บทที่ 15 สนใจหยูเฉินขนาดนี้เลย
ชางหลิงไม่ตอบ
เมื่อกี้พูดไปแบบไม่คิด สุดท้ายก็เผยความในใจตัวเองออกไปจนได้
เธอสนใจ เธอสนใจมาก
คนที่อยู่ด้วยกันมาห้าปี คนที่กำลังเตรียมตัวจะแต่งงานกันแล้ว จะปล่อยวางง่ายๆได้ยังไง
เธอบอกกับตัวเองตลอดว่าเอาความผิดหวังจากหยูเฉินเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังชางฉิงแทน ที่บอกตัวเองเพราะไม่พอใจ แต่ว่า พอเห็นหยูเฉินกับชางฉิงยืนด้วยกัน เธอก็ยังเจ็บปวดหัวใจเจียนตาย
“มายุ่งทำไม!” ชางหลิงในตอนนี้เหมือนเม่นที่ถูกกระตุ้น ทั้งตัวเธอมีหนามขึ้นเต็มไปหมด
บรรยากาศภายในรถเงียบสงบทันที โหมวยู่สีหน้าไร้อารมณ์ ไม่พูดอะไรอีก
กลับมาถึงnova โหมวยู่เดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ ชางหลิงไม่อยากเดินตามเขาไป แต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่มีที่ไปอยู่ดี อีกอย่างเธอยังต้องคิดวิธีหย่าให้ได้ก่อน ไม่มีทางอื่น จึงต้องตามหลังเขาไปแบบนี้
“พี่ใหญ่!” ฉินซางเห็นคนตัวเล็กสกปรกมอมแมมเดินตามหลังโหมวยู่มาแต่ไกล พอเรียกแล้ว โหมวยู่ก็กลับไม่สนใจเขา พาชางหลิงเข้าลิฟต์ไป
ฉู่ฉือสังเกตสีหน้าคนเก่ง จึงไม่ได้ตามเข้าไปด้วย แค่โน้มตัวเคารพเท่านั้น ส่งพวกเขาเข้าลิฟต์ไป
“เขาเป็นอะไรน่ะ?” ฉินซางถือแก้วเหล้าเดินเข้ามา “ข้าวใหม่ปลามัน ทำไมถึงทำตัวเหมือนโกรธอะไรมาเลย”
ฉู่ฉือส่ายหน้า เขาจะกล้าเดาใจคุณชายรองได้ยังไงกัน แต่ว่าคุณชาง คืนนี้คงหนักแน่
ต้วนเหิงก็เดินตามหลังขยับเข้ามาใกล้ สีหน้ากลับเข้าใจทั้งหมดแล้ว ตบบ่าฉินซางเบาๆ
“ดังนั้นฉันว่านะ หาภรรยาอย่าหาที่อายุน้อยกว่าเลย ดูพี่ใหญ่พวกเราสิ ดูกังวลใจมากเลย”
ชางหลิงตามโหมวยู่ขึ้นตึกไป เธอก็ไม่เข้าใจ คนที่โกรธควรจะเป็นเธอสิ ทำไมตอนนี้ผู้ชายคนนี้ท่าทางดูไม่มีความสุขกว่าตัวเองเลย?
“นี่” เงียบอยู่นานแล้ว ชางหลิงเปิดประเด็นก่อน “เรื่องของเช้าวันนี้ยังไม่ได้จัดการเลยนะ พวกเราจะหย่ากันเมื่อไหร่ ยื้อเวลาอยู่แบบนี้ก็ไม่ใช่ทางที่ดีนะ”
คนข้างหน้าหยุดชะงักฝีเท้า ชางหลิงเบรกไม่ทัน หัวทิ่มไปถูกหลังเขาเข้าอย่างจัง
โหมวยู่ข่มความโกรธในใจไว้อยู่แล้ว พอได้ยินชางหลิงพูดเรื่องหย่า ในใจอึดอัดมากกว่าเดิม เขาคว้าข้อมือชางหลิง ดึงเธอเข้าไปในห้องนอน
“นายจะทำอะไรน่ะ!” โหมวยู่จับข้อมือเธอแรงมาก บวกกับที่เธอไม่ยอมทำตาม ชางหลิงรู้สึกข้อมือตัวเองแทบจะหักแล้ว
“เธอคิดว่าไงล่ะ” ปิดประตูลง โหมวยู่กดตัวชางหลิงแนบประตู โน้มตัวเข้าไปใกล้เธอ ไม่ให้เธอมีโอกาสหนีได้
“นาย……” ชางหลิงโกรธเขามาก “นายรีบปล่อยฉันเลยนะ ไม่งั้นจะตะโกนเรียกคนอื่นจริงด้วย”
“เธอลองดูสิ? ดูสิว่าจะมีคนมาช่วยเธอไหม หรือว่า เธอรู้สึกว่ามีคนอื่นมาดูจะตื่นเต้นมากกว่า?” โหมวยู่พูดอยู่นั้น มือก็ล่วงเข้าไปจับเอวชางหลิง
มือของผู้ชายเย็นมาก พอจับตัวชางหลิง ทำให้เธอรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
“นายอย่าทำตัวหน้าไม่อายแบบนี้ได้ไหม พวกเราสองคนไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆสักหน่อย นายมีสิทธิอะไรมาทำกับฉันแบบนี้?” ชางหลิงขัดขืนเขาสุดฤทธิ์
พวกเขาพึ่งรู้จักกันเมื่อคืน เรื่องที่จดทะเบียนก็แค่ความผิดพลาด เขาจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธอโดยที่ไม่แบ่งเวลาสถานที่ได้ยังไงกัน
เขาก็เหมือนกับคนตระกูลชาง เอาแต่รังแกเธออย่างเดียว!
นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ความทุกข์ใจที่ชางหลิงสะสมมานานก็ระเบิดออกมาทันที น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่ได้ เหมือนกับสร้อยไข่มุกที่ขาดและหลุดออกมา
“พวกนายผู้ชายไม่มีอะไรดีเลย! เป็นสัตว์ที่เอาท่อนล่างคิดอย่างเดียว” ชางหลิงน้อยใจมาก ทั้งที่เธอโดนทรยศ แต่กลับไม่มีใครมายืนฝั่งเธอเลย
มาดื่มเหล้าอยากระบายอารมณ์หน่อย ยังไม่ระวังมีเรื่องกับตาบ้านี่อีก กินเธอจนสะอาดแล้ว ยังจะมาเรียกร้องให้เธอรับผิดชอบอีก
พอเธอร้องไห้แบบนี้ โหมวยู่หวั่นใจทันที เขาปล่อยมือออกเล็กน้อย สุดท้ายก็ยอมออกจากผิวที่นุ่มนวลนั้นได้
“ฉันทำอะไรเธอเหรอ?” สีหน้าโหมวยู่ไม่เปลี่ยน แต่เสียงกลับอ่อนลง
“นายทำฉันนั่นแหละ!” ชางหลิงสะอื้น แต่ก็ไม่อยากถูกข่มฝ่ายเดียว