บทที่ 87: หยู่เจี๋ยส่งอุปกรณ์ป้องกันตัว
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ปล่อยให้เฉิงอี้และคนอื่นอารักขาไปถึงบ้าน แต่ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อรถของย่าเจี่ยนมาถึงที่ประตูโรงเรียน เธอก็ขึ้นรถไปอย่างเงียบๆ
ในเวลานี้ดอกไม้ ลูกโป่ง ป้าย ที่อยู่ที่ประตูโรงเรียนนั้นได้ถูกจัดการไปเรียบร้อยนานแล้วภายใต้คำสั่งของหลัวซิ่วเอิน
ทุกอย่างดูเป็นไปตามปกติ
เจี่ยนอีหลิงตั้งใจไม่ให้หญิงชรารู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้นหญิงชราจึงไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติกับเจี่ยนอีหลิง
เมื่อรถวิ่งไปถึงประตูบ้านของเจี่ยนอีหลิง ย่าเจี่ยนกับเจี่ยนอีหลิงก็เห็นเจี่ยนหยู่เจี๋ย
หายใจหอบอย่างหนัก ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งวิ่งมาก่อนหน้านี้
ย่าเจี่ยนรีบขอให้คนขับหยุดรถ แล้วเปิดประตูออกไปถาม
“หยู่เจี๋ย เกิดอะไรขึ้นกับหลานเหรอ ทำไมหลานจึงมาที่นี่อย่างกระทันหัน”
วันนี้เป็นวันอังคาร และเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ควรจะอยู่ที่โรงเรียน
“ผมขอคนขับรถให้พาผมมาที่นี่” ในขณะที่กำลังตอบคำถามของหญิงชรา เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็หันไปมองยังเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนหยู่เจี๋ยรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ที่ประตูโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว และหยูซีก็ได้ส่งข้อความถึงเขาด้วย
เดิมสิ่งที่หยูซีได้คิดไว้ก็คือ น้องสาวอีหลิงถูกพวกนักเลงอันธพาลจ้องอยู่และเขาก็ต้องการให้เจี่ยนหยู่เจี๋ยได้รู้ถึงสถานการณ์
ถ้านี่ปิดไว้เป็นความลับ เขากลัวว่าเขาจะหมดความน่าเชื่อถือสำหรับเจี่ยนหยู่เจี๋ยอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่หยูซีไม่คาดคิดก็คือหลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการส่งข้อความไปให้เจี่ยนหยู่เจี๋ย จ๋ายหวินเชิ่งก็ลากเขาออกจากประตูและไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง
ทันทีที่เจี่ยนหยู่เจี๋ยได้รับข้อความจากหยูซี เขาก็พยายามที่จะวิ่งออกมา
แต่ในเวลานั้นเขายังเรียนไม่จบคาบ
ในช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงสุดท้าย เจี่ยนหยู่เจี๋ยซึ่งนั่งอยู่ในห้องเรียนก็รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนปลายเข็ม
เจี่ยนหยู่เจี๋ยแทบจะเป็นบ้าเมื่อคิดว่ามีคนพยายามที่จะสารภาพรักกับน้องสาวของเขา
น้องสาวของเขาอายุเท่าไหร่กันเชียว ไม่มีเวลาที่จะไปหลงรักใครอย่างแน่นอน
และถึงแม้ว่าจะมีอายุถึงวัยที่มีความรักได้แล้ว ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกกเฬวรากจะสามารถเอื้อมมาถึงได้
เพียงแค่มองเขาก็บอกได้ว่าพวกต่ำชั้นไร้ศักดิ์ศรีพวกนี้ควรจะถอยออกไปให้ห่างจากน้องสาวของเขา
ทันทีที่กริ่งเลิกเรียนดัง เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็รีบวิ่งออกไปจากห้องเรียน
หลังจากที่ขึ้นไปบนรถ เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ขอให้คนขับรถพาเขาไปยังบ้านเก่าตระกูลเจี่ยนโดยทันที
เดิมทีแล้วเขาต้องการที่จะตรงไปยังโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว แต่เมื่อเขาถามถึงสถานการณ์กับหยูซีระหว่างเส้นทาง หยูซีได้บอกเขาว่าเรื่องนี้ได้แก้ไขไปแล้ว
“มีอะไรสำคัญหรือเปล่า” เมื่อเห็นสายตาร้อนแรงของเจี่ยนหยู่เจี๋ย หญิงชราก็รู้สึกเหมือนกับมีอะไรกำลังเผาคิ้วเขาอยู่
“ไม่มีอะไร ผมเพียงแค่มามอบของบางอย่างให้กับน้องสาวอีหลิง” เจี่ยนหยู่เจี๋ยลากกระเป๋าใส่ของขนาดใหญ่ออกมาจากท้ายรถและยื่นส่งให้กับเจี่ยนอีหลิง
ของทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัว เจี่ยนหยู่เจี๋ยได้ซื้อพวกมันไว้เมื่อสองวันก่อน
เดิมทีเขาต้องการที่จะให้กับน้องสาวของเขาเมื่อเธอเชิญเขามาที่บ้านตอนวันหยุด ตอนนี้เมื่อเกิดสถานการณ์เร่งด่วน เจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงส่งพวกมันมาล่วงหน้า
เมื่อของต่างๆเหล่านี้ถูกส่งถึงมือเจี่ยนอีหลิง เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็กระซิบที่หูของเจี่ยนอีหลิงว่า “ให้เอาของที่พกพาได้ติดตัวไว้ให้เป็นปกติ ถ้าน้องเจอคนน่าสงสัยหรือมีพิรุธ น้องก็จะสามารถสั่งสอนพวกมันได้”
หลังจากที่ส่งของพวกนั้นแล้ว เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็โบกมืออำลาย่าเจี่ยนกับเจี่ยนอีหลิง
เขาต้องรีบกลับบ้าน การผ่านมาที่บ้านเก่าโดยไม่มีคำอนุญาตจากแม่ของเขาก่อนนั้น แม่เขาต้องโมโหแน่
หลังจากที่เจี่ยนหยู่เจี๋ยจากไปแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็เปิดดู “อุปกรณ์การป้องกันตัว” ของเจี่ยนหยู่เจี๋ย
ย่าเจี่ยนอยากรู้จึงเอียงตัวมาดู เธอเองก็ต้องการที่จะรู้ว่าอะไรที่หลานชายของเธอต้องเร่งรีบมาให้กับหลานรักของเธอ
เมื่อเธอเห็นกองของอุปกรณ์เตือนภัยและผลิตภัณฑ์สเปรย์ป้องกันตัว ย่าเจี่ยนก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
“เจ้าเด็กบ้านั่น คิดอะไรอยู่ในแต่ละวัน”
สิ่งของส่วนใหญ่ในนี้ไม่มีความจำเป็น
เจี่ยนอีหลิงตอนนี้ถูกรับตัวด้วยหญิงชราเองทันทีที่เธอออกจากประตูโรงเรียน จะมีโอกาสพบเจอกับพวกภัยสังคมได้อย่างไร