เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 435-436

ตอนที่ 435-436

บทที่ 435 จํายหวินเซิ่งตามหาเจียนหยู่โป

จํายหวินเพิ่งไปที่โรงแรมที่เงี่ยนหยู่โปพักอยู่เพื่อตามหาอีกฝ่าย

ไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับคนอื่นที่จะค้นหาเจี้ยนหยู่โปแต่ทว่าจํายหวินเซึ่งสามารถหาเขาได้อย่างค่อนข้างง่ายดาย

นี่เป็นเพราะเงี่ยนหยู่โปทํางานภายใต้ลุงของจํายหวินเชิงลุงของจํายหวินเชิงยังเป็นที่รู้จักกันในนามท่านรองของตระกูลจําย

เจียนหยู่โปเป็นหมาป่าที่ถูกเลี้ยงโดยตระกูลเจียนแต่ทว่ากรงเล็บและเขี้ยวของเขานั้นได้รับการฝึกฝนโดยท่านรองของตระกูลจําย

ลุงของจํายหวินเพิ่งบอกจํายหวินเพิ่งว่า เจียนหยู่โปทํางานอยู่ภายใต้เขา มันเป็นเพราะธรรมชาติที่เหมือนหมาป่าของอีกฝ่าย เขาจึงยินดีที่จะพาอีกฝ่ายนั้นไปไว้ใต้ปีก

ต่อมาเมื่อเจียนหยู่โปต้องการทําบางสิ่งให้สําเร็จด้วยตัวเขาเอง ท่านรองของตระกูลจํายจึงไม่ได้รั้งเขาไว้ในคําพูดของเขานั้นกล่าวว่า เธอสามารถเลี้ยงหมาป่าได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถกักขังมันไว้ได้

เมื่อจํายหวินเชิงพบกับเจียนหยุโป อีกฝ่ายนั้นก็ได้นั่งอยู่ที่หน้าหน้าต่างฝรั่งเศสในห้องพักของโรงแรม

มีกระดานโกะอยู่ตรงหน้าเขา แต่ทว่าเกมดังกล่าวนั้นอยู่ในสภาพยันกันไว้

นอกหน้าต่างเป็นเมืองที่คึกคัก มีรถยนต์และยานพาหนะอื่นๆเคลื่อนไหวไปมาไม่รู้จบ

แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีแต่เพียงความเงียบกริบในห้องแห่งนั้น

เงี่ยนหยู่โปรู้ว่าจํายหวินเพิ่งมาที่นี่ ผู้ช่วยได้แจ้งให้เขาทราบก่อนที่จํายหวินเพิ่งจะมาถึงแล้ว

จํายหวินเฉิ่งไม่ได้พูดอะไร กลับกัน เขานั่งยังฝั่งตรงข้ามเงี่ยนหยู่โปและเริ่มเก็บตัวหมากสีดําบนกระดานโก

เงี่ยนหยู่โปดูจํายหวินเชิงสักครู่ จากนั้นเขาก็เริ่มเก็บตัวหมากสีขาวออกจากกระดาน

หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มเล่นกัน

การปะทะกันครั้งแรกดําเนินไปค่อนข้างนาน แต่ทว่าในที่สุด เงี่ยนหยู่โปก็ชนะ

เงี่ยนหยู่โปเป็นมืออาชีพในด้านนี้

แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น จยหวินเซิ่งก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน จํายหวินเพิ่งเคยเล่นกับ เงี่ยนหยู่โปมาระยะหนึ่งแล้ว

“ไปอยู่ที่บ้านเก่าตระกูลเจียนหนึ่งสัปดาห์” จํายหวินเพิ่งบอกกับเงี่ยนหยู่โป

นี่เป็นคําสั่งไม่ใช่คําร้องขอ

ความต้องการของจํายหวินเพิ่งค่อนข้างแปลก

เงี่ยนหยู่โปมองนายท่านเชิงชั่วขณะก่อนจะถามว่า “เหตุผล?”

น้ําเสียงของจํายหวินเชิงก็ค่อนข้างไม่แยแสในขณะที่เขาพูดว่า “มีกระต่ายตัวน้อยอาศัยอยู่ บ้านถัดไป แม้ว่าพวกเราจะมีตารางงานที่แน่นหนา แต่เธอก็ยังใช้เวลาว่างในแต่ละวันเพื่อทําฬิกเกอร์น้ําตาลปั้นตัวเล็ก”

เงี่ยนหยู่โปรู้ว่าจํายหวินเชิงกําลังพูดถึงใคร อันที่จริงเขาก็เคยเห็นฟิกเกอร์น้ําตาลปั้นเล็กๆที่จํายหวินเพิ่งพูดถึงแล้ว

แต่ทว่าเจียนหยู่โปก็ยังคงนิ่งเงียบ เขาไม่ได้ให้คําตอบในทันที

รอยยิ้มผุดพรายที่มุมริมฝีปากของจํายหวินเซิ่ง น้ําเสียงของเขาดูไร้กังวลและชั่วร้ายในขณะที่เขาพูด“ให้คําตอบฉัน อย่าให้ฉันทําอะไรกับนายเหมือนกับสิ่งที่นายเคยทํากับเจี้ยนชูหงและเหอเยี่ยน”

จํายหวินเพิ่งรู้ชัดเจนมากเกี่ยวกับสถานการณ์นั้น แม้ว่าเงี่ยนหยู่โปจะดูเหมือนเลือดเย็นแต่ก็ยังมีสิ่งที่เขาห่วงใย

ตราบใดที่คนเรายังห่วงใยในบางสิ่งบางอย่าง นั่นก็คือจุดอ่อนของเขา

เงี่ยนหยู่โปดูจํายหวินเซิ่งอีกครั้ง คราวนี้เขาพยายามอ่านชายที่อยู่ตรงหน้า เขาพยายามอ่านความตั้งใจและแรงจูงใจจากคําพูดและการกระทําของอีกฝ่าย

หลังจากพิจารณาการตัดสินใจที่เป็นไปได้แล้ว เงี่ยนหยู่โปก็ตอบกลับไปว่า “ตกลง ผมสัญญากับนายท่าน”

“ดีมาก ย้ายไปที่นั่นวันนี้เลย”

จํายหวินเชิงคาดหวังคําตอบนี้จากเงี่ยนหยู่โป เขารู้ว่าเงี่ยนหยู่โปจะตกลงด้วย

นี่เป็นเพราะความต้องการของเขานั้นไม่ได้ขอร้องอะไรมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น เงี่ยนหยู่โปก็รู้ว่า จํายหวินเซึ่งจะทําอะไรหากเขาไม่ตกลงกับความต้องการของเขา

จํายหวินเชิงไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เจียนหยู่โปย้ายไปที่บ้านเก่าตระกูลเจี้ยน

หยูซี่กําลังรอจํายหวินเชิงอยู่ที่ประตู เมื่อจํายหวินเพิ่งเดินออกไป หยูซีก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา

“นายท่านเชิงเป็นห่วงเทพหลิงเหรอ?”

“ไม่” จํายหวินเพิ่งปฏิเสธ

“ถ้าท่านไม่เป็นห่วงเธอ แล้วทําไมท่านถึงมาที่นี่เพื่อตามหาเจียนหยู่โป? ทําไมท่านถึงขู่เขา”

หยูซีไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“เพื่อทีมของเรา ฉันไม่ต้องการให้สุขภาพร่างกายและจิตใจของเพื่อนร่วมทีมส่งผลต่อการเล่นเกมโดยรวมของเรา”

จริงเหรอ? หยูชีสงสัยเมื่อได้ยินเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่สักเล็กน้อย คําพูดของจํายหวินเซิ่งก็ทําให้เขารู้สึกว่ามีเหตุผล

เรื่องของเจียนหยู่โปมีผลกระทบต่อเทพหลิง มันมีผลกระทบต่อเจียนหยู่เจี๊ยด้วยเช่นกัน

หากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจียนหยู่โปทําให้เจี้ยนหยู่เจียไม่สนใจในรอบชิงชนะเลิศ นั่นจะไม่เป็นประโยชน์ต่อทีมของพวกเขา

บทที่ 436 เงี่ยนหยู่โปกลับไปที่บ้านเก่าตระกูลเจียนอีกครั้ง

การที่เงี่ยนหยู่โปย้ายกลับไปยังบ้านเก่าตระกูลเจียนอย่างกะทันหัน ทําให้ทุกคนประหลาดใจและมีความสุขมากมายเหลือเกิน

ดวงตาของเงี่ยนหยู่เฉียแดงขึ้นในทันที

จากนั้นเขาก็รีบไปช่วยเจี้ยนหยู่โปกับกระเป๋าเดินทางของเขา

กระเป๋าเดินทางของเงี่ยนหยู่โปค่อนข้างเบา มีสัมภาระน้อยมาก มีเสื้อผ้าสําหรับเปลี่ยนเพียงนิดหน่อย

ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะอยู่เป็นเวลานาน เขามาที่นี่เพื่ออยู่ให้ครบหนึ่งสัปดาห์เพราะการคุกคามของจํายหวินเชิงเท่านั้นจริงๆ

เจียนหยู่โปพูดกับทุกคนเพียงไม่กี่ประโยค ราวกับว่าเขาเพียงแค่มาทํางานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้น

ในตอนเย็นเจี้ยนอีหลิงและเงี่ยนหยุ่นโม่ดูแลครัว พวกเขาทําอาหารให้กับครอบครัว

เงี่ยนหยุ่นโม่เป็นเชฟหลัก เงี่ยนอีหลิงทําหน้าที่สนับสนุน เธอมีหน้าที่รับผิดชอบในการ… ปรุงรสและปรุงแต่งอาหาร

เงี่ยนหยุ่นโม่ทําการล้างและนั่นเสร็จสิ้นหมดแล้ว

เงี่ยนอีหลิงอยากช่วยเจียนหยุ่นโม่ แต่ทว่าเจียนหยุ่นโม่ปฏิเสธที่จะให้เธอช่วย เขาไม่อยากให้เธอสัมผัสกับน้ําเย็น

เจียนหยุ่นโม่สวมผ้ากันเปื้อนและถือไม้พายไว้ในมือ เขาดูค่อนข้างเป็นมืออาชีพ

เจียนหยุ่นโม่รู้วิธีทําอาหาร

ย้อนกลับไปเมื่อตอนอีหลิงยังเด็ก เธอได้บังคับเขาให้เรียนรู้

อีหลิงชอบกินตอนเด็กๆ

ย้อนกลับไปเมื่อสองพี่น้องอยู่ในห้องปฏิบัติการจนถึงเที่ยงคืน เจี๋ยนอีหลิงจะขอให้เจี้ยนหยุ่นโม่ทําอาหารให้ เธอยืนกรานให้เขาทําอาหารให้เธอ

ดังนั้น เงี่ยนหยุ่นโม่จึงต้องรับฟังเธอ เขาได้ทําอาหารทอด ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด และอาหารทอดอื่นๆ

อันที่จริง เขาได้ลองทําทาโกะยากิ บะหมี่เย็นกรอบ แพนเค้ก และอาหารท้องถิ่นอื่นๆอีกหลายอย่าง

หลังจากใช้เวลามากมายในต่างประเทศ ทักษะการทําอาหารของเงี่ยนหยุ่นโม่ก็ดีกว่าแม่ของพวกเขาร้อยเท่า

เมื่อพี่น้องสองคนมาถึงห้องอาหาร พวกเขารู้ว่ามีคนจํานวนมากนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารมื้อเย็น

เงี่ยนหยู่โปก็อยู่ที่นั่นด้วย

“หยู่โปต้องลองอาหารที่อีหลิงปรุง มันอร่อยสุดๆ”

เจียนหยู่เจี้ยร้องออกมา เขาแนะนําอาหารแต่ละจานให้เจี้ยนหยู่โปทันที

เจียนหยู่โปยังคงเงียบมาก ดูเหมือนว่าเขาจะขัดแย้งกับเสียงอึกทึกรอบตัวเขา

อย่างไรก็ตาม เงี่ยนหยู่เจียไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขายังคงสนทนาฝ่ายเดียวกับ เงี่ยนหยู่โป

ตราบใดที่เงี่ยนหยู่โปไม่คิดว่าเขาน่ารําคาญ เขาก็พูดต่อได้

นอกเหนือจากทําเช่นนี้ เจียนหยู่เจี้ยก็ไม่รู้จะทําหรือพูดอะไรอีก เขาต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพี่ชายรอง

วันนี้ย่าเงี่ยนและปูเจี้ยนอนุญาตให้หลานๆเต็มที่กับโต๊ะอาหารเย็น ทุกคนจึงต่างพากันพูดคุย

เจียนหยู่หมินเริ่มร้องเพลงหลังจากที่ดื่มไวน์ไปเล็กน้อย

เขาหยิบชามเปล่าและเริ่มขอให้ทุกคนให้ทิป

ทุกคนมองเขาด้วยความรังเกียจและสนุกสนาน พวกเขาเลือกที่จะไม่ให้อะไรเขา แต่ทว่าเจียนอีหลิงให้เหรียญหนึ่งดอลลาร์กํามือหนึ่งแก่เขา

อาหารเย็นใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกว่าจะเสร็จ เพราะการละเล่นตลกขบขันของพวกเขา

เงี่ยนหยู่โปยังคงเงียบในช่วงเวลากิจกรรมนี้ แต่ทว่า เขาก็ได้ตระหนักว่าความอึกทึกที่อยู่ตรง หน้าเขานั้นมีอยู่จริง

หลัวจิ๋วเอินโทรหาเจียนอีหลิง เธอดูกังวลมากขณะที่พูดว่า “ที่รัก อย่าเพิ่งมาที่สถาบันวิจัยในอีกสองสามวันข้างหน้า”

“เกิดอะไรขึ้น”

“มีคนบุกเข้าไปในสถาบัน”

ระบบรักษาความปลอดภัยของสถาบันนั้นเข้มงวดและปลอดภัยอยู่เสมอ

หากอีกฝ่ายสามารถเจาะระบบรักษาความปลอดภัยและเข้าไปในสถาบันได้ พวกเขาไม่ใช่โจรธรรมดาแน่นอน

หลัวจิ๋วเอินก่นด่าซ้ําอีก “อาา ปกติแล้วระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้นไม่มีปัญหาแต่ว่าคนเหล่านี้ทํางานร่วมกับผู้ปวยของสถาบันเพื่อบุกเข้ามา แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเข้ามาในพื้นที่ทํางานได้ยังไง”

มีประตูกั้นระหว่างพื้นที่ผู้ป่วยในของสถาบันกับพื้นที่ทํางานของนักวิจัย แม้แต่ตอนกลางคืนสถานที่นี้ก็ปลอดภัยอย่างมาก

โจรทั่วไปไม่สามารถผ่านระบบรักษาความปลอดภัยได้

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท