บทที่ 11 อย่าทำให้ตระกูลชางขายหน้า
“คุณอา!” หยูเฉินเห็นแล้วก็รีบเข้าไปจับมือชางหวยซูไว้ “คุณอาอย่าโกรธเลย หลิงหลิงก็แค่โมโหอยู่ เรื่องนี้เป็นความผิดผมเอง อย่าโทษเธอเลย”
หยูเฉินมองไปทางชางหลิงที่สายตาตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่เห็นคืนเดียว เขาดูโทรมกว่าก่อนหน้านี้อยู่มาก ไม่รู้ว่าเวลาสิบกว่าชั่วโมงสั้นๆนี้ เขาผ่านเรื่องอะไรมากันแน่
ชางหลิงหันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองเขา
แม้เขาจะทำเรื่องที่น่าไร้ยางอายแบบนี้ แต่ว่ายังไงความรู้สึกห้าปีที่ผ่านมาที่เขามีต่อเธอก็ไม่ปลอม ก็เหมือนกับที่ซูเสี่ยวเฉิงพูด เขาเป็นครึ่งชีวิตของเธอ
“พ่อ” ชางฉิงเห็นแล้ว ก็รีบเข้าไปแขนเสื้อชางหวยซู “นายจะตีก็ตีฉันเถอะ ฉันทำให้ตระกูลชางขายหน้า ไม่เกี่ยวกับพี่สาว ฉันแค่ชอบชุดแต่งงานนั้นมาก ตั้งแต่เด็กจนโต ของอะไรที่พี่สาวไม่เอาแล้วถึงให้ฉัน ฉันคิดว่าชุดแต่งงานนั้นเธอไม่เอาแล้วจริงๆ ดังนั้นถึงได้เอามาลอง”
ชางฉิงน้ำตารื้นขอบตา ท่าทางแบบนี้ ทำเอาผู้ใหญ่ในบ้านที่เห็นแล้วต่างสงสารกันใหญ่
“เด็กน้อยของฉัน” คุณย่าโจวรุ่ยฟางโอบกอดชางฉิงไว้ “เธอต้องทนน้อยใจในบ้านพวกเรางั้นเหรอ”
ชางหลิงจับกระโปรงชุดแต่งงานไว้แน่น กัดฟันไม่พูดอะไร
“หวยซู เมื่อก่อนเรื่องในบ้านคนแก่อย่างพวกเราสองคนไม่สนใจและคงไม่มีแรงสนใจ ก็ปล่อยนายตามใจชางหลิงจนกลายเป็นคนดุร้ายและใจแคบ เสิ่นวั่นชิงตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็หยิ่งผยองอยู่แล้ว
เพราะที่บ้านแม่มีเงินก็ไม่เอาพวกเราตระกูลชางไว้ในสายตา ลูกสาวที่เธอเลี้ยงก็ท่าทีเหมือนเธอ เธอตายแล้ว นายรู้สึกติดค้างเธอ จึงปล่อยและตามใจชางหลิงอยู่ตลอด
ตอนนี้ดูสิ นายจะมองดูเธอรังแกฉิงฉิงจนตายหรือไง?” โจวรุ่ยฟางไม่ชอบนิสัยหยิ่งผยองจองหองของเสิ่นวั่นชิงมานานแล้ว หลังจากนั้นก็ยิ่งไม่ชอบชางหลิงอีกด้วย และจ้าวหลันจือเป็นสะใภ้ที่เธอหมายตาไว้ให้กับชางหวยซูตั้งแต่แรก ก็จึงเอ็นดูและรักชางฉิงเสียมากกว่า
“ฉันรังแกเธอเหรอ?” ชางหลิงรู้สึกน่าขำมาก “ตั้งแต่เด็ดจนโต คนที่ถูกทำโทษมากที่สุดก็เป็นฉัน ทั้งที่ทุกครั้งชางฉิงเป็นคนเริ่มก่อน แต่ขอแค่เธอร้องไห้ทุกคนก็คิดว่าฉันรังแกเธอ ตอนนี้ เธอแย่งแฟนของฉันไป ก็กลายเป็นฉันที่รังแกเธออีกงั้นเหรอ?”
“พอแล้ว!” ชางเจิ้งตงตะโกนเสียงดัง “ยังคิดว่าเรื่องไม่ใหญ่พอและไม่ขายหน้างั้นเหรอ? งานแต่งก็ตกลงกันเสร็จแล้ว การ์ดเชิญก็ส่งออกไปแล้ว เรื่องของพวกเธอจัดการกันเอง อย่าทำให้ตระกูลชางต้องขายหน้าแล้วกัน”
พูดจบ ชางเจิ้งตงก็เดินขึ้นบันไดไป ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก แต่เขาก็แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว เขาต้องการแค่หน้าของตระกูลชาง ส่วนแต่งหลานสาวคนไหน เขาไม่สนใจทั้งนั้น
“หลิงหลิง” หยูเฉินขมวดคิ้ว เดินเข้าไปใกล้เธอ “ฉันรู้ว่าฉันมันเลว ฉันทำผิดต่อเธอ แต่เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว พวกเราใจเย็นลงก่อนและแก้ไขเรื่องทุกอย่างก่อนไหม? เธอจำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ จนทำให้ทุกคนอยู่ไม่เป็นสุขงั้นเหรอ”
“ฉันจะทำให้ทุกคนเป็นสุขได้ยังไง?” ชางหลิงถอยหลังออกไป เว้นระยะห่างจากเขา “การแก้ไขของทุกคน ก็คือเอาของที่เป็นของฉันยกให้ชางฉิงทั้งหมด! ชุดแต่งงานของแน งานแต่งของฉัน ยังมีผู้ชายของฉันอีก งั้นฉันคืออะไรล่ะ? ฉันก็ถูกทิ้งอย่างไม่ไยดีจากทุกคนงั้นเหรอ เพียงเพราะว่าฉันเป็นคนที่ไม่มีแม่คอยปกป้องงั้นเหรอ? เพียงเพราะว่าฉันไม่ร้องไห้ทุกคนก็คิดว่าฉันไม่เจ็บงั้นเหรอ?”
พูดถึงประโยคสุดท้าย ชางหลิงก็น้ำตาไหลอาบแก้มไปแล้ว
“ฉันจะบอกให้นะ ไม่มีทางซะหรอก!” ชางหลิงโยนชุดแต่งงานลงพื้น ดึงกระชากจนขาดลุ่ย “ฉันทำให้เสียดีกว่าให้เธอ ทุกคนก็เหมือนกันหมด ตาบอดกันไปหมด! คนที่ดีกับทุกคนจริงๆมองไม่ออก แต่กลับถูกผู้หญิงทำตัวแอ๊บใสซื่อแบบนี้หลอกเนี้ยนะ!”
“เธอพูดอีกทีสิ?” ชางหวยซูถูกชางหลิงกระตุ้นต่อมความโกรธอีกครั้ง
“คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ?” ชางหลิงเงยหน้าขึ้น “ตระกูลชางที่มีวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะแม่หนู บ้านเธอก็เป็นคนซื้อ ธุรกิจก็เป็นเธอที่คอยจัดการ เธอแต่งเข้ามาในตระกูลชางตอนนั้นไม่มีอะไรเลย เป็นเธอที่ไม่สนใจเสียงคัดค้านที่บ้านก็จะช่วยตระกูลชางให้ได้! แต่พ่อล่ะ พ่อใช้เงินของเธอ พ่อไปสานสัมพันธ์กับคนรักเก่าที่บ้านนอกแล้วมีชางฉิงออกมา บังคับจนเธอเป็นโรคซึมเศร้าฆ่าตัวตายไป และตอนนี้ แม่ของฉันถ้ารู้ว่าพ่อเอาของที่เป็นของหนูไปให้ลูกสาวของจ้าวหลันจือละก็ ถึงเธอจะกลายเป็นผีก็ไม่มีทางปล่อยพ่อไปแน่!”
“ชางหลิง!” ชางหวยซูโกรธจนถึงขีดสุด ครั้งนี้ หยูเฉินห้ามเขาไว้ไม่ทัน เขาใช้แรงฝ่ามือทั้งหมด ตบใบหน้าชางหลิงอย่างแรง
โลกสงบเงียบ
ชางหลิงล้มลงพื้น มุมปากมีเลือดซึมออกมา