เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 311-312

ตอนที่ 311-312

大姐大 บทที่ 311 สถานการณ์เปลี่ยนตบหน้าโม่ชืออวิ้น 3

ชูชาไม่รู้อีกต่อไปว่าจะพูดอะไรดี เธอทนไม่ได้กับสายตาที่ได้รับจากทุกคนรอบตัว เธอแค่อยากจะออกไปจากโรงอาหาร

อย่างไรก็ตาม เรื่องนั้นจะสะดวกกับตัวเธอได้ยังไง

เธอมั่นใจมากเมื่อถามเจี่ยนอีหลิง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ ที่เธอจะหนีไปเมื่อพบว่าตัวเองผิด

ใบหน้าของเจี่ยนหยุ่นน่าวดูบึ้งตึงขณะที่เขาเรียกร้องให้ชูชาและโม่ชืออวิ้นขอโทษน้องสาวเขา “เอาล่ะ พวกเธอจะขอโทษอีหลิงตอนนี้เลยไหม”

คำขอนี้ทำให้ใจของชูชารู้สึกอึดอัดเหลือเกิน

เธอเกลียดเจี่ยนอีหลิงมาโดยตลอด และตอนนี้เธอถูกขอให้ขอโทษและก้มหัวให้ผู้หญิงคนนั้น

อย่างไรก็ตามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ก็คือเจี่ยนหยุ่นน่าว เขาเรียกร้องขอให้เธอขอโทษ

ชูชารู้สึกราวกับว่ามีมดนับพันคลานอยู่ในใจเธอ

ทุกคนในโรงอาหารต่างก็จ้องมองมาที่เธอเช่นกัน พวกเขากำลังรอชูชาและโม่ชืออวิ้นขอโทษเจี่ยนอีหลิง

ทั้งสองคนต่างกล่าวหา ว่าเจี่ยนอีหลิงทำอะไรบางอย่างที่เธอไม่ได้ทำ เมื่อความจริงปรากฏออกมา คำขอโทษเป็นสิ่งที่อย่างน้อยพวกเธอควรจะทำ

ดังนั้นชูชาจึงถูกบังคับให้ขอโทษเจี่ยนอีหลิง “เจี่ยนอีหลิง ฉันขอโทษ โปรดยกโทษให้ฉัน”

อย่างไรก็ตามจากน้ำเสียงของเธอ ไม่มีใครได้ยินความจริงใจในคำขอโทษนั้น

“ฉันไม่ยกโทษให้” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ

มันเป็นคำพูดที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา เจี่ยนอีหลิงปฏิเสธที่จะแสดงความเมตตาต่อชูชา

เจี่ยนหยุ่นน่าวก็เห็นด้วยว่า น้องสาวเขาไม่ควรยอมรับคำขอโทษที่ไม่จริงใจเช่นนี้

“ชูชา เธอขอโทษให้ดีๆหรือไม่ก็ลืมเรื่องขอโทษไปซะ อย่าทำเหมือนกับว่าเธอตกเป็นเหยื่อ เธอเองที่ทำอะไรผิดพลาด ไม่มีใครบังคับให้เธอขอโทษหรืออะไรทั้งสิ้น”

หัวใจของชูชารู้สึกแหลกสลาย คนที่เธอแอบรักกำลังพูดแบบนั้นกับเธอ

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาเธอขณะที่เธอร้องไห้ออกมา “ฉัน … ฉันขอโทษ ฉัน…มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

ครั้งนี้เธอเสียใจอย่างแท้จริง

คำขอโทษนี้จริงใจมากกว่าคำขอโทษที่เธอเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้

จากนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปที่โม่ชืออวิ้น เมื่อชูชาได้ขอโทษแล้ว ถึงเวลาแล้วที่โม่ชืออวิ้นต้องขอโทษบ้าง

ภายใต้การจ้องมองของทุกคนในโรงอาหาร โม่ชืออวิ้นกัดริมฝีปากล่างของเธอเล็กน้อยและพยายามข่มอารมณ์ขณะที่เธอพูด “เมื่อกี้นี้ … เป็นความผิดของฉันเอง ฉันเข้าใจสถานการณ์ผิดไป ฉันหวังว่าเธอจะไม่ถือเป็นเรื่องเป็นราว…”

ดวงตาของโม่ชืออวิ้นแดงตอนที่เธอพูดแบบนี้ น้ำเสียงเธออ่อนแอ ช้า และอ่อนไหว

“ฉันไม่สนใจวงการบันเทิง ไม่มีความจำเป็นสำหรับฉันที่จะทำให้ชีวิตเธอลำบาก” เจี่ยนอีหลิงกล่าว เธอหวังว่าเธอจะไม่ถูกกล่าวหาในเรื่องแปลกๆเหล่านี้อีกในอนาคต

เธอไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับโม่ชืออวิ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อคำพูดของเจี่ยนอีหลิงกระทบหูของโม่ชืออวิ้น คำพูดนั้นดูเหมือนจะเปลี่ยนความหมายไปอย่างสิ้นเชิง

ไม่สนใจวงการบันเทิง… ไม่จำเป็นต้องทำให้ชีวิตยุ่งยากไปกับเธอ…

ช่างเป็นการวางตัวที่สูงส่งยิ่งกว่า

ดูเหมือนว่าในสายตาของเจี่ยนอีหลิง โม่ชืออวิ้นจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะแข่งขันกับเธอเสียด้วยซ้ำ

เจี่ยนอีหลิงยังคงมองเธอด้วยท่าทีเช่นเดียวกันกับเมื่อตอนที่แม่เธอยังทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านตระกูลเจี่ยน

ดูเหมือนว่าเธอไม่มีค่าพอที่จะแข่งขันกับเจี่ยนอีหลิง

อย่างไรก็ตามเจี่ยนอีหลิงไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องราวนี้นัก เมื่อพูดกับโม่ชืออวิ้นจบแล้ว เธอก็ออกจากโรงอาหารไปพร้อมกับหูเจียวเจียว

หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงจากไปแล้ว คนอื่นๆก็ค่อยๆแยกย้ายกันไป ทุกคนกลับไปที่ห้องเรียนตามลำดับในช่วงพักกลางวันที่เหลือ

อย่างไรก็ตามไม่นานนัก หลังจากที่ทุกคนกลับไปที่ห้องเรียนแล้วก็มีข่าวอื่นๆออกมาอีก

เป็นบัญชีเดียวกับที่เผยแพร่ข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของหยุนเหว่ยกับนักลงทุน

เรื่องนี้กลับเป็นการเปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังว่า โม่ชืออวิ้นเองนั้นได้รับการเสนอบทบาทอย่างไร

ปรากฎว่านักแสดงนำหญิงคนที่สามเดิมนั้น ก็ไม่ได้รับบทในลักษณะที่มีเกียรติเช่นเดียวกัน บทบาทของเธอได้รับการจับจองจากคนวงในอีกคนของวงการบันเทิง

บันทึกการพูดคุยระหว่างคุณนายเฉียนและโม่ชืออวิ้น ก็ได้รับการเผยแพร่เช่นกัน

สิ่งนี้นำไปสู่การพลิกกลับของความเห็นอกเห็นใจที่เคยแสดงออกต่อโม่ชืออวิ้นในทันที

[ฉันนึกว่าเธอเป็นเหยื่อ แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นเรื่องของคนที่ใช้เส้นใหญ่กว่าบีบคนที่มีเส้นเล็กกว่า]

บทที่ 312 ขอโทษ พี่ไม่ได้ปกป้องน้อง

[เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ใช่หมากัดกันเหรอ]

[ละครเรื่องนี้ฮาจริงๆ ถ้าละครเป็นอาหาร ตอนนี้ฉันก็คงอิ่มแล้ว]

[มีดราม่าอีกมั้ย ถ้ามีฉันก็ยังยินดีที่จะรับฟังข้อมูลเพิ่ม โปรดเล่นต่อ]

โม่ชืออวิ้นไม่เคยคิดมาก่อนว่า บันทึกการแชทของคุณนายเฉียนจะถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ต ในบันทึกการแชทเหล่านั้นคุณนายเฉียนได้ใช้เส้นสายของเธอเพื่อช่วยให้โม่ชืออวิ้นผ่านการออดิชั่น

โดยปกติแล้วเรื่องนี้ไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง

การอาศัยเส้นสายเพื่อรับบทบาทเป็นเหตุการณ์ปกติในวงการบันเทิง

อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ดังนั้นโม่ชืออวิ้นจึงกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์

หลังจากเห็นข่าว คุณนายเฉียนก็เกิดความไม่สบายใจเลย เธอส่งข้อความถึงโม่ชืออวิ้นแทน เธอบอกโม่ชืออวิ้นว่าอย่าไปคิดมาก เรื่องเหล่านี้พบได้บ่อยในวงการบันเทิง หากเธอต้องการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้ เธอต้องไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมากเกินไป

###

หลังเลิกเรียน เจี่ยนหยุ่นโม่เห็นเจี่ยนอีหลิงตรงไปที่ต้นไม้ในลานบ้าน เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไร อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอจะยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่าง

ดังนั้นเจี่ยนหยุ่นโม่จึงตัดสินใจเดินไปหาเธอ

เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็เห็นเจี่ยนอีหลิงกำลังขุดกล่องเหล็กที่ฝังอยู่ใต้ต้นไม้ออกมา

กล่องขึ้นสนิมนั้นเปื้อนไปด้วยเศษดิน อย่างไรก็ตามทันทีที่พวกเขาเห็นกล่องนั้น สีหน้าของสองพี่น้องก็เปลี่ยนไป

หัวใจของเจี่ยนอีหลิงสั่นสะท้าน ขณะที่เธอมองไปที่กล่องตรงหน้าเธอ

มีกล่องอยู่จริงๆ…

ดังนั้นความฝันของเธอจึงไม่ใช่แค่ความฝัน

การตระหนักรู้นี้ทำให้เจี่ยนอีหลิงรู้สึกตกตะลึง

เจี่ยนหยุ่นโม่ ก็มองไปที่กล่องเหล็กเช่นเดียวกัน ดูราวกับว่าสายตาของเขานั้นมองทะลุผ่านกล่องเหล็กย้อนกลับไปในวันที่เขาและน้องสาวได้ร่วมกันฝังมันไว้

น้องสาวของเขาเคยอ่านที่ไหนสักแห่งว่าเธออยากจะทำไทม์แคปซูล ดังนั้นเธอจึงลากเขาไปช่วยฝังมันให้กับเธอ

ดังนั้นพวกเขาจึงฝังกล่องไว้ใต้ต้นไม้นี้ในบ้านเก่าตระกูลเจี่ยน

ถ้าเขาคิดย้อนไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ เวลาควรจะผ่านไปประมาณสิบปี

เจี่ยนอีหลิงหันกลับมา และมองมาที่เจี่ยนหยุ่นโม่

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เจี่ยนอีหลิงก็นั่งลงพร้อมกับกล่องในอ้อมแขน พิงไปบนลำต้นของต้นไม้

หลังจากหยุดชะงักไปสองสามวินาที เจี่ยนหยุ่นโม่ก็นั่งลงข้างๆเจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนอีหลิงเปิดกล่องและเห็นวัตถุขนาดเล็กทุกประเภทในกล่อง

เจี่ยนอีหลิงหยิบของออกมาทีละชิ้นแล้วมองดูพวกมัน

เจี่ยนหยุ่นโม่นั่งข้างๆเธอ เฝ้าดูเธออย่างเงียบๆ

สิ่งของที่อยู่ในไทม์แคปซูลกระตุ้นความทรงจำของเขา ความทรงจำเหล่านั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับเจี่ยนหยุ่นโม่

ในตอนนั้นน้องสาวของพวกเขามีชีวิตชีวามาก หวานมากและไร้เดียงสามาก

แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นเด็กที่รอบคอบและฉลาด แต่ทว่าเธอก็เงียบเฉยและห่างเหินไปด้วยเช่นกัน

“อีหลิง พี่ขอโทษ”

เจี่ยนอีหลิงหันหน้าไปมองเขา

เจี่ยนหยุ่นโม่ไม่รอให้เจี่ยนอีหลิงตอบกลับเขา เขายังคงพูดต่อไปอีกว่า “พี่ไม่ได้อยู่ที่นั่นกับน้อง พี่ปล่อยให้น้องต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาและการถูกด่าว่าทั้งหมดตามลำพัง ในฐานะพี่ชาย พี่ไม่ได้ปกป้องน้องเมื่อตอนที่น้องเจ็บปวด พี่ไม่ได้ปกป้องน้องจากลมฝนเมื่อตอนที่น้องจนหนทางถึงที่สุด พี่ล้มเหลวในการเป็นพี่ชายที่ดี”

“ฉันไม่โทษพี่” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ

“พี่ควรอยู่ที่นั่นเพื่อน้อง พี่ควรจะดูแลน้องมากกว่านี้”

“พี่ป่วย”

ความเจ็บป่วยทางจิตใจก็เป็นความเจ็บป่วยที่แท้จริงเช่นกัน พวกเขาควบคุมได้ยาก

อ่า … เธอก็รู้งั้นเหรอ เจี่ยนหยุ่นโม่หยุดไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะจ้องเข้าไปในดวงตาของเจี่ยนอีหลิง อารมณ์อันขมขื่นแต่อบอุ่นพุ่งขึ้นในใจเขา

“น้องกลัวไหม” เจี้ยนหยุนโม่ถาม มีความกังวลในน้ำเสียงของเจี่ยนหยุ่นโม่

“ฉันไม่กลัว”

เธอไม่กลัวเขาเหรอ เขาคิดว่าเขาจะทำให้เธอตกใจ และทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง ที่เธอมีอยู่ในใจ

จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้พี่ทำได้ดี พี่จะไม่ทำร้ายฉัน”

เจี่ยนหยุ่นโม่ยิ้มอย่างอบอุ่น

คำว่า ‘ฉันไม่กลัว’ คือแสงแดดที่ส่องเข้ามาในใจของเขา

เขาค่อยๆเอนหลังพิงลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังเขา อุณหภูมิในดวงตาเขาค่อยๆอบอุ่นขึ้น

“อีหลิง พี่จะกินยา พี่จะอาการดีขึ้นโดยเร็วที่สุด”

เจี่ยนหยุ่นโม่สาบานกับเจี่ยนอีหลิง

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท