大姐大 บทที่ 161 หอผู้ป่วยอันอบอุ่น 1
เขาวางมือที่ค่อนข้างเย็นของเธอลงบนใจกลางฝ่ามือของเขา ใช้อุณหภูมิจากมือของเขาให้ความอบอุ่นแก่มือเล็กๆนี้
เจี่ยนอีหลิงฝันร้ายอีกครั้งท่ามกลางความมึนงง
ในความฝันของเธอนั้น เธอยืนอยู่ในห้องเก็บศพ โดยมีศพที่เย็นยะเยือกอยู่ในโลงตรงหน้าเธอ
ใบหน้าของศพนั้นเป็นใบหน้าของเจี่ยนอีหลิง
เธอยืนงงงันอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตรจากร่างไร้วิญญาณนั้น ไม่สามารถที่จะก้าวออกไปข้างหน้าได้แม้เพียงสักก้าว
ภาพที่เห็นนั้นช่างแจ่มชัดและสมจริง มันสมจริงเสียจนกระทั่งเหมือนกับว่าเธอประสบกับเหตุการณ์นั้นด้วยตัวของเธอเอง
###
หยูซีได้รับโทรศัพท์จากเจี่ยนหยู่เจี๋ยหลังจากคุยกับพ่อบ้านแล้ว
“หยูซี นายว่างไหมตอนนี้ อีหลิงหายไป ฉันไม่สามารถติดต่อเข้าโทรศัพท์มือถือของเธอได้”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยอยู่นอกโรงเรียนแล้วในตอนนี้ เขากำลังตามหาเจี่ยนอีหลิง
โทรศัพท์มือถือของเจี่ยนอีหลิงนั้นปิดอยู่
เขานั่งอยู่ในรถที่ขับวนเวียนไปทั่วเมืองเหมือนแมลงวันที่ไร้หัว
เมื่อเขาไม่รู้จะทำอย่างไร เขาก็ได้นึกถึงคนสองคนที่สามารถขอให้ช่วยได้ พี่ชายคนโตของเขา เจี่ยนหยู่หมิน กับหยูซี
เขาโทรศัพท์ไปยังเจี่ยนหยู่หมิน แต่เป็นผู้ช่วยของเขาที่รับสาย ผู้ช่วยบอกว่าเจี่ยนหยู่หมินกำลังบันทึกการแสดง
เจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงได้โทรไปหาหยูซีแทน
“เธอไม่เป็นไรแล้วตอนนี้ ฉันอยู่กับเธอในตอนนี้” หยูซีตอบ
เมื่อได้ยินหยูซีกล่าวเช่นนั้น โลกทั้งโลกของเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็สดใสขึ้น
“จริงเหรอ อีหลิงอยู่กับนายเหรอ เธอสบายดีไหม”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยถามคำถามเป็นชุด
“เธอไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง” หยูซีตอบกลับอย่างรวดเร็ว เขากลัวว่าเจี่ยนหยู่เจี๋ยจะรุ่มร้อนหากว่าเขาตอบช้า
“นายอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้”
“อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนถงเต๋อ”
“โรงพยาบาล เกิดอะไรขึ้นกับอีหลิง เธอเป็นอะไร”
“เธอไม่เป็นอะไร มาพูดกันที่นี่”
หยูซีคิดว่ายังไงเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ต้องมา การจะตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไปนั้นเอาไว้พูดกันทีหลังเมื่อมีคนมาแล้ว เขาไม่ต้องการให้เจี่ยนหยู่เจี๋ยกระวนกระวายจนเกินไปหากได้ยินว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นลม
“ตกลง” เจี่ยนหยู่เจี๋ยรีบขอให้คนขับรถพาเขามาที่โรงพยาบาล
เมื่อเขามาถึงโรงพยาบาลแล้ว เขาก็เดินเข้าประตูหอผู้ป่วย แต่ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้าไป เขาก็เห็นเจี่ยนอีหลิงนอนอยู่บนเตียงผ่านกระจกประตูหอผู้ป่วย
“เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวอีหลิง เธอเป็นอะไร”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยรีบตรงเข้าไปหาเจี่ยนอีหลิง แต่ถูกหยูซีหยุดไว้
“อย่าตกใจ น้องสาวนายเพียงแค่หลับอยู่ เธอไม่เป็นไร นายจะทำให้เธอตื่นหากว่านายตกใจจนเกินไป เธอต้องการพักผ่อนในตอนนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยูซี เจี่ยนหยู่เจี๋ยรีบเบาเสียงลง
“น้องสาวฉันไม่เป็นไรแน่นะ”
“เธอวิ่งออกไปจากโรงพยาบาลทั้งที่ลำไส้อักเสบยังไม่ดีขึ้น แล้วเธอก็มีอาการกำเริบหลังจากที่ถูกลมหนาว”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยพลันนึกขึ้นได้ว่าเจี่ยนอีหลิงยืนรอเขาที่ด้านนอกห้องเรียน
เมื่อนึกถึงอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่าศูนย์องศาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธอนั้นป่วยอยู่แต่เธอก็วิ่งออกมาหาเขา
เจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่ต้องการที่จะร้องไห้ มันเป็นเรื่องที่น่าอาย แต่น้ำตากลับกลั้นไม่อยู่
หายากที่หยูซีไม่ได้หัวเราะใส่เจี่ยนหยู่เจี๋ย แต่ยื่นส่งกระดาษทิชชูให้กับเขา
“ยังไงก็ตามน้องสาวอีหลิงก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องเสียใจ” หยูซีตบบ่าเจี่ยนหยู่เจี๋ยปลอบให้สบายใจ
หยูซีไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่ชายน้องสาวคู่นี้
แต่เมื่อเห็นคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงส่วนอีกคนยืนร้องไห้ เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องอะไรง่ายๆ
เมื่อเจี่ยนหยู่เจี๋ยสงบสติอารมณ์แล้วเขาก็เข้าไปในหอผู้ป่วย
จ๋ายหวินเชิ่งที่อยู่ในหอผู้ป่วยได้วางมือของเจี่ยนอีหลิงกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้ว
เขาไม่รู้ว่ามือที่กำแน่นเป็นหมัดนั้นคลายออกตั้งแต่เมื่อไหร่
หลังจากรอคอยกันอยู่ประมาณสิบนาที เจี่ยนอีหลิงก็ตื่นขึ้น
ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น เธอก็เห็นคนสามคนนั่งอยู่ข้างเตียง จ๋ายหวินเชิ่ง เจี่ยนหยู่เจี๋ย กับ หยูซี
เจี่ยนอีหลิงรู้ว่าเธอสร้างปัญหาให้กับพวกเขาอีกแล้ว