ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 96 นายมันปีศาจ

บทที่ 96 นายมันปีศาจ

โหมวยู่ก็ได้มองเธออย่างเย็นชา ไม่ได้รู้สึกอะไร

“ฉันไม่ตีผู้หญิง ที่เชิญเธอมาเป็นแขกนั้น ก็แค่อยากให้เธอได้ลิ้มรสสิ่งที่เธอจะเจอในอนาคต ต่อให้ไม่ได้ตัดสินโทษประหาร เธอก็จะถูกขังจนตายไปเลย ก็คือห้องแบบนี้ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีบุคลิก ไม่มีความหวัง”

“โหมวยู่……” ใบหน้าของชางฉิงก็ได้เปียกไปด้วยเหงื่อ “อย่าทรมานฉันแบบนี้……”

เธอนั้นทนแทบจะไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ว่า ต่อให้ได้กลายเป็นนักโทษไปแล้ว เธอก็ไม่อยากปล่อยมันออกมาเหมือนสัตว์ต่อหน้าของเขา

“พรุ่งนี้หยูเฉินก็ถูกฝั่งแล้ว หลังงานศพจบ ฉันนั้นจะส่งตัวเธอให้กับตระกูลหยูด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่พวกเขาอยากจะลงมือเองหรือว่าส่งเธอเข้าคุก ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว แต่ว่าเธอน่าจะรู้นะ คนที่ได้สูญเสียลูกไป ลงมือนั้นจะหนักไปบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ”

โหมวยู่ก็ได้ยกขาขึ้นได้กระชากขากางเกงออกจากมือของเธอกลับ ทำท่าว่าจะออกไปจากประตูแล้ว

“คือโม่โม่! คือโม่โม่……” สายตาที่หวาดกลัวของชางฉิง ก็ได้รีบพูดออกมา “เธอเป็นคนมาหาฉันก่อน ของก็คือเธอที่เป็นคนเอามาให้ฉัน เธอบอกกับฉันว่า นั่นก็เป็นแค่น้ำกรดธรรมดาจริง ฉันไม่ได้คิดที่จะฆ่าชางหลิง ฉันก็แค่อยากให้เธอเสียโฉม…… โหมวยู่ ฉันขอร้องนายล่ะ อย่าส่งตัวฉันให้ตระกูลหยูเลยนะ……”

“เธอก็รู้อยู่แล้วแท้ๆ เรื่องคราวก่อนโม่โม่ก็เป็นคนทำ ทำไมยังโดนหล่อนหลอกใช้ได้?” โหมวยู่หันหัวไป

“ฉันไม่มีทางเลือก โหมวยู่ ฉันได้หมดอนาคตแล้ว ที่เมืองหนาน ฉันไม่มีที่ที่จะให้ยืนแล้ว ตระกูลชางก็ไม่มีที่ให้ฉัน หล่อนพูดแล้ว แค่ฉันช่วยหล่อนทำเรื่องนี้ ก็จะให้เงินฉันก้อนใหญ่ให้ฉันไปจากเมืองหนาน…… คุณท่านรองโหมว ฉันไม่มีทางที่จะปฏิเสธหล่อนได้ หล่อนเป็นโม่โม่นะ ถ้าฉันไม่ทำตาม ยากที่เธอจะไม่ทำร้ายฉันอีก……”

“ฉันโดนหลอกจริงๆ ……ฉันไม่อยากที่จะฆ่าคน ฉันไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นจะฆ่าคนได้……” ชางฉิงก็ได้ร้องไห้ออกอย่างหนัก

เครื่องอัดเสียงในมือของฉู่ฉือก็ได้มีไฟเขียวสว่าง เขาได้พยักหน้าให้กับโหมวยู่

โหมวยู่ก็ได้หรี่ตาเล็กน้อย

เดิมทีเขาก็แค่เดาว่าเรื่องพวกนี้โม่โม่เป็นคนวางแผนไว้ แต่ก็ต้องมีหลักฐานมัดแน่น แต่วันนี้ ชางฉิงก็ได้พูดออกมาเอง

โหมวยู่ไม่ได้ตอบ เขาก็ได้ก้าวไป ออกไปจากประตู

“คุณชายรอง ฉันพูดไปแล้ว คุณปล่อยฉันออกไป ปล่อยฉันออกไปเถอะนะ!” ชางฉิงก็ได้รีบตามไป แต่ว่าฉู่ฉือเร็วกว่าเธอไปก้าว แล้วประตูก็ได้ปิดไปอีกครั้ง

แสงในห้องก็ได้โดนแย่งไปอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของชางฉิงก็ได้รุนแรงไป สุดท้าย เธอก็ทนต่อไปไม่ไหว ก็ได้ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ได้ปล่อยของเหลวที่อยู่ในท้องทั้งหมดออกมา……

“อ๊าย——” ชางฉิงก็ได้กรี๊ดออกมา “โหมวยู่ นายมันปีศาจ!”

โหมวยู่ก็ได้ยืนอยู่นอกประตู มุมปากก็ได้ชี้ขึ้น สายตากลับเย็นชา

ปีศาจ?

เขาไม่อยากให้มือของตัวเองนั้นเปื้อนเลือด กลายเป็นโหมวเจิ้งถิงคนที่สอง แต่ว่า ชางหลิงเป็นความอดทนสุดท้ายของเขา ไม่ว่าเป็นใคร ขอแค่ทำร้ายเธอ งั้นก็ไม่อาจจะให้อภัย

ปล่อยเธอไป……นั่นไม่มีทางหรอก

“คุณชายรอง” ออกมาจากห้องลับ เป็นลานจอดรถของคลับnova ฉู่ฉือมองไปข้างหลัง ก็ได้กังวลเล็กน้อย “ทางคุณหนูชาง……ต้องไปบอกเธอไหมครับ?”

“ความแค้นของเธอกับชางฉิงก็ได้จบเพียงแค่นี้แล้ว ส่วนโม่โม่……” โหมวยู่ก็ได้ลังเลไปสักพัก “อย่าพึ่งไปบอกเธอ จากนิสัยของเธอ ถ้าเกิดรู้เข้า ต้องอยากล้างแค้นให้กับหยูเฉินแน่ แต่ว่า เธอในตอนนี้ ยังไม่ใช่คู่ปรับของโม่โม่”

ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุด ต้องปกป้องชางหลิงให้ดี ส่วนเรื่องตระกูลโม่……ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็ยังอยู่ในมือของพ่อตัวเอง โหมวเจิ้งถิงไม่ปล่อยมือ ต่อให้เขาเตรียมการมามากขนาดไหน ก็จะเหมือนกับคราวก่อน ทำอะไรไปก็เปล่าประโยชน์

——

ต้นฤดูหนาว ฟ้าที่ได้สดใสอยู่ตลอดจู่ๆ ก็ได้มีหิมะตกลงมา

อาจเป็นเพราะตอนที่คนจากไป ฟ้าก็อดไม่ได้ที่จะไม่ร้องไห้ออกมา ลานของตระกูลหยูก็ได้มีสีขาวประดับอยู่ ดอกไม้สีขาวสีเหลืองก็ได้วางเต็มสวน คนทั้งตระกูลหยู ก็ได้มีความเศร้าปกคลุมอยู่

ชางหลิงนั่งอยู่ในรถ ก็ได้มองคฤหาสน์ตระกูลหยูจากที่ไกลๆ เธอได้มีน้ำตาปกคลุม

ถึงแม้ว่าสองสามีภรรยาหยูเจิ้งหงเป็นเพราะความสัมพันธ์ของโหมวยู่ก็ไม่ได้เอาเรื่องเธอแล้ว แต่ว่ากลับไม่ได้ให้อภัยเธอ ก็ไม่ได้ให้เธอมาส่งหยูเฉินเป็นครั้งสุดท้าย เพราะงั้นชางหลิงทำได้แค่มองคนที่มาส่งศพเข้าๆ ออกๆ ประตูตระกูลหยูพวกนั้นจากที่ไกลๆ ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

“ถ้าเธออยากไป ฉันสามารถช่วยเธอได้” โหมวยู่ที่ได้นั่งไม่พูดอะไรข้างๆ เธอที่ร้องไห้แบบนั้นอยู่นาน เปิดปาก

ถึงแม้ว่าเขาไม่อยากที่จะเห็นชางหลิงไปมีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหยูอีก แต่ว่า คนตายสำคัญกว่า เขาก็ทำได้แค่เข้าใจความเสียใจของเธอ

“ไม่ต้องแล้ว” ชางหลิงส่ายหน้า

เธอเข้าไป ก็ต้องทำให้สองสามีภรรยาหยูเจิ้งหงนั้นนึกถึงสาเหตุที่หยูเฉินตายอีก ถึงตอนนั้น ก็ได้โวยวายอีกครั้ง

เธอได้ก้มหน้า มองแหวนที่อยู่ตรงนิ้วโป้งของตัวเอง น้ำตาก็ได้ตกลงไป ก็ได้เจอกับชื่อย่อบนนั้นพอดี

ชางหลิงก็ได้ตกอยู่ในภวังค์เล็ก ข้างหูเธอก็ได้มีคำพูดในร้านอาหารของหยูเฉินวันนั้น

ถ้าเกิดคืนวันจบการศึกษา เธอไม่ได้เจอกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ และก็ไม่ได้ถูกครูที่ปรึกษาเรียกกลับไปแก้งานออกแบบ เป็นไปได้ไหมว่าทั้งหมดนี้ จะไม่เหมือนเดินหรือเปล่า?

เธอก็คงได้เดินเข้างานวิวาห์กับเขา เป็นไปได้ว่าหลังจากนั้นก็ได้เกิดสงครามระหว่างแม่ยายกับลูกสะใภ้ แต่อย่างน้อย หยูเฉินยังมีชีวิตอยู่ และเธอ ก็จะเป็นผู้หญิงที่เหมือนผู้หญิงธรรมดาคนอื่น ได้มีชีวิตที่สงบและธรรมดา

“เธอคิดอะไรอยู่?” เสียงของโหมวยู่ก็ได้ขัดความคิดของเธอ

ชางหลิงหันหน้าไป เธอได้สบตาเข้ากับโหมวยู่ ก็ได้มีพิรุธในใจเล็กน้อยทันที

ก็เหมือนว่าความคิดเมื่อกี้ของเธอนั้นได้ถูกเขาจับได้แล้ว

จริงสินะ ยังมีโหมวยู่อยู่ ถ้าเกิดเป็นไปตามที่เธอคิด เธอก็ไม่มีทางเจอกับโหมวยู่ แต่ว่า การเจอกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้ เป็นเรื่องถูกหรือผิดกันล่ะ?

ชางหลิงส่ายหน้า เธอก็ได้ปิดประตูรถ ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกไป

เสียงโทรศัพท์ของฉู่ฉือได้ดังขึ้น เขาได้มองข้อความบนนั้น ก็ได้หันไป พูดกับโหมวยู่

“คุณชายรอง” เขาได้มองชางหลิงที่อยู่ข้างๆ ก็ได้พูดแล้วก็หยุด “ผมได้รับข่าวมา คุณหญิงชางได้ขายที่ของตระกูลชาง……”

ชางหลิงก็ได้ขมวดคิ้ว

“ที่แถวไหน?” เธอก็ได้ถามออกไป แต่ว่าไม่นาน ตัวเองก็ตั้งตัวได้ พวกเขาพักอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลชาง แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะขายคฤหาสน์หลังนั้นไป เพราะงั้น ก็มีแค่บ้านใหญ่ที่คุณแม่ได้เหลือไว้ให้เธอหลังนั้นแล้ว

โหมวยู่ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองไปยังชางหลิง

“ไปตระกูลชาง” ชางหลิงก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้ตัวเองใจเย็น

โหมวยู่ก็ได้พยักหน้าให้ฉู่ฉือ ส่งแค่สายตา ฉู่ฉือก็เข้าใจความหมายของเขาแล้ว เขาก็ได้พิมพ์อะไรมนโทรศัพท์ ไม่นาน รถก็ได้สตาร์ทขึ้น

ข่าวฉาวของชางฉิงก็ได้ปล่อยออกไปไม่นาน หลังจากนั้นก็ได้มีข่าวว่าชางฉิงฆ่าคน ตระกูลชางก็ได้ตกอยู่ในความกลัว

ครั้งก่อนที่ไปจากที่นี่ ตระกูลชางก็ยังมีคนใช้ไม่น้อย แต่ตอนนี้ ขนาดรปภที่เฝ้าบ้านก็ไม่มีแล้ว ในสวนก็ไม่มีคนมาเก็บกวาด ใบไม้ล้วงลงพื้น เป็นสีแห่งความอ้างว้าง

ชางหลิงได้ถูกโหมวยู่เข็นเข้าประตูไป เธอได้มองไปยังที่ที่เคยอยู่มายี่สิบกว่าปี ความรู้สึกแรกที่มี มันทำไมถึงได้ไม่คุ้นเคยแบบนี้

ตอนที่คุณแม่ซื้อมันมานั้น ต้องมีความคิดอยากใช้ชีวิตที่นี่ตลอดไปอย่างสงบสุขแน่ๆ ล่ะมั้ง ต้นแคร็บเปิ้ลที่แม่ได้ปลูกอย่างใส่ใจ ยังได้ทำชิงช้าไม้ให้เธอข้างๆ

ช่วงในวัยเด็กนั้น คุณแม่นั้นชอบที่จะนั่งอยู่บนเก้าอี้หินใต้ต้นไม้ดื่มชาอ่านหนังสือ และเธอก็ได้นั่งอยู่บนชิงช้าไม้โยกไปโยกมาอย่างไม่คิดอะไร

ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ ชางหลิงก็รู้สึกว่าในใจได้อบอุ่นเอามากๆ แต่แค่ ได้ผ่านไปนานมากเกินไป สิบสี่ปีแล้วนะ……เธอใกล้ที่จะลืมหน้าตาของคุณแม่ไปแล้ว

“เธอเป็นลูกของคุณนะ! คนที่เป็นพ่ออย่างคุณไม่ช่วยเธอ เธอก็ไม่ทางที่จะรอดแล้ว!”

พึ่งไปถึงหน้าประตู พวกเขาก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันที่ได้ดังมาจากข้างใน

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท