บทที่ 16 ไปทุกที่ในเมืองหนาน
ตัวเธอยังสกปรกอยู่เลย ใบหน้าก็มอมแมมด้วย พอมีน้ำตาไหลอาบแก้ม ก็ยิ่งเหมือนนักแสดงงิ้ว
โหมวยู่ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาเธอ แต่พึ่งสัมผัสใบหน้าเธอ ชางหลิงก็เจ็บจนสูดหายใจเข้า
โหมวยู่หรี่ตาลง เมื่อกี้ตลอดเส้นทางมืดเลยมองไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ตอนนี้พอดูดีๆแล้ว ใบหน้าเธอเหมือนจะบวมเลยนะ
“ใครตบเธอมาเหรอ?” เขากดหัวเธอไว้ เอามือไปสัมผัสเล็กน้อย ถึงได้เห็นว่ารอยบนใบหน้าเธอไม่ได้มีเพียงเศษดินเท่านั้น ยังมีรอยแดงๆอีก
ชางหลิงดันตัวเขาออก ตัวเองก็ไปนั่งลงข้างๆเตียง จับหน้าไว้ไม่พูดอะไร
ตั้งแต่เด็กจนโต ชางหวยซูแม้จะลงโทษหรือด่าเธอ แต่ยังไงก็ไม่เคยตบเธอมาก่อน แต่มาวันนี้……เพื่อชางฉิงสองแม่ลูกนั่น การตบในครั้งนี้ ทำให้ความหวังสุดท้ายที่เธอมีต่อเขาสลายไปทันที
โหมวยู่ลมหายใจเย็นชาลง “ชางหวยซูหรือหยูเฉิน?”
“ฉันไม่อยากพูดกับนาย และไม่อยากเจอนายด้วย”
โหมวยู่เงยหน้าขึ้น จ้องชางหลิงด้วยสายตาที่เหมือนสายฟ้าผ่า จนกระทั่งชางหลิงเกิดตัวสั่นกะทันหัน
และในตอนที่ชางหลิงคิดว่าเขาคงโมโหตัวเองมาก โหมวยู่กลับหลังหัน เปิดประตู และออกไปทันที
ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกัน? เจ้าอารมณ์จริงๆเลย
ชางหลิงเดาไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไรกันแน่ และไม่รู้ด้วยว่าวินาทีต่อไปเขาจะทำอะไรอีก
อยู่กับคนแบบนี้เหนื่อยจริงๆ เธอต้องหาทางรีบทำเรื่องหย่าให้ได้! ต่อไปจะไม่ไปมาหาสู่กับเขาอีก!
แต่ว่าในตอนที่เธอกำลังจะเข้าห้องอาบน้ำไปล้างหน้า ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ชางหลิงเปิดออก ก็เห็นหลีซินพาหลายคนมายืนอยู่ด้านนอก พร้อมด้วยรถเข็นอาหารหลายคัน
“พี่สะใภ้” หลีซินทักทายเธอ “นี่เป็นอาหารเย็นของคุณครับ”
เขาส่งซิกให้คนด้านหลัง พวกเขาก็ยกอาหารไปบนโต๊ะอาหารในห้องนั่งเล่น ไม่นาน อาหารก็มีอยู่เต็มโต๊ะ
ชางหลิงไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน มองดูอาหารเย็นที่เหมือนงานเลี้ยงใหญ่ แม้จะหิว แต่ก็ไม่กล้ากินหรอกนะ
“โหมวยู่ล่ะ?” ชางหลิงมองไปด้านหลังของหลีซิน แต่ไม่เห็นตัวเขาเลย
“พี่ใหญ่ออกไปแล้ว” หลีซินตอบตามตรง
ออกไปแล้ว? กลับไปบ้านตระกูลโหมวเหรอ?
ไม่รู้ทำไม สายตาของชางหลิงหม่นหมองลง
เธอรู้ว่าตัวเองเพราะเรื่องของตระกูลชางพาลใส่เขา เมื่อกี้กำลังโมโห โหมวยู่ก็มาได้จังหวะพอดี
ตอนนี้คิดแล้ว ตัวเองเหมือนจะไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณเลย ถ้าไม่มีโหมวยู่ เกรงว่าตอนนี้เธอคงถูกชางหวยซูลากตัวกลับไปแล้ว
“นี่เป็นของที่พี่ใหญ่บอกให้เอาให้คุณครับ” หลีซินหยิบกล่องยาเล็กๆในกระเป๋าออกมา
ชางหลิงรับมา เห็นด้านบนเขียนไว้ว่ามีสรรพคุณลดอาการบวม ก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีไปกันใหญ่ คนที่รักและสนิทมากที่สุดนำบาดแผลมาให้เธอ แต่คนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักกันแค่วันเดียว ตอนนี้กลับเป็นห่วงเป็นใยเธอ
ชางหลิงกินข้าวเสร็จ อาบน้ำเสร็จแล้วก็ทายาให้ตัวเอง รับรู้ถึงรอยแผลที่แสบร้อนและถูกฤทธิ์เย็นของยาระงับไว้ เธอนอนหลับสบาย
ตื่นมาอีกวัน โหมวยู่ก็ยังไม่กลับมา ชางหลิงยังคิดเรื่องตระกูลชาง ไม่มีกะจิตกะใจนั่งเฉยๆ ก็ให้หลีซินพาชมรอบตึกคลับ
“นี่เป็นห้องโถงงานเลี้ยงของnova” หลีซินแนะนำให้ชางหลิงอย่างใจเย็น “โดยปกติจะใช้จัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่”
สองคนเดินมาถึงชั้นนึงของตึก มองไปไกลๆ มีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่และถูกจัดวางอย่างมีระเบียบ ตรงหน้ามีพรมแดงยาวไปจนสุดข้างหน้าเวที
ถ้าไม่มีเรื่องซะก่อน งานแต่งของเธอในวันนั้น น่าจะได้เดินบนพรมแดงยาวๆนี้ สวมชุดแต่งงานสวยๆ แต่งงานกับหยูเฉิน แต่ตอนนี้……
“แต่ว่าห้องโถงงานเลี้ยงของnovaก็ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมาจองได้” หลีซินพูดอธิบายได้อย่างเกรงใจ แต่ก็ไม่ถ่อมตัวเลย “ไม่ว่าจะมีตำแหน่งอะไร ก็ต้องมาจองตัวต่อตัว”
“อ้อ” ชางหลิงไม่ได้รู้สึกตื่นตาอะไรมาก เธอรู้เรื่องนี้นานแล้ว ดังนั้นก่อนหน้านี้ที่เตรียมงานแต่งก็ไม่เคยพิจารณาnovaเลย หนึ่งคิดว่าอลังการและฟุ่มเฟือยเกินไป สองหยูเฉินบอกว่า ที่นี่กว่าจะได้คิวมายากมาก ดูยุ่งยากเกินไป
“แต่พี่สะใภ้ต่างออกไปนะ” หลีซินหัวเราะแหะๆ ผายมือออก เอาบัตรสีดำโชว์ตรงหน้าชางหลิง “นี่เป็นบัตรผ่านของnova ร้านในเครือหลายพันทั้งหมดในnova มีแต่สองใบเท่านั้น”
ชางหลิงมองบัตรสีดำที่เคลือบทองไว้ตรงขอบ ด้านบนเขียนไว้ว่าวีไอพีภาษาอังกฤษดูสะดุดตามาก
“บัตรผ่าน?” ชางหลิงรับมา “เอาไว้ทำอะไรน่ะ?”
ก็แค่สมาชิกไม่ใช่เหรอ? แต่ถึงแม้จะลดราคาให้แล้วเธอก็คงไม่มีปัญญาจ่ายอยู่ดี
“คุณสามารถใช้บัตรใบนี้ไปทั่วเมืองหนานหรือทั่วโลกของคลับnovaได้เลย โครงการทั้งหมด ฟรีทั้งหมด”หลีซินยิ้มอย่างมีมารยาท
ฟรี! ชางหลิงตาเปล่งประกาย
พระเจ้า ก็ว่าทำไมถึงเรียกว่าบัตรผ่าน ไปได้ทุกที่จริงๆด้วย นี่เป็นวีไอพีระดับสูงสุดของnovaเลยก็ว่าได้ ถ้ามีของแบบนี้อยู่ในมือ เธอใช้ชีวิตอยู่ในnovaเลยก็ได้
บัตรที่ตอนแรกถูกชางหลิงใช้นิ้วมือจับแค่ปลายๆก็เปลี่ยนตำแหน่งกะทันหัน เธอใช้สองมือประคองบัตรไว้ ก็ขาดแต่ว่าหากระถางธูปมังกรมาจุดธูปถวายแล้วล่ะ
สายตาของชางหลิงบังเอิญเหลือบไปข้างๆ เห็นข้างหน้าไกลๆมีคนอยู่ สายตาก็ชะงักค้างทันที
หยูเฉิน……