“คุณ……คุณมันไร้ยางอาย!” ชางหลิงผลักเขาออก พอโดนเขาสัมผัสด้วยความรุนแรงแบบนี้ก็ทำเอาริมฝีปากบวมแดงขึ้นมา
“คุณก็อาศัยที่ฉันสู้คุณไม่ไหว……”ชางหลิงร้องไห้ น้ำตาไหลพราก “คุณมันเลว มีคนรังแกฉันเยอะแยะอยู่แล้ว คุณก็ยังมารังแกฉันอีก……ทีแรกฉันยังคิดว่าคุณเป็นคนดี ยังขอบคุณที่คุณเคยช่วยชีวิตไว้ แต่คุณก็เหมือนพวกเขาเลย ไม่รักและทะนุถนอมฉัน……”
“คุณ……” โหมวยู่เห็นเธอแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว “ฉันไม่รักและทะนุถนอมคุณตรงไหน?”
สิ่งที่เธอเคยขอเขา เขาไม่เคยทำให้เธอพึงพอใจตอนไหน? ถึงแม้ปกติอาจจะโหดร้ายกับเธอบ้างแต่นั่นเป็นเพราะอยากฝึกฝนเธอเพื่อให้เธอเติบโต ทีนี้เป็นยังไงล่ะ คนไม่มีน้ำใจคนนี้กลับรู้สึกเขาไม่รักและทะนุถนอมเธอ
“คุณนอกจากจะทำให้ฉันเจ็บ เคยรักและทะนุถนอมฉันตรงไหน?” ชางหลิงแบะปากตอบโต้กลับ “คุณไม่ชอบฉันแต่กลับจะนอนฉัน แถมยังมาบังคับให้ฉันชอบคุณ คุณมันเป็นโจรต่างหาก!”
“ฉันเคยบอกเมื่อไหร่ว่าไม่ชอบคุณ?” โหมวยู่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกไม่ใช่
“คุณ……” ชางหลิงจะตอบเขาแต่คิดไปสักพักก็รู้สึกเหมือนเขาไม่เคยพูดแบบนั้นจริงๆ
แต่ว่า? ประโยคเขาแบบนี้หมายความว่าไง?
ชางหลิงหยุดร้องไห้ “แต่คุณก็ไม่เคยบอกสักหน่อยว่าคุณชอบฉัน……”
เธอมองเขาอย่างน้อยใจ พอกะพริบตา น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุดราวกับไม่เสียตัง ดูจนโหมวยู่ใจสั่น
“ต้องพูดออกมาถึงจะรู้หรือไง? ฉันทำเพื่อคุณเยอะขนาดนี้ คุณคิดว่าฉันกำลังช่วยบริจาคคนยากจนหรือไง?” โหมวยู่รู้สึกทั้งโมโหและตลก
นี่ยัยนี่คิดว่าเขาอยู่กับเธอเพื่อนอนเธออย่างเดียวมาตลอดงั้นเหรอ?
ถึงแม้อยากนอนเธอด้วยมันก็จริง……
ชางหลิงชะงัก เธอไปจ้องมองหน้าโหมวยู่ระยะใกล้ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าใจตัวเองเต้นเร็วขึ้นหลายเท่า
โหมวยู่……กำลังบอกว่าเขาชอบเธองั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้ เขาจะชอบเธอได้ยังไง?
“งั้น……คุณชอบฉันเหรอ?” ชางหลิงคิดได้แบบนี้ก็เลยถามออกไป
หน้าโหมวยู่บึ้งทันที รู้สึกแค่ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงโง่ได้ขนาดนี้
“อือ” เขาตอบแบบง่ายๆ ถึงแม้บนใบหน้าไม่ได้แสดงอะไรแต่หูของตัวเองก็แดงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่
ชางหลิงอึ้งไปเลย
เธอกะพริบตามองโหมวยู่ รู้สึกเหมือนบนตัวก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแต่กลับรู้สึกบรรยากาศในห้องกลายเป็นสีชมพูไปหมด ทำเอาหน้าเธอเริ่มร้อน
ในห้องเงียบเกินจนผิดปกติ
พอชางหลิงลุกขึ้นมานั่ง ผ้าห่มก็ปิดถึงแค่ท้องน้อยของเธอ
“ฉันไปเอาเสื้อให้คุณ”
ขาวยาของโหมวยู่เดินก้าวออกมาจากห้อง ทิ้งชางหลิงคนเดียวไว้บนเตียง
โหมวยู่ชอบเธอ……
เธอไม่ได้ฝันไปเองใช่ไหม และสภาพของเขาเมื่อกี้……เพราะเขินงั้นเหรอ?
ชางหลิงอาบน้ำอย่างสบาย ตอนใส่เสื้อผ้าเสร็จเดินออกมา โหมวยู่ก็นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก
เธอเดินไปหาอย่างน่าเอ็นดู เห็นโหมวยู่ถือรีโมทและดูทีวีอยู่ ไม่รู้ว่าจะเริ่มหาเรื่องคุยอะไร
อึดอัดมาก……หลังจากรู้ความในใจที่โหมวยู่มีต่อเธอเสร็จ เธอกลับไม่มีความกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้าเขา
ชางหลิงพยายามขยับเข้าใกล้โหมวยู่ อยากเข้าใกล้เขามากขึ้น
โหมวยู่เหลือบมองการกระทำของเธออยู่ตลอด รู้สึกได้ว่าเธอหยุดอยู่ตรงที่ห่างกับเขาประมาณยี่สิบเซนติเมตรพอดี มือของเขายื่นไปและดึงเธอเข้ามากอด
“อยากเข้าใกล้ก็เปิดเผยทำอย่างบริสุทธิ์” โหมวยู่ยอมเด็กขี้กลัวคนนี้จริงๆ
ชางหลิงยิ้มจนตาหยี
เธอซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขา เงยหน้าขึ้นมาก็ถึงตรงคางของเขาพอดี
ใต้คางเขามีเคราหนวดเล็กน้อย ถูไถโดนใบหน้าเธอก็รู้สึกคัน “คุณชายรอง ทำไมเมื่อคืนคุณถึงไปดื่มเหล้า?”
ช่วงก่อนเขาก็ดื่มเหล้า ตามปกติแล้วคอโหมวยู่ไม่ได้อ่อนขนาดนี้ หรือว่ามีเรื่องอะไรถึงทำให้เขาต้องดื่มจนเมาขนาดนี้?
โหมวยู่ไม่ได้ตอบทันที เพียงแต่กอดเธอแน่นขึ้น
“เรื่องในบ้าน” ผ่านไปเนิ่นนาน เขาค่อยตอบอย่างเฉยชา
เรื่องในบ้าน……ชางหลิงนึกคิดไตร่ตรอง
ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินหลีซินพูดถึงว่าโหมวยู่ไม่ถูกกับพ่อของเขา เมื่อวานเขารับสายเสร็จก็รีบออกไปก็เพราะในบ้านมีเรื่องงั้นเหรอ?
“ไม่ต้องเป็นห่วง ต่อจากนี้ฉันจะไม่ดื่มจนเมาอีกแล้ว” อย่าพูดถึงชางหลิงเลย ขนาดตัวเขาเองยังรู้สึกกลัวภายหลัง ถ้าเมื่อคืนชางหลิงดื้อกว่านี้อีกหน่อย เขาอาจจะควบคุมไม่อยู่และจะทำเรื่องที่เกินกว่านี้อีก
ในใจชางหลิงอบอุ่น เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาและจุ๊บลงบนกรามของเขาราวกับแมลงปอแตะน้ำเบาๆ
ลูกตาโหมวยู่หด ชางหลิงที่ท่าทีราวกับแมวน้อยยั่วจนใจเขาเริ่มไม่นิ่ง ทีแรกก็ไม่มีอารมณ์จะดูทีวีอยู่แล้ว พอโดนเธอหยอกเสร็จก็ทิ้งรีโมทไปเลย
เธอบังคับจนเขาพูดความในใจออกมาแล้ว ส่วนเธอล่ะ?
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อคืนของฉันเลย” โหมวยู่ก้มหัวมาถามเธอ
อื้อ? ชางหลิงโดนถามแบบนี้ก็รู้สึกแปลกใจ พอกลับไปนึกอีกรอบก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“เมื่อคืนคุณถามมาเยอะมาก คุณกำลังหมายถึงคำถามไหนกัน?” ชางหลิงตอบเขาอย่างจริงใจ แต่ในใจกลับมีความคิดชั่วร้ายเกิดขึ้นมา
โหมวยู่ขมวดคิ้ว “เยอะมาก? ฉันถามอะไรไปบ้าง?”
ชางหลิงยิ้ม เธอลุกขึ้นมาและนั่งคร่อมลงบนขาสองข้างของโหมวยู่
เธอจ้องมองตาของเขาและดูอารมณ์สีหน้าเขาอย่างละเอียด
“คุณถามฉัน…….” เธอกดเสียงต่ำ เสียงนุ่มนวล
โหมวยู่จับเอวเธอแน่น ไม่ให้เธอหนีออกไปจากตัวเขา “ตั้งใจตอบดีๆล่ะ ไม่อย่างงั้นฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่ๆ”
ชางหลิงรู้ว่าเขาอยากให้เธอตอบอะไร เธออยากหนีแต่ว่าแรงบนมือของโหมวยู่ไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถต่อต้านได้
“ได้ได้ได้ ฉันพูด” มือของชางหลิงทั้งสองข้างจับกุมมือของโหมวยู่ที่วางไว้บนเอวของเธอ
สีหน้าของโหมวยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดวงตาที่สงบนั้นราวกับแฝงความห่างเหินมาโดนตลอด ชางหลิงไม่ชอบท่าทีทัศนคติของเขาแบบนี้ ตัวเองก็อยากทำตัวเย่อหยิ่งขึ้นมา
เขาถามว่าเธอรักเขาไหม เธอก็ไม่รู้ว่าต้องอธิบายยังไงอาจจะไม่ถึงขั้นรัก แต่แค่เริ่มเป็นห่วงเขา เริ่มมีความรู้สึกที่มีความสุขตอนได้อยู่กับเขา
“นิดเดียว” ชางหลิงตอบ “ชอบคุณแค่นิดเดียว”
โหมวยู่หยักคิ้ว “มีแค่นิดเดียว?”
“อือ” ชางหลิงพยักหน้าอย่างจริงจัง “ถึงจะมีแค่นิดเดียวก็ไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า? ฉันกับหยูเฉินพึ่งเลิกกัน นี่แค่ผ่านไปไม่นานก็มาชอบคุณ ถ้าพูดออกไปเดียวคนอื่นเขาก็หาว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่รักนวลสงวนตัวเอาหรอก…….”
โหมวยู่กัดแก้มเธอเบาๆหยุดไว้ไม่ให้เธอพูดต่อ “คราวหลังห้ามพูดถึงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าฉัน”
ชางหลิงจับแก้มตัวเองไว้แล้วแบะปาก
โหมวยู่เห็นท่าทีน้อยใจของเธอ แรงบนมือก็เริ่มเบาลง ความโมโหที่เก็บสะสมมาเมื่อวานก็เริ่มหายไป
แค่นิดเดียวของชางหลิงสำหรับใจของเขากลับเหมือนเป็นคลื่นลูกใหญ่ ราวกับเป็นน้ำฝนที่ตกลงมาหลังจากที่แห้งแล้งมานาน ทำให้ความหงุดหงิดโมโหของเขาหายไปหมด