ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 100 หลุดนี้เธอก้าวผ่านไปไม่ได้

บทที่ 100 หลุดนี้เธอก้าวผ่านไปไม่ได้

ระหว่างทางที่กลับบ้าน ชางหลิงก็ได้เงียบมาตลอด

โหมวยู่ก็ได้พิงที่เบาะ มองใบหน้าข้างๆ ของเธอ “เสียใจเหรอ?”

ยังไงซะก็เป็นคนในครอบครัวที่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันมานานขนาดนั้น ขนาดเขาที่เป็นคนนอกก็รู้สึกตกใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชางหลิงที่ได้ข่าวร้ายมาติดต่อกันแบบนี้เลย

“ถ้าฉันบอกว่าไม่เสียใจ มันจะทำให้ฉันดูใจจิตใจดำไปไหม?” ชางหลิงหันหน้าไป แล้วก็สบตากับโหมวยู่

โหมวยู่ยิ้มมุมปาก ไม่ได้ตอบ

“จริงๆ ก็มีช่วงหนึ่งที่ได้เสียใจเล็กน้อย แต่ว่า พอคิดไปพร้อมกับเรื่องที่เกิดในอดีต ก็รู้สึกว่า มันไม่ได้ที่จะรับไม่ได้ขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ฉันก็คิดไม่ออกสักที ว่าลูกสาวที่มีพ่อคนเดียวกันแท้ๆ ฉันกลับไม่ได้การยอมรับเลย ฉันคิดว่าเป็นเพราะจ้าวหลันจือ ชางฉิงมีคุณแม่ปกป้องอยู่ เพราะงั้นคุณพ่อก็ลำเอียง ยังไงซะมีแม่เลี้ยงก็มีพ่อเลี้ยง แต่ว่าตอนนี้ก็เข้าใจแล้ว ต่อให้คุณแม่ฉันมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่มีทางที่จะชอบฉัน”

“คุณแม่ของเธอ ได้ใช้วิธีอื่นมาปกป้องเธอโดยตลอด” คำพูดของโหมวยู่ชัดเจน

สายตาของชางหลิงได้เป็นประกาย

จริงด้วย คุณแม่เธอได้ปกป้องเธอมาโดยตลอด คุณแม่ไม่อยากให้เธอนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกลับๆ หรือลูกชู้ตั้งแต่เกิด เพราะงั้นก็ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี หาพ่อให้เธอ ให้เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลชาง

คุณแม่ก็แค่เหนื่อยเกินไป……เธอวางแผนมาตั้งนาน ก็เพื่อที่จะให้เธอมีอนาคตที่สดใส แต่ว่าเธอกับทนมาไม่ได้

เธอต้องมีอดีตที่เจ็บปวดแล้วก็ไม่อยากให้ใครรู้ก็ได้ล่ะมั้ง เธอต้องรักผู้ชายคนนั้นมาแน่ๆ ถึงได้ทำให้เธอนั้นยอมที่จะทิ้งทุกอย่างแล้วก็คลอดลูกของเขา

ชางหลิงก็ได้ถอนหายใจออกมายาวๆ เธอก็ได้ไปจับมือของโหมวยู่ก่อน

“เพราะงั้นนะ คุณชายรองนายได้มีภารกิจเพิ่มขึ้นอีกอย่าง นายไม่เพียงแค่ปกป้องฉัน ยังต้องช่วยฉันหาพ่อที่แท้จริงด้วยนะ”

โหมวยู่ก็ได้ถูกน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปกะทันหันของชางหลิงทำเอาสำลัก ก็ได้ไอเบาๆ

“ผ่านไปแบบนี้เลย?” เขาได้ตกใจกับการรับได้ของชางหลิง

“ผ่านไปเลย” ชางหลิงก็ได้พยักหน้าอย่างแรง

จะผ่านไปได้ยังไง

หยูเฉินได้ตายเพราะเธอ หลุมนี้ เธอผ่านไปไม่ได้

เธอรู้ว่าโหมวยู่ได้สอบสวนชางฉิงมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามเขาว่าผลเป็นยังไงบ้างมาตลอด

เธอไม่อยากให้โหมวยู่ลำบากใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้คิดถึงปัญหานี้ จากความนึกคิดแล้วก็การทำงานของชางฉิง หล่อนไม่ได้ทางที่จะคิดถึงเรื่องฆ่าคนด้วยอควารีเจียแบบนี้ได้

ชางฉิงถึงแม้เกลียดเธอ แต่กลัวตายมากกว่า เพราะงั้นไม่มีทางที่จะเพื่อฆ่าเธอแล้วเอาชีวิตของตนมาเดิมพัน เพราะงั้น แผนการนี้ เธอกับชางฉิงก็ได้ตกเป็นเหยื่อด้วยกัน และหยูเฉินก็แค่เหยื่อที่ไม่ได้อยู่ในแผน

มีใครบ้างที่จะเกลียดเธอและชางฉิงพร้อมกันขนาดนี้? ชางหลิงไม่ต้องคิดก็ได้รู้คำตอบ

——

การประกวดออกแบบใกล้จะสิ้นสุดแล้ว ชางหลิงถึงแม้ไม่ได้อยู่ในบริษัท แต่ก็มีซูเสี่ยวเฉิงมาช่วยเธอจัดการการแข่งขันมาโดยตลอด รอบตัดสินรอบสุดท้าย ซูเสี่ยวเฉิงตกรอบ แต่ว่าชางหลิงกลับเข้ารอบ

อาการบาดเจ็บของชางหลิงก็ได้ดีขึ้น ตอนนั้นถึงแม้ว่าขาพลิก แต่ว่ากระดูกไม่ได้รับบาดเจ็บมาก รักษาตัวดีๆ ก็สามารถมาเดินเองได้แล้ว

คุณหมอก็ได้ถอดเฝือกออก แผลที่ขาของเธอเป็นแผลบนผิวหนังก็ได้เหลือแผลเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ไว้ บนมือก็เหมือนกัน สีแดงอ่อน ก็ได้กลายเป็นเครื่องยืนยันการรอดจากความตายของช่วงนี้

“เสี่ยวหลิงหลิง!” เสียงที่ไม่ได้ยินมานานของซูเสี่ยวเฉิงก็ได้ดังอยู่ในหูของชางหลิง ชางหลิงหันหน้า เห็นเธอกับหลีซินได้ปรากฏที่ประตูห้องรับแขกด้วยกัน

“เกิดเรื่องแบบนั้นกับหยูเฉิน ฉันเป็นห่วงแทบแย่ เธอยังไม่ยอมให้ฉันมาเจอเธอ” ไม่รอให้ชางหลิงพูด ก็ได้เริ่มพูดเองร้องเองขึ้นมา “ที่ผ่านมานั้นฉันใช้ชีวิตราวกับฝัน เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ ฉันจะเป็นโรคหัวใจไปแล้ว”

“ไม่เป็นไร ได้ผ่านไปแล้ว” แววตาของชางหลิงก็ได้ส่องประกายความเศร้า แต่ก็ยังปลอบใจเธอ

คุณหมอได้ทักทายหลีซินแล้วก็จากไป หลีซินก็ได้เดินเข้ามา เอายากล่องหนึ่งวางไว้บนโต๊ะชา “ฉันได้ให้คนหายาแบบพิเศษมา ทำให้รอยแผลเป็นจางลงได้”

ชางหลิงก็ได้หดแขนตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ไม่อยากให้ซูเสี่ยวเฉิงมองเห็น ถ้าเธอรู้ว่าตนนั้นแทบที่จะโดนคนกรีดข้อมือปล่อยเลือดจนตาย คาดว่าได้ช็อกตายแน่

แต่ว่าสายตาแหลมคมของซูเสี่ยวเฉิงมองการกระทำของเธอ ก็ได้ลากมือเธอมา

แผลบนมือนั้นก็ได้โผล่ออกมา ซูเสี่ยวเฉิงตกใจมาก ชี้ชางหลิง ปากได้คว่ำ ก็ได้ร้องไห้อีกครั้ง “เธอยังบอกว่าไม่เป็นไร เธอคบกับหยูเฉินมาหลายปี ต้องยังมีความรู้สึกแน่ พอเขาตาย เธอก็ได้ฆ่าตัวตายตาม……”

ชางหลิงละอาย

เธอก็ได้ถอดหายใจอีกครั้ง ก็ได้ตบไปที่โซฟา “มานั่งนี่”

เดี๋ยวเธอก็จะกลับไปบริษัท เซิ่งซื่อ กรุ๊ป แต่ว่ากลับไปคราวนี้ ก็ไม่เหมือนกับคราวก่อนๆ เพราะงั้น มีบางเรื่อง เธอต้องบอกกับซูเสี่ยวเฉิงให้ชัดเจน

“เสี่ยวเฉิงจื่อ ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษเธอก่อน มีเรื่องหนึ่ง ฉันได้ปิดบังเธอมาตลอด……”

ซูเสี่ยวเฉิงก็ได้อึ้ง รอคำพูดต่อมาของชางหลิง

ชางหลิงหันหน้าไปมองหลีซิน ตอนที่กำลังพูดนั้น จู่ๆ ชั้นบนก็ได้มีการเคลื่อนไหว

โหมวยู่ก็ได้ใส่ชุดอยู่บ้านยืนอยู่ที่หน้าบันได ก็ได้มองพวกเขาอย่างไม่ปิดบัง

ซูเสี่ยวเฉิงก็ได้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายได้ตรง

“โหมว……คุณท่านรองโหมว?” โหมวยู่ทำไมถึงได้อยู่ที่นี่?

“ลูกพี่” หลีซินก็ได้ลุกขึ้นมา แล้วก็ทักทายอย่างสุภาพ

โหมวยู่ไม่ได้ส่งเสียง ก็ได้ค่อยๆ เดินลงมาจากชั้นบน จากนั้นก็ได้นั่งอยู่ที่โซฟาข้างๆ

ชางหลิงบอกกับเขาว่าจะชวนซูเสี่ยวเฉิงมาเที่ยวที่บ้าน คิดว่าคงอยากจะอธิบายเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนให้เธอ ที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่า เขาได้สงสัย อยากจะรู้ว่าชางหลิงจะอธิบายเรื่องระหว่างพวกเขากับซูเสี่ยวเฉิงยังไง

“พวกเธอต่อเลย” โหมวยู่ก็ได้เอาแอปเปิล แล้วก็ใช้มีดเล็กค่อยๆ ปอกเปลือก

ซูเสี่ยวเฉิงกลืนน้ำลาย นี่มันเรื่องอะไร นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของหลีซินกับชางหลิงเหรอ? ทำไมดูแล้วโหมวยู่เหมือนเป็นเจ้าของบ้านยังไงอย่างงั้น?

อีกอย่าง เขามานั่งอยู่ตรงนี้ ใครยังจะกล้าต่อล่ะ

ซูเสี่ยวเฉิงหันหน้ามองไปทางชางหลิง ชางหลิงก็ได้มีสีหน้าที่งงงวย

พูดกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาจะล้มไปพักเดียวก่อน? ในสายตาของซูเสี่ยวเฉิง เขาก็เหมือนหมาป่าดุร้ายที่กินคน เธอจะพูดออกไปว่าเธอนั้นได้คบหากับหมาป่าดุร้ายต่อหน้าเขาได้ยังไงล่ะเนี่ย

บรรยากาศก็ได้เงียบแปลกๆ หลีซินก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกมากๆ เขาได้นั่งโซฟาฝั่งที่ซูเสี่ยวเฉิงนั่ง ก็ได้เอาส้มขึ้นมาปอกเปลือยจากโต๊ะน้ำชา

“คือว่า……” ชางหลิงก็ได้กระตุกชายเสื้อของซูเสี่ยวเฉิง “ที่จริงฉันอยากพูดกับเธอว่า ฉัน……ฉันนั้นได้……”

ซูเสี่ยวเฉิงก็ได้นั่งลงมา จ้องมองชางหลิงตาไม่กะพริบ

“ก็ได้ ก็เป็นอย่างที่เธอเห็น ฉันได้อยู่ด้วยกันกับโหมวยู่” ชางหลิงกลั้นหายใจ ก็ได้พูดออกมาทั้งหมดทีเดียว

ซูเสี่ยวเฉิงมองเธออยู่นาน อยู่ๆ ปากก็ได้คว่ำอีกครั้ง “ฉันว่าแล้ว ฉันว่าแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนไม่ปกติ เธออยู่ด้วยกันกับหลีซิน มองพวกเขาสองคนพลอดรักด้วยกันทุกวัน ยังต้องแกล้งทำเป็นใจกว้างแบบนั้น เสี่ยวหลิงหลิง เธอลำบากจัง!”

มีดในมือของโหมวยู่ก็ได้หยุด มุมปากของหลีซินก็ได้กระตุก

“ชู่ว!” ชางหลิงก็ได้รีบปิดปากของซูเสี่ยวเฉิง “เธออยากตายแล้วเหรอ!”

เธอถึงขั้นกล้าที่จะพูดต่อหน้าพวกเขาทั้งสองว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ ไม่เห็นว่าคนนั้นเขายังถือมีดอยู่ในมือนะ

“เอ๋เดี๋ยวนะ เธอว่าความสัมพันธ์ของใครสองคนไม่ปกติ?” หลีซินก็ได้วางส้มลง จ้องมองซูเสี่ยวเฉิง

เดิมที่เขาก็ไม่ได้มีความประทับใจที่ดีกับซูเสี่ยวเฉิง ครั้งแรกที่เจอกันเธอก็ได้พูดไปต่อหน้าคนมากมายว่าเขานั้นเป็นคนละทิ้งคนที่รักกันมานานมาทำลายชื่อเสียงของเขา ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีของชางหลิง เขาไม่อยากที่จะสนใจเธอ

“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้” ซูเสี่ยวเฉิงก็ได้แกะมือของชางหลิงออก ก็ได้ทำท่าทางที่น่ากลัว

“เสี่ยวหลิงหลิง เธอโดนพวกตระกูลชางรังแกจนโง่ไปแล้วเหรอ คนอื่นเอาลูกอมให้หน่อยก็หลอกเธอไปได้แล้ว ก่อนหน้าฉันยังคิดว่า ถึงแม้เธอกับหลีซินแต่งงานแค่ในนาม แต่ว่าอย่างน้อยเขายังดีกับเธอ แต่ว่า เขาถึงขั้นกล้าที่จะพลอดรักกับโหมวยู่ต่อหน้าเธอแบบนี้ นี่มันรังแกคนอื่นไปหรือเปล่า?”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท