ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 25 นางบำเรออันดับห้องที่พัน

บทที่ 25 นางบำเรออันดับห้องที่พัน

บทที่ 25 นางบำเรออันดับห้องที่พัน

ตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกงั้นเหรอ

ชางหลิงส่วนลึกในหัวใจพลันเจ็บปวด

“คุณพูดอะไรนะ” ชางหลิงขมวดคิ้ว

เธอจงใจทำสิ่งที่มากเกินไป แต่ที่เธอทำทั้งหมด แค่อยากให้พวกเขาเคารพข้อเท็จจริง แค่อยากให้ชางหวยซูสังเกตเห็นเธอ ให้ความรักกับเธอมากเท่ากับชางฉิงเท่านั้น

เขาตีเธอ เขาทอดทิ้งเธอ ด่าว่าเธอ เธอยังไม่เคยคิดจะตัดขาดพ่อลูกกับเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขากลับเอ่ยปากว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วงั้นเหรอ

“ฉันจะคิดว่าไม่มีลูกสาวอย่างแกแล้ว แกปล่อยพวกเราไป พวกเราก็ปล่อยแก” ชางหวยซูค่อนข้างมีก้อนในลำคอ แต่ก็ยังพูดออกมา

“คุณพ่อคะ อย่าทำแบบนี้เลย พี่สาวทำผิดใหญ่หลวงอีกแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถขับไล่เธอไปได้นะคะ” ชางฉิงขอร้องแทนเธอ “ถึงแม้ตอนนี้เธอจะมีที่พักพิงที่ดีกว่า แต่พวกเราเป็นญาติของเธอ…”

ชางหวยซูกวาดตาเหลือบไปมองหลีซินที่อยู่ข้างหลังชางหลิง ทัศนคติเด็ดเดี่ยวยิ่งทวีคูณ

“แกไปซะ หลังจากนี้อย่ากลับมาอีก”

“คุณท่านชาง…” หลีซินกำลังจะอธิบายว่าพวกเขาเข้าใจผิดหรือไม่ แต่ชางหลิงกลับยกมือขึ้นหยุดเขา

“ได้” เธอพยายามสงบสติอารมณ์ พยายามให้ตัวเองคงรอยยิ้มเอาไว้ “ได้ ฉันไป”

“คุณพูดเองนะ ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูก คุณอย่าได้เสียใจภายหลังล่ะ”

ก็อย่างที่โจวรุ่ยฟางพูด เธอเป็นร่างที่มีแค่กระดูก เพราะฉะนั้น แม้ว่าหัวใจจะเลือดออก แต่เธอก็ยังไม่เต็มใจลดทัศนคติของตัวเอง และพูดอย่างแข็งกระด้าง

ชางหลิงหมุนตัวเดินไป ชางหวยซูมองแผ่นหลังของเธอ ในที่สุดตาก็แดง

ชางหลิงก้าวไปที่ลิฟต์ น้ำตาร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว ระยะทางหลายสิบเมตร เธอเดินเร็วมาก เหมือนเป็นการหลบหนี

“พี่สาว” ชางฉิงไล่ตามมา เดินไปในทิศทางของเธอ “พวกเราคุยกันหน่อยได้ไหม”

ชางหลิงเช็ดน้ำตา หันกลับมายิ้มเยาะ “ฉันไม่กล้าคุยกับเธอหรอก ใครจะรู้ว่าครั้งนี้เธอจะคิดใส่ร้ายฉันยังไงอีก”

ชางฉิงยิ้มอย่างฉลาดน่ารัก พยักหน้าทักทายหลีซิน หลีซินไม่มีการตอบเธอ เธออับอายเล็กน้อย แต่เธอไม่ขี้ขลาด ยังคงเดินไปข้างหน้า

“พี่สาวล้อเล่นแล้ว ตอนนั้นฉันร้อนใจ ก็เลยพูดผิดไป ต่อมาหลังจากฉันได้สติ ก็ไปเคลียร์เรื่องนี้เป็นอันดับแรกเลย ตอนนี้ที่มาก็เพราะอยากขอโทษพี่สาวอย่างเป็นทางการ”

“ไม่จำเป็น ฉันกลัวอายุสั้น” ชางหลิงไม่ไว้หน้าเธอแม้แต่น้อย

แต่ชางฉิงไม่ยอมแพ้ เอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของเธอ ชางหลิงเห็นพฤติกรรมจึงหลบเลี่ยง เดินไปยังมุมฝั่งหนึ่ง “เธอไม่ต้องมาเล่นละคนกับฉัน ฉันไม่มีรางวัลออสการ์มอบให้เธอ”

เห็นหลีซินไม่ได้ตามมา ชางฉิงก็เหยียดยิ้มเล็กน้อย แววตาเปลี่ยนเป็นไม่สุภาพ

“พี่สาว ยินดีด้วยนะที่เธอรอดมาได้อีกครั้ง ไม่ได้ปล่อยให้เธอตายในคุก น่าเสียดายจริงๆ” แววตาของชางฉิงค่อยๆ ดุร้าย

ชางหลิงเผชิญหน้ากับเธอ และก็ยิ้มออกมา “มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ตอนนี้เธอกำลังโกรธจะตายแล้ว เสียทั้งตำแหน่งฮูหยินและไพร่พล แท้งลูกไป ทัศนคติที่หยูเฉินมีต่อเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเลยใช่ไหมล่ะ เมื่อครู่ในห้องพักผู้ป่วยเหมือนว่าฉันจะไม่เห็นเขาหรือเปล่า ตามหลักแล้ว แม่ยายเข้าโรงพยาบาล เธอก็เพิ่งเสียลูก เขาควรจะอยู่ใกล้ๆ ไม่ใช่หรือไง”

ชางฉิงกำขากางเกงของตัวเอง บังคับตัวเองให้สงบ “แล้วยังไงล่ะ เธอคิดว่าฉันแคร์เหรอ หรือว่าเธอคิดว่าฉันรักเขาจริงๆ ชางหลิง ผู้ชายติดแม่แบบนั้น มีแต่เธอแหละถึงจะตาบอดเห็นเป็นสมบัติล้ำค่า แต่งงานเข้าบ้านตระกูลหยูไม่ได้มันสำคัญอะไร เดิมทีฉันแค่อยากแย่งคู่หมั้นของเธอเท่านั้นแหละ ตราบใดที่เธอไม่ได้แต่งงาน ตราบใดที่เธอไม่สามารถอยู่กับคนที่ชอบได้ ฉันก็รู้สึกสบายใจ”

“เธอ!” ชางหลิงตกใจมาก “ทำไมเธอไร้ยางอายขนาดนี้”

“ฉันต้องมียางอายไปทำไม ตราบใดที่ฉันสามารถเปรียบเทียบให้เธอต่ำลงไปได้ ฉันก็ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น” ชางฉิงโน้มตัวเข้าใกล้เธอและลดเสียงต่ำลง “น่าเศร้าจัง คนที่เธอให้ความสำคัญมาก สุดท้ายก็เลือกฉัน แต่ฉันกลับไม่อะไรทั้งนั้น แต่ต่อให้ฉันไม่ต้องการเขา ระหว่างพวกเธอก็ไม่มีทางย้อนกลับไปได้ เธอลงมือฆ่าหลานชายคนโตตระกูลหยูด้วยมือตัวเอง พวกเขาทั้งตระกูลเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ หยูเฉินคนหัวอ่อน ต่อให้ชอบเธอ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่กับเธอ”

มือของชางหลิงกำหมัดแน่น เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับการหายใจ สุดท้ายก็เอาโทรศัพท์มือถือออกมา “โธ่เอ๊ย ฉันไม่รู้เลยว่าไปกดโดนปุ่มบันทึกตั้งแต่เมื่อไร

น้องสาว เธอต่อสิ พูดให้น้ำเสียงใส่อารมณ์ขึ้นอีกหน่อย”

ชางฉิงสีหน้าเปลี่ยน เอื้อมมือออกไปเพื่อแย่งโทรศัพท์มือถือของชางหลิง “เธอมันต่ำช้า!”

ชางหลิงหลบอย่างฉลาด แล้วเธอก็ชูขึ้นกลางอากาศ

“พูดถึงความต่ำช้า ใครจะเทียบเธอได้” ชางหลิงมองเธอตาดุ โยนโทรศัพท์มือถือไปทางหลีซิน หลีซินรับเข้ามือได้อย่างสบายๆ

ชางฉิงถลึงตาจ้องชางหลิงอย่างเอาเป็นเอาตาย จนสุดท้ายก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

“เธออัดสียงไว้แล้วยังไง อย่างมาก็แค่ฉีกหน้าฉันกับหยูเฉิน พอดีเลย ฉันเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ด อนาคตสดใส ยังไม่อยากแต่งงานเร็วขนาดนี้” ชางฉิงกอดอก มองเธออย่างหยิ่งผยอง “พี่สาว ฉันบอกเธอก็ได้ เมื่อคืนก่อน โหมวยู่คุณชายรองโหมวมาเยี่ยมฉันด้วยตัวเอง บอกว่าเชิญฉันไปบริษัท เซิ่งซื่อ กรุ๊ป เธอก็รู้ว่าคุณชายโหมวคือใคร ก็คือคนที่แจ้งตำรวจให้มาจับเธอ ก่อนหน้านั้นเขายังไปตามหาฉันที่บ้านตระกูลชางด้วยตัวเองอีกด้วยนะ”

ชางฉิงกวาตาเหลือบไปมองหลีซินที่อยู่ด้านข้าง ก็ยิ่งหยิ่งผยอง “คุณหลีที่อยู่ข้างเธอ ก็เป็นแค่ลูกน้องของเขา อย่าเอาขนไก่ทำลูกศร แต่ว่าต่อไปฉันได้เป็นดีไซเนอร์ฉันดับหนึ่งของบริษัท เซิ่งซื่อ กรุ๊ป หรือว่าเป็นคุณนายโหมว ฉันจะให้คุณชายรองโหมวส่งเสริมเขาอย่างดีแน่นอน”

ชางหลิงจมอยู่กับความเงียบ

ถ้าอย่างนั้น ผลประโยชน์ที่โหมวยู่ให้กับเธอที่จริงคือการใช้สิ่งนี้เป็นเงื่อนไขในการซื้อเธองั้นเหรอ

“ถ้าบอกว่าดีไซเนอร์อันดับหนึ่ง เธอกลับไปเรียนอีกสักหลายร้อยปีอาจจะมีความหวังเล็กๆ สำหรับคุณนายโหมว…” ชางหลิงรู้สึกขำ เธอก็ยืนเป็นเกียรติอยู่ตรงหน้าเธอนี่ไงล่ะ

“ฉันแนะนำให้เธอไปหาทางมีความสุขโดยเร็วที่สุดและไปเริ่มมีลูกใหม่อีกครั้ง ถ้าให้กำเนิดปีหน้า เธอก็ยังทำได้ก่อนที่เขาจะแก่เกินไป ให้เขาตั้งเป็นนางบำเรอห้องที่พัน” ชางหลิงพูดจบก็หันตัวเดินไปทันที

พูดกับคนแบบนั้น มันเสียเวลาของเธอ

“ชางหลิง!” ชางฉิงโกรธจนกระทืบเท้า “เธอรอฉันได้เลย!”

หลีซินช่วยเธอกดลิฟต์ ทั้งสองคนเข้าประตูไป ติดขาดเสียงของชางฉิงด้านนอก

เมื่อเห็นชางหลิงหอบหายใจแรงและไม่พูดอะไร หลีซินจึงสัมผัสจมูกกลั้นยิ้ม “พี่สะใภ้ครับ ที่คุณพูดเมื่อครู่เป็นความจริงเหรอครับ”

“อะไรที่ว่าจริงหรือปลอม” ชางหลิงหันไปมองเขา

“ที่ให้เธอไปเป็นนางบำเรอห้องที่พันของบอส คุณดูคุณหนูรองชางนั่นสิ หน้าตาโกรธใหญ่แล้ว” หลีซินถอนหายใจ เขาติดตามโหมวยู่มาหลายปี ก่อนหน้านี้คิดเสมอว่าเขาเป็นคนลิ้นพิษอันดับหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเมื่อมาเจอชางหลิง ถึงได้รู้ว่าที่แท้คนชั่วร้ายมีคนชั่วร้ายกว่าเป็นของตัวเอง

เดิมทีชางหลิงยังคงจดจ่ออยู่ที่ตัวชางฉิง แต่เมื่อหลีซินพูดอย่างนี้ แววตาของเธอก็เปลี่ยนไป “เมื่อคืนก่อน โหมวยู่เข้ามาที่นี่เหรอ”

“ฮะ?” หลีซินหันเหสายตาหนีทันที แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ผมไม่รู้ครับ”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท