War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3740 : นางเป็นใครกันแน่?

ตอนที่ 3740 : นางเป็นใครกันแน่?

   พวกเจ้าคิดทำเช่นนี้มันดีแล้วหรือ? 

  ได้ยินบทสนทนาของอาวุโสฟงกับเหล่ย อาวุโสอวิ๋นก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา  พวกเจ้าคิดไปซุ่มจับตัวต้วนหลิงเทียนเช่นนี้ ถึงจับคนได้ แต่ไหนเลยจะห้ามผู้คนไม่ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือ? ถึงตอนนั้นคนของตระกูลหลิงหู ไยมิทราบว่าเป็นพวกเจ้าที่ลงมือจับคน? 

   และพอถึงตอนนั้นจริง ข้าเกรงว่าคนของตระกูลหลิงหูก็จักมาทวงคนกับพวกเราอยู่ดี 

  อาวุโสอวิ๋นกล่าว

   หึ! พวกมันมาทวงคน แล้วพวกเราต้องมอบคนให้รึไร? 

  อาวุโสฟงพ่นลมออกจมูกอย่างไม่สบอารมณ์  ไม่ต้องกล่าวถึงที่พวกมันไม่แน่จะตามมาช่วยต้วนหลิงเทียนได้ทัน ต่อให้พวกมันรู้ว่าเราจับคนมาจริง พวกมันยังจะทำอะไรได้ หรือต้องกลัวยามพวกมันเอาชีวิตศิษย์นิกายเรามาข่มขู่? 

   ถ้าเกิดมันแตะต้องศิษย์นิกายเราจริง ถึงตอนนั้นข้าจักไปรังควาญคนของตระกูลหลิงหูดูบ้าง! 

  อาวุโสฟงกล่าวจบก็แสยะยิ้มเย้ยหยัน

   ดี! 

  อาวุโสเหล่ยพยักหน้าเห็นด้วย  นอกจากนั้นพวกเรายังสามารถตีเนียนบอกไม่รู้ไม่เห็น…ยกอ้างไปว่าที่ต้วนหลิงเทียนแจ้ง ทั้งหมดเป็นเพราะคิดใส่ร้ายพวกเรา หมายสร้างความขัดแย้งระหว่างตระกูลหลิงหูกับนิกายหมอกเร้นลับเราดีหรือไม่? 

  ได้ยินคำพูดของอาวุโสฟงกับเหล่ย ไม่ว่าจะเฉียนหยิ่นประมุขนิกายหมอกเร้นลับก็ดีหรืออาวุโสอวิ๋นกับหวู่ก็ดี ต่างรู้ว่าทั้งคู่นั้นตัดสินใจแน่แล้วว่าจะจัดการต้วนหลิงเทียนให้จงได้

  เห็นได้ชัดว่าไม่อาจห้ามปรามทั้งคู่ได้อีกต่อไป

  ตอนนี้เอง อาวุโสหวู่ที่นิ่งเงียบมาตลอดก็หันไปมองอาวุโสฟงกับเหล่ยพลางปริปากกล่าวคำออกมา  ข้าจะขอเตือนพวกเจ้าทั้งคู่ไว้ก่อน…หากไม่สืบความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนให้แน่ชัด อย่าได้ลงมือฆ่าคนเด็ดขาด! 

   หากลงมือแล้วไม่มีพยานรู้เห็นก็แล้วไป แต่ถ้าเรื่องราวมันแพร่งพรายออกไปแล้วเบื้องหลังต้วนหลิงเทียนมียักษ์ใหญ่หนุนหลังอยู่จริง ถึงตอนนั้นไม่ใช่แค่เจ้า แต่จะเป็นทั้งนิกายหมอกเร้นลับเราที่มีปัญหา 

   ที่สำคัญ ต่อให้พวกเจ้าจะฆ่ามันได้โดยไม่มีมือที่สามล่วงรู้ แต่พวกเจ้าก็อย่าได้วู่วามฆ่ามันช่วงนี้เสียประเสริฐกว่า…หาไม่แล้วขอเพียงมิใช่ตัวโง่งม ยังมีใครไม่สงสัยพวกเจ้า… 

  อาวุโสหวู่กล่าวถึงจุดนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึงขัง  หากพวกเจ้าคิดจะลงมือเร็วๆนี้ ถ้าสบโอกาสก็แค่จับตัวต้วนหลิงเทียนกลับมาเถอะ อย่าได้ฆ่ามันโดยเด็ดขาด 

   เฒ่าหวู่ ไม่ใช่แค่เจ้าที่กังวลนิกายหมอกเร้นลับเกิดเรื่อง ข้ากับน้องฟงเองก็กังวลไม่แพ้เจ้า 

  อาวุโสเหล่ยหันไปมองอาวุโสหวู่ผ่านๆพลางกล่าว  หาไม่แล้ว เจ้าไม่คิดหรือว่าไฉนวันนี้พวกเราไม่ฆ่ามันแต่แรก? 

   อย่าได้ลืมไป ว่าคนที่มันฆ่าไปเป็นศิษย์รักของพวกเราทั้งคู่! 

   อีกทั้ง…หูท่านมีปัญหาหรือไม่ มิใช่ข้ากล่าวไว้แต่แรกแล้วหรือว่าข้าจะ ‘จับ’ ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ฆ่ามัน? 

   แซ่เหล่ยลองไถ่ถามตัวเองดู…ก็ตอบได้ทันทีว่าขอเพียงต้วนหลิงเทียนโผล่หัวออกมานอกเขตตระกูลหลิงหู หากไร้จอมราชันเทพคอยปกป้องคุ้มครอง แซ่เหล่ยก็มันใจว่าสามารถฆ่ามันได้โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้! 

  ขณะกล่าวถึงท้ายประโยค น้ำเสียงของอาวุโสเหล่ยก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง

   เช่นนั้นเรื่องนี้ก็เอาแบบนี้เถอะ… 

  พอเห็นว่าอาวุโสสูงสุดทั้งหลายเริ่มมีปากเสียงกันแล้ว เฉียนหยิ่น ประมุขนิกายหมอกเร้นลับก็ได้ตัดสินใจออกปาก เพื่อสรุปเรื่องราว  ทำตามที่อาวุโสเหล่ยว่า…หาโอกาสจับตัวต้วนหลิงเทียนกลับมาโดยไม่ต้องฆ่ามัน 

   และหากพวกเราสามารถยืนยันได้แล้ว ว่าต้วนหลิงเทียนไร้ผู้ใดหนุนหลังนอกจากตระกูลหลิงหู เช่นนั้นก็ฆ่ามันทิ้งเพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณศิษย์ทั้งสองของอาวุโสฟงกับอาวุโสเหล่ยเถอะ! 

  …

   ท่านปู่เล็ก ต้วนหลิงเทียนเล่า คนอยู่ที่ใดแล้ว? 

  ท่ามกลางศิษย์สายในที่มารอฟังบทสรุปของเรื่องราวนอกเขตที่พักศิษย์หลัก ถังอู๋เยียน ที่ยืนรอด้วยใจจดจ่อ พอเห็นเหล่าอาวุโสฝ่ายในทยอยกันออกจากเขตที่พักศิษย์หลัก นางก็มองหาถังชุนในกลุ่ม ก่อนจะโร่เข้าไปถามทันที

  เผชิญหน้ากับถังอู๋เยียนที่แลดูเป็นกังวลจนออกหน้าออกตา ถังชุนก็ได้แต่กล่าวตอบไปเสียงอ่อน  ไม่ต้องห่วง…ต้วนหลิงเทียนสบายดี 

   แล้วผู้คนเล่า? 

  ถังอู๋เยียนถามต่อ

   มัน…ถูกคนของตระกูลหลิงหูพาตัวไปแล้ว 

  ถังชุนกล่าว

   ตระกูลหลิงหู? 

  ถังอู๋เยียนตกใจ  เอ๊า! ไฉนถึงถูกคนตระกูลหลิงหูพาไปได้เล่า หรือประมุขกับเหล่าอาวุโส คิดสานไมตรีกับตระกูลหลิงหู และส่งตัวต้วนหลิงเทียนให้ตระกูลหลิงหูจัดการ? 

  คาดเดาถึงจุดนี้ สีหน้าของถังอู๋เยียนก็กลายเป็นไม่สู้ดี

  ถังชุนได้ยินการคาดเดาของหลานสาว ก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ พูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง  อู๋เยียนเอย…เมื่อครู่มิใช่ปู่เล็กพึ่งบอกเจ้าไปหรือ ว่าต้วนหลิงเทียนสบายดี… 

   ที่ตระกูลหลิงหูพาต้วนหลิงเทียนไป เพราะคิดช่วยต้วนหลิงเทียน 

   หาไม่แล้ว วันนี้ต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่ถูกสำเร็จโทษ ก็ไม่พ้นต้องถูกจับขังเพื่อรอให้คนที่อยู่เบื้องหลังต้วนหลิงเทียนมาช่วย… 

   ตอนนี้ในเมื่อตระกูลหลิงหูช่วยต้วนหลิงเทียนออกไปแล้ว เช่นนั้นมันก็ไม่ต้องรบกวนอาวุโสที่อยู่เบื้องหลัง 

  ในใจถังชุนยังเชื่อมาโดยตลอด ว่าต้วนหลิงเทียนต้องมีขุมกำลังอันยิ่งใหญ่หนุนหลัง

  ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องเด็กสาวลึกลับที่ปรากฏตัวในโรงประมูลสกุลโจวพร้อมผู้ติดตามขอบเขตจอมราชันเทพอันทรงพลังเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพรสวรรค์และความเข้าใจของต้วนหลิงเทียนอีกด้วย

  ในความเห็นมัน เป็นเรื่องปกติมาก ที่อัจฉริยะเยี่ยงปีศาจอย่างต้วนหลิงเทียนจะมีความเป็นมาไม่ธรรมดา

  ‘ไฉนอยู่ๆคนของตระกูลหลิงหูถึงโผล่มาช่วยได้เล่า…’

  ในใจของถังอู๋เยียนเต็มไปด้วยความสับสน

  จากนั้นพอถังชุนเล่ารายละเอียดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง นางก็เริ่มเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น  ที่แท้เป็นถึงคู่แฝดเหิงฮวนแห่งตระกูลหลิงหูที่มาช่วยต้วนหลิงเทียน…แต่พวกมันบอกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นอาคันตุกะทรงเกียรติของตระกูลหลิงหูเช่นนั้นหรือ? 

   ต้วนหลิงเทียนไปเข้าร่วมตระกูลหลิงหูตั้งแต่เมื่อใดกัน… 

  ถังอู๋เยียนขมวดคิ้ว

  ถังชุนที่ฟังถังอู๋เยียนกล่าวพึมพำก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แม้ในใจของมันจะเริ่มคาดเดาอะไรบางอย่างได้ก็ตาม เพียงแค่เรื่องที่มันคาดเดานั้นไม่สะดวกจะบอกถังอู๋เยียน

   หรือจะเป็นเพราะ…หลิงหูชูยิน! 

  อย่างไรก็ตาม พอถังอู๋เยียนพูดออกมาอีกครั้ง ถังชุนก็สะดุ้งเพราะนี่เป็นสิ่งที่มันกำลังคิดอยู่พอดี

  เพราะหลังจากที่แฝดเฒ่าตระกูลหลิงหูปรากฏตัวขึ้นจนช่วยต้วนหลิงเทียนจากไป มันก็เริ่มเค้นสมองครุ่นคิดเรื่องราวทันที ว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงไปเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิงหูได้

  มันเริ่มไตร่ตรองตั้งแต่แรก ด้วยความที่ต้วนหลิงเทียนอยู่ในสถานศึกษาหมอกเร้นลับสาขาเมืองวายุสวรรค์มาก่อน สิ่งนี้บอกให้มันรู้ว่าเดิมทีต้วนหลิงเทียนไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิงหู

  หาไม่แล้วคงเลือกไปตระกูลหลิงหูแต่แรก

  ด้วยพรสวรรค์กับความเข้าใจ สิ่งที่ตระกูลหลิงหูจะมอบให้ เกรงว่าคงไม่ด้อยไปกว่าสิ่งที่นิกายหมอกเร้นลับจะมอบให้แน่นอน

  เช่นนั้นถ้าจะเอ่ยถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนไปเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิงหูได้อย่างไรล่ะก็ เห็นทีก็มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น! และเป็นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง…เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองจวินหลิงเมื่อไม่นานมานี้!

  ต้วนหลิงเทียนต้องตาพึงใจโฉมงามอันดับ 1 แห่งตระกูลหลิงหู หลิงหูชูยิน ถึงขั้นโดดไปขวางรถลากผู้อื่นเขาเพื่อขอพบเจอ…

  ‘ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะกลับมาฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียววันนี้ เกรงว่าคงไตร่ตรองเรื่องราวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ…กระทั่งยังหาทางหนีทีไล่เตรียมไว้เรียบร้อย’

  ‘และความมั่นใจทั้งหมด ก็มาจากแฝดเฒ่าเหิงฮวนของตระกูลหลิงหู’

  ‘สาเหตุที่ต้วนหลิงเทียนไปเข้าร่วมตระกูลหลิงหู เกรงว่าคงไม่อาจแยกจากหลิงหูชูยินได้ออก…แต่เป็นธรรมดาว่าเหตุผลที่ทำให้ไปเข้าร่วมกับตระกูลหลิงหู ไม่เพียงแต่จะเป็นเพราะหลิงหูชูยินอย่างเดียว สมควรเป็นเพราะคิดฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียวแต่แรก’

  ‘หากไม่เตรียมทางหนีทีไล่เช่นนี้ ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่คิดลงมือฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียวแน่ เพราะถ้าลงมือไปก็คงยากจะอยู่ในนิกายหมอกเร้นลับได้อีก สุดท้ายก็ทำได้แค่ขุมกำลังที่อยู่เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือเท่านั้น…แต่ในเมื่อคนปกปิดออกมาท่องโลกเพียงลำพังแต่แรกเช่นนั้นหากไม่ถึงที่สุดก็คงไม่คิดพึ่งพาขุมกำลังเบื้องหลังเป็นแน่’

  นี่เป็นสิ่งที่ถังชุนวิเคราะห์

   ยาโถวน้อย…เจ้าลืมมันไปเสียเถอะ 

  หลังถังชุนกลับมารู้สึกตัวและเห็นว่าถังอู๋เยียนชักสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดี ในแววตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจยากยอมรับ ถังชุนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ค่อยกล่าวแนะนำออกไปเสียงอ่อน  เจ้ากับมัน มิได้อยู่ในโลกเดียวกัน 

  …

  ต้วนหลิงเทียนที่ได้ติดตามคู่แฝดหลิงหูออกจากนิกายหมอกเร้นลับแบบนี้ ย่อมบังเกิดความยินดีมีสุขเป็นธรรมดา

  ไม่ว่าจะเป็นซั่งกวนฉงเฟิงก็ดี หลงเซียวก็ดี พวกมันเป็นดั่งหินใหญ่ที่กดทับกลางอก มักทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ทั่วท้อง

  แต่ตอนนี้พอได้ฆ่าทั้งคู่ด้วยน้ำมือตัวเอง โทสะและความไม่พอใจทั้งหมดย่อมสลายหายไปเป็นธรรมดา

   เจ้าหนุ่ม เจ้านี่โหดแท้เล่า…ไม่เพียงแต่จะฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงศิษย์ของเลอะเลือนเฒ่าของนิกายหมอกเร้นลับเท่านั้น แต่เจ้ายังฆ่าหลงเซียวศิษย์ของแซ่เหล่ยนั่นอีก… 

  ภายในเรือเหาะระดับจอมราชันเทพ หลิงเหิงหันมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม  ข้าเกรงว่าตอนนี้ชื่อเจ้าคงถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของนิกายหมอกเร้นลับเรียบร้อยแล้วเป็นแน่…กล่าวได้ว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีหลังจากนี้ไม่ปรากฏ! 

   หนึ่งคนคือฆ่า สองคนก็คือฆ่า 

  ต้วนหลิงเทียนได้ฟังก็ยิ้ม  ข้าฆ่าพวกมันคนเดียวกับฆ่าพวกมันทั้งคู่…มีความแตกต่างกันตรงที่ใดเล่า? 

  หลักการของต้วนหลิงเทียนก็คือ ใครไม่รุกรานข้า ข้าไม่รุกรานผู้ใด แต่ถ้าผู้ใดรุกรานข้า มันผู้นั้นต้องชดใช้สิบเท่าร้อยเท่า! 

  ซั่งกวนฉงเฟิงนั่น มันรีดไถโอสถเสริมโชค 2 เม็ดของเขาไปอย่างไร้เหตุผล และสาเหตุที่มันกล้ากร่างในนิกายก็เพราะมีผู้สนับสนุนอันดี

  แต่เรื่องนี้ยังไม่นับเป็นอะไร…

  เพียงแค่วันนี้พออีกฝ่ายถูกเขาแฉความชั่วออกมา กลับบันดาลโทสะคิดฆ่าเขา…

  ตั้งแต่วินาทีแรกที่ซั่งกวนฉงเฟิงเปิดฉากเข่นฆ่าเข้ามา ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินโทษตายให้พวกมันเรียบร้อย

  สำหรับหลงเซียว

  ครั้งสุดท้ายที่เขาทำเหมือนหลงเซียวเป็นเหมือนตัวตลกโดดออกมาเล่นจำอวด เขาก็รู้ดีว่าต้องทำให้อีกฝ่ายขุ่นขึ้งหมองเคือง และพอเขากลับมาไม่ทันไร อีกฝ่ายก็โร่ออกมาเพราะคิดฆ่าเขาแล้ว

  กับคนเช่นนี้ ปล่อยไปก็รังแต่จะเป็นภัยซ่อนเร้นเปล่าๆ

  เจ้าคิดฆ่าข้าหรือ?

  ขออภัย เพื่อป้องกันตัวเอง ข้าก็เลยฆ่าเจ้าก่อน…

   เจ้าหนุ่ม ลงมือเด็ดขาดเช่นนี้ ต่อไปเจ้าต้องมีอนาคตสดใสแน่! 

  พอหลิงหูเหิงได้ฟังคำตอบของต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่รู้จะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ได้แต่ยกมือขวาอันอวบอ้วนขึ้นมายกนิ้วโป้งให้ต้วนหลิงเทียน

   พวกมัน…ไม่กล้าฆ่าเจ้า 

  ทันใดนั้นเองหลิงหูฮวนที่ไม่ได้พูดมาตลอดกระทั่งไม่ค่อยมองมาทางต้วนหลิงเทียนด้วยซ้ำ อยู่ๆก็หันมามองพลางปริปากกล่าวคำออกมาอย่างหาได้ยาก

   จริง! 

  ตอนนี้เองหลิงหูเหิงก็ฉุกคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จึงหันไปกล่าวถามต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น  เจ้าหนุ่ม อาวุโสเหล่ยกับฟงของนิกายหมอกเร้นลับนั่น เท่าที่ข้ารู้จักพวกมันมา…ข้าบอกได้คำเดียวว่าพวกมันมิใช่ตัวดีอันใด 

   หากเป็นศิษย์ของนิกายหมอกเร้นลับธรรมดาๆ ให้พรสวรรค์กับความเข้าใจสูงถึงเพียงไหน แต่ลองฆ่าศิษย์ของพวกมันไปแบบนี้ พวกมันไม่พ้นต้องลงมือล้างแค้นให้ศิษย์ทันทีโดยไม่สนอะไรแน่ 

   แต่พวกมันกลับไม่กล้าลงมือฆ่าเจ้า 

   เพราะอะไร? 

  ยิ่งมาความอยากรู้อยากเห็นในแววตาของหลิงหูเหิงยิ่งแรงกล้า

  ไม่ว่าจะหลิงหูเหิงก็ดีหลิงหูฮวนก็ดี ล้วนซ่อนตัวชมดูเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแต่พวกมันชมดูเรื่องราวจากไกลๆเท่านั้น ยากที่จะได้ยินบทสนทนาอะไรได้

  เช่นนั้นพวกมันจึงเห็นแค่ว่า อาวุโสเหล่ย อาวุโสฟง รวมถึงประมุขนิกายหมอกเร้นลับที่ปรากฏตัวออกมา กลับไม่มีใครคิดลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนแต่แรก และไม่ได้ทราบเลยว่าทั้ง 3 ไม่กล้าลงมือเพราะกริ่งเกรงตัวตนของต้วนหลิงเทียน เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงกระซิบคุยกันของเหล่าศิษย์หลักรวมถึงอาวุโสฝ่ายใน

  ต่อมามันก็เห็นว่าอาวุโสฟงของนิกายหมอกเร้นลับนั้น แม้จะลงมือกับต้วนหลิงเทียน แต่ก็เป็นการลงมืออย่างละมุนละม่อมไม่ได้มีเจตนาฆ่าฟัน กระทั่งยังใช้พลังไร้สภาพอ่อนโยนขุมหนึ่งไม่ได้รุนแรงถึงขั้นทำร้ายผู้คน คล้ายคิดจะจับตัวต้วนหลิงเทียนมากกว่า

  อย่างไรก็ตาม หลิงหูเหิงก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏตัวออกมาขัดขวาง

   พวกมันกริ่งเกรงว่า คนที่พวกมันเข้าใจว่าเป็นน้องสาวของข้า…จะลงมือกับพวกมันหากข้าเป็นอะไรไป… 

  เผชิญกับคำถามด้วยความสงสัยของคู่แฝดหลิงหู ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่กล่าวออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

  ขณะเดียวกัน ในใจต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏร่างเด็กสาวนาม ‘ต้วนเฉียวอวี่’ ที่เขาเคยพบเจอในเมืองวายุสวรรค์ขึ้นมาในใจ

  นางเป็นใครกันแน่?

  นางไม่เพียงแต่จะบอกว่ามีพี่ชายที่หน้าตาเหมือนเขามาก แต่นางกลับแลดูคุ้นเคยกับเขาราวกับนางเห็นเขาเป็นพี่ชายของนางจริงๆ…

 

War sovereign Soaring The Heavens

War sovereign Soaring The Heavens

Status: Ongoing

จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย

การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้!

ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ …

ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท