บทที่ 21 เด็กไม่ใช่ของหยูเฉิน
ชางฉิงรับมาแล้วเอาช้อนคนซุปในชาม “ชางหลิงเธอคิดว่าเอาบัตรผ่านของnovaมาได้ก็รู้สึกว่ายอดเยี่ยมแล้ว แต่ยังไงการคบกับหลีซินมันก็แค่จิ๊บจ๊อย คุณชายรองโหมวคนนั้นสิถึงจะเป็นผู้มั่งคั่งที่อยู่เบื้องหลัง เขามาหาฉันถึงหน้าประตูเพื่อเชิญฉันด้วยตัวเอง ตราบใดที่ฉันเข้าสู่บริษัท เซิ่งซื่อ กรุ๊ปไป ก็ยังไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเขาอีกหรือไง”
“แกต้องการกับโหมวยู่…” จ้าวหลันจือตื่นเต้นขึ้นมาฉับพลัน เสียงดังขึ้นเล็กน้อย ชางฉิงเหล่มองเธอ จ้าวหลันจือกุมปากทันที แล้วกระซิบพูดว่า “แกต้องการลงมือกับโหมวยู่เหรอ แต่ได้ข่าวว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงไม่ใช่เหรอ”
ชางฉิงยิ้มอย่างถือดี “ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่ชอบผู้หญิงจริงๆ แต่ผู้หญิงโง่พวกนั้นไม่เจอวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น คุณดูอย่างหยูเฉินสิ ตอนแรกก็ยังมีท่าทีสาบานรักมั่งคงดั่งภูเขาและทะเลกับชางหลิง แล้วตอนนี้ล่ะ”
จ้าวหลันจือก็ยิ้มทันที ส่งสายตาเห็นด้วยไปให้ชางฉิง “ยังเป็นลูกสาวที่เก่งกาจของฉันเหมือนเดิม ถ้าหากแกปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงตระกูลโหมวได้ ตระกูลชางกับตระกูลหยูจะสำคัญอะไร ลูกสาวจ๊ะ แม่รอเป็นแม่ยายตระกูลโหมวแล้วนะ”
แค่คิดถึงสรรพนามนี้ จ้าวหลันจือก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เมื่อถึงตอนที่โหมวยู่จัดงานแต่งงานที่สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งเมืองให้ชางฉิง ที่เธอเสียหน้าไป จะต้องได้กลับมาทั้งหมด
“งั้นชางหลิงล่ะ แกวางแผนจะทำยังไง” จ้าวหลันจือต้อนถามเธอ “นังเด็กสารเลวนั่นได้ยินว่าตอนนี้ถูกนำไปขังในสถานีตำรวจแล้ว เธอกัดฟันจนตายก็ปฏิเสธไม่ยอมรับ ตำรวจก็ไม่มีวิธีจัดการเธอ”
“คุณวางใจได้เลย” ชางฉิงคืนชามซุปให้จ้าวหลันจือ “เธอฆ่าคนตาย และเป็นหลานชายคนโตของตระกูลหยู ฉันแค่ต้องร้องไห้ต่อหน้าหยูเจิ้งหงและภรรยาเท่านั้น โดยธรรมชาติแล้วมันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น”
“ในเมื่อเข้าไปแล้ว ตลอดกาลเธอก็อย่าคิดจะออกมา!” สีหน้าของชางฉิงโหดเหี้ยมมาก
ชางหลิงทะเลาะกับเธอตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลชาง ทุกอย่างต้องทำได้เด่นกว่าเธอ แต่แล้วมันอย่างไรล่ะ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นได้แค่มดอ่อนแอ เธออยากจะเหยียบย่ำอย่างไรก็เหยียบย่ำ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นนอกห้องพักฟื้น จ้าวหลันจือวางชามซุปลงแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิดออก เห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ก็เกิดความหวาดกลัวจนอ้าปากค้างหุบไม่ลง
“คุณ…คุณชายรองโหมว” จ้าวหลันจือไม่อยากจะเชื่อว่าโหมวยู่จะหาห้องพักฟื้นเจอด้วยตัวเอง หรือว่าเขาจะสนใจชางฉิงจริงๆ
ชางฉิงได้ยินเสียงอุทานของแม่ตัวเองก็รีบนั่งตัวตรง แม้แต่หัวใจก็เต้นเร็วขึ้นหลายส่วน
“คุณหญิงชาง” ฉู่ฉือที่อยู่ข้างโหมวยู่เดินขึ้นหน้ามาก่อน เอาอาหารเสริมที่นำมาด้วยยื่นให้ “คุณชายรองได้ยินว่าคุณหนูรองชางเกิดเรื่อง จึงมาเยี่ยมเป็นพิเศษ น้ำใจเล็กน้อย หวังว่าจะรับไว้”
“รับค่ะ รับๆๆ” จ้าวหลันจือพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าว
จ้าวหลันจือหันกลับไปส่งสายตาให้ชางฉิง ชางฉิงจัดเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเอง เห็นโหมวยู่เดินเข้าประตูมา
ครั้งก่อนที่เห็นเขาในรถด้านนอกตระกูลชางแวบๆ ชางฉิงไม่มีโอกาสได้เห็นโหมวยู่อย่างชัดเจน ตอนนี้ทันทีที่ได้เห็น ไอแข็งแกร่งที่มารอบตัวเขาและรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาทำให้เธอทึ่ง
นี่คือโหมวยู่…ผู้นำตระกูลโหมว
ก่อนหน้านี้ได้แต่เป็นคนที่มองจากระยะไกล วันนี้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมาหาเธอที่ห้องพักฟื้นอย่างนั้นหรือ
“คุณชายรอง” ชางฉิงเรียกเขาเสียงอ่อนเสียงหวาน
โหมวยู่ไม่ได้ตอบ ดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ แล้วนั่งลงช้าๆ
“ชางฉิงเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ลำบากคุณชายรองมาที่นี่ด้วยตัวเอง ปลื้มใจมากค่ะที่ได้รับความกรุณาอย่างไม่คาดฝันเช่นนี้”
โหมวยู่หยิบไฟแช็กออกมาจากกระเป๋า เล่นมันไปมาเกิดเสียงดังคลิกๆ
“ถอนฟ้อง” เขาไม่ได้เลื่อนสายตาขึ้น เอ่ยปากพูดบางเบา
“คะ?” ชางฉิงไม่เข้าใจ
“เลิกฟ้องชางหลิง” โหมวยู่ให้ความอดทนกับเธออย่างน่าแปลกใจ
ความคาดหวังของชางฉิงค่อยๆ ถดถอยจนกลายเป็นคลางแคลงใจ
“คุณชายรองมาที่นี่เพื่อขอร้องให้ชางหลิงเหรอคะ” ชางฉิงถามเขา แต่เมื่อลองคิดดูก็รู้ โหมวยู่กับหลีซินเป็นเพื่อนร่วมรบ ต่อให้เห็นแก่หน้าของหลีซิน การที่โหมวยู่มาที่นี่สักครั้ง มันก็คงจะไม่น่าแปลกใจ
“แต่ว่า คุณแจ้งตำรวจเองไม่ใช่เหรอคะ” ชางฉิงยิ้มแย้ม “พี่สาวทำร้ายฉันจนกลายเป็นแบบนี้ ฉันแค่บอกความจริง ถึงตอนที่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เป็นเรื่องของตำรวจ”
ไฟแช็กในมือโหมวยู่ขัดเปลวไฟออกมาแล้วเขาก็หยุดการเคลื่อนไหว เลื่อนสายตาขึ้นเล็กน้อย ประกายเย็นเยือกในดวงตาคู่นั้นทำให้ชางฉิงสั่นสะท้านเล็กน้อย
ฉู่ฉืออธิบายด้วยความสงบนิ่ง “ครึ่งปีก่อน ผู้หญิงคนหนึ่งทำสร้อยเพชรอันมีค่าหายในห้องน้ำของคลับ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นอีก บนกระจกอ่างล้างมือของเรา จะติดกล้องวงจรปิดความละเอียดสูงซ่อนไว้”
สีหน้าของชางฉิงซีดเผือดฉับพลัน
ในห้องน้ำมีกล้องวงจรปิดด้วยงั้นเหรอ เช่นนั้นไม่ใช่ว่าการสนทนาและการเคลื่อนไหวของเธอกับชางหลิงถูกถ่ายไว้ทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ ชางฉิงกับจ้าวหลันจือมองหน้ากัน ทั้งสองตื่นตระหนกลุกลี้ลุกลนขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“คุณชายรอง คุณ…คุณคิดจะทำอะไร” ชางฉิงค่อนข้างหวาดระแวง
“ฉันบอกไปแล้ว ถอนฟ้อง” โหมวยู่ปิดฝาไฟแช็ก เปลวไฟพลันดับวูบลงฉับพลัน “ไม่มีใครสามารถกลับดำเป็นขาวในเขตพื้นที่ของผมได้”
“คุณชายรอง ยังไงมันก็เป็นเรื่องในตระกูลของเรา คุณ…” ชางฉิงไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของโหมวยู่ “คุณทำเพื่อคุณหลีงั้นเหรอคะ”
คุณหลีงั้นเหรอ
โหมวยู่เลิกคิ้วตา “คุณไม่ต้องสนใจว่าผมทำเพื่อใคร แค่อยากเตือนคุณหนูรอง การเข้าบริษัท เซิ่งซื่อ กรุ๊ปได้ เงื่อนไขแรกคือต้องมีประวัติสะอาดบริสุทธิ์ การใส่ร้ายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผมเชื่อว่า คุณคงจะเข้าใจความหมายของผม”
ชางฉิงกะพริบตาปริบๆ ประมวลผลคำพูดของโหมวยู่
เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่ได้มาเพื่อขอร้องชางฉิง แต่หวังว่าเธอจะไม่ทำลายอนาคตของตัวเองเพราะชางหลิง
“คุณชายรอง คุณกำลังบอกว่า ตราบใดที่ฉันไม่เอาความชางหลิงอีก คุณก็จะให้ฉันเข้าบริษัท เซิ่งซื่อ กรุ๊ปเหรอคะ”
โหมวยู่ลุกขึ้น ไม่มีการตอบสนองในเชิงบวก เพียงหันมาเหลือบมองเธอบางเบา พร้อมกับรอยยิ้มที่มีความหมายที่อ่านยาก