ชางหลิงทำงานของทั้งวันเสร็จแล้ว นัดกับซูเสี่ยวเฉิงไปกินหม้อไฟกันวันนี้
คิดอยู่นานมาก ก็ตัดสินใจจะบอกเรื่องโหมวยู่กับซูเสี่ยวเฉิงทั้งหมด แต่ทั้งสองยังเดินไปไม่ถึงห้องกาแฟ ซูเสี่ยวเฉิงก็ทำเหมือนเห็นบรรยากาศแบบตะวันตกและดึงแขนเสื้อเธอ
“เสี่ยวหลิงหลิง เธอดูสิ นั่นคุณชายรองโหมวไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึง……อยู่กับชางฉิงล่ะ?”
ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับโหมวยู่ ชางหลิงชะงักไปทันที เธอหันไปมองทางที่ซูเสี่ยวเฉิงชี้ สุดท้ายเห็นโหมวยู่กับชางฉิงนั่งอยู่ในร้านด้วยกัน สายตาทั้งสองดูรักกัน ชางฉิงยังมีท่าทีเขินอายตัวบิดอีก
สีหน้าชางหลิงเปลี่ยนไปทันที เธอหยุดอยู่กับที่ จ้องมองไปทางพวกเขา
แม้โหมวยู่จะเคยบอกกับเธอ เขาเข้าใกล้ชางฉิง ก็เพื่อแก้แค้นแทนเธอ แต่ตอนนี้ ชางฉิงออกจากเซิ่งซื่อแล้ว ทำไมเขาถึงยังนัวเนียอยู่กับชางฉิงล่ะ?
เมื่อวานยังบอกชอบเธออยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมานั่งหนุงหนิงกับชางฉิงสองคนในร้านกาแฟ ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้นัดกินหม้อไฟกับซูเสี่ยวเฉิงละก็ เธอคงไม่ได้เห็นภาพนี้
“ชางฉิงก็เก่งเหมือนกันนะ อ่อยผู้ชายคนไหนก็ได้หมด แต่ทว่า หยูเฉินตาบอดก็ช่างเถอะ คุณชายรองโหมวเก่งขนาดนี้ ทำไมถึงไปคลุกคลีกับเธอนะ เห็นแล้วโมโหจริงๆ!”
ซูเสี่ยวเฉิงด่าทอทั้งสองคนอย่างไม่เข้าใจ พอหันกลับไป สีหน้าชางหลิงดูเสียอาการมาก เธอก็รีบปลอบใจเพื่อนสนิท
“เฮ้อ เธออย่าเป็นแบบนี้สิ โหมวยู่ถึงแม้จะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าชอบชางฉิง ก็แปลว่าไม่ใช่คนดี ไม่เหมือนหลีซินของเธอ เธอดูสิเขาดีแค่ไหน เงินเยอะและหล่อแถมยังปกป้องเธออีก ดีกว่าอีตาโหมวยู่เป็นร้อยเท่า”
ชางหลิงไม่อยากฟังที่เธอพูด จึงก้มหน้าลงและเดินไปข้างหน้า
หม้อไฟนี้กินได้อย่างไม่มีรสชาติเลย ตอนแรกยังคิดว่าจะพูดเรื่องโหมวยู่กับซูเสี่ยวเฉิง แต่พอมาตอนนี้เหมือนจะพูดไม่ออกอีกแล้ว
โหมวยู่บอกชอบเธอจริงๆ แต่ไม่ได้บอกว่าชอบเธอแค่คนเดียว มีอะไรให้น่าดีใจกัน
ชางหลิงไม่พอใจ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จ้องไปที่ช่องส่งข้อความอยู่นาน ในที่สุด ก็ส่งข้อความหาเขา
——ฉันเลิกงานแล้ว นายล่ะ? กลับบ้านด้วยกันไหม?
เธอจับโทรศัพท์ไว้แน่น รอเขาตอบกลับมาตลอด
ชางหลิงบอกกับตัวเอง ขอแค่โหมวยู่พูดความจริงเรื่องที่เขาไปเจอชางฉิงมา เธอจะยกโทษให้เขา ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
ในที่สุด โทรศัพท์ก็สั่นขึ้น โหมวยู่ตอบกลับมาแล้ว
——มาเจอลูกค้า จะกลับไปดึกหน่อย
หัวใจดวงหนึ่งดิ่งลงสู้ใต้ทะเล ชางหลิงกำโทรศัพท์ไว้แน่น ตะเกียบในมือฟาดลงตกอย่างแรง
“ผู้ชายเลว!”
ซูเสี่ยวเฉิงตกใจชางหลิงจนเนื้อในมือตกลงไป
“เธอเป็นอะไรไป?”
ชางหลิงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ แต่ก็ทิ้งซูเสี่ยวเฉิงไว้ที่นี่คนเดียวไม่ได้ เลยต้องข่มอารมณ์ไว้ก่อน ละลายความโกรธเป็นอาหารแทน กินจนเนื้อจานใหญ่หมดไป
……
ชางหลิงไม่ได้ตอบกลับ โหมวยู่ก็รู้สึกไม่ดีในใจ
เขาหยิบเสื้อคลุมตัวเองลุกขึ้นกำลังจะออกไป ชางฉิงกลับรีบลุกขึ้นตาม “คุณชายรอง งั้นตอนดึกคุณ……”
โหมวยู่มองการ์ดห้องนั้น และเก็บมันไว้ในกระเป๋า
ชางฉิงดีใจ โหมวยู่เก็บการ์ดห้องไว้ ก็แสดงว่า……คืนนี้เขาจะมา
โหมวยู่เดินออกจากร้านกาแฟอย่างเร็ว
พอขึ้นรถ เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฉู่ฉือ
“คืนนี้นายคอยสังเกตโรงแรมฮิลตันห้อง2018เอาไว้ โม่โม่อาจจะทำอะไร เก็บหลักฐานไว้ แต่ต้องรับประกันความปลอดภัยของชางฉิง”
……
ชางหลิงกลับไปรอที่บ้าน โหมวยู่กลับมาก่อนเธอ
เธอเห็นโหมวยู่ที่นั่งดูโทรทัศน์บนโซฟา ก็คิดว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า
เห็นเขานั่งอิงอยู่บนโซฟาเหมือนเหนื่อยมาก ชางหลิงนึกถึงเขานั่งคุยกับชางฉิงอย่างอารมณ์ดี ในใจก็เกิดอาการหึงขึ้นมาทันที
“มานี่สิ” เห็นชางหลิงยืนนิ่งไม่ขยับ โหมวยู่ก็ยื่นมือไปหาเธอ
ชางหลิงเดินไปข้างเขาอย่างโมโห ขยับเข้าไปใกล้เขา เหมือนหมาน้อยที่ไปดมกลิ่นบนตัวเขา
หื้ม? ไม่มีกลิ่นน้ำหอม?
ชางหลิงไม่เชื่อ เธอก็ไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของโหมวยู่ ตรวจสอบคอเสื้อเขาอย่างละเอียด
ไม่มีรอยลิปสติกด้วย?
ตรวจสอบลงไปเรื่อยๆ แผงอกของเขาก็เผยออกมาด้วยการสัมผัสของเธอ เผยให้เห็นถึงรอยเส้นซิกซ์แพ็คที่สวยงาม ชางหลิงแน่ใจแล้ว บนตัวเขา นอกจากรอยที่วันก่อนเธอทิ้งไว้ ก็ไม่มีรอยที่น่าสงสัยเพิ่มขึ้นมา
โหมวยู่มองดูเธอด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้ห้ามปรามอะไร ปล่อยให้เธอตรวจสอบไป เขามองด้วยแววตาเอ็นดู
“ดูพอหรือยัง?” เห็นเธอหยุดแล้ว เขาก็ยิ้มกว้างและถามเธอว่า “ไม่เจอกันหนึ่งวัน เธอก็อดใจรอไม่ไหวเลยเหรอ?”
ชางหลิงเบะปาก สีหน้าหยิ่ง “ใครรอไม่ไหวกัน ฉันก็แค่……”
ก็แค่อยากดูว่าเขาไปแอบกินข้างนอกมาหรือเปล่า
“ก็แค่อะไร?” โหมวยู่ยกมือขึ้น โอบตัวเธอเข้ามา
ชางหลิงผลักเขาออก อยากออกจากตัวเขา แต่โหมวยู่หยุดการดิ้นของเธอ และกอดรัดเธอไว้แน่นกว่าเดิม
ชางหลิงจับมือที่ลูบไล้ไปทั่วของเขา มองเขาอย่างโมโห “นายอย่ามาทำแบบนี้นะ! ยังกินพวกผู้หญิงด้านนอกไม่พอเหรอ? ยังต้องกลับมาหาฉันที่บ้านอีกหรือไง?”
โหมวยู่เลิกคิ้วขึ้น
ชางหลิงทำหน้าบูดตึง เหมือนไม่ได้ล้อเล่น แต่ว่า ท่าทางเธอแบบนี้ กลับน่ารักกว่าตอนจริงจังมาก โหมวยู่ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ หลับชอบที่เธอหึงตัวเอง
“ฉันไปกินผู้หญิงข้างนอกมาเมื่อไหร่กัน?” ผู้หญิงในบ้านยังกินไม่อิ่มเลย
“นายยังไม่ยอมรับอีก” ชางหลิงโกรธจนเลือดพุ่งขึ้นสมอง “ฉันกับซูเสี่ยวเฉิงเห็นหมดแล้ว นายกับชางฉิงนั่งอยู่ในร้านกาแฟกันสองคน ดูสนิทกันมากเลยนะ นายยังหลอกฉันว่าไปเจอลูกค้าอีก นายมันคนเลว!”
เธอไม่อยากกลับมาด่าเขาหรอกนะ แต่เธอไม่ชอบเก็บเรื่องไว้ในใจคนเดียว ตอนแรกยังอยากทำสงครามเย็นไม่สนใจเขา แต่ก็กลัวโหมวยู่ผู้ชายซื่อๆแบบนี้ไม่เข้าใจ
โหมวยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เธอเห็นแล้วเหรอ?” เขาไม่คิดว่าชางหลิงจะบังเอิญเจอเขากับชางฉิง เขาหลอกเธอ ที่จริงก็แค่อยากกันเธอออกจากเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ แต่ว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต
“นายยอมรับแล้ว!” ชางหลิงชี้เขา “นายยอมรับว่านายอยู่กับชางฉิงแล้ว นายมันคนโกหก เมื่อวานยังบอกชอบฉัน วันนี้กลับไปดื่มกาแฟกับคู่อริฉัน!”
โหมวยู่เหนื่อยใจ เขาจับมือชางหลิงไว้ เห็นท่าทีโมโหของเธอ ทั้งโกรธทั้งน่าขำ
“เธอมาหาฉันที่บริษัท บอกว่ามีเรื่องขอร้อง”
“เธอมาหานายจะมีเรื่องอะไรได้? ก็แค่มาทำตัวน่าสงสารเท่านั้น ปกติทำไมไม่เห็นนายเคยสนใจฉันเลย เธอเรียกนายก็ไปเลยงั้นเหรอ!” ชางหลิงไม่คิดเลยก็รู้ว่าชางฉิงมาพูดเรื่องอะไรกับโหมวยู่บ้าง
โหมวยู่รู้ว่าชางหลิงกำลังดื้อดึงอยู่ แต่มองดูท่าทางหึงของเธอ มันน่ารักมากจริงๆ จึงอดใจไม่อยู่จูบที่ปากเธอเบาๆ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆ” โหมวยู่พูดย้ำอีกที “ก็แค่ เห็นท่าทางเธอแบบนี้ ไม่ไว้ฉันเลยสินะ ดังนั้น เพื่อให้อนาคตพวกเราอยู่ด้วยกันอย่างสงบ……”
โหมวยู่แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะกลับมาจัดให้ทุกวันนะ”