำราหลอมโอสถของตระกูลหลิงหูอย่างละเอียดยิบ กล่าวได้ว่าเขียนขั้นตอนการรับมือจุดที่อาจจะส่งผลให้การหลอมโอสถล้มเหลวแทบทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับล้มเหลวเสียอย่างนั้น

   ลองอีกที 

   ยังดีที่มีสมุนไพรสำหรับหลอมโอสถเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 เม็ดมากพอ 

   แต่ถ้าครั้งนี้ยังล้มเหลวอีกล่ะก็ คงต้องพักเรื่องการหลอมโอสถเทพเอาไว้ก่อน…เพราะบางทีข้าอาจไม่เหมาะจะเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพจริงๆ 

  หลังพึมพำด้วยความไม่สบอารมณ์พักหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มหลอมโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็เอาจริงเอาจังกว่าครั้งแรกมาก

  เขาทบทวนขั้นตอนการหลอมทั้งหมดในใจอีกรอบ เพื่อความแน่ใจ

  จนเมื่อไตร่ตรองว่าไม่ขาดตกพร่องอะไรแล้ว…

  ไม่นานเขาก็เริ่มหลอมโอสถอีกครั้ง!

  และเพราะความล้มเหลวครั้งแรกเป็นบทเรียน รอบนี้ต้วนหลิงเทียนจึงพิถีพิถันมาก

  จากนั้นกระบวนการหลอมโอสถก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ในที่สุดก็ถึงขั้นตอนการขึ้นรูปเม็ดยา

  โดยปกติแล้วโอสถระดับเทพนั้นหากขึ้นรูปเม็ดยาได้สำเร็จ แม้จะไม่ขัดเกลามันด้วยพลังชีวิตแต่ก็ใช้การได้แล้ว เนื่องเพราะปรมาจารย์หลอมโอสถระดับเทพ ปกติแล้วก็ยังไร้สามารถในการชักนำพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดินในมาขัดเกลาเม็ดยา

  ยิ่งไปกว่านั้นถึงจะไม่ได้ทำให้มันบริสุทธิ์ แต่โอสถระดับเทพก็มีโอกาสหลอมสำเร็จสูงพอสมควร ต่างจากโอสถเทพที่อยู่ในระดับจอมราชันเทพขึ้นไป หากไม่ชักนำพลังชีวิตมาขัดเกลาเสริมสร้างเกรงว่าไม่อาจหลอมให้แล้วเสร็จได้

  ‘ทำให้บริสุทธิ์ดีไหมนะ?’

  อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะจบลงแต่เพียงเท่านี้ เขาคิดจะชักนำพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดินในสวรรค์และโลกมาขัดเกลาเสริมสร้างโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง ‘ในบันทึกกล่าวไว้ว่า ปรมาจารย์หลอมโอสถเทพที่สามารถชักนำพลังชีวิตได้ไม่ผิดพลาด การหลอมโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งให้สำเร็จเรียกได้ว่า มีสิบส่วนเต็ม’

  ‘แต่ถ้าการขัดเกลาล้มเหลว โอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 ก็อาจเสียเปล่า’

  ‘ถ้าไม่คิดจะขัดเกลามันด้วยพลังชีวิตเลย โอกาสที่โอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งจะหลอมสำเร็จก็ถือว่ามีราวๆ 6 ส่วนเท่านั้น…’

  ‘ตอนนี้ถ้าข้าจบกระบวนการขึ้นรูปเม็ดยาตอนนี้เลย ไม่ว่ามันจะกลายเป็นโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งที่ใช้การได้หรือไม่ เหมือนจะขึ้นอยู่กับฟ้าอย่างเดียว…’

  ‘ลองดูแล้วกัน…’

  ไม่งายเลยที่ต้วนหลิงเทียนจะมาถึงขั้นตอนนี้ได้โดยไร้ข้อผิดพลาดใดๆ เขาก็เลยไม่อยากให้โอกาสหลอมสำเร็จมันขึ้นอยู่กับฟ้า

  ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เหมือนคนอื่น…เขาไม่จำเป็นต้องสกัดพลังชีวิตที่ปะปนไปกับพลังวิญญาณฟ้าดินแต่อย่างไร

  เขาแค่ใช้พลังชีวิตของพฤกษาเทพกำเนิดชีพเท่านั้น

  กล่าวให้ชัดก็คือ ชักนำพลังชีวิตของพฤกษาเทพกำเนิดชีพท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดินในโลกใบเล็กภายในกายของเขาออกมาใช้โดยตรง

  และโลกใบเล็กภายในกายของเขานั้น เขาสามารถควบคุมทุกสิ่งที่อยู่ภายในได้อย่างสมบูรณ์แบบ

  เพียงห้วงคิดเดียวพลังชีวิตมหาศาลที่ควบแน่นเป็นกลุ่มก้อนก็ถูกเขาชักนำออกมา จากนั้นเขาก็ถ่ายมันลงสู่เตาหลอมโอสถเทพเบื้องหน้าทันที

  ทว่าต้วนหลิงเทียนพึ่งจะจ่ายพลังชีวิตลงไปครู่หนึ่งก็จำต้องหยุดลง เพราะมันมากเกินพอแล้ว

  กระทั่งเขายังพบว่าพลังชีวิตเสี้ยวหนึ่งของที่ชักนำออกมา ก็มากจนโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งของเขาไม่อาจรับได้ไหวสืบไป

  หากมีปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันหรือสูงกว่านั้น มาเห็นว่าต้วนหลิงเทียนถึงกับสกัดพลังชีวิตได้มากมายมหาศาลขนาดนี้ พวกมันต้องตกตะลึงตาตั้งแน่

  และถ้าพวกมันมาเห็นว่าต้วนหลิงเทียนถึงกับอัดพลังชีวิตมากมายขนาดนี้ลงไปในเตาเพื่อหลอมโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง พวกมันต้องโร่มาทุบตีต้วนหลิงเทียนทั้งก่นด่าว่า ‘สิ้นเปลืองมารดามันเกินไปแล้ว’ แน่นอน

  ต้องทราบด้วยว่าต่อให้เป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันที่เก่งกาจที่สุด แต่พลังชีวิตที่สกัดออกมาจากพลังวิญญาณฟ้าดินนั้น งไม่อาจเทียบได้กับ 1 ใน 10 ที่ต้วนหลิงเทียนชักนำออกมาตอนนี้ด้วยซ้ำ

  สิ้นเปลือง!

  ฟุ่มเฟือยเกินไป!!

  แต่เป็นธรรมดาว่าต้วนหลิงเทียนในปัจจุบันย่อมไม่ทราบ

  เขารู้แค่ว่าตอนนี้โอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งของเขากำลังจะควบแน่นก่อตัว และมันต้องกลายเป็นเม็ดยาได้แน่นอน วินาทีนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องมันจะล้มเหลวอีกต่อไป

   เสร็จเสียที! 

  หลังแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบแล้วเสร็จ ต้วนหลิงเทียนก็ตบลงบนเตาหลอมโอสถเทพเบาๆ จากนั้นช่องจ่ายยาก็เปิดออก ก่อนที่เม็ดยาทั้ง 3 จะพุ่งทะยานออกมาฉับไวราวสายฟ้า

  ต้วนหลิงเทียนที่เตรียมพร้อมแต่แรก ก็สะบัดมือใช้พลังไร้สภาพดักจับเม็ดยาทั้ง 3 ไว้ทันที

  แสงสว่างที่สาดส่องออกมาเรืองๆทั่วเม็ดยาทั้ง 3 มันเหมือนกับโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งที่ต้วนหลิงเทียนได้รับมาไม่มีผิด เพียงแค่กลิ่นโอสถทั้ง 3 เม็ดที่เขาหลอมได้ตอนนี้ มันหอมจรุงกว่าโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งที่เขาประมูลได้มาที่เมืองวายุสวรรค์มากมายนัก

  นอกจากนั้นเพียงมองก็เห้นได้ชัดว่าเม็ดยาแต่ละเม็ดกลับมีรังสีพลังที่แลดูศักดิ์สิทธิ์ห้อมล้อมอู่

   หืม? มีตัวอักษรอะไรด้วย?

  ไม่นานต้วนหลิงเทียนที่สายตาแหลมคม ก็เห็นได้ชัดเจนว่าโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งที่เขาหลอมเสร็จ มันมีอักขระโบราณปรากฏขึ้นอ่างอัศจรรย์

  และต้วนหลิงเทียนถึงแม้จะขึ้นมายังระนาบเทพได้ไม่นาน ก็พอจะจดจำอักขระดังกล่าวได้

   เจี๋ย อี๋ ปิ่ง 

  อักขระบนเม็ดยานั้น มันเป็นตัวอักษรโบราณที่บอกชื่อโอสถ!

   ลายโอสถ!? 

   ไม่ใช่ว่า…ลายโอสถมันจะปรากฏขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อหลอมโอสถสำเร็จถึงขั้นสุดยอดหรือไร? 

   ข้าหลอมโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งสำเร็จครั้งแรก กลับปรากฏลายโอสถเลยหรือ มันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่า? 

  ขณะที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงจุดนี้ ทันใดนั้นอยู่ๆก็ปรากฏเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเหนือจวนตระกูลหลิงหู

   ท่านพ่อบ้าน เกิดอะไรขึ้นหรือ? 

  ในเวลาเดียวกัน บริเวณลานด้านหน้าของบ้านต้วนหลิงเทียน สาวใช้หลายคนที่จับกลุ่มคุยกัน เมื่อสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนฟ้า พวกนางก็อดหันไปถามหวางฟู่ที่ถือจอกชาค้างไว้ ด้วยสายตาเหรอหรา

  หวางฟู่ที่เหม่อมองเมฆดำบนฟ้าอยู่นาน ก็อดไม่ได้ที่จะงุนงงเช่นกัน  นี่มัน…ไฉนเหมือนหายนะสวรรค์เลยเล่า? 

   แต่…พวกเราที่นี่ก็ไม่มีผู้ใด ที่ต้องเผชิญกับหายนะสวรรค์นี่นา 

   พวกเจ้าไม่ใช้แม้แต่ราชาเทพด้วยซ้ำ…แถมตัวข้าเองก็พึ่งจะผ่านหายนะสวรรค์มาเมื่อ 300 ปีก่อน 

   หายนะสวรรค์ของนายน้อยเองก็สมควรผ่านไปได้สักพักแล้ว 

  ในขณะที่หวางฟู่กำลังอื้ออึงไม่เข้าใจเรื่องราว ก็ปรากฏเสียงหวีดหวิว 3 สำเนียง ก่อนเห็นวัตถุ 3 ชิ้นแหวกสายลมออกมาจากภายในบ้านปานภูตผี

   ลุงฟู่ ท่านดูนั่นเร็ว นั่นมันอะไรกัน? 

   ดูเหมือนมันจะบินออกมาจากห้องของนายน้อยเรานะ? 

  …

  สาวใช้ทั้งหลายพากันเอ่ยกับหวางฟู่เสียงแจ้ว

  และก่อนที่หวางฟู่จะทันได้ตอบคำ ก็บังเกิดเสียงดังปัง ก่อนจะปรากฏร่างหนึ่งพุ่งออกจากประตูและเหินร่างขึ้นฟ้าตามไปเช่นกัน

   นายน้อย? 

  เมื่อเห็นร่างที่เหาะขึ้นฟ้าไป หวางฟู่ก็เร่งรุดเหาะตามขึ้นไปทักทายทันที และสัญชาตญาณของมันบอกว่า ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นไม่อาจแยกจากชายหนุ่มผู้นี้ได้

  ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

  …

  ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้กับปรากฏร่างกลุ่มคนแห่กันมาจากทุกทั่วสารทิศ

  และคนเหล่านี้ไม่ว่าผู้ใด ก็ล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นอาวุโสของตระกูลหลิงหูทั้งหมด

   สถานการณ์เป็นเช่นไร? 

   เรือนหลังนั้น เหมือนจะเป็นบ้านพักของต้วนหลิงเทียนที่พึ่งเข้าร่วมกับตระกูลหลิงหูเราใช่หรือไม่? 

   ว่าแต่อาคันตุกะแซ่ต้วนผู้นั้น มิใช่ว่าเป็นราชาเทพขั้นต่ำได้สักพักแล้วหรือไร หายนะครั้งแรกก็สมควรผ่านไปแล้ว…หรือจะเป็นผู้ใดในบ้านทะลวงถึงราชาเทพ? ใช่พ่อบ้านหรือไม่? 

   ไม่น่าใช่ ข้ารู้จักพ่อบ้านของอาคันตุกะต้วน มันพึ่งผ่านหายนะไปเมื่อ 300 ปีก่อน 

   แปลกยิ่ง… 

  …

  ไม่นานนักร่างที่แห่แหนกันมาจากทั่วสารทิศก็มารวมตัวกันบริเวณน่านฟ้าใกล้ๆบ้านต้วนหลิงเทียน

  เพราะหากพวกมันไม่ได้รับอนุญาตจากต้วนหลิงเทียน พวกมันก็ไม่กล้าล่วงล้ำน่านฟ้าบ้านต้วนหลิงเทียนโดยพลการ

  จึงมาหยุดมองกันอยู่ห่างๆ

   ท่านผู้นำ! 

   ท่านผู้นำ! 

   ผู้นำตระกูล! 

  …

  ในขณะที่ผู้คนทยอยกันมาหยุดมุงชมเรื่องราว ก็ปรากฏร่างหนึ่งเหินลัดฟ้ามาฉับไว ไม่ใช่ใครที่ไหนมันคือหลิงหูเหรินเจี๋ยผู้นำตระกูลหลิงหู

  และด้านหลังหลิงหูเหรินเจี๋ยก็มีชายชราผมสีดอกเลาติดตามมาด้วย และตอนนี้สองตาอีกฝ่ายมันเปล่งประกายเจิดจ้า แถมจ้องไปยังเมฆทะมึนที่กำลังก่อตัวเหนือบ้านพักต้วนหลิงเทียนไม่วางตา

  เมฆทะมึนที่กำลังก่อตัวอยู่นั้น อัสนีที่แล่นวาบแปลบปลาบออกมา ไม่ใช่สีม่วงแต่อย่างใด…แต่มันกลับเป็นสีน้ำตาลแดงวึ่งแลดูแปลกตาไม่น้อย

   ท่านผู้เฒ่าหลิน เมฆหายนะนี่…ดูเหมือนจักผิดแปลกไป ไม่คล้ายเมฆหายนะของราชาเทพเลย 

  หลิงหูเหรินเจี๋ยมองเมฆดำบนฟ้าครู่หนึ่ง ค่อยหันมากล่าวถามชายชราด้านหลัง

   ท่านผู้นำ นี่มิใช่หายนะของผู้คน แต่เป็นหายนะของโอสถ! 

  ชายชราที่อยู่เบื้องหลังหลิงหูเหรินเจี๋ย พอได้ยินคำถามของหลิงหูเหรินเจี๋ยก็กล่าวแก้คำออกมาก่อน จากนั้นก็กล่าวออกเสียงขรึมว่า  นี่คือหายนะโอสถที่เกิดจากโอสถเทพขั้นสุดยอด! 

  โอสถเทพขั้นสุดยอด!

  พอชายชรากล่าวออกมาเช่นนี้ ลมหายใจของหลิงหูเหรินเจี๋ยก็ขาดห้วงทันที  โอสถเทพขั้นสุดยอด! 

  ถึงแม้มันจะไม่ใช่ปรมาจารย์หลอมโอสถเทพ แต่มันก็รู้ดีว่า ‘โอสถเทพขั้นสุดยอด’ คืออะไร นี่หมายถึงโอสถเทพที่บรรลุถึงขั้นสุดยอด ไม่ว่าจะระดับอะไรก็แล้วแต่

  โอสถเทพนั้น แม้จะเป็นโอสถชนิดเดียวกัน แต่ปรมาจารย์โอสถเทพแต่ละคนก็ใช่ว่าจะหลอมออกมาได้เหมือนกัน งมีแบ่งแยกสูงต่ำได้อีก

  และโอสถเทพไม่ว่าระดับใดก็ตาม มันมีขั้นสุดยอดดำรงอยู่

  เมื่อบรรลุถึงขั้นสุดยอดแล้ว หมายความว่ามันไม่อาจดีไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

  และโอสถเทพเช่นนั้น ก็ถูกเรียกหาว่าโอสถเทพขั้นสุดยอด

  ครืนนน!!

  เปรี๊ยงงง!!

  …

  และในขณะที่หลิงหูเหรินเจี๋ยกำลังตกตะลึงนั้นเอง ฟ้าก็ร้องสนั่นเสียงดังลั่น จากนั้นก็ปรากฏเส้นสายอัสนีฟาดผ่าลงมาอย่างน่ากลัว สายฟ้าขนาดเท่าแขนเด็กทารก 3 สายได้ฟาดผ่าลงไปยังจุด 3 จุดที่ลอยอยยู่กลางอากาศ

  ครู่ต่อมาก็อุบัติแสงสว่างวาบขึ้นเหนือจุดเล็กๆทั้ง 3 จุดที่ว่า จากนั้นสายฟ้าที่ฟาดผ่าลงมาก็เหมือนจะถูกจุดทั้ง 3 ดูดกลืนไปจนหมด

  จากนั้นไม่ทันไรเส้นสายอัสนีชุดที่ 2 ก็ฟาดผ่าลงมา และยังหนากว่าชุดแรกอีกด้วย

  อย่างไรก็ตาม จุดเล็กๆทั้ง 3 ยังคงดูดกลืนสายฟ้าอยู่

  ขณะเดียวกัน เมฆหายนะเบื้องบนก็เริ่มสลายตัวช้าๆ และไม่นานนักฟ้าที่เคยวิปริตก็หวนคืนสู่ความสงบ

   เป็นหายนะโอสถ!! 

   สวรรค์! นี่น่ะหรือหายนะโอสถในตำนาน ที่จะเกิดขึ้นกับโอสถขั้นสุดยอด!! 

   หายนะโอสถครั้งนี้ปรากฏอัสนีฟาดลง 2 ครั้ง…มันเป็นหายนะของโอสถเทพระดับเทพขั้นสุดยอด! 

   จุด 3 จุดเล็กๆนั่น ดูเหมือนจะเป็นโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 เม็ดใช่หรือไม่? 

  …

  ท่ามกลางกลุ่มคนของตระกูลหลิงหูที่มาชมดูเรื่องราวก็มีผู้ที่รอบรู้มากมาย และพอพวกมันได้สติกลับมา ก็เห็นว่าโอสถเทพทั้ง 3 ได้ลอยไปตกลงบนมือชายหนุ่มชุดม่วงไกลๆ

  โอสถเทพขั้นสุดยอด!

  ในอดีตพวกมันก็เคยแต่ได้ยินเท่านั้น ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

   ต้วนหลิงเทียน 

  ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งเก็บโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งกลับมา พอได้ยินเสียงคุ้นๆดังขึ้นในหู เขาก็หันไปมองตามต้นเสียงทันที และเพียงมองปราดเดียวก็พบเห็นหลิงหูเหรินเจี๋ยกำลังย่ำฟ้าเข้ามาหาเขาพร้อมชายชราคนหนึ่ง

   ผู้นำตระกูล 

  หลังต้วนหลิงเทียนกล่าวทักทายหลิงหูเหรินเจี๋ย เขาก็เหลือบไปเห็นว่าตอนนี้รอบๆน่านฟ้าบ้านเขากลับมีผู้คนมาลอร่างกันเต็มไปหมด จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจอยู่บ้าง

  เขาพึ่งจะตระหนักได้ว่ามีคนอยู่กันมากมาย

  ก่อนหน้าเขาเอาแต่สนใจโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 ที่ชักนำหายนะโอสถลงมาอย่างเหนือคาดคิด และกลัวว่าโอสถเทพทั้ง 3 ที่เขาพึ่งจะหลอมกลั่นได่สำเร็จจะสลายไป

  โอสถเทพขั้นสุดยอดนั้น หากมันไม่อาจรอดจากหายนะโอสถได้ มันก็จะเสียหายเพราะหายนะโอสถทันที กล่าวได้ว่าเป็นโอสถเทพขั้นสุดยอดที่ไม่สมบูรณ์

  มีเพียงแต่โอสถเทพขั้นสุดยอดที่รอดพ้นหายนะโอสถมาได้เท่านั้น ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นโอสถเทพขั้นสุดยอดที่แท้จริง!

  แต่เป็นธรรมดาว่าถึงจะเป็นโอสถเทพขั้นสุดยอดที่ไม่สมบูรณ์เพราะถูกหายนะโอสถทำให้เสียหาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถหลอมมันขึ้นมาได้

   ต้วนหลิงเทียน เป็นผู้อาวุโสท่านใดที่พึ่งกลันโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งที่เจ้าพึ่งเก็บไป? 

  นี่คือประโยคแรกที่หิงหูเหรินเจี๋ยเอ่ยถามหลังเข้ามาใกล้ เพราะมันอยากรู้เรื่องนี้จริงๆ ขณะเดียวกันก็เริ่มหันรีหันขวางหมายหาตัวปรมาจารย์โอสถปริศนา

  กับตัวตนที่ท้าทายสวรรค์เช่นนั้น มันย่อมไม่กล้าคาดหวังให้อีกฝ่ายรั้งอยู่ในตระกูลหลิงหู เพียงแค่ได้ทำความรู้จักก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว กล่าวได้ว่าหากสานไมตรีกับตัวตนระดับนี้ได้ก็เสมือนเป็นพรที่สั่งสมมา 8 ชาติ!

 

War sovereign Soaring The Heavens

War sovereign Soaring The Heavens

Status: Ongoing

จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย

การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้!

ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ …

ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน