บทที่ 23 เป็นภรรยาฉันอย่างเชื่อฟัง
ทันทีที่หยูเจิ้งหงเดินออกไป ชางหลิงก็ถอนหายใจโล่งอก ทรุดนั่งลงกับพื้น
เกิดอะไรขึ้น ทำไมหยูเจิ้งหงจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกะทันหัน
เธอตะเกียกตะกายไปชิดลูกกรงเหล็ก พิงมันพลางมองออกไปอย่างระแวดระวัง
ซึ่งไม่รู้ว่าเธอต้องอยู่ที่นี่นานแค่ไหน กระทั่งสุดท้ายแล้วเธอจะติดด้วยข้อหาแบบไหน
ชางหลิงไม่เคยรู้สึกไร้ความสามารถเช่นนี้มาก่อน ปกติเธอมีนิสัยไม่คิดอะไรมาก คิดอะไรก็ทำอย่างนั้น โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา แค่อยากมีความสุข ณ ช่วงเวลานั้น ดังนั้นเพื่อเปิดโปงความชั่วร้ายตอนนั้นจึงต้องสร้างความอับอายให้กับสองตระกูลทั้งชางและหยูต่อหน้าผู้คนเช่นนั้น
แต่ผลที่ตามมาคือ เธอถูกแก้แค้นส่วนตัวโดยอาศัยอำนาจส่วนรวม ขังไว้ที่นี่ ถูกตั้งข้อหาที่เป็นเท็จ แม้ความสามารถในการต่อต้านก็ไม่มี
ชางหลิงกำลังคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีสองร่างสูงใหญ่เข้ามาใกล้เธอแล้ว
หลังไหล่ของโหมวยู่บดบังแสงจากภายนอก ชางหลิงอยู่ท่ามกลางเงามืด เธอเงยหน้าขึ้น ได้พบกับดวงตาที่ลึกล้ำ
“คุณมาทำอะไร” ชางหลิงชำเลืองมองเขา และออกห่างจากตัวเขา
เธอไม่ได้ลืมว่าโหมวยู่เป็นคนแจ้งตำรวจให้เข้ามาจับเธอด้วยตัวเอง
โหมวยู่ยืนสูงและมองลงมายังเธอผ่านประตูเหล็ก
“อยากออกไปไหม” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ
ชางหลิงหันหน้าหนี ไม่ตอบเขา
“ฉันปล่อยเธอออกมาได้ นอกจากนี้ยังรับประกันได้ว่าชางฉิงกับตระกูลหยู จะไม่ใช้เรื่องนี้มาวอแวกับเธออีก” โหมวยู่พูดต่อ ชางหลิงขยับสายตา นิ้วไม่กระชับตามธรรมชาติ
“เพียงแต่เธอเต็มใจจะถูกรังแกตลอดไปหรือเปล่าล่ะ สิ่งที่พวกเธอขโมยไป เธอไม่อยากชิงกลับมาเหรอ” ทันทีที่โหมวยู่พูดจบถึงคำสุดท้าย ชางหลิงก็หันหน้ามามองเขา
เขายังคงเป็นแบบนั้น ท่าทางไม่แยแส แต่มุมปากกลับมีร่องรอยเจ้าเล่ห์ เหมือนว่าทุกอย่างล้วนมีแผนอยู่ในใจ
“คุณ…คุณจะช่วยฉันเหรอ” ชางหลิงไม่กล้ามั่นใจ
“สมมติว่า เธอต้องเป็นภรรยาของฉันอย่างเชื่อฟัง ในอนาคตห้ามพูดเรื่องหย่า” โหมวยู่เสนอเงื่อนไขของตัวเองออกมา
ชางหลิงยิ่งสงสัยหนักขึ้น ที่เขาต้องการคือสิ่งนี้จริงเหรอ “ทำไมคุณไม่หย่า” ชางหลิงถามเขา
“คุณมีคู่หมั้น ไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับฉัน เราทั้งคู่เป็นคนแปลกหน้าโดยสมบูรณ์ คุณมีเหตุผลอะไรที่จะไม่หย่า” ชางหลิงไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองมีคุณสมบัติอะไรไปเป็นคุณนายโหมว
“สำหรับฉันแล้ว ช่วยเธอแก้แค้นมันก็แค่เรื่องงกล้วยๆ แต่การเปลี่ยนภรรยา มันยุ่งยากเกินไป” โหมวยู่พูดบางเบา ชางหลิงมองอารมณ์ความรู้สึกของเขาไม่ออก
“มันต้องมีกำหนดเวลาสิ หรือว่าคุณจะใช้เวลากับฉันตลอดไปขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาคงไม่อยากผูกมัดเธอไว้ข้างตัวไปตลอดชีวิตจริงๆ หรอกใช่ไหม
“สองปี” โหมวยู่เอ่ยปาก “ภายในสองปี ฉันเท่านั้นที่สามารถคิดจะยกเลิกการแต่งงานได้ หลังจากสองปี ถ้าเธอเบื่อจะเป็นคุณนายโหมว ฉันจะปล่อยเธอไป”
ชางหลิงขมวดคิ้ว จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า
“งั้นคุณต้องสัญญากับฉัน หากไม่ได้รับความยินยอมจากฉัน ห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา คุณอยู่ในฐานะผู้ปกครองของตระกูล ต้นไม้ใหญ่ต้านลม ฉันกลัวถูกคนอิจฉา ตายตั้งแต่อายุยังน้อย” เขาพูดขนาดนั้น เหมือนว่าตนไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้เลยจริงๆ
“แล้วแต่เธอ” โหมวยู่ไม่ได้โต้แย้ง
ชางหลิงหันมองรอบห้องมืดสลัว คิดทบทวนถึงคำพูดหยาบคายเลวร้ายที่คนเหล่านั้นพูดกับเธออีกครั้ง หลังจากลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็ยืดตัวขึ้น ตบปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า
เธอต้องชิงเอาสิ่งที่เป็นของเธอกลับคืนมา สืบหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของแม่ และให้ความยุติธรรมกับเธอ! ชางฉิง กับจ้าวหลันจือ! พวกเธอรอได้เลย!
ชางหลิงตามโหมวยู่กลับไปที่nova อยู่ที่สถานีตำรวจหนึ่งวันหนึ่งคืน อิสรภาพที่เสียไปกลายเป็นการได้รับสิ่งที่มีค่ามาก
“นี่” เมื่อเห็นโหมวยู่นั่งอยู่บนโซฟา ชางหลิงก็เดินไปสะกิดไหล่เขาเหมือนสุนัข “คุณชายรอง คุณบอกฉันได้ไหม คุณใช้วิธีอะไรเกลี้ยกล่อมให้ชางฉิงละทิ้งการแจ้งความเท็จกับฉัน” เธอรู้จักคนอย่างชางฉิง สามารถทำให้เธอไม่ได้รับการสอบสวน ไม่ว่าจะด้วยการให้ผลประโยชน์ หรือมีหลักฐานเอาผิดเธอได้
ถ้าเป็นอย่างหลัง ตราบใดที่มีหลักฐานเอาผิดเธออยู่ในมือของเธอ ยังจะต้องกลัวเหรอว่าเธอจะไม่ตาย แต่เห็นได้ชัดว่าโหมวยู่ไม่อยากคุยกับเธอ แค่ดูโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ไม่มีการตอบ
“คุณชายรอง” ชางหลิงเขย่าแขนของเขา น้ำเสียงนุ่มนวลและออดอ้อน “คุณบอกฉันหน่อยนะ”
โหมวยู่วางโทรศัพท์มือถือลง ก่อนจะยื่นมือไปดึงชางหลิงที่วุ่นวายอยู่ข้างตัวเขาเข้ามา แล้วบังคับให้เธอนั่งบนตักของเขา
“คุณกำลังจะทำอะไร” ชางหลิงเริ่มตึงเครียด
“กำลังหารูปแบบการติดสินบนที่เหมาะสม” รอยยิ้มของโหมวยู่เลวร้ายมาก เห็นได้ชัดว่าเจตนาไม่ดี
ชางหลิงเบะปาก “แม้ว่าฉันจะตกลงมีพันธะกับคุณสองปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะขายตัวนะ”
“หืม” โหมวยู่กอดเธอเอาไว้แน่น “งั้นเธอคิดว่าเธอยังมีอะไรอีกที่สามารถขายได้” ชางหลิงครุ่นคิดอย่างจริงจัง ดูเหมือนว่าที่พูดก็ถูก
ตอนนี้เธอยากจนและว่างเปล่า มันเป็นความจริงที่ไม่มีสิ่งของอะไรจะหยิบจับออกมาได้เลย
“อีกอย่าง เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉันอยากทำยังไงกับเธอ เธอคิดว่าเธอสามารถต่อต้านได้เหรอ” โหมวยู่เหยียดยิ้มชั่วร้าย ชางหลิงหวาดกลัวจนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เป็นความจริงที่เธอไม่สามารถต่อต้านได้ ตามฐานะของโหมวยู่ อยากนอนกับใครมีหรือจะไม่ได้ ไหนเลยจะยังมีที่ว่างให้เธอปฏิเสธ
“บังคับแต่งงาน ใช้ความรุนแรง…และก็ต้องถูกตัดสินลงโทษด้วย” ชางหลิงพูดอย่างอ่อนแรง
โหมวยู่เลื่อนสายตาขึ้น ดวงตาล้ำลึกลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย ชางหลิงรีบหลับตาและยิ้มอย่างเขินๆ “ฉัน ฉันฉันล้อเล่นน่ะ ตอนนี้คุณชายรองเป็นผู้อุปถัมภ์ของฉัน คุณให้ฉันไปทางทิศตะวันออกฉันก็ไม่กล้าไปทางทิศตะวันตก คุณให้ฉันเช็ดพื้น ฉันก็จะไม่มีทางดื้อดึงแน่นอน”
โหมวยู่คลายมือ ส่วนชางหลิงก็หนีจากการควบคุมของเขาเป็นอันดับแรก กระโดดไปที่โซฟาอีกตัวทันที
“ฉันสัญญากับชางฉิงเอาไว้ เรื่องนี้ให้ผ่านไปอย่างนี้ โดยธรรมชาติแล้วจะไม่มีการรื้อฟื้นอีก” โหมวยู่ไม่มีการแสดงออกทางสีหน้า “ถ้าเธอต้องการแก้แค้น ต้องคิดหาวิธีด้วยตัวเอง”
“อะไรเรียกว่าคิดหาวิธีเอง แต่คุณชายรองโหมว คำพูดของคุณได้ผลมากกว่าอะไรทั้งหมด เป็นทางลัดที่ยอดเยี่ยมตรงหน้าฉัน แล้วทำไมฉันต้องอ้อมไปไกลด้วยล่ะ” คู่ดวงตารูปแอปริคอทของชางหลิงเบิกกว้างอย่างโกรธๆ
โหมวยู่เงยหน้าขึ้นมองเธอ “ฉันบอกว่าช่วยเธอแก้แค้น ไม่ได้บอกว่าแก้แค้นให้เธอ เธอถือบัตรผ่านของ nova สิ่งแรกที่คิดได้แค่การเอาไปอวดต่อหน้าพวกเขา สุดท้ายก็ทำให้หยูเจิ้งหงไม่พอใจ ต่อให้ตอนนี้ฉันจะชิงบริษัทของตระกูลชางมาให้เธอ แล้วเธอสามารถบริหารได้เหรอ”
“คุณ…” ชางหลิง อยากจะโต้แย้ง แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้วเขาก็พูดถูกจริงๆ เธอไม่รู้วิธีการบริหาร แย่งชิงเอามาได้อย่างมากที่สุดก็แค่มาหายใจทิ้ง และสิ่งที่ตามมาก็คือการให้ชางหวยซูระดมญาติพี่น้องตระกูลชางมารบกวนเธอทั้งวันทั้งคืนแน่ ไม่แน่ว่ายังทำให้พวกจ้าวหลันจือเป็นสุนัขจนตรอกด้วย
เห็นชางหลิงสมองตาย โหมวยู่จึงส่งเสียงเยาะเบาๆ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลีซินจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดของเธออย่างเหมาะสม”
ความปีติยินดีบนใบหน้าของชางหลิงถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาหมายความว่าไม่ใช่แค่ตัวแทน แต่ต่อไปหลีซินจะเป็นลูกน้องคอยติดตามเธอใช่ไหม งั้นต่อจากนี้เธอก็อาจจะเป็นเหมือนเขาที่อยู่ด้านหน้าฉู่ฉือ เป็นผู้มีอำนาจอยู่ด้านหน้าหลีซินมันโคตรเจ๋งเลยไม่ใช่เหรอ
โหมวยู่ไม่รู้ว่าในหัวของชางหลิงคิดอะไรอยู่ แต่ดูจากสีหน้าของเธอแล้วไม่เหมือนเป็นเรื่องดี ก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือของชางหลิงออกมาจากกระเป๋าเสื้อและวางตรงหน้าเธอ
“การ์ดโทรศัพท์มือถือของเธอทำขึ้นใหม่แล้ว หลังจากนี้ เธอจะโทรหาฉันเมื่อไรก็ได้ที่ต้องการ”