ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 119 ตกลงฉันเงื่อนไขหนึ่ง

บทที่ 119 ตกลงฉันเงื่อนไขหนึ่ง

ก่อนตายคนที่แม่เจอคนสุดท้าย คือชางฉิง

ชางหลิงเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย

เธอยังจำเรื่องครั้งก่อนที่ชางฉิงบอกกับเธอในห้องน้ำของNOVA เธอบอกว่าเธอเห็นแม่กรีดข้อมือฆ่าตัวตาย หรือว่า เธอยังรู้เรื่องอื่นอีก?

ตอนนั้น ชางหลิงที่อายุแปดขวบถูกแม่ส่งไปเรียนวาดรูป ทุกวันหลังเธอเลิกเรียนก็จะอยู่ในห้องวาดรูปหลายชั่วโมง เพราะเหตุนี้เอง เธอถึงพลาดการเจอแม่ครั้งสุดท้าย

แม้ไม่อยากเจอชางฉิง แต่ว่าเพื่อแม่แล้ว ชางหลิงก็เลยยอมอีกครั้ง

สุดสัปดาห์ โหมวยู่ส่งเธอมาเรือนจำที่ชานเมือง ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ชางหลิงก็ถูกพาเข้ามาในห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง

มีกระจกกั้นเอาไว้ ชางหลิงกับชางฉิงมองหน้ากัน ทั้งสองไม่เจอกันนาน ชางหลิงถูกโหมวยู่เลี้ยงดูอย่างดียังคงมีใบหน้าขาวอมชมพู แต่ชางฉิงกลับหมองลงไปเยอะมาก ขอบตาดำคล้ำ ใบหน้าก็ผอมเล็กลงไปเยอะมาก

ชางฉิงหยิบโทรศัพท์ข้างๆขึ้นมาก่อน มองชางหลิงด้วยสายตามืดมน

ชางหลิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตาม

“ฉันรู้ว่าเธอต้องมา” พอพูดขึ้น เสียงของชางฉิงแหบไปเยอะมาก

ชางหลิงไม่ได้พูด มองดูใบหน้าข้างหน้านี้ เธอก็จะนึกถึงวันที่เธอสาดน้ำกรดกัดทองมาอย่างสุดตัว

“ชางหลิง ฉันแพ้แล้ว แพ้ราบคาบ” ชางฉิงยิ้มอ่อน “มองดูท่าทางของพวกเราตอนนี้ และนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนที่เคยทำ ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าขำสิ้นดี”

ชางหลิงถอนหายใจ “มีอะไรก็พูด ฉันยังมีธุระ ไม่อยากฟังเธอพูดไร้สาระ”

“ทั้งชีวิตนี้เรามีโอกาสได้พูดกันน้อยมาก แค่ไม่กี่นาทีเธอก็ไม่อยากให้ฉันเลยเหรอ?” ชางฉิงหัวเราะ “เธอรู้ไหมช่วงนี้ฉันคิดถึงอะไรมากที่สุด? คือช่วงเวลาที่ทะเลาะกับเธอมาตั้งแต่เด็กจนโต”

ห้องขังที่โดดเดี่ยวเงียบเหงาจนได้ยินแค่เสียงลมหายใจของเธอ ไม่มีใครพูดกับเธอ เธอมีชีวิตเหมือนอากาศ โดดเดี่ยวจนจะบ้าตายอยู่แล้ว

ชางหลิงทำท่าจะวางสาย ชางฉิงกลับรีบลุกขึ้น “อย่าพึ่งๆ!”

เธอลุกขึ้นมา ผู้คุมขังด้านหลังก็รีบเข้ามา ยกกระบองจะตีชางฉิง

ชางฉิงกลัวและรีบนั่งลง “ชางหลิง อย่าพึ่งวางเลยนะ”

ชางหลิงทำสีหน้าหงุดหงิด และถือโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง

“พูดเถอะ เรื่องเกี่ยวกับแม่ฉัน เธอรู้เท่าไหร่?”

ชางฉิงถอนหายใจยาว ถือว่าเป็นการยอมแพ้ “ฉันจะบอกเรื่องที่เธออยากรู้แน่นอน แต่เธอต้องตอบตกลงฉันเงื่อนไขหนึ่งก่อน”

“เธอคิดว่าตอนนี้เธอยังมีสิทธิมายื่นข้อเสนอกับฉันเหรอ?” ชางหลิงแสยะยิ้ม

“ก็แค่ข้อเดียว สำหรับเธอมันง่ายมาก” ชางฉิงไม่มีทีท่าหยิ่งผยองเหมือนเมื่อก่อน แต่ภายในน้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยคำร้องขอ

ชางหลิงเลิกคิ้วขึ้น เธอสงสัยจริงๆ อะไรที่ทำให้ชางฉิงทำท่าทางน่าสงสารแบบนี้ได้

“ว่ามา” ชางหลิงพูดอย่างเย็นชา

“แม่ฉันมาเยี่ยมฉันแล้ว แม่บอกเรื่องของพวกเธอกับฉัน ฉันก็พึ่งรู้เอง ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆของตระกูลชาง” ชางฉิงยิ้มอย่างเศร้าโศก “พูดมาแล้วก็น่าขำ ฉันแย่งกับเธอมาทั้งชีวิต ถึงรู้ว่า จุดจบของฉันดีได้กว่านี้ ถ้าฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ฉันอาจจะไม่มีความคิดที่จะเปรียบเทียบกับเธอ”

“ไม่” ชางหลิงปฏิเสธที่เธอพูด “ถ้าเธอรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ เกรงว่าเธอคงทำร้ายฉันมากกว่านี้ เธอรู้ไหมทำไมแม่ฉันถึงอยากได้ตัวตน ทำไมอยากให้ฉันเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลชาง ก็เพื่อป้องกันคนแบบเธอ รังแกที่ฉันไม่มีที่พึ่ง บอกว่าฉันเป็นลูกกำพร้า”

“ชางฉิง อย่าล้างบาปให้ตัวเองเลย การสั่งสอนอบรมของเธอตั้งแต่เด็กจนโตตัดสินจุดจบของเธอแล้ว ถึงแม้จะเริ่มต้นใหม่ เธอก็จะเลือกทางเดิมอยู่ดี ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก”

สายตาของชางฉิงมืดมนลง นัยน์ตาเศร้าโศก

“เธอพูดแบบนี้แล้ว ถ้าฉันอธิบายก็คงไม่มีประโยชน์อะไร” ชางฉิงพูดต่อ “เธอมาเจอฉันวันนี้ก็เพื่อแม่ของเธอ และเงื่อนไขที่ฉันอยากแลกเปลี่ยนกับเธอ ก็คือแม่ของฉัน”

ชางหลิงขมวดคิ้ว

“ชางหลิง ให้เงินแม่ฉันก้อนหนึ่งนะ ให้แม่ฉันออกจากเมืองหนานไป”

ชางหลิงเงียบ

เงื่อนไขของชางฉิง เป็นจ้าวหลันจืองั้นเหรอ? ปกติก็ไม่เห็นแม่ลูกรักกันมากเท่าไหร่นี่

“พ่อแม่มีแค่พวกเราลูกสาวสองคน ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว เธอคงกลับตระกูลชางไม่ได้แล้ว และฉันก็คงดูแลพวกท่านไม่ได้แล้วด้วย พ่อยังดี ในมือเขายังมีหุ้นส่วนของตระกูลชาง ต่อไปแม้จะไม่ร่ำรวยเหมือนแต่ก่อน แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่อยู่อาศัย แต่แม่ฉันไม่มีอะไรเลย……”

“ชางหลิง เธอประสบความสำเร็จแล้ว เธอแย่งตระกูลชางไปจากพวกเราได้ ไม่เหลือให้เลยสักนิด แต่เธอก็รู้ พวกนี้เป็นสิ่งที่คุณน้าชิงสัญญาให้พวกเรา” ชางฉิงมองเธออย่างจริงจัง “ตอนนี้พ่อแม่……เพราะเรื่องของพวกเราสองคน ความรักแตกแยก กำลังทะเลาะหย่ากันอยู่ แม่ฉันอาจจะถูกพิพากษาให้ออกไปตัวเปล่า……ชางหลิง เธอก็รู้ ถึงแม้ว่าแม่ของฉันจะไม่เคยทำความดีต่อตระกูลชางเลย แต่เธอก็ดูแลตระกูลชางมานานหลายปี ไม่มีความดีก็มีความชอบไหม แม่อายุห้าสิบกว่าแล้ว เป็นแม่บ้านมานาน ไม่มีความสามารถในการทำงาน ดังนั้น ฉันเลยอยากขอให้เธอช่วยน่ะ……”

“เธอคิดว่าฉันจะช่วยเธอเหรอ?” ชางหลิงรู้สึกสับสน “ฉันยังคิดว่าเธอจะรู้ ว่าฉันเกลียดพวกเธอแม่ลูกมากแค่ไหน”

ชางฉิงก้มหน้าลง “ฉันรู้ ดังนั้นคนที่ฉันอยากเจอ ไม่ได้มีแค่เธอ คนที่จะขอเงินได้ก็ไม่ได้มีแค่เธอ ก็แค่อยากลองดูเท่านั้นเอง”

ชางฉิงคิดวางแผนมาอย่างดี ยิงลูกศรออกมาพร้อมกัน? ชางหลิงรู้สึกเวทนา เธอจ้องมองสีหน้าของชางฉิง ขยับเข้าไปใกล้กระจก “งั้นคนที่เธออยากเจอ มีโม่โม่ด้วยไหม?”

ชางฉิงคิ้วขมวดเล็กน้อย

“ข้อเสนอที่เธอแลกเปลี่ยนกับโม่โม่คืออะไร?” ชางหลิงยิ้มกว้างมากขึ้น “แต่ว่า ฉันคิดนะ หล่อนคงปฏิเสธเธอสินะ เพราะยังไง เธอก็ปลีกตัวออกมาจากเรื่องนี้แล้ว ถึงเธออยากจะแว้งกัด ก็ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว ดังนั้น เธอถึงได้ยอมลดตัวมาหาฉัน ไม่งั้น เธอเข้าคุกวันแรกก็ควรอยากจะเจอฉันจนใจจะขาด”

ชางฉิงหรี่ตาลง

ทั้งสองโตมาด้วยกัน ระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา บอกได้ว่า ชางหลิงรู้จักเธอดีเกินไป เดาทางของเธอได้อย่างชัดเจน

“ดังนั้นเธอตกลงไหม?” ชางฉิงเริ่มรู้สึกไม่พอใจ ตอนแรกยังอยากทำตัวน่าสงสารเพื่อให้เธอเห็นใจ แต่ตอนนี้ชางหลิงก็พูดขนาดนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงต่อไปแล้วล่ะ

“ตกลงสิ” ชางหลิงตอบอย่างรวดเร็ว ทำเอาชางฉิงอึ้ง

“เธอก็รู้ ตอนนี้ฉันขาดทั้งหมด แต่สิ่งเดียวที่ไม่ขาดเลยคือเงิน” ชางหลิงแสยะยิ้ม “ฉันให้ชีวิตที่ดีกับแม่เธอได้ ถึงแม้ไม่มีเธอ ก็จะเดินไปถึงบั้นปลายชีวิตได้อย่างสงบสุข”

ชางฉิงเดาทางชางหลิงไม่ออก

“เธอจะรับรองได้ยังไง?” ชางฉิงไม่อยากจะเชื่อ

“เธอคิดว่าตอนนี้เธอมีสิทธิมาสงสัยฉันเหรอ? ฉันตอบตกลงเธอแค่ปากก็พอแล้ว ที่นี่ก็ไม่ให้เอาโทรศัพท์มา ไม่งั้น ฉันอาจจะเอาประวัติการโอนเงินให้เธอดู” ชางหลิงพูดอย่างเรียบเฉย

ชางฉิงไม่รู้ควรจะตอบยังไง

“พูดมา” ชางหลิงเอามือเคาะโต๊ะเบาๆ และมองนาฬิกาที่แขวนไว้ไม่ไกล “เวลาเหลือน้อยแล้ว เธอยิ่งช้า เงินที่ให้จ้าวหลันจือก็น้อยลงตามไปด้วย”

ชางฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ถือว่าแพ้ให้กับชางหลิงอย่างราบคาบแล้ว

“น้าชิงก่อนจะฆ่าตัวตายหนึ่งเดือนในตอนบ่ายวันนั้น ฉันเคยเห็นเธอเข้ามาในบ้านโดยสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย”

นวนิยายจะได้รับการอัปเดตทุกวัน กลับมาอ่านต่อพรุ่งนี้นะคะทุกคน!

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท