บทที่ 553 พี่ชายนักสู้ปกปิดพวกนาย
ขณะที่สตรีมเมอร์ชายกำลังโบ้ยความผิดไปให้คนอื่น “แขก” ที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏตัวขึ้นในบ้านเขา
เมื่อแฟนสาวเขาเปิดประตู ตำรวจก็เข้าไปในห้องที่เขากำลังสตรีมอยู่ทันที
ตำรวจประกาศว่าพวกเขามีข้อสงสัยว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องในอาชญากรรมจงใจทำร้ายคนอื่นให้รับบาดเจ็บโดยเจตนา พวกเขาขอให้เขาไปรับการสอบปากคำ
สตรีมเมอร์ชายตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้อย่างรวดเร็วว่าเขาส่งคนไปทุบตีอันหยาง
เขาคิดว่าเขาทำงานอย่างลับๆแนบเนียนดีแล้ว
เนื่องจากไม่ได้มีการปิดการถ่ายทอดสด ผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วนจึงได้เห็นฉากของสตรีมเมอร์ชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไป
[เดี๋ยวก่อน เกิดอะไรขึ้น?]
[ทำไมเขาถึงถูกพาตัวไป?]
[นี่มันเกินไปไปหน่อยหรือเปล่า?]
[ฉันคิดว่าฉันได้ยินการสนทนาบางส่วน ดูเหมือนว่าพี่ชายนักสู้จะเกี่ยวข้องกับการจ้างคนไปทำร้ายคนอื่นโดยเจตนา]
ในเมื่อไมโครโฟนไม่ได้ปิดเสียง ผู้ชมทั้งหมดจึงได้ยินการสนทนาโดยคร่าวๆ
[เดี๋ยวก่อน…. จริงเหรอ? คนที่ชื่ออันหยางบาดเจ็บจริงเหรอ? และพี่ชายนักสู้ก็คือคนที่ทำร้ายเขา?]
[อืม ถ้างั้นเขาก็จงใจกลั่นแกล้งผู้เล่นระดับต่ำอย่างแน่นอน]
[เพื่อน เขาจ้างคนไปทุบตีคนอื่นจริงๆ นั่นน่ากลัวจริง]
ฝูงชนเริ่มสร้างจินตนาการน้ำเน่าขนานใหญ่ในใจพวกเขา
เมื่อสตรีมจบลง หูเจียวเจียวกับอันหยางก็วิดีโอคอลไปหาเจียนอีหลิง
เมื่อถึงตอนนี้ แขนของอันหยางก็ยังอยู่ในเสือก
ไม่สะดวกนักสำหรับเขาที่จะขยับตัวไปโน่นนี่นั่น และด้วยเหตุนี้หูเจียวเจียวและเพื่อนจึงต้องดูแลเขา
เช่นเดียวกับอันหยาง หูเจียวเจียวก็สอบเข้าวิทยาลัยได้ไม่ดีนัก แต่ยังไงก็ตามเธอก็ยังคงสามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นสองในเปยจิงได้
ตอนนี้หูเจียวเจียวและอันหยางกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน คนหนึ่งอยู่ปีสองอีกคนอยู่ปีหนึ่ง
“บอส เธอยอดเยี่ยมมาก” ทันทีที่วิดีโอคอลติด อันหยางก็พูดพร่ำถ้อยคำสรรเสริญ
อันหยางไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว บอสเขาเคยได้ยินคำชมพวกนี้มาก่อนแล้ว
“โอ้ ใช่ ทำไมสตรีมเมอร์ชายนั่นถูกถูกตำรวจจับไป” หูเจียวเจียวถาม เธอค่อนข้างอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
“เขาขอให้คนไปชกต่อยอันหยาง ฉันส่งหลักฐานให้ตำรวจแล้ว” เจียนอีหลิงตอบ
อาา เป็นเช่นนั้นนั่นเอง
เจ้านายเขาไม่เพียงแค่ชนะการแข่งขันเท่านั้น แต่เธอยังสอบสวนอุบัติเหตุของอันหยางด้วย
เธอถึงกับหาสาเหตุและผลที่ตามมาของเหตุการณ์นี้ด้วย
“บอส เธอยอดเยี่ยมมาก เธอใจดีเหลือเกิน และช่างคิดเหลือเกิน” อันหยางร้องไห้ออกมาเขามีความสุขและประทับใจมากเหลือเกิน
“อือ” เจี้ยนอีหลิงตอบ “ฉันจะปกป้องนายเอง นายไม่ต้องกังวลไป”
คำเหล่านี้ไม่ตรงกับเสียงอันอ่อนหวานของเธอ แต่ยังไงก็ตามคำเหล่านี้มีความหมายมากสำหรับอันหยาง
การกระทำมีความหมายมากกว่าคำพูดสำหรับเจียนอีหลิงอยู่แล้ว เธอจึงลงมือปกป้องลูกน้องเธอ
เมื่อการแข่งขันระหว่างสตรีมเมอร์ชายกับเจี้ยนอีหลิงจบลงแบบค่อนข้างดราม่า ทุกคนบนอินเทอร์เน็ตต่างก็ได้ยินข่าวนี้ในไม่ช้า
ในเวลาเดียวกัน เจียนอีหลิงก็กลับมาได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอีกครั้ง
เกิดการโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในชุมชนของ Zerg Invasion แฟนบางคนได้เริ่มตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง
[อาา ช่างน่ารักอ่ะ ฉันเป็นแฟนตัวยงของเธอ เธอกลับมาแล้วเหรอ]
[สามปีแล้ว ไม่ว่ายังไง รูปลักษณ์ของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เธอน่ารักจัง –]
[เธอยังดุเดือดและเจ๋งอยู่เหมือนเดิม ในที่สุด 10 ก็กลับมาที่ Zerg Invasion แล้ว ความเยาว์วัยของฉันกลับมาแล้ว]
[ทำไมพวกนายถึงตื่นเต้นเหลือเกิน? พวกนายลืมสิ่งที่เธอทำกับพวกนายไปแล้วเหรอ? เธอไม่ได้เข้าร่วมรอบชิงชนะเลิศด้วยซ้ำ
[ใช่ นอกจากนี้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังจะกลับมาจริงๆ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอที่จะมีความสุข? แม้ว่าเธอต้องการจะกลับมา แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอมีความสามารถที่จะทำได้หรือเหล่า หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปในช่วงสามปีที่ผ่านมา
บทที่ 554 รอการกลับมาของ J10
ตอนนี้ เป็นเพียงการเริ่มต้นของการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งที่สี่ของ Zerg Invasion
ถ้า J10 ต้องการกลับมาสู่สายตา นี่ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดี
นอกจากนี้ ฐานแฟนๆของ Zerg Invasion ก็เติบโตขึ้นเล็กน้อยในช่วงสามปีที่ผ่านมา เป็นผลให้หลายคนเริ่มติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ในตอนนี้ รอบชิงชนะเลิศก็มีการขยายขนาดขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ เงินรางวัลรวมยังเพิ่มขึ้นเป็นล้านหยวน และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินรางวัลอีกด้วย
ที่สำคัญที่สุด ก็คือความรุ่งโรจน์ที่เกี่ยวข้องกับการชนะการแข่งขันรายการใหญ่
ในยุคหนึ่ง (จอมอหังการ] ได้กวาดทัวร์นาเมนต์จนเรียบ ย้อนกลับไปตอนนั้น ทีมงานได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก แต่ในเวลาเดียวกัน ผู้ชมต่างก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่เห็นสมาชิกหลักเล่นในรอบชิงชนะเลิศ
และด้วยเหตุนี้ เมื่อ 10 ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แฟนๆบางคนก็เชื่อว่า (จอมอหังการ] จะกลับมาอีกครั้ง
เนื่องจาก 310 ยังไม่มีบัญชีเว่ยป๋อ แฟนๆจึงสามารถส่งข้อความถึงเงี่ยนหยู่หมินเท่านั้น แต่ยังไงก็ตามบัญชีของเจียนหยู่หมินตอนนี้ยังใช้ไม่มากนัก ในเมื่อเขาออกจากวงการบันเทิงไปแล้ว
เมื่อตอนที่เขาได้รับข้อความเหล่านี้ เจี้ยนหยู่หมินก็ได้อยู่คนเดียวในสำนักงานของตนเองตอนเที่ยงคืนแล้ว เขายังไม่ได้กลับบ้าน
เขาอยากจะอยู่ในสำนักงานเพียงลำพังมากกว่า เขาไม่อยากกลับไปยังสถานที่เย็นเยียบไร้ความอบอุ่นแห่งนั้น
สมัยก่อน เขาไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แต่ไม่ว่ายังไงสถานที่นั้นก็มักจะมีมุมอบอุ่นในใจเขาเสมอ แต่ทว่าสิ่งต่างๆได้เปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อเขาเห็นข้อความที่เกี่ยวข้องกับน้องสาวในบัญชีเว่ยป๋อ ความคิดของเขาก็ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน
เขานึกถึงความทรงจำที่เขามีกับน้องสาว พวกเขาได้เข้าร่วมรายการเซอร์ไววัลโชว์ด้วยกัน
รอยยิ้มหายากของเงี่ยนหยู่หมินปรากฏขึ้น
ความทรงจำเหล่านั้นมีค่ามากเหลือเกินสำหรับเขา
แน่นอนว่ายังมีความทรงจำของวันที่เขาร้องเพลงและเต้นรำกับกลุ่มของเขาด้วย
เขารักวันเวลาเหล่านั้น แต่ยังไงก็ตาม เขาต้องรับผิดชอบความผิดพลาด
เมื่อโม่ชื่ออวุ้นเปิดคอมพิวเตอร์ เธอก็เห็นพาดหัวข่าวว่า [การกลับมาของ J10] ความหนาวเย็นก็พุ่งเข้ากระทบหัวใจ
เธอหวนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น
หลังจากเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน เธอก็ถูกขึ้นบัญชีดำจากฉินชวน
จากนั้นเป็นต้นมา เธอก็รู้สึกว่าชีวิตเธอได้พังทลายลง
การปลอบใจเพียงอย่างเดียวสำหรับเธอก็คือความนิยมที่เธอสามารถได้รับกลับมาได้
แต่ยังไงก็ตาม เธอทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ แต่ถึงกระนั้น เงี่ยนอีหลิงกลับสามารถบรรลุสิ่งเดียวกันได้ ผ่านเพียงแค่เกมเพียงเกมเดียว
โม่ชื่ออวนจ้องไปที่หน้าจอ จากนั้นเธอก็เริ่มร้องไห้
เมื่อโม่ฮุยฉิงเห็นลูกสาวร้องไห้ หัวใจเธอก็แตกสลาย
“ซื้ออริ้นอย่าร้องไห้”
เมื่อได้ยินเสียงแม่ โม่ชื่ออขึ้นก็พยายามกลั้นน้ำตา เธอปาดน้ำตาบนใบหน้า
“แม่ หนูสบายดี หนูต้องถ่ายวิดีโอต่อไป นอกจากนี้ ผู้กำกับก็ได้ติดต่อกับหนูเพื่อขอความร่วมมือเมื่อกี้นี้ หนูเลยดีใจจนร้องไห้”
แต่ยังไงก็ตาม โม่ฮุยฉิงรู้ว่าลูกสาวของเธอกำลังพยายามปลอบโยนเธออยู่
“ซื้ออริ้น แม่ไร้ประโยชน์ แม่ขอโทษที่ทำให้ลูกต้องทนทุกข์ทรมาน” โม่ฮุยฉิงกล่าวเบาๆ เธอโทษตัวเองกับความไร้ความสามารถของตนเอง
ถ้าเพียงแต่เธอมีความสามารถมากกว่านี้สักหน่อย
หากเป็นเช่นนั้น เธอก็จะสามารถไม่ต้องตกเป็นภาระของลูกสาวได้
“แม่ หนูสบายดี อย่าคิดมากเลย” โม่ชื่ออขึ้นย้ำ เธอจับมือแม่ ปลอบโยนเธอ “หนูก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย ไม่มีอะไรอีกแล้ว”
โม่ฮุยฉิงเหลือบมองรูปภาพของเงี่ยนอีหลิงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของโม่ชื่ออขึ้น
เธอรู้ว่าลูกสาวอารมณ์เสียเพราะเงี่ยนอีหลิง
แม้ว่าพวกเธอจะเดินทางจากเมืองเหิงหยวนมายังเปยจิง แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดตระกูลเจี้ยน
“โอ้ ลูกต้องไลฟ์สดตอนดึกอีก ลูกต้องไม่ทำให้ตาบวมจากการร้องไห้ มันจะดูไม่ดีในกล้อง”
โม่ชื่ออขึ้นกล่าวว่าหนึ่งในคนที่ร่วมมือกับเธอขอให้เธอเปิดถ่ายทอดสดเพื่อโฆษณาสินค้า
การทำแบบนี้จะช่วยให้เธอได้สัมผัสกับผู้ชม นอกจากนี้หากทำได้ดี เธอก็สามารถได้รับแฟนๆ เพิ่มค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ เธอก็จะยังสามารถทำคอมมิชชั่นได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเธอสามารถหารายได้ค่อนข้างมาก โม่ชื่ออขึ้นจึงตัดสินใจลองทำดู
