บทที่ 3 ครั้งหน้าจองนายอีก
ท้องฟ้านอกหน้าต่างสว่างแล้ว
ชางหลิงตื่นขึ้นมาด้วยแสงที่แยงตา เธอค่อยๆลืมตา สิ่งแรกที่เธอเห็น คือใบหน้าที่หล่อเหลา ระยะห่างระหว่างคนสองคนนั้นใกล้มาก ใกล้จนเธอสามารถรู้สึกถึงลมหายใจที่รดใบหน้าของเธอ
อะไรเนี่ย?
ชางหลิงมึนงง เขาเป็นใคร? ทำไมพวกเขาถึงนอนบนเตียงเดียวกัน?
เธอทำท่าจะผลักเขาออก กลับพบว่ามือของเขาโอบเอวเธอไว้ กอดเธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหนี
“ตื่นแล้วเหรอ?” รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของหญิงสาวในอ้อมแขน โหมวยู่ลืมตาขึ้น
“นายเป็นใคร?” ชางหลิงตกใจ เมื่อวานไปดื่มเหล้าเพราะหงุดหงิดหยูเฉิน เธอยังจำได้รางๆ เหมือนกับว่าตัวเองบอกพนักงานให้หาผู้ชายให้เธอ
ดังนั้น นี่เป็นผู้ชายที่เธอหามาเมื่อวานเหรอ?
“เมื่อคืนตอนที่คุณรูดบัตรทองอย่างใจกว้างเพื่อจะนอนกับผม ไม่ได้ถามนะว่าผมชื่ออะไร” โหมวยู่ปล่อยเธอ แล้วลุกขึ้น ตามด้วยการเคลื่อนไหวของโหมวยู่ รอยแผลบนผิวสีบรอนซ์เผยให้ชางหลิงเห็น แม้ว่ารอยเหล่านั้นจะเก่า แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการตัดสินในอดีตว่ามีบาดแผลลึกถึงกระดูก
โหมวยู่ลุกขึ้น ร่างที่แข็งแกร่งไม่มีอะไรปกปิด ชางหลิงเอามือขึ้นมาปิดตาโดยสัญชาตญาณ แต่กลับแอบมองเขาผ่านซอกนิ้ว
เธอโตขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นร่างกายของผู้ชายอย่างจริงจัง แม้ว่าเพื่อนของเธอซูเสี่ยวเฉิงชอบส่งหนังโป๊ให้เธอดู แต่ว่า หุ่นของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ แกร่งกว่าพระเอกเหล่านั้นอีก……
ชางหลิงขยับตัว รู้สึกถึงความเจ็บแสบ ถึงจะรู้ตัวว่าร่างกายของตัวเองราวกับล้อถูกรถทับ
พูดสนุกไม่คิด เพราะเอาเข้าจริงอย่างกับจะตาย
“คือว่า” ความจุสมองของชางหลิงไม่เพียงพอแล้ว เมื่อคืนเธอดื่มจนภาพตัดจริงๆ จำได้ภาพที่เธอเกาะตัวเขาอย่างกับปลาหมึกได้รางๆ
เธอแทบอยากจะชกที่หัวตัวเองหนึ่งหมัด ว่ากันว่าหลังดื่มแอลกอฮอล์แล้วมีอารมณ์ ไม่ผิดเลยจริงๆ
แต่ในตอนนี้ เธอควรทำอย่างไร? เธอน่าจะจ่ายเงินไปแล้ว บัตรทองนั้น คงเพียงพอสำหรับค่าตัวทั้งคืนของเขาแล้วสินะ แต่สถานการณ์อึดอัดเล็กน้อย คงจะเดินจากไปเลยไม่ได้มั้ง ถ้าคราวหน้าเขามารีดไถเงินเธออีกทำไง? ถ้าหากถูกคนอื่นรู้ว่าเธอมาที่แบบนี้ ไม่ว่าเธอจะแก้ตัวยังไงก็คงฟังไม่ขึ้น
“ลีลานายก็ดีนะ” ชางหลิงกระแอมในลำคอ ฝืนพูดออกมา ในทีวี พวกผู้ชายมาที่แบบนี้ หลังจากเสร็จงานก็มักจะจุดบุหรี่ชมผู้หญิงสักหน่อย เธอสูบบุหรี่ไม่เป็น ชมสักหน่อยคงพอแล้วมั้ง
โหมวยู่ที่กำลังใส่เสื้อผ้าหยุดชะงัก เขาหันมา มองตาเธอ
ผู้หญิงคนนี้น่ารักเสียจริง กล้าวิจารณ์ลีลาของเขาด้วย แต่ว่า เมื่อนึกทางท่าทีของเธอในเมื่อวาน เขาตัดสินใจไม่คิดจุกจิกจู้จี้กับเธอ
“ขอบคุณที่ชมครับ” เขาตอบอย่างเกรงใจ
“งั้นนายออกไปก่อนเลยนะ” ชางหลิงโบกมือ มุดเข้าเตียง เผยให้เห็นแค่ตาที่กลมโตคู่นั้น “ฉันจะให้ความคิดเห็นที่ดีกับนาย คราวหน้า ถ้าต้องการ ค่อยจองนายอีก”
ถุ้ย! เป็นไปไม่ได้! ชายผู้ป่าเถื่อนคนนี้ ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ในชีวิตนี้เธอไม่อยากเจอเขาอีก แม้ว่าเขาจะหน้าตาหล่อก็ไม่มีประโยชน์
โหมวยู่กระตุกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้เปิดโปงต่อหน้า เขากระตุกมุมปาก แล้วยิ้ม
“โอเคครับ” เขาตอบ “งั้นก็รอต้อนรับอีกครั้งนะครับคุณชาง”
คุณชาง? ชางหลิงหัวโต เธอบอกแม้กระทั่งนามสกุลของตัวเองให้เขาเหรอ?
โหมวยู่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกไป ในห้องกลับสู่ความสงบ ชางหลิงมัดเข้าผ้าห่ม ซ่อนตัวเองเอาไว้
“อ๊ากกกกกก!” เธอตะโกนเสียงดัง “ชางหลิง! สมองเธอถูกประตูหนีบมาหรือไง?
คราวนี้ซวยละ เดิมทีแค่อยากแก้แค้นหยูเฉินจึงออกมาดื่มเหล้า ตอนนี้เรื่องราวเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนไปแล้ว
ชางหลิงปลดปล่อยไปสักพัก หลังจากร่างกายของตัวเองปรับตัวกับทุกการเจ็บปวด เดินลงเตียงแล้วอาบน้ำแต่งตัว อยากจะรีบหนีไปที่นี่
แต่ พอเธอเปิดประตู ก็ตกใจกับเหล่าคนชุดดำที่เรียงเป็นแถวอยู่หน้าประตู
คนชุดดำก้มคำนับและพูดพร้อมเพรียงกัน
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่สะใภ้”