大姐大 บทที่ 190 ตบหน้าหัวหน้าฝ่ายวิชาการ 2
ฉินชี่ชวนหันหน้าไปดูหัวหน้าฝ่ายวิชาการ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นเปลี่ยนจากสุภาพอ่อนโยนเป็นเยาะเย้ยถากถาง
เจี่ยนอีหลิงมองไปยังหัวหน้าฝ่ายวิชาการเช่นเดียวกันด้วยความสงบและผ่อนคลาย เสียงที่นุ่มนวลและเยือกเย็นนั้นกล่าวว่า “หนูไม่รู้ว่าอาจารย์หลี่พูดเรื่องอะไร”
“เจี่ยนอีหลิง เธอมีทัศนคติยังไงกัน เธอรีบสารภาพความผิดของเธอให้ฉันฟังเดี๋ยวนี้ ระดับของเธอจะได้อันดับหนึ่งได้ยังไงกัน เธอไม่มีความสำนึกผิดหรือไง”
“ไม่สำนึกผิด มีหลักฐานถึงจะพูดได้ ไม่มีหลักฐานถือว่าใส่ร้าย” เจี่ยนอีหลิงตอบอย่างฉาดฉานไม่ไว้หน้า
“ฉันจะใส่ร้ายเธอได้ยังไง ฉัน…”
ฉินชี่ชวนตัดบทด้วยน้ำเสียงที่สงบและมั่นคงรับรองเจี่ยนอีหลิง “หัวหน้าฝ่าย นักเรียนคนนี้ไม่ได้พูดผิด เธอไม่ได้โกง สถาบันของเราสามารถเป็นพยานให้เธอได้ ถ้าหัวหน้าฝ่ายมีอะไรสงสัย คุณสามารถสอบถามองค์กรของเราได้ ไม่ว่าอย่างไรถ้านักเรียนคนนี้ประสบความสำเร็จจากการโกง อย่างนั้นองค์กรเจ้าภาพของเราจะต้องแบกรับความรับผิดชอบอย่างมากเช่นเดียวกัน คนผู้รับผิดชอบอย่างผมก็ยิ่งต้องถูกตำหนิ”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการมองไปยังฉินชี่ชวนอย่างประหลาดใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ใบหน้ามีแต่ความไม่อยากเชื่อ
ฉินชี่ชวนยังคงยิ้มและกล่าวต่อไปว่า “ผมพบกับผู้คนมากมายที่มีคะแนนอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีความสามารถโดดเด่นเฉพาะด้าน ตัวอย่างเช่น คนบางคนคะแนนเรียนภาษานั้นไม่ดีเลย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นนักเขียนก็เป็นได้”
หัวหน้าฝ่ายการสอนพูดไม่ออกกับคำพูดของฉินชี่ชวน
ในเวลาเดียวกันเพราะว่าเขาถูกตอกหน้าตรงๆ ใบหน้าของเขาจึงดูไม่ได้
ฉินชี่ชวนหันมาสนทนากับเจี่ยนอีหลิงต่อ ไม่สนใจหัวหน้าฝ่ายการสอนโดยสิ้นเชิง
เจี่ยนอีหลิงก็ให้ความร่วมมือตอบคำถามของฉินชี่ชวนเป็นอย่างดี พวกมันล้วนเป็นคำถามระดับมืออาชีพ ทุกคำถามและทุกคำตอบล้วนแล้วแต่ศัพท์เฉพาะทาง
หัวหน้าฝ่ายการสอนไม่เข้าใจการสนทนาของพวกเขาแม้แต่น้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าคนทั้งสองนั้นพูดคุยถูกคอกันดี
เขาถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวและปล่อยทิ้งไว้ตามลำพัง
หลังจากที่ผ่านไปนาน ฉินชี่ชวนก็ขอ WeChat ของเจี่ยนอีหลิง และส่งเจี่ยนอีหลิงกลับไปด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของหัวหน้าฝ่ายวิชาการนั้นแย่ยิ่งกว่าเดิม
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉินชี่ชวนที่เขาไม่สามารถที่จะขึ้นเสียงได้ เขาก็ได้แต่เพียงส่งฉินชี่ชวนกับคนของเขากลับไปด้วยรอยยิ้ม
##
สมาชิกของสถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่ออกจากโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว และในเวลาเดียวกันพวกเขาก็แถลงต่อสาธารณะชนทางออนไลน์
ถ้อยแถลงนั้นกล่าวว่าการแข่งขันเคมีนี้เป็นไปอย่างยุติธรรมเป็นกลางไม่มีการโกงใดๆเกิดขึ้น ถ้าหากว่ามีใครกล่าวหาว่ามีการโกงนั่นหมายความว่าพวกเขานั้นกำลังหมิ่นประมาทองค์กร และทางองค์กรจะฟ้องร้องผู้ให้ข่าวลือนั้นข้อหาหมิ่นประมาทตามกฏหมาย
ทันทีที่คำแถลงการนั้นออกมา ความสงสัยของโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวกับการได้รับรางวัลของเจี่ยนอีหลิงนั้นก็ซาลงไป
แม้ว่านักเรียนทั่วไปจะมีอคติต่อเจี่ยนอีหลิงว่าเป็นหญิงชราอารมณ์เสีย พวกเขาก็ไม่อยากที่จะถูกฟ้องร้องเพียงเพราะว่าด่าเธอ
[ทั้งหมดได้ถูกประกาศออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าอันดับของการแข่งขันนี้จะเป็นความจริง สถานการณ์ของเจี่ยนอีหลิงเป็นยังไงกันแน่ หรือว่าศักยภาพของเธอเปลี่ยนแปลงไปจากการถูกกดดัน]
[เธอถูกกดดันเหรอ ไม่ใช่ว่าเธอกดดันคนอื่นอยู่เหรอ]
[ไม่ว่าจะเป็นกดดันคนอื่นหรือว่าถูกคนอื่นกดดัน นั่นก็สามารถถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอไม่ใช่เหรอไง]
[อย่าเบี่ยงประเด็น เธอไม่อยากรู้หรือไงว่าเจี่ยนอีหลิงเปลี่ยนแปลงไปได้ยังไง]
[ฉันไม่คิดว่ามันแปลก ไม่ใช่เธอพูดว่าคนในตระกูลเจี่ยนนั้นล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยม เจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นมีผลการเรียนดีมาก ฉันได้ยินว่าเขายังมีพี่ชายที่เป็นอัจฉริยะทางด้านชีววิทยา ไม่มีปัญหากับเรื่องยีนของเธอ เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเรียนจริงจังมาก่อนหน้านั้น ใช่ไหม]
[นี่จะเป็นการพลิกผันของเจี่ยนอีหลิงหรือเปล่า ฉันได้ยินว่าเธอเคยเป็นหางแถวของห้อง]
[ฉันไม่รู้ว่านี่จะเกิดการพลิกผันกับวิชาอื่นหรือเปล่า เคมีนั้นพลิกผันไปแล้วเมื่อเธอได้อันดับหนึ่งกับการแข่งขันที่ยากขนาดนั้น]