บทที่ 38 ดอกไม้ของคุณชาง
เมื่อคืนก็โดนโหมวยู่รบกวนจนนอนไม่หลับทั้งคืน ตอนบ่ายชางหลิงก็พยายามอดกลั้นกับความง่วงเหงาหาวนอน
“หลิงหลิง” ซูเสี่ยวเฉิงเคาะโต๊ะของเธอ “แกเป็นอะไรไป? วันแรกมาทำงานก็มานั่งหาวเลยเหรอ เดี๋ยวถ้าผู้อำนวยการรู้เรื่องเข้าแกเสร็จแน่”
ชางหลิงเหมือนงัวเงียเพิ่งตื่น และนวดหน้าตัวเอง “ฉันไปห้องน้ำทำให้มันสดชื่นขึ้นหน่อย”
เดี๋ยวคืนนี้กลับไป เธอต้องตั้งกฎอย่างเป็นธรรมกับโหมวยู่แล้ว วันทำงานต้องแยกเตียงนอน!
ชางหลิงกำลังเตรียมตัวไปล้างหน้า เพิ่งจะมาถึงหน้าประตูห้องน้ำเอง ก็เจอกับคนที่เธอไม่อยากเจอหน้าที่สุด
ชางฉิงยืนกอดอกพิงหน้าประตู พร้อมทั้งรอยยิ้มได้ใจเหมือนดูละครอยู่
โลกกลมจริงๆ เจอศัตรูอีกแล้ว
ชางหลิงไม่อยากสนใจเธอ กำลังเดินมองข้ามเธอและเดินผ่านไป ทว่าชางฉิงรีบประจันหน้ากับเธอทันที เพื่อขวางทางเดินเธอเอาไว้
“พี่สาว อย่าทำตัวเหินห่างแบบนี้สิ เห็นฉันก็ไม่ทักทายฉันสักคำ”
ชางหลิงจ้องมองเธอกลับอย่างกินเลือดกินเนื้อ “แกอยากจะทำอะไร? ในท้องก็ยังมีอีกคนเหรอ? วันนี้ถึงได้มีเวลามายุ่งอยู่บนหัวฉันได้อีก?”
ชางฉิงถูกเธอพูดเช่นนี้ใส่ จนทำให้สีหน้าดูไม่ได้ “คำพูดของพี่สาวนี่มันช่างทำร้ายคนแล้วแหละ ฉันก็แค่มาแสดงความยินดีกับการที่พี่เข้ามาในเซิ่งซื่อได้สำเร็จ ทำไมพี่ต้องมาก้าวร้าวแบบนี้ด้วยล่ะ?”
“แสดงความยินดีกับฉัน?” ชางหลิงได้แต่ยิ้ม “คำพูดพวกนี้ออกมาแล้วตัวแกเองเชื่อไหมล่ะ? เลิศหรูจริงๆ เลย ถึงได้พูดได้น่าฟังขนาดนี้?”
ชางฉิงเหมือนได้ชัยชนะ “แกนี่มันเข้าใจฉันผิดจริงๆ เลย แต่ว่า ฟังคนอื่นพูดว่า ยิ่งรู้สึกว่าคนอื่นเลิศหรูเมื่อไหร่ นั่นก็เพราะว่าตนเองด้อยค่าอะไรอยู่ พี่สาว ไม่ใช่เพราะว่าพี่เห็นว่าฉันเป็นนักออกแบบเหรียญทองเลยเกิดความรู้สึกไม่สบายใจใช่ไหม”
“นักออกแบบเหรียญทองของแกจะเป็นได้ยังไงแกไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยเหรอ?” ชางหลิงพูดตอกกลับเธอ
“จะมาเป็นได้ยังไงมันไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ ที่สำคัญคือตอนนี้ฉันอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าแก ฉันสามารถจัดการได้ว่าแกจะอยู่หรือไป ทางที่ดีที่สุดก็คือยอมรับความจริงซะ” ชางฉิงพูดอย่างจองหอง “เอ่อ อีกอย่าง เพื่อยินดีกับการที่ฉันเข้ามารับตำแหน่งได้สำเร็จ พ่อได้จัดงานเลี้ยงให้ฉันด้วยแหละ แต่ช่างน่าเสียดาย ที่แกไม่มีโชคในการเข้าไปร่วมงานแล้ว”
ชางหลิงกำหมัดแน่น พร้อมทั้งรู้สึกโกรธจริงๆ จนทนไม่ไหวที่จะเข้าไปดึงหนังหน้าจอมปลอมของชางฉิงออก
“แกอยู่สูงเหนือชั้นกว่าฉัน ฉันเองก็ยอมรับ แต่คนที่จะตัดสินใจฉันให้อยู่หรือไป…..แกลองดู? คะแนนมืออาชีพอย่างแกเป็นอย่างไรไม่ต้องให้ฉันพูดมาก ฉันว่า แกลองพิจารณาดูตัวเองให้ดีๆ ก่อนไหม อย่าลงทุนไว้สูงแล้วหายวับไปกลับตา ปืนขึ้นไปสูง ล้มลงมามันเจ็บมากนะ”
“ฉันรู้ว่าปากแกเก่ง” ชางฉิงจัดท่าของตนเอง “แกคอยดูแล้วกัน ดูสิว่าฉันจะล้มลงก่อน หรือว่าแกจะถูกไล่ออกจากเซิ่งซื่อก่อน”
ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน นัยน์ตามีแต่รัศมีระเบิดกองเพลิง
“ไม่ทราบว่า คุณชางอยู่ที่นี่ไหม?” หญิงสาววัยรุ่นรูปร่างสูงเพรียวถือดอกกุหลาบสีแดงสดหนึ่งช่อเดินมายังด้านหน้าของเคาน์เตอร์ชั้นสาม จนสามารถเรียกความสนใจชางฉิงกับชางหลิงของทั้งสองคนไปได้ พร้อมทั้งมุ่งหน้าไปทางนั้นแบบไม่ได้นัดหมาย
“เลขาฯ ฉิน?” พนักงานหน้าเคาน์เตอร์เมื่อเห็นฉินเลี่ยงเลี่ยงก็ตกใจทันที เพราะว่าเธอเป็นเลขานุการของโหมวยู่ โดยปกติแล้วก็ยากที่จะได้เจอ ทำวันนี้ถึงหอบเอาดอกไม้มาส่งที่พวกเธอที่นี่ได้นะ?
ความเงียบงันไปชั่วขณะของที่นี่ทำให้สายตาของทุกคนเพ่งมองออกไป ชางหลิงหรี่ตาลง เพราะไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น?
ฉินเลี่ยงเลี่ยงหันกลับมา พร้อมทั้งกวาดตามองมาที่ตัวเธอ แล้วยิ้มให้ “คุณชาง นี่เป็นดอกไม้ที่ท่านประธานโหมวนำมามอบให้กับคุณ ยินดีต้อนรับสู่เซิ่งซื่อ”
ชางหลิงตื่นเต้นอยู่ชั่วครู่ โหมวยู่กำลังทำอะไรอยู่ ผู้ชายแข็งทื่อพรรค์นั้น ยังส่งดอกไม้ให้ตนเองอีก? เป็นการขอโทษเหรอ?
เธอกำลังยื่นมือออกไป ทว่าชางฉิงที่อยู่ด้านข้างพลางก้าวเท้าไปด้านหน้า ภายใต้การจับจ้องของชางหลิง ก็จัดการรับดอกไม้สดไปจากมือของฉินเลี่ยงเลี่ยง
“น่าอายเชียว แถมต้องให้เลขาฯ ฉินมาส่งด้วยตนเองอีก” ชางฉิงยิ้มหน้าบาน
“เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว” ฉินเลี่ยงเลี่ยงตอบกลับอย่างมีมารยาท “คุณชางไม่ต้องเกรงใจ”
มืออันผิดหวังของชางหลิงวูบหล่นลงไป
คุณชาง…เอ่อ เธอลืมไปซะสนิท ชางฉิงก็แซ่ชางนี่?
คนในทั้งออฟฟิศทุกคนต่างมองมาทางพวกเธอ ในสายตาของพวกเขามีแต่อาการตกใจอย่างเต็มเปี่ยม และยังมีอีกหลายคน ตอนที่มองมาทางชางหลิงยังส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยให้อีก
คุณชายรองโหมวเขาส่งดอกไม้ให้ชางฉิง แต่ชางหลิงดันอยากจะออกหน้าไปรับไว้แทน คงไม่คิดว่าส่งให้ตัวเองล่ะมั้ง
ชางหลิงรู้สึกอาย จนหน้าแดงเป็นปื้น
เลขาฯ ฉินที่ส่งเสร็จแล้วก็ไป ชางฉิงกอดช่อดอกไม้จากนั้นก็ก้มลงไปดมฟอดใหญ่ พลันหันกลับมาเหล่ตามองชางหลิง เมื่อเห็นความเขินอายของเธอแล้ว ในใจของชางฉิงรู้สึกสบายใจมาก
“นี่ แกว่าไหมคุณชายรองนี่ก็จริงๆ เลย คราวหน้าก็เขียนชื่อว่าส่งให้ฉิงฉิงก็หมดเรื่องแล้วนี่ เขียนว่าคุณชางทำไมกัน ทำให้คนเข้าผิดยกใหญ่เลย เพราะว่าที่นี่มีคุณชางตั้งสองคน ถ้าส่งผิดขึ้นมาแล้วทำให้ใครบางคนเข้าใจผิดแล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้”
คำพูดที่หลุดออกจากปากของชางฉิง รอยยิ้มของคนเหล่านั้นมันยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้น ชางหลิงสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ สีหน้าสงบนิ่งไม่แตกตื่นแต่อย่างใด
“คุณชาง คุณเป็นถึงนักออกแบบเหรียญทอง น่าจะอยู่ที่ชั้น 5 แต่เลขาฯ ฉินกลับถ่อมาที่ชั้น 3 เพื่อมาหาคุณชาง คุณว่า หรือว่าคุณชายรองโหมวแกจำผิด หรือจะพูดว่า เขาแทบไม่ได้คิดว่าคุณเป็นนักออกแบบจริงๆ เหรียญทอง คิดว่าคุณเป็นเด็กฝึกงานเหมือนกับพวกเรานี่แหละ”
“แก…” ชางฉิงสำลักกับคำพูดของเธอ จนท่าทางเปลี่ยนไป
“เพราะถึงอย่างไรคุณก็ว่างมาก ในมือก็ไม่มีงานทำ ไปเดินเล่นตามชั้นต่างๆได้ ไม่แน่นะครั้งหน้าอาจจะได้รับดอกไม้จากคุณชายรองให้ชางอะไรหรือดอกไม้ฉิงอะไรเนี่ยแหละ” ชางหลิงพูดจบ ก็กันเดินกลับไปยังที่นั่งของตนเองทันที
ชางฉิงโกรธถึงขั้นหน้าแดงแจ๋ พร้อมทั้งเดินกระทืบเท้าออกไป ด้วยความเย็นชา
คนที่เข้ามาคอยดูความครึกครื้นอยู่นั้นกำลังกลั้นหัวเราะกันอยู่ ชางหลิงก็ยืดตัวแล้วเดินมา ดวงตามอง ความเย็นยะเยือกเพิ่มขึ้นรอบตัว คนที่กำลังหัวเราะอยู่พลันหยุดทันที ต่างละสายตาไป
ซูเสี่ยวเฉิงเองก็ตกใจกับสายตานี้ของชางหลิงเช่นกัน เธอกับชางหลิงรู้จักกันมาตั้งแต่เกิดแล้ว ชางหลิงเป็นเด็กสาวที่น่ารักมีชีวิตชีวามาโดยตลอด ทำไมวันนี้บนตัวถึงได้แผ่รัศมีความเกลียดชังออกมาอย่างหนัก ความรู้สึกเช่นนี้ ความรู้สึกนี้ช่างเหมือนกับ … คุณชายรองโหมวเลย?
ทว่าไม่ใช่ว่าเธอไปอยู่กับหลีซินเหรอ? แล้วทำไมถึงได้ยิ่งเหมือนโหมวยู่ไปทุกที?
แต่ในเวลานั้นเอง ออฟฟิศผู้อำนวยการฝ่ายขาย คุณโม่โม่กำลังจัดการเอกสารอย่างใจจดใจจ่อ เลขาฯ โจวหลินก็เคาะประตูเข้ามาทันที
“ผู้อำนวยการโม่” โจวหลินเสี่ยงประหม่า น้ำเสียงไม่ดังนัก
โม่โม่เดิมที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น แต่ว่าเมื่อเห็นว่าโจวหลินนานแล้วไม่ยอมพูดสักที เธอหยุดปากกาที่อยู่ในมือทันที พลันเงยหน้าโจวหลินแล้วกวาดตามองไปที่
“พูดมา”
“ท่านประธานโหมวให้เลขาฯ ฉิน เอาดอกไม้ไปส่งให้กับนักออกแบบ ที่ชื่อว่าชางฉิง”
คุณโม่โม่กำปากกาที่อยู่ในมือไว้แน่น นัยน์ตาหรี่ตาลง
ชางฉิงเหรอ?
ก่อนหน้านี้เธอได้ให้คนไปจับตามองการเคลื่อนไหวของ โหมวยู่ ตอนที่มีคนแจ้งข่าวกับเธอนั้น บางครั้ง ฉู่ฉือก็จะพูดถึงชื่อคุณชางออกมา หรือว่าคนนี้…
“ชางฉิงคนนี้ เพิ่งได้ลงตำแหน่งนักออกแบบเหรียญทองของกลุ่ม 3 อายุเพิ่งจะ 21 ปี เป็นนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบ ดิฉันได้ดูประวัติของเธอแล้ว ธรรมดาทุกด้าน แม้ว่าจะเคยได้รับรางวัลมาหลายครั้งก็ตาม แต่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นเมื่อเอามาเทียบกับนักออกแบบแล้วก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร…”
“ดังนั้น มีคนช่วยหนุนหลังเธออยู่เงียบๆ” น้ำเสียงของคุณโม่โม่เฉียบขาด
“ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ คุณชายรองโหมวไปที่โรงพยาบาลมาหนึ่งครั้ง ดิฉันได้ไปสอบถามมาแล้ว คืนวันนั้น เขาไปเยี่ยม ก็คือคุณชางฉิงคนนี้แหละ” โจวหลินที่ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาฯ ของคุณโม่โม่ ย่อมเข้าใจถึงวิธีไหนที่สามารถเอาใจเธอได้
“โรงพยาบาลเหรอ?” คุณโม่โม่ยิ้มให้อย่างเย็นชา “ทางที่ดีที่สุดคุณอย่าบอกฉันนะว่า เป็นพวกสูตินารีฯ อะไรพวกนั้น”
โจวหลินตัวสั่น พร้อมทั้งก้มหน้าลงต่ำ
พลันมีเสียงสิ่งของหักทันที ปากกาที่อยู่ในมือของคุณโม่โม่ถูกเธอหักดื้อๆ เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองเอาไว้อย่างยิ่งยวด ไม่อยากให้คนอื่นเห็นเธอเสียอาการ
หลายปีมานี้ เธอคอยกวาดล้างผู้หญิงรอบตัวโหมวยู่มาโดยตลอด แต่ว่าผู้หญิงพวกนั้น เป็นคนเสนอตัวออกมาเอง โหมวยู่ไม่ได้แตะต้องเลย แต่ว่าชางฉิงคนนี้มันไม่เหมือนกัน …
โหมวยู่เคลียร์พื้นที่ว่างให้เธอลง พร้อมทั้งจัดส่งดอกไม้ แม้กระทั่ง ไปเยี่ยมเธอที่แผนกสูติฯ อีก…. หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ทำไมถึงไปที่แผนกสูติฯล่ะ? นอกจากว่าแท้งลูก เธอคิดไม่ออกว่าจะมีเหตุผลอื่นไหม ส่วนโหมวยู่ทำไมต้องไปเยี่ยมผู้หญิงที่แท้งลูกด้วยตนเองนะ? คำตอบไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจแล้ว
มิน่าละหลีซินถึงได้พูดว่าพี่สะใภ้ใหญ่อะไรนั่น มิน่าล่ะฉู่ฉือถึงได้เรียกคุณชางจนติดปาก
ผู้หญิงคนนี้ ช่างลงมือได้เด็ดดวงมาก สามารถเย้ายวนให้โหมวยู่ที่เข็ดขยาดกับผู้หญิงสามารถทำทุกอย่างได้อย่างไม่สนใจกฎระเบียบเดิม
“ผู้อำนวยการโม่ คุณว่า …”
“ให้เธอได้หยิ่งต่อไป” คุณโม่โม่ยิ้มตอบ “ฉันล่ะอยากจะเห็น ว่าโหมวยู่สามารถทำอะไรเพื่อเธอได้ขนาดไหน”