เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 162

ตอนที่ 162

大姐大 บทที่ 162 หอผู้ป่วยอันอบอุ่น 2

เมื่อเห็นว่าสุดท้ายเจี่ยนอีหลิงฟื้นแล้ว เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็รีบตรงเข้าไปหา “น้องเป็นยังไงบ้าง น้องยังเจ็บอยู่ไหม”

เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า

“น้องโกหกพี่อีกแล้ว เห็นชัดๆว่าลำไส้อักเสบจะต้องปวดมาก”

“ไม่ได้ปวด ไม่ต้องเสียใจ”

“เอ่อ พี่ไม่เสียใจก็ได้แต่น้องต้องรักษาอาการป่วยนี้ให้ดีแล้วก็หยุดวิ่งไปวิ่งมา” เจี่ยนหยู่เจี๋ยยอมรับอย่างจริงจัง

“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงกล่าวอย่างเอาจริงเอาจังว่า “นายกลับบ้านไปก่อน”

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด หยูซีที่อยู่ข้างกายเจี่ยนอีหลิงเกิดความคิดขึ้นมาว่าการที่เจี่ยนอีหลิงบอกให้เจี่ยนหยู่เจี๋ยกลับบ้านไปก่อนนั้นเหมือนกับเป็น “ย่า” เพียงแต่ว่า “ย่า” คนนี้มีกลิ่นน้ำนมติดตัวอยู่บ้าง

“ไม่ พี่เลิกเรียนแล้ว” เจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่ต้องการไปในตอนนี้ เขาต้องการที่จะอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวอีหลิงที่กำลังป่วยอยู่

เจี่ยนหยู่เจี๋ยได้โทรศัพท์ไปบอกครู ตอนที่คอยเจี่ยนอีหลิงตื่น

หลังจากที่เจี่ยนหยู่เจี๋ยตอบแล้ว เขาก็กวาดสายตาไปยังจ๋ายหวินเชิ่งที่อยู่ถัดไปด้วยความเป็นปฏิปักษ์และตื่นตัวฉายชัดอยู่ในดวงตา

หากชายคนนี้อยู่ที่นี่ เขาจากไปไม่ได้แน่นอน

หยูซีก้าวออกมาแล้วผลักไหล่เจี่ยนหยู่เจี๋ย “เชื่อน้องสาวของนายบ้าง กลับบ้านไปก่อน ฉันได้เรียกย่าเจี่ยนแล้ว และเธอก็จะมาถึงที่นี่เร็วๆนี้ ดังนั้นไม่ต้องกังวล”

เมื่อเจี่ยนอีหลิงเข้าโรงพยาบาลอีกคร้ง แน่นอนว่าหยูซีไม่กล้าที่จะไม่รายงานสถานการณ์ให้ผู้ใหญ่รู้ ดังนั้นหลังจากที่ได้พูดกับเจี่ยนหยู่เจี๋ยก่อนหน้านี้ เขาก็ได้โทรศัพท์ไปที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยนและแจ้งเรื่องราวให้ย่าเจี่ยนฟัง

“แต่ฉันยังต้องการอยู่กับน้องสาวของฉันอีกสักพัก” เจี่ยนหยู่เจี๋ยยังไม่ต้องการที่จะไป

“ตาน่าเกลียด กลับไปนอน” เจี่ยนอีหลิงพูดกับเจี่ยนหยู่เจี๋ย

เจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่ได้นอนทั้งคืนเมื่อคืน และวงสีดำสองวงใหญ่บนใบหน้าของเขาก็เห็นได้ชัด

หยูซียิ้ม “ดูสิ น้องสาวอีหลิงเกลียดนายแล้ว ทำไมนายไม่กลับไปที่เตียงนายละ อย่าปล่อยให้น้องสาวเป็นห่วงนาย”

เจี่ยนหยู่เจี๋ยต้องกลับไปแล้ว

เขาไม่อาจปล่อยให้น้องสาวอีหลิงเป็นห่วงเขาได้อีกต่อไป

“ตกลง ถ้างั้นพี่กลับไปก่อนนะ น้องหายไวๆนะ”

เจี่ยนหยู่เจี๋ยได้แต่ยอมรับ แต่ก่อนจากเขาได้ย้ำเตือนหยูซีว่าต้องดูแลเจี่ยนอีหลิงให้ดี อย่าปล่อยให้จ๋ายหวินเชิ่งเข้าไปใกล้เจี่ยนอีหลิงมากเกินไป

หยูซีให้คำมั่นสัญญาเป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงนั้นหากว่าจ๋ายหวินเชิ่งต้องการใกล้ชิดกับเจี่ยนอีหลิงจริง เขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งอีกฝ่ายได้

###

หยูซีถามพ่อบ้านให้นำอาหารมาให้

โจ๊กขาว และผักหนึ่งจาน

จ๋ายหวินเชิ่งป้อนโจ๊กให้กับเจี่ยนอีหลิงด้วยตนเอง

“ไม่… ไม่เอา…”

เจี่ยนอีหลิงปฏิเสธด้วยเสียงเบา เธอไม่ได้เกลียดจ๋ายหวินเชิ่ง แต่ว่าอาย

“อยู่นิ่งๆ” จ๋ายหวินเชิ่งคำราม

เขาถือช้อนโจ๊กขาวไปที่ปากของเจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนอีหลิงไม่กิน จ๋ายหวินเชิ่งก็ถือช้อนค้างไว้

นี่ยิ่งทำให้เจี่ยนอีหลิงยิ่งอายมากกว่าเดิม เธอไม่มีนิสัยรบกวนคนอื่น

ดังนั้นเจี่ยนอีหลิงจึงอ้าปากและกลืนลงไปในปากเล็กๆนั้น

ริมฝีปากที่เดิมขาวซีดเริ่มกลายเป็นสีแดงสดหลังจากที่ได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำข้าวต้ม

หยูซีอธิบายให้เจี่ยนอีหลิงที่อยู่ข้างๆว่า “น้องสาวอีหลิง อย่ากล่าวโทษพี่ชายที่ไม่ได้เอาอาหารอร่อยๆ มาให้ น้องตอนนี้ทำได้แค่เพียงดื่มข้าวต้มกับทานผักเท่านั้น แต่พ่อครัวของพี่ก็ได้พยายามทำหลากหลายจานเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว”

หยูชีแนะนำจานผักเขียวบนจาน “หน่อไม้ฝรั่งใช้ส่วนยอดอ่อนที่สุดทอดในน้ำโดยไม่ต้องใช้น้ำมันและเกลือ ยังมีบรอกโคลีและใบมันเทศทอดซึ่งคัดเลือกมาอย่างดี ใช้ส่วนที่นุ่มที่สุด ใส่น้ำมันกับเกลือน้อยลง”

จานผักเขียวที่ไม่มีเนื้อแม้แต่น้อย ไม่ว่ายังไงก็ยังไร้รสชาติ

หยูซีให้สัญญากับเจี่ยนอีหลิงว่า “ถ้าน้องอาการดีขึ้นแล้ว พี่ชายจะพาน้องไปทานอาหารอร่อยทุกอย่าง บอกมาได้เลยว่าน้องต้องการอะไร พี่ชายเลี้ยงเอง”

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท