ชางหลิงวางถ้วยน้ำชาในมือลงและรอยแผลเป็นบนข้อมือของเธอก็เผยออกมา โหมวเจิ้งถิงจ้องมองที่ข้อมือเธอ ทันใดนั้นความอาฆาตก็พุ่งออกมาจากดวงตาที่โหดเหี้ยมคู่นั้น
“สาวน้อย แผลที่มือ คงเจ็บมากสินะ”
สีหน้าชางหลิงเปลี่ยนไป ลำเธอขยับ แต่ยังคงยิ้ม
“ถ้าคุณลุงฆ่าหนู คุณลุงจะอธิบายกับทางโหมวยู่ว่ายังไงล่ะคะ?”
“ฉันต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยเหรอ?” โหมวเจิ้งถิงดูถูกเหยียดหยาม “เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้ไม่มีเธอ ถ้าในฐานะลูกชายของฉันแล้วต่อไปเขาจะมีต้องผู้หญิงมากมาย เมื่อนานเข้า เขาก็จะลืมเธอไปเองและเขาคงจะตัดสัมพันธ์กับฉันได้อยู่หรอกมั้ง?”
ชางหลิงรู้สึกขำ
“ขำอะไร?” โหมวเจิ้งถิงงุนงง
“ฉันขำตรงที่คุณลุงในฐานะพ่อของโหมวยู่ แต่กลับไม่เข้าใจในตัวลูกชายคุณลุงเลยนิด” ชางหลิงตอบ “คุณคิดว่า เพราะก่อนหน้านี้มีตัวอย่างนี้ด้วยโหมวฉี่ต้องสูญเสียคนรักของเขาไปแต่กลับไม่เจ็บแค้นใจคุณลุงเพียงเพราะสิ่งนี้ เพราะฉะนั้นคุณลุงคิดว่าวิธีนี้ได้ผลเหรอคะ?”
โหมวเจิ้งถิงนิ่งเงียบ
“อย่าว่าแต่ลูกชายทั้งสองของคุณลุงเลยนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และต่อให้เหมือนกัน เพราะโหมวฉี่เห็นแก่พระคุณในการดูแล เขาจึงอดกลั้นไว้แต่ส่วนโหมวยู่ซึ่งเท่าที่หนูรู้นะ ความสัมพันธ์ของเขากับคุณลุงไม่ได้ดีมาก ” ชางหลิงไม่เกรงกลัวสักนิด
“ถ้าคุณลุงแตะต้องหนู หนูก็ไม่กล้ารับประกันได้ว่าโหมวยู่จะไม่ล้างแค้นให้หนู อย่างไรก็ตาม เรื่องการออกห่างของพ่อลูกพวกคุณนั้นต้องมีอย่างแน่นอน ทรัพย์สินที่มากมายขนาดนี้ของตระกูลโหมว ไม่ว่าคุณลุงจะทำใจยอมรับไม่ได้แค่ไหน สุดท้ายคุณลุงก็จะต้องสืบทอดมันไว้ในมือลูกชายแท้ๆ ของคุณลุงและคุณลุงก็ยังสั่งโหมวยู่ให้คอยพัฒนาบริษัทเซิ่งซื่อเพื่อนำเกียรติยศมาให้บรรพบุรุษ ไม่ใช่เหรอคะ?”
“เธอกำลังข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?” กลิ่นอายความอันตรายบนตัวของโหมวเจิ้งถิงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“หนูจะไปกล้าได้ยังไงกันคะ” ชางหลิงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “แม้ว่าหนูจะอยากใช้สิ่งนี้ข่มขู่คุณลุง ก็ยังต้องให้ตัว โหมวยู่ต้องการทรัพย์สินของตระกูลโหมวถึงจะได้ ไม่อย่างนั้น ต่อให้คุณลุงอยากจะมอบให้ เขาก็คงไม่รับหรอกค่ะ คุณลุงว่าใช่ไหมคะ?”
เหอๆ โหมวเจิ้งถิงส่งเสียงเยาะเย้ย “เธอน่ะอายุยังน้อยแต่ก็เฉลียวฉลาดมากเหมือนกัน เธอรู้ไหมว่า ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้มาก่อนเลยนะ?”
“นั่นเป็นเพราะว่ารอบตัวคุณลุงไม่มีใครกล้าพูดกับคุณแบบนี้เลยไงจึงทำให้คุณลุงแยกแยะไม่ออกแม้ว่าคุณลุงจะนั่งในที่ตำแหน่งสูง แต่กลับมองใจคนไม่ออกเลย” ชางลิงตอบเขา “ในตอนที่เดินทัพทำสงครามคุณลุงก็เข้าใจเงื่อนงำหรือเรื่องราวด้วยและคนรุ่นหลังก็ให้ความเคารพนับถือคุณลุงดีแต่หากตามการเข้าหากับคนอื่นแล้ว คนต่ำต้อยอย่างหนูคนนี้ก็ยังแกร่งกว่า”
อย่างไรเสีย หนูก็ไม่ได้คอยระวังให้ใครมาลอบสังหารหนูทั้งกลางวันและกลางคืนหรอกค่ะ ต่อให้จะประสบอุบัติเหตุ หนูก็รู้ดีว่าตัวเองตายด้วยเงื้อมมือของใคร”
“เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นก็คงขึ้นอยู่กับคำพูดนี้ของเธอแล้วล่ะ เพราะฉันจะลากตัวเธอออกมาและนำเธอไปสู่ความตายอย่างรวดเร็วได้?” โหมวเจิ้งถิงมองด้วยสายตาดุร้าย
ชางหลิงตาสั่นสะเทือน
เธอเชื่อ
ประสบการณ์กับวิธีการที่รุนแรงของโหมวเจิ้งถิง เธอเคยลองด้วยตัวเองมาก่อนแล้วซึ่งเธอรู้ว่า เขาสามารถทำได้อย่างแน่นอน
“นายท่านครับ” เสียงของโจวฝูดังออกมาจากข้างนอก“คุณชายใหญ่มาแล้วครับ”
โหมวเจิ้งถิงขมวดคิ้ว
คุณชายใหญ่งั้นเหรอ? ชางหลิงก็ประหลาดใจเช่นกัน ทำถึงไม่เป็นโหมวยู่ที่รีบมาก่อน แต่กลับเป็นโหมวฉี่แทน?
“เขามาทำอะไร?” โหมวเจิ้งถิงแปลกใจ แต่ไม่นาน เขาก็เหลือบมองไปที่ชางหลิงซึ่งอยู่ข้างหน้าแวบหนึ่ง แล้วส่งเสียงเย็นชาไปทีหนึ่ง
“ดูเหมือนว่า ฉันประเมินเธอต่ำไป?”
ชางหลิงไม่เข้าใจในความหมายของเขา โหมวฉี่มาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?
“ให้เขาเข้ามา” โหมวเจิ้งถิง ออกคำสั่ง
เสียงรถเข็นเลื่อนข้ามพื้นก็เข้ามาอย่างช้าๆ ชางหลิงหันหน้ามา โหมวฉี่ยังอยู่ในเสื้อไหมพรมคอสูง ด้วยท่าทางของคุณชายที่ร่ำรวยและมีพรสวรรค์ที่ล้นหลาม บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เห็นเธอ ความตึงเครียดในดวงตาของเขาก็คลายลง
“คุณพ่อครับ” โหมวฉี่ดันรถเข็นเข้าไปใกล้พวกเขาอย่างเคารพนบนอบ “ผมได้ยินมาว่าคุณพ่อกับคุณลุงโม่ตั้งใจให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ของเราดำเนินงานที่โรงน้ำชา นี่อาจจะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ การคิดเองทำเองมันไม่สมเหตุสมผลเลยนะครับ ทั้งยังพาดีไซเนอร์คนอื่นมาปาร์ตี้สนุกสนานกันที่วิลล่าใกล้ๆ นี้อีก คุณพ่อดูสิ คุณพ่อจะไปพูดอะไรหน่อยไหม?”
โหมวเจิ้งถิงจ้องโหมวฉี่อยู่นาน ในที่สุด ก็หัวเราะออกมา “ลูกทำอะไรก็มักจะรอบคอบอยู่เสมอ พ่อเองก็โล่งใจมากแล้วล่ะและพ่อคงจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของพวกวัยรุ่นล่ะ”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้… ” ดวงตาของโหมวฉี่หยุดอยู่ที่ตัวชางหลิง “ทุกคนยังรอให้ชางหลิงกลับทีมนะครับ พอดีว่าผมจะไปผ่านด้วยเดี๋ยวก็ให้เธอไปกับผมด้วยกัน”
“รีบขนาดนี้ลูกคิดว่าพ่อจะทำอย่างไรกับนังหนูคนนี้ดีล่ะ?” โหมวเจิ้งถิงถามโหมวฉี่
รอยยิ้มบนใบหน้าของโหมวฉี่ค่อยๆ หม่นมัวลง ครู่หนึ่งบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมา
“แค่แม่หนูคนหนึ่ง มาดื่มชากับคนแก่อย่างพ่อ ต้องถึงกับให้ลูกมาช่วยแก้หน้าให้เธออย่างรีบร้อนเลยเหรอ?” โหมวเจิ้งถิงพูดพร้อมกับค่อยๆ หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมา
“บาดแผลพวกเธอคงจะหายดีและลืมความเจ็บปวดไปแล้วล่ะสิจึงอยากมาท้าทายความอดทนของนายท่านใหญ่อย่างพ่อ”
โหมวฉี่ไม่ตอบโหมวเจิ้งถิงยกถ้วยน้ำชาเข้าปากและในขณะนั้นเอง ชางหลิงกลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอยื่นมือออกไป แล้วห้ามไม่ให้โหมวเจิ้งถิงดื่มชา
“ไม่เจียมตัว!” การกระทำที่ไร้เหตุผลของชางหลิงทำให้โหมวเจิ้งถิงโกรธ จากนั้นเขาก็วางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ แล้วถลึงตามองเธอด้วยความโกรธ
“คุณพ่อครับ!” กลัวจนหัวใจแทบพุ่งออกจากลำคอ ชางหลิงนี่จะกล้าหาญเกินไปแล้วการยั่วยุเขาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ นี่ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายเหรอ?
“ท่านประธานคะ ท่านเข้าใจผิดคุณชายฉี่แล้ว” ชางหลิงมือสั่นเล็กน้อย แต่หล่อนก็ยังปริปากพูดออกมา “คุณชายฉี่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยแก้หน้าให้ฉัน แต่มาเพื่อช่วยคุณต่างหากล่ะ”
สายตาโหมวเจิ้งถิงมืดครึ้ม ราวกับว่าเขาจะเข้าใจในบางอย่างขึ้นมา จากนั้นก็จ้องไปที่ถ้วยน้ำชาซึ่งอยู่ตรงหน้าเขา
ชางหลิงถือถ้วยน้ำชานั้นขึ้นมาแล้วเทชาลงไปในอ่างน้ำ จากนั้นก็เห็นแค่เจ้าเต่าพลิกตัวไปมาในน้ำ หลังจากนั้นไม่นาน ตัวมันก็ไม่ดิ้นอีก
“นี่เธอ…” โหมวเจิ้งถิงสีหน้าซีดเซียว
โหมวฉี่ยิ่งตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
“นี่เธอทำอะไรไป?” โหมวเจิ้งถิงชี้ไปที่ชางหลิง
ชางหลิงยิ้ม พร้อมกับถอดแหวนออกจากมือ แล้วบิดมันเล็กน้อย จากนั้นฝาของเพชรที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนั้นก็ถูกเธอเปิดออกมา แล้วเผยให้เห็นโครงสร้างที่ว่างเปล่าภายใน
“โปแตสเซียมไซยาไนด์ แค่ยาพิษนิดหน่อย” ชางหลิงยิ้ม
เมื่อเธอพูดแบบนี้ออกไป โหมวฉี่ก็ตัวสั่น
โปแตสเซียมไซยาไนด์! นี่มันยาพิษร้ายแรงเลยนะ! ถ้าประมาทแค่นิดเดียวแล้วเผลอสูดดมเข้าโพรงจมูกและกลืนกินลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะ นายท่านใหญ่มักจะระมัดระวังตัวอยู่เสมอ แต่วันนี้เขากลับโดนเล่ห์เหลี่ยมของชางหลิง
“นี่เธอจะทำร้ายฉันเหรอ?” โหมวเจิ้งถิงจ้องเธอ แม้ในใจจะรู้สึกกลัวเล็กน้อย
อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะดื่มชาถ้วยนี้แล้ว แม้ว่าเมื่อถึงนั้นโจวฝูจะจับเธอได้ แต่เขาก็เสียชีวิตแล้วและเขาก็จะสูญเสียทุกอย่างไป
“หนูพูดไปแล้วว่า หนูจะเตรียมของขวัญให้คุณลุงสักหน่อย คุณลุงควรคิดได้นะ เพราะอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นคุณลุงก็จะเอาชีวิตของหนูไปด้วยเหมือนกัน ของขวัญที่หนูได้เตรียมไว้ให้คุณลุง จะไม่ด้อยไปกว่าแน่นอน” ใบหน้าชางหลิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา “อย่างที่คุณลุงพูดไว้ไงว่า คนรุ่นหลังไร้ฝีมือ และมันก็เป็นการชอบเล่นหยอกล้ออะไรที่ฉลาดๆ นิดหน่อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หนูก็เป็นแค่วัยรุ่นที่ตรงไปตรงมา และเกลียดชังคนชั่วและสิ่งชั่วพอๆ กับเกลียดชังศัตรูของตน โดยเฉพาะคนที่เคยข่มเหงหนูมาก่อน และแค้นนี้ หนูต้องเอาคืนให้ได้”
“โจวฝู!” โหมวเจิ้งถิงส่งเสียงเรียก
โจวฝูรีบพาคนเข้ามาทันที แล้วล้อมรอบห้องน้ำชาทั้งหมดอย่างแน่นจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านเข้าไปไม่ได้
“กล้าลงมือกับฉันเหรอ แกคิดว่าวันนี้แกจะออกจากห้องนี้ได้เหรอ?” โหมวเจิ้งถิงโกรธ
ไม่เคยมีใครกล้ากระทำต่อเขาแบบนี้มาก่อนเลย และเขาก็มีชีวิตมาตั้ง 60 ปีนี้แล้วแต่วันนี้กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของนังหนูไร้เดียงสาคนหนึ่ง!