บทที่ 533 Dr.FS เป็นศัลยแพทย์หลัก
ก่อนที่เจี้ยนอีหลิงจะมาถึงโรงพยาบาล เธอคิดที่จะขอให้หลี่จั่วเจียติดต่อโรงพยาบาล เธอต้องการขอให้โรงพยาบาลยอมให้เธอเป็นศัลยแพทย์ในการผ่าตัดครั้งนี้
แต่ทว่า หลังจากที่เธอมาถึง เธอก็ตระหนักว่ามีความเป็นไปได้ที่เธอจะไม่สามารถทําการผ่าตัด
เป็นครั้งแรกในชีวิตเธอ ที่เธอกําลังจะผ่าตัดใครสักคนที่เธอมีความใจให้ และนั่นก็ได้ส่งผลต่ออารมณ์ของเธอในการผ่าตัด
นี่คือสิ่งที่เจี้ยนอีหลิงไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เจียนอีหลิงมองลงไปที่มือเธอ
เธอต้องเลือกตอนนี้
เธอจะเชื่อใจตัวเองหรือไม่? หรือเธอจะมอบชีวิตของย่าเจียนไว้ในมือของคนอื่น
ในนาทีสุดท้าย เจียนอีหลิงตัดสินใจว่าจะทําการผ่าตัดด้วยตัวเอง
เธอสามารถทําได้
เธอจะต้องทําสิ่งนี้
เธอต้องทําการผ่าตัด เธอต้องเชื่อมือตัวเธอเอง และเธอต้องเชื่อมั่นในตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ เจียนอีหลิงจึงบอกหลี่จั่วเจียว่า เธอพร้อมที่จะทําการผ่าตัดครั้งนี้ เมื่อได้ยินแบบนี้หลี่จั่วเจียก็เตรียมการสําหรับเจียนอีหลิงทันที
ตระกูลเจี้ยนกําลังจะเซ็นเอกสาร ขณะที่มีคนจากโรงพยาบาลรั่วไห่เซินเข้าไปถึงพวกเขา
“Dr.FS ยินดีที่จะรับเรื่องของมิสซิสเจียน พวกคุณยินดีที่จะให้ Dr.FS ทําการผ่าตัดนี้ไหม? หากพวกคุณเห็นด้วย การผ่าตัดก็จะสามารถดําเนินการได้ทันที Dr.FS ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว”
เมื่อได้ยินคําว่า Dr.FS ก็เหมือนมีแสงแห่งความหวังฉายเข้าไปในหัวใจของพวกเขาทันที
เจี่ยนชูฉิงมือสั่นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
จากนั้นเขาก็บอกข่าวกับคนอื่นในทันที
Dr.FS เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดในโลก เขาทําการผ่าตัดได้สําเร็จบนมือเจียนหยุ่นน่าว และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงวางใจอีกฝ่ายอย่างสมบูรณ์
พวกเขายินดียกการผ่าตัดนี้ให้กับเขา
“ยินดี ยินดี” ปูเจี้ยนพูดอย่างรวดเร็ว “ผมขอโทษที่รบกวน ขอบคุณครับ”
Dr.FS กําลังช่วยครอบครัวของพวกเขาเป็นครั้งที่สอง
จิตใจของคนตระกูลเจียนเต็มไปด้วยความคิดความเห็นมากมาย
ในห้องผ่าตัด เจียนอีหลิงกําลังเปลี่ยนเสื้อผ้า หลี่จั่วเจียก็กําลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เช่นเดียวกันเขากําลังจะเป็นผู้ช่วยเจียนอีหลิง
ปัจจุบัน มีสมาชิกโรงพยาบาลรั่วไห่เซินเพียงสองคนในเปยจิง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเป็นคนเดียวที่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่เจี้ยนอีหลิงได้
“เธอคิดดีแล้วหรือยัง” หลี่จั่วเจียถามอีกครั้ง เขาต้องการยืนยันสถานการณ์กับเจี้ยนอีหลิงเป็นครั้งสุดท้าย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในความสามารถของเจี่ยนอีหลิง การผ่าตัดนี้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสําหรับเจี้ยนอีหลิง
แต่ยังไงก็ตาม ผู้ป่วยรายนี้เป็นย่าของเจี่ยนอีหลิง
เมื่อมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นไปได้ที่เจี่ยนอีหลิงจะสะดุดในการผ่าตัด เธอจะ ไม่เยือกเย็นเหมือนปกติ
“ฉันจะสบายดี ฉันต้องการช่วยเธอ ฉันต้องช่วยเธอ”
เจี่ยนอีหลิงตอบอย่างหนักแน่น
เนื่องจากเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเธอ เธอจึงต้องประสบความสําเร็จเท่านั้น
นํากระดูกออกจากกะโหลกศีรษะชั่วคราว ลดความดันในสมอง และเอาเลือดส่วนเกินออก
ข้อผิดพลาดเล็กน้อยในกระบวนการดังกล่าวจะส่งผลให้ย่าเจี้ยนพิการ
เธออาจสูญเสียสมรรถภาพหรือความรู้สึกบางอย่าง ตัวอย่างเช่น เป็นไปได้ที่เธอจะสูญเสียความสามารถในการพูดหรือการได้ยิน
อันที่จริง เธออาจจะกลายเป็นอัมพาตได้ด้วยซ้ําไป
เมื่อเจียนอีหลิงออกจากห้องผ่าตัด เธอก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หน้าผากเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ
นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน
ในอดีต ในสภาพการทํางานที่เหมาะสม ไม่ว่าการผ่าตัดจะใช้เวลานานเท่าใด เจี่ยนอีหลิงก็จะไม่เหงื่อออก
เธอจะยังคงเยือกเย็นนิ่งตลอดการผ่าตัด เธอจะทําทุกขั้นตอนอย่างเยือกเย็นและมีระเบียบ
“พักผ่อนเถอะ ฉันจะขอให้ใครสักคนนําอาหารมาให้เธอ” หลี่จั่วเจียพูดกับเจี้ยนอีหลิง
จากนั้นหลี่จั่วเจียก็หันกายไป จากนั้นเขาก็ตระหนักว่ามีเจี่ยนหยุ่นน่าวมายืนอยู่ข้างประตู
บทที่ 534 เธอคือ Dr.FS.
เหตุการณ์วันนี้กะทันหันเหลือเกิน และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถจัดให้มีคนจํานวนมากมากับพวกเขาได้
ในตอนนี้ เจียนอีหลิงและหลี่จั่วเจียเหนื่อยมาก พวกเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกําลังเข้าใกล้พวกเขา
เจี่ยนหุ่นน่าวตกตะลึงเมื่อเห็นฉากตรงหน้า
เมื่อเขารู้ว่ายายของเขาผ่าตัดได้สําเร็จ เขาก็รีบวิ่งมาทันที
เขาอยากจะขอบคุณ Dr.FS เป็นการส่วนตัว
แต่ทว่า เขากลับเห็นเจี้ยนอีหลิงออกมาจากห้องผ่าตัดแทน
น้องสาวเขา… ทําไมเธอ…
เมื่อเจียนหยุ่นน่าวสบตากับเจียนอีหลิง ทุกสิ่งรอบตัวก็ดูเหมือนจะหยุดลงตรงนั้น ราวกับว่ามีเพียงพวกเขาสองคนที่เหลืออยู่ในโลก
“Dr.Dr.FS..” เจี่ยนหยุ่นน่าวพึมพําออกมา นี่เป็นชื่อที่สําคัญที่สุดสําหรับเขา
ในหลายปีที่ผ่านมา จิตใจเขาได้จินตนาการรูปร่างหน้าตาของ Dr.FS มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
แต่ยังไงก็ตาม เขาไม่เคยจินตนาการว่า Dr.FS จะมีหน้าตาแบบนี้
Dr.FS เป็นน้องสาวเขางั้นเหรอ?
เป็นไปได้ยังไง?
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?
คนที่ช่วยชีวิตเขาและให้ความหวังเขาเป็นน้องสาวเขาจริงๆงั้นเหรอ?
เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่สามารถย่อยสลายข่าวนี้ไปได้ชั่วขณะ
เขายืนอยู่ตรงที่แห่งนั้น ราวกับว่าเขากลายเป็นหิน เขาจ้องไปที่เจี่ยนอีหลิงอย่างไร้สําเนียง
การผ่าตัดประสบความสําเร็จ เลือดส่วนเกินถูกกําจัดออกไป
ในตอนนี้ย่าเจียนอยู่ในสภาพดี
ผ่านไปสองสามชั่วโมง ย่าเจี่ยนก็ฟื้นคืนสติ
ปฏิกิริยาแรกหลังจากตื่นนอนของย่าเจี่ยนก็คือมองหาเจียนอีหลิง
“อีหลิงอยู่ที่ไหน? อีหลิงมาแล้วเหรอ?” ย่าเจียนถาม “อา มันเป็นความผิดของฉัน ฉันอยากจะเซอร์ไพรส์เธอในวันเกิด แต่ว่าสิ่งต่างๆกลับจบลงแบบนี้… ความประหลาดใจเปลี่ยนเป็นความตกใจ.. เธอยังดีอยู่ไหม?”
“แม่ ไม่ต้องกังวล อีหลิงไม่เป็นไร เราไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“อาา ดีมาก”
ขณะที่พวกเขากําลังคุยกันอยู่นั้น เจี่ยนอีหลิงก็เดินผ่านประตูเข้ามา
เจียนหยุ่นน่าวติดตามเจี่ยนอีหลิงมาด้วย
พวกเขาทั้งสองเข้ามาทีละคน พวกเขาอยู่ห่างจากกันครึ่งเมตร นั่นทําให้เกิดความรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้สนิทกัน
“อีหลิง? ทําไมเธอถึงอยู่ที่นี่ได้?”
เจียนอีหลิงเดินไปที่เตียงของโรงพยาบาล และเอนกายส่วนบนเธอเบาๆกับตําแหน่งข้างๆแขนย่าเจี่ยน
แต่ว่าเธอไม่ได้สัมผัสร่างกายของย่าเจียน แต่ไม่ว่ายังไงก็ดูเหมือนว่าเธอกําลังซุกตัวอยู่กับอีกฝ่าย
เมื่อเห็นดังนี้ ย่าเจี่ยนก็รีบพูดว่า “อีหลิง ไม่ต้องเสียใจนะ ย่าสบายดี”
“เจ็บมั้ย” เจี้ยนอีหลิงถามขณะเงยหน้าขึ้น
มีดผ่าตัดของเธอได้ผ่าร่างของคนจํานวนมาก แต่ยังไงก็ตาม ความรู้สึกนี้ก็ไม่เหมือนเดิมเมื่อเป็นย่าเจียน
“เด็กโง่ ไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย ฉันสบายดี แต่ว่าฉันอาจต้องนอนบนเตียงพยาบาลสักพัก ด้วยเหตุนี้ ฉันคงไม่สามารถฉลองวันเกิดของเธอกับเธอได้”
เจียนอีหลิงหยุดชั่วคราว จากนั้นเธอพูดช้าๆว่า “ย่าสามารถเป็นหนี้วันเกิดปีนี้ให้ฉันได้ ย่าสามารถจ่ายคืนได้ด้วยการฉลองวันเกิดกับฉันในปีหน้า ปีหลังจากนั้น และต่อไปอีกสิบปีหลังจากนั้น”
เมื่อย่าเจี่ยนได้ยินดังนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เด็กโง่เอ๊ย เธออายุเกือบแปดสิบปีแล้ว เธอจะรับประกันได้ยังไงว่าจะอยู่กับหลานต่อไปอีกสิบ
เธอถือว่าโชคดีที่รอดมาได้ในครั้งนี้
เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนในห้องก็รู้สึกเศร้าใจ
เพื่อที่จะบรรเทาบรรยากาศในวอร์ด เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ได้หันไปถามเจี่ยนหยุ่นน่าวว่าเขาไปที่ไหน
แต่ทว่า เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่ได้ตอบ กลับกันเขาได้แต่ก้มหน้าลงและนิ่งเงียบ
สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นยังคงค้างคาอยู่ในใจเขา
รู้สึกเหมือนความฝันน้องสาวเขา