ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 24 ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูก

บทที่ 24 ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูก

บทที่ 24 ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูก

ชิ! ชางหลิงไม่ชอบมองหน้าเหม็นๆ ของโหมวยู่นี่เลยจริงๆ ตัวเองยื่นมือไปเอาโทรศัพท์มือถือมา ทันทีที่เปิดเครื่อง ก็ต้องตกใจกับจำนวนสายที่ไม่ได้รับบนหน้าจอ

เรื่องที่เธอออกมาจากสถานีตำรวจชางหวยซูต้องรู้แล้วแน่นอน เพราะฉะนั้นถึงได้มีการ callมาเป็นฆาตกรต่อเนื่องแบบนี้

ชางหลิงอยากรู้ว่าพ่อเธอคนนี้คงจะไม่ได้มาแสดงความยินดีที่เธอหนีออกจากคุกหรอกใช่ไหม เธอจึงโทรกลับไปโดยตรง

สายเพิ่งเชื่อมต่อติด ฝั่งนั้นก็มีเสียงคำรามมาอย่างท่วมท้น ชางหลิงขมวดคิ้ว เอาโทรศัพท์มือถือออกห่างจากตัวเล็กน้อย

“ชางหลิง อย่าคิดว่าแกอยู่ข้างนอกได้ปีนขึ้นกิ่งไม้สูงแล้วจะสามารถทำให้ตระกูลชางของเราต่ำต้อยได้นะ ถ้าแกทำให้น้าจ้าวของแกเป็นอะไรไป ฉันจะถลกหนังแก!”

“จ้าวหลันจืองั้นเหรอ” ชางหลิงจับต้นชนปลายไม่ถูก “ทำไมคะ เธอก็แท้งลูกด้วยเหรอ”

“นังเด็กเลว! แกอย่ามาแกล้งทำเป็นโง่ ปกติน้าจ้าวของแกมักจะค่อนข้างเข้มงวดกับแก แต่แกมาทำร้ายเธอแบบนี้ได้ยังไง…”

ชางหลิงฟังชางหวยซูด่าทออยู่อีกฝั่ง ในที่สุดก็เข้าใจ

จ้าวหลันจือถูกทำร้าย ยังไม่รู้ว่าถูกใครทำร้าย ดังนั้นชางหวยซูจึงคิดว่าเธอเป็นคนทำ

ชางหลิงวางสายโทรศัพท์ จ้องโหมวยู่ด้วยสายตาเคลือบแคลงสงสัย

“คุณเป็นคนทำเหรอ” เธอถามเขา

โหมวยู่เลิกคิ้ว “เธอมองว่าฉันเป็นคนน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าเรื่องอะไร” ชางหลิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทันที

โหมวยู่เม้มปาก โอเค เขาคำนวณผิด ลืมไปว่าที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาคือสุนัขจิ้งจอกน้อยหนึ่งตัว

แต่ว่า เขาบอกว่าต้องการให้หลีซินสั่งสอนจ้าวหลันจือ ไม่ได้บอกให้เขาไปใช้ความรุนแรงปราบปราม

อืม…เด็กนี่มันน่าซ่อมให้เข็ดจริงๆ

“เยี่ยมจริงๆ” ชางหลิงอดไม่ได้ที่จะชมเขา “ครั้งต่อไปถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก อย่าลืมพาฉันไปด้วยนะ ฉันจะคอยเชียร์คุณอยู่ข้างๆ”

โหมวยู่ไม่เปิดตา น้ำเสียงจริงจัง “จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”

ชางหลิงบึนปาก ลุกขึ้นแล้ววิ่งหายวับออกไปทันที

“เธอจะไปไหน” โหมวยู่หรี่ตาเหลือบมองเธอ

“ช่วงเวลาที่เป็นพยานในเรื่องประวัติศาสตร์แบบนี้ โดยธรรมชาติแล้วต้องไปเยาะเย้ยต่อหน้าพวกเขา” ชางหลิงตอบเขาอย่างจริงจัง “ดีที่สุดคือการถ่ายแล้วส่งไปยังกลุ่มเพื่อน ให้เพื่อนสนิททุกคนของฉันดูสภาพแปลกใหม่ของจ้าวหลันจือ”

โหมวยู่พูดไม่ออก

“เอาล่ะ ฉันจะกลับมาช้าหน่อย อย่าลืมเก็บอาหารไว้ให้ฉันด้วยนะ” ชางหลิงโบกมือให้เขา

ที่จริงแล้วแผลเป็นหายดีก็ลืมเจ็บ เพิ่งถูกคนรังแกจนกลายเป็นแบบนั้น กลับจะไปแหย่รังแตนอีกครั้งทันที

โหมวยู่สงสัยว่าบทเรียนครั้งนี้ยังไม่ใหญ่พอเหรอ หรือบางที เขาควรจะไปตรวจสอบว่าวิชามวยกังฟูของหลีซินถดถอยหรือเปล่า

เผื่อว่าเมื่อเธอถูกทำร้ายครั้งต่อไปเขาจะจัดการไม่ได้

โรงพยาบาล

ชางหวยซูที่ถูกชางหลิงวางสายใส่ กระโดดโลดเต้นอย่างโกรธจัด

“นังสารเลวคนนี้ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”

บนตัวชางฉิงยังสวมชุดคนป่วย เธอเพิ่งผ่าตัดที่แท้ง เดิมทีก็อ่อนแออยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องเฝ้าอยู่ข้างเตียงจ้าวหลันจือ

เมื่อเห็นชางหวยซูโกรธมาก เธอจึงลุกขึ้นเข้ามาดึงแขนของชางหวยซู “คุณพ่อ คุณไม่ต้องโกรธแล้ว พี่สาวก็อารมณ์ร้ายแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตตราบใดที่เราไม่ตามเธอ ทุกครั้งเธอก็ก่อเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เหรอ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้…เธอจะทำร้ายฉันจนแท้ง ฉันมองในแง่ความสัมพันธ์พี่น้องจึงไม่ไปยุ่งกับเธอ แต่ในชั่วพริบตาเดียว ก็จ้างคนมาทำร้ายแม่ฉันแบบนี้… ” ชางฉิงพูดอย่างนั้นแล้วน้ำตาก็หยดแหมะๆ ลงมาอย่างรวดเร็ว

“เฮ้อ” ชางหวยซูเห็นชางฉิงเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น “ฉันเป็นพ่อที่ไร้ความสามารถ ให้พวกแกแม่ลูกต้องได้รับความเดือดร้อนขนาดนี้”

เขามองไปบนเตียง จ้าวหลันจือทั้งหัวบวมเล็กน้อย บนร่างกายมีผ้าพันแผลหลายแห่ง ตอนนี้นอนอยู่บนเตียง แม้แต่แรงจะพูดก็ไม่มี

“ที่รักของฉัน” โจวรุ่ยฟางก็เข้ามากอด ชางฉิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ลำบากเธอแล้ว ตอนนี้ลูกเธอเพิ่งแท้งไป แม่ของเธอก็ยังมาเกิดเรื่องอีก ย่ารู้สึกเจ็บปวดมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอไม่ต้องสนใจความเป็นพี่น้องอะไรนั่น คนอย่างชางหลิง ควรอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต!”

“โย่!” ชางหลิงเดินมาถึงด้านนอกเวลานั้นโดยบังเอิญ หลังจากฟังที่ย่าพูดจนจบแล้วจึงเข้าไป “ฉันก็อยากเข้าไปพักผ่อนในคุกสักพัก ซึ่งก็ต้องให้ชางฉิงกล้าส่งฉันเข้าไปเองนะ”

บรรยากาศในห้องเริ่มตึงเครียดจากการมาถึงอย่างกะทันหันของชางหลิง ชางหวยซูเห็นชางหลิง โดยไม่พูดอะไรก็ตรงดิ่งเข้าไปเพื่อจะตบเธอ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าถึง หลีซินที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอก็ออกมาหยุดมือของชางหวยซูไว้

“คุณท่านชาง คุณหนูชางมาเยี่ยมคนไข้ ที่นี่คือโรงพยาบาล เอะอะโวยวายมันไม่ดีนะ” หลีซินยิ้มกว้าง แต่ระดับความแรงของมือไม่ได้ลดลงเลย

“หึ มาเยี่ยมคนไข้ กลัวว่าแกจะมาเร็วไป ควรให้ครอบครัวนี้อยู่ในโรงพยาบาลให้ครบก่อนค่อยมา” ชางหวยซูดึงมือของตัวเองกลับมาอย่างเกลียดชัง

“ได้สิ” ชางหลิงตอบกลับไป “ฉันจะไปดูว่ามีห้องชุดสำหรับครอบครัวไหม พวกคุณครอบครัวห้าคนเข้าไปอยู่ ดูแลซึ่งกันและกันคลอเคลียกัน พอดีเลยหอบกันออกมาทั้งบ้านฉันจะได้ไปเปิดโรงไพ่นกกระจอก”

“แก…” ชางเจิ้งตงที่นั่งอยู่นั้นถูกเธอทำให้โกรธจัดในฉับพลัน แม้แต่ลมหายใจก็ติดขัด “หวยซู คุณรีบจัดการนังชั้นต่ำนี่ออกไปเร็ว!”

ชางหลิงเหลือบมองไปยังเตียงผู้ป่วย เห็นหัวจ้าวหลันจือบวมเหมือนหมู ไม่ต้องพูดถึงว่ามันเนียนแค่ไหน

“คุณคิดว่าฉันมายากนักเหรอ” ชางหลิงมองตาขวาง ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับชางฉิง

ชางฉิงหวาดกลัวจนตัวสั่นเพราะสายตาแบบนี้ของเธอ ไม่รู้ว่าโหมวยู่มีการให้ชางหลิงดูกล้องวงจรปิดหรือไม่ จึงไม่กล้าบุ่มบ่าม

“น้องสาวคนดี ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเธอที่ไม่ได้เอาความเลย ยังค่อนข้างแปลกใจอยู่นะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากเธอคว้าโอกาสได้ขนาดนี้ คงเอาฉันถึงตายไปแล้ว ทำไม ครั้งนี้เธอค้นพบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีแล้วเหรอ” ถึงแม้ชางหลิงจะไม่ได้รู้จากโหมวยู่ว่าเพราะอะไรกันแน่เธอถึงปล่อยเธอไป แต่เธอแน่ใจว่าชางฉิงไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาข่มขู่เธออีก

เป็นอย่างที่คาดไว้ ชางฉิงไม่มีการกระด้างกระเดื่องกับเธอ และขยำชายเสื้อของชางหวยซู “คุณพ่อคะ…”

“แกไสหัวไปให้พ้น!” ชางหวยซูชี้นิ้วไปทางประตู

“ทำไมฉันต้องไสหัวไป ครอบครัวของฉันอยู่ที่นี่ทั้งหมด พวกคุณมาได้แล้วฉันมาไม่ได้เหรอ” ชางหลิงยิ้มเยาะ “ฉันเห็นคุณส่งคำด่าสาดเสียเทเสียในสายมาถึงประตูบ้าน ทำไม จบแล้วเหรอ คุณไม่อยากด่าอีกหรือไง”

“ครอบครัวงั้นเหรอ” ชางหวยซูถลึงตาจ้องเธออย่างดุร้าย “แกเอาพวกเราเป็นครอบครัวด้วยเหรอ ทำร้ายน้องสาวแกจนแท้ง ตบตีน้าจ้าวของแกจนเข้าโรงพยาบาล ครั้งต่อไปต้องทำฉันโกรธจนตายใช่ไหม”

ชางหลิงเชิดหน้าขึ้นไปเผชิญกับชางหวยซู “ถ้าการที่คุณโกรธจนตายทำให้แม่ของฉันกลับมามีชีวิตได้ งั้นฉันก็จะทำมันอย่างแน่นอน”

ว่ากันว่าถ้ามีแม่เลี้ยงก็จะมีพ่อเลี้ยง ประโยคนี้ไม่ผิดเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้ มันจะดีกว่าที่เธอจะไม่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลชาง มันจะดีกว่าหากคุณแม่หย่าแล้วพาเธอไปใช้ชีวิตยากลำบาก ก็ดีกว่าตอนนี้ที่แม่ตายไป ส่วนเธอคนรอบข้างตีตัวออกห่าง

“แกจะคาใจไปจนถึงเมื่อไร! แม่แกฆ่าตัวตาย! ไม่มีใครที่นี่บังคับให้แม่แกเอามีดเฉือนตัวเอง” โจวรุ่ยฟางสอดปากเข้ามา “ตัวแกก็มีเลือดตระกูลชาง ไหลเวียนอยู่ ทำไมโตขึ้นมาเป็นร่างที่มีแค่กระดูก จำเป็นต้องทำลายครอบครัวเราให้แตกแยกด้วยเหรอ”

“ไม่ได้บังคับเธองั้นเหรอ” ชางหลิงยิ้มขมขื่น “นั่นสิ เป็นไปได้เหรอที่พวกคุณจะยอมรับว่าพวกคุณบังคับเธอ เหมือนที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ มันเป็นไปได้ยังไงที่พวกคุณจะยอมรับว่าบังคับฉัน พวกคุณแค่คิดว่าทุกอย่างเป็นพวกเราที่ผิดเอง แม่ฉันผิดพลาดเองที่ปล่อยให้พ่อนอกใจ แถมยังไปช่วยเขาเลี้ยงลูก จนสุดท้ายก็เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ฉันผิดเองที่พาหยูเฉินกลับมาบ้าน เลยทำให้เขาได้รู้จักชางฉิง จนเมื่อตอนจะแต่งงานก็ถูกทรยศหักหลัง…”

“แกไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว” ชางหวยซูขัดจังหวะคำพูดของเธอ “ในเมื่อแกเกลียดชังตระกูลชางมากนัก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูก!”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท