ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 55 เรื่องนี้ยังไม่จบ

บทที่ 55 เรื่องนี้ยังไม่จบ

ในที่สุด……ตามแสงไฟที่สว่างขึ้น ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นทั้งงาน

ชางหลิงตกใจกับเสียงปรบมือ เธอรู้ตัวทีหลัง ก็รู้สึกหัวใจเต้นมาถึงคอแล้ว

เธอมองไปที่ชางฉิง เป็นไปตามที่คาด ชางฉิงกำลังมองมาด้วยแววตาแค้นเคือง

ดูท่า……เธอทำสำเร็จแล้ว

ชางหลิงโล่งอก

“ต่อไป ขอเชิญดีไซเนอร์กับนางแบบของตัวเองขึ้นมาบนเวทีตามลำดับ อธิบายแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการออกแบบให้พวกเราฟัง” พิธีกรเดินหน้ารายการต่อไป

ดีไซเนอร์ขึ้นเวทีตามลำดับเมื่อกี้ ชางหลิงไม่อยากฟังพวกหล่อนอธิบาย เธอสนใจแค่ชางฉิงคนเดียว ในที่สุด ชางฉิงก็จับมือนางแบบตัวเองขึ้นเวทีไป ภายใต้เสียงปรบมือของผู้ชม

“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือชางฉิง ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนกับการให้ความสำคัญของกรรมการ ผลงานออกแบบชิ้นนี้ ตั้งแต่วาดจนไปถึงการตัดเย็บใช้เวลาห้าวัน เวลาไม่นานมาก แต่ฉันก็ลงแรงไปเยอะมากทีเดียว เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการออกแบบ พอพูดถึงสาวน้อย อย่างแรงพวกเราก็ต้องนึกถึงสีชมพูก่อน ตุ๊กตาสีชมพู ปราสาทเจ้าหญิงสีชมพู ฉันเชื่อว่าทุกคนตอนเด็ดก็ต้องเคยเล่นตุ๊กตาบาร์บี้มาบ้างแล้ว ที่จริงฉันก็เคยค่ะ ในตอนเด็กของฉัน เพราะพ่อไม่อยู่เคียงข้าง ฉันมีชีวิตที่ยากลำบากพอควร ในตอนนั้น ฉันเห็นเด็กสาวคนอื่นมีตุ๊กตาบาร์บี้เป็นของตัวเอง ในใจก็รู้สึกอิจฉาอย่างมาก คิดฝันอยากได้สักตัวหนึ่ง และวันนี้ ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ในที่สุด ก็ทำให้ฝันฉันเป็นจริงแล้วค่ะ”

ชางฉิงพูดอยู่นั้น ก็ยื่นมือไปที่ข้างตัวนางแบบ “เอลฟ์ที่สมบูรณ์แบบนี้ ไม่ใช่ความฝันของสาวน้อยทุกคนเหรอคะ?”

ชางหลิงขมวดคิ้ว

ได้ยินหล่อนพูดมาแบบนี้ เธอก็มองดูใบหน้าและหุ่นของนางแบบ ก็คล้ายกับตุ๊กตาบาร์บี้อยู่มาก

แต่ว่า……

“นี่เป็นความลับของสาวน้อยเหรอ?” ซูเสี่ยวเฉิงออกเสียงแทนเธอ “ฉันคิดว่าน่าจะเรียกว่าความลับของทารกมากกว่านะ”

พอเธอพูดแบบนี้ออกไป ทั้งงานก็หัวเราะหันใหญ่ ชางฉิงยืนอยู่บนเวที ท่าทางคงจะอับอาย

ชางหลิงอดไม่ได้ขำออกมา สมแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทเธอ ขนาดคำพูดยังเหมือนกับเธอเลย

“ซูเสี่ยวเฉิง!” ถงเอินตักเตือนเธอ “นี่เป็นงานใหญ่ เธอเงียบปากหน่อย”

ซูเสี่ยวเฉิงเงียบลง แต่ก็แอบหันหลังไป ส่งหัวใจให้ชางหลิง

ชางหลิงสองมือโค้งขึ้นข้างบนหัว บอกรักเธอแบบเปิดเผย

ชางฉิงถูกทุกคนหัวเราะอยู่สักพัก รู้สึกไม่ดี จึงต้องพานางแบบลงจากเวที

ผ่านไปนานมาก นางแบบของชางหลิงขึ้นมาบนเวที ทุกคนต่างรอพบดีไซเนอร์ชุดนี้ขึ้นมาบนเวที ชางหลิงเปลี่ยนชุดหลังเวที เสื้อแขนยาวปิดเสื้อด้านในไว้ กระโปรงถูกยัดเข้าในเข็มขัด ดูเธอสวมชุดแปลกแนวมาก

ภายใต้สายตาของทุกคน ชางหลิงเดินขึ้นบนเวที เธอปล่อยผม แต่งหน้าบางๆ และยิ้มอ่อนๆ

เธอเคยร่วมงานการแข่งขันมากมาย แต่ไม่เคยตื่นเต้นเท่าตอนนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะตรงหน้าของเธอ มีโหมวยู่นั่งอยู่

ในตอนนี้ เขาอิงพนักเก้าอี้ มองเธอด้วยรอยยิ้ม

“ฉันรู้ ฉันอยู่ที่นี่ มีคนมากมายที่ไม่เห็นด้วย เหตุผลในนั้นคนส่วนใหญ่รู้ดี ฉันก็ไม่พูดอะไรมากแล้ว” ชางหลิงกัดริมฝีปากเบาๆ มือที่จับไมค์นั้นสั่นคลอน

“ที่ออกแบบชุดนี้ หรืออาจจะต่างจากประเด็นความลับของสาวน้อย เพราะในวัยยี่สิบสองปีของฉันไม่ใช่สาวน้อยอีกต่อไปแล้ว……”

ด้านล่างเวทีมีเสียงหัวเราะดังขึ้น ชางหลิงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก จ้องมองดวงตาลึกซึ้งและเปล่งประกายคู่นั้น

“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง เป็นทหารที่เกษียณแล้ว เวลาที่ฉันเจอเขาช้าเกินไป หลังจากที่ฉันพบเจอกับอุปสรรคมากมายในวัยเยาว์ หลังจากที่ผ่านการถูกหักหลังและหลอกลวง เขาก็ถึงเดินเข้ามาในชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยเห็นเขาใส่ชุดทหารมาก่อน และไม่เคยเห็นท่าทีกล้าหาญในสนามฝึก แต่ ฉันคิดภาพนั้นออกมาได้ ดังนั้น ก็ใช้ดินสอของตัวเองวาดมันออกมา”

โหมวยู่สิบนิ้วประสานกัน ฟังที่ชางหลิงพูด และยิ้มกว้างออกมา

“หญิงสาวทุกคน อาจจะมีอารมณ์ชั่ววูบแบบนี้ เพราะเสื้อตัวเดียวก็ตกหลุมหลังคนคนหนึ่งเข้า ชุดทหาร ชุดสูท หรืออาจจะเป็นชุดอื่นๆของเขา วันนี้ฉันแสดงมันออกมา ก็แค่เศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น แต่ว่า ฉันคิดว่าก็อาจจะมีคนส่วนหนึ่ง เพราะคนคนหนึ่งชอบเสื้อผ้าชุดนั้น ก็เหมือนชุดแต่งงานในวันนี้ที่ฉันออกมา มันอาจจะไม่ใช่แนวของคนส่วนใหญ่ แต่ว่า ใครสักคนอาจจะชอบมันเพราะคนในใจ ฉันหวังว่า หญิงสาวที่อยากอยู่กับพี่ทหารหรือที่กำลังจะได้อยู่กับพี่ทหารแล้ว ในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตนั้น จะสวมชุดแต่งงานชุดนี้ได้ ยืนเคียงข้างกับเขาในชุดทหาร เขาปกป้องประเทศชาติ พวกเราปกป้องเขา”

สายตาของชางหลิงเปล่งประกาย พอพูดจบ โม่โม่ก็ลุกขึ้นมาปรบมือก่อนแล้ว

เธอมองดูโหมวยู่ที่นั่งข้างๆ สายตาเต็มไปด้วยความหวังและอนาคต

คำพูดนั้นของชางหลิง ก็เหมือนกับความคิดในตอนวัยเยาว์ของเธอ

ชางหลิงโค้งคำนับผู้ชม ในตอนที่ก้มหน้าลง เธอเห็นโหมวยู่ปรบมือให้กับเธอ ต่อมา เสียงปรบมือทั้งงานก็ดังขึ้นอีกครั้ง

และดีไซเนอร์มือทองฉีจินหมิ่นที่นั่งข้างๆถงเอินก็แอบซับน้ำตาเบาๆ

ชางหลิงยิ้มกว้างอย่างพอใจ

เธอยืนตัวตรง มองแววตาที่เกลียดชังของชางฉิงกลับ เธอเลิกคิ้วต่อหน้าหล่อน และแสยะยิ้มเหมือนมารร้าย

“เอาล่ะ ตอนนี้เชิญนางแบบของพวกเราไปพักผ่อนได้ ดีไซเนอร์ทุกคนขึ้นมาบนเวทีเลย……” พิธีกรเดินออกมา

“เดี๋ยวก่อน!” ชางหลิงหยิบไมค์ขึ้นมา หยุดพิธีกรไว้

การกระทำของเธอทำให้ทุกคนตกใจ ขนาดโหมวยู่ยังอดไม่ได้ขมวดคิ้วเลย

“ต้องขอโทษด้วยขอรบกวนเวลาของทุกท่าน เมื่อกี้ฉันบอกแล้ว ที่ฉันมาที่นี่ เพราะมีเหตุผลที่พิเศษ และเหตุผลนั้น ก็คือการแข่งขันในครั้งนี้คุณชางฉิงที่ได้ที่หนึ่ง บอกว่าฉันลอกงานของเธอ”

ชางหลิงน้ำเสียงแน่วแน่ เธอยืนตัวตรง

ชางฉิงสีหน้าเปลี่ยนไป รู้สึกเรื่องราวจะร้ายแรงมากขึ้น

“ชางหลิง เธอจะทำอะไร?” เธอถามบนเวที “เรื่องนี้จบแล้วไม่ใช่เหรอ เธออยากทำให้ทั้งเซิ่งซื่อไม่สงบสุขหรือไง?”

“เรื่องนี้ยังไม่จบ!” ชางหลิงตอบเธอ “ถ้าฉันไม่ออกมาแก้ตัว ถึงแม้ต่อไปงานฉันจะดีแค่ไหน คนอื่นก็จะบอกว่าฉันลอกอยู่ดี เรื่องที่ฉันไม่เคยทำ ฉันไม่ยอมรับแน่ ขณะเดียวกัน คนที่ทำผิด ก็ควรจะรับโทษด้วย”

สีหน้าโหมวยู่เขียวปั๊ด เขาหรี่ตาจ้องมองชางหลิง อยากให้เธอหยุดเดี๋ยวนี้

คนที่เย่อหยิ่งอวดดี จะทำให้คนเกลียดได้ง่าย เธอทำแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าดันตัวเองไปอยู่ในที่อันตราย

“ชางหลิง ทุกอย่างก็ต้องมีหลักฐาน เธอทำแบบนี้แน่ใจนะว่าเธอไม่ได้ลอกชางฉิง มีอะไรที่จะโน้มน้าวพวกเราได้ไหม?” โม่โม่พอใจกับการกระทำของชางหลิงมาก ก็เลยช่วยอีกแรง

“ฉันมี” ชางหลิงแน่วแน่มาก

เธอถอดเสื้อแขนยาวทิ้ง สะบัดออกไปอย่างรวดเร็ว พอถอดเข็มขัดออก ชุดแต่งงานที่สวมไว้นั้นก็ปรากฏออกมา

“นั่นคืออะไร……”

“ว้าว……สวยจังเลย”

คนด้านล่างเวทีต่างเอ่ยชมกันเป็นเสียงเดียว

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท