ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 132 ยาพิษแค่นิดเดียว

บทที่ 132 ยาพิษแค่นิดเดียว

ชางหลิงวางถ้วยน้ำชาในมือลงและรอยแผลเป็นบนข้อมือของเธอก็เผยออกมา โหมวเจิ้งถิงจ้องมองที่ข้อมือเธอ ทันใดนั้นความอาฆาตก็พุ่งออกมาจากดวงตาที่โหดเหี้ยมคู่นั้น

“สาวน้อย แผลที่มือ คงเจ็บมากสินะ”

สีหน้าชางหลิงเปลี่ยนไป ลำเธอขยับ แต่ยังคงยิ้ม

“ถ้าคุณลุงฆ่าหนู คุณลุงจะอธิบายกับทางโหมวยู่ว่ายังไงล่ะคะ?”

“ฉันต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยเหรอ?” โหมวเจิ้งถิงดูถูกเหยียดหยาม “เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้ไม่มีเธอ ถ้าในฐานะลูกชายของฉันแล้วต่อไปเขาจะมีต้องผู้หญิงมากมาย เมื่อนานเข้า เขาก็จะลืมเธอไปเองและเขาคงจะตัดสัมพันธ์กับฉันได้อยู่หรอกมั้ง?”

ชางหลิงรู้สึกขำ

“ขำอะไร?” โหมวเจิ้งถิงงุนงง

“ฉันขำตรงที่คุณลุงในฐานะพ่อของโหมวยู่ แต่กลับไม่เข้าใจในตัวลูกชายคุณลุงเลยนิด” ชางหลิงตอบ “คุณคิดว่า เพราะก่อนหน้านี้มีตัวอย่างนี้ด้วยโหมวฉี่ต้องสูญเสียคนรักของเขาไปแต่กลับไม่เจ็บแค้นใจคุณลุงเพียงเพราะสิ่งนี้ เพราะฉะนั้นคุณลุงคิดว่าวิธีนี้ได้ผลเหรอคะ?”

โหมวเจิ้งถิงนิ่งเงียบ

“อย่าว่าแต่ลูกชายทั้งสองของคุณลุงเลยนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และต่อให้เหมือนกัน เพราะโหมวฉี่เห็นแก่พระคุณในการดูแล เขาจึงอดกลั้นไว้แต่ส่วนโหมวยู่ซึ่งเท่าที่หนูรู้นะ ความสัมพันธ์ของเขากับคุณลุงไม่ได้ดีมาก ” ชางหลิงไม่เกรงกลัวสักนิด

“ถ้าคุณลุงแตะต้องหนู หนูก็ไม่กล้ารับประกันได้ว่าโหมวยู่จะไม่ล้างแค้นให้หนู อย่างไรก็ตาม เรื่องการออกห่างของพ่อลูกพวกคุณนั้นต้องมีอย่างแน่นอน ทรัพย์สินที่มากมายขนาดนี้ของตระกูลโหมว ไม่ว่าคุณลุงจะทำใจยอมรับไม่ได้แค่ไหน สุดท้ายคุณลุงก็จะต้องสืบทอดมันไว้ในมือลูกชายแท้ๆ ของคุณลุงและคุณลุงก็ยังสั่งโหมวยู่ให้คอยพัฒนาบริษัทเซิ่งซื่อเพื่อนำเกียรติยศมาให้บรรพบุรุษ ไม่ใช่เหรอคะ?”

“เธอกำลังข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?” กลิ่นอายความอันตรายบนตัวของโหมวเจิ้งถิงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

“หนูจะไปกล้าได้ยังไงกันคะ” ชางหลิงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “แม้ว่าหนูจะอยากใช้สิ่งนี้ข่มขู่คุณลุง ก็ยังต้องให้ตัว โหมวยู่ต้องการทรัพย์สินของตระกูลโหมวถึงจะได้ ไม่อย่างนั้น ต่อให้คุณลุงอยากจะมอบให้ เขาก็คงไม่รับหรอกค่ะ คุณลุงว่าใช่ไหมคะ?”

เหอๆ โหมวเจิ้งถิงส่งเสียงเยาะเย้ย “เธอน่ะอายุยังน้อยแต่ก็เฉลียวฉลาดมากเหมือนกัน เธอรู้ไหมว่า ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้มาก่อนเลยนะ?”

“นั่นเป็นเพราะว่ารอบตัวคุณลุงไม่มีใครกล้าพูดกับคุณแบบนี้เลยไงจึงทำให้คุณลุงแยกแยะไม่ออกแม้ว่าคุณลุงจะนั่งในที่ตำแหน่งสูง แต่กลับมองใจคนไม่ออกเลย” ชางลิงตอบเขา “ในตอนที่เดินทัพทำสงครามคุณลุงก็เข้าใจเงื่อนงำหรือเรื่องราวด้วยและคนรุ่นหลังก็ให้ความเคารพนับถือคุณลุงดีแต่หากตามการเข้าหากับคนอื่นแล้ว คนต่ำต้อยอย่างหนูคนนี้ก็ยังแกร่งกว่า”

อย่างไรเสีย หนูก็ไม่ได้คอยระวังให้ใครมาลอบสังหารหนูทั้งกลางวันและกลางคืนหรอกค่ะ ต่อให้จะประสบอุบัติเหตุ หนูก็รู้ดีว่าตัวเองตายด้วยเงื้อมมือของใคร”

“เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นก็คงขึ้นอยู่กับคำพูดนี้ของเธอแล้วล่ะ เพราะฉันจะลากตัวเธอออกมาและนำเธอไปสู่ความตายอย่างรวดเร็วได้?” โหมวเจิ้งถิงมองด้วยสายตาดุร้าย

ชางหลิงตาสั่นสะเทือน

เธอเชื่อ

ประสบการณ์กับวิธีการที่รุนแรงของโหมวเจิ้งถิง เธอเคยลองด้วยตัวเองมาก่อนแล้วซึ่งเธอรู้ว่า เขาสามารถทำได้อย่างแน่นอน

“นายท่านครับ” เสียงของโจวฝูดังออกมาจากข้างนอก“คุณชายใหญ่มาแล้วครับ”

โหมวเจิ้งถิงขมวดคิ้ว

คุณชายใหญ่งั้นเหรอ? ชางหลิงก็ประหลาดใจเช่นกัน ทำถึงไม่เป็นโหมวยู่ที่รีบมาก่อน แต่กลับเป็นโหมวฉี่แทน?

“เขามาทำอะไร?” โหมวเจิ้งถิงแปลกใจ แต่ไม่นาน เขาก็เหลือบมองไปที่ชางหลิงซึ่งอยู่ข้างหน้าแวบหนึ่ง แล้วส่งเสียงเย็นชาไปทีหนึ่ง

“ดูเหมือนว่า ฉันประเมินเธอต่ำไป?”

ชางหลิงไม่เข้าใจในความหมายของเขา โหมวฉี่มาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?

“ให้เขาเข้ามา” โหมวเจิ้งถิง ออกคำสั่ง

เสียงรถเข็นเลื่อนข้ามพื้นก็เข้ามาอย่างช้าๆ ชางหลิงหันหน้ามา โหมวฉี่ยังอยู่ในเสื้อไหมพรมคอสูง ด้วยท่าทางของคุณชายที่ร่ำรวยและมีพรสวรรค์ที่ล้นหลาม บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เห็นเธอ ความตึงเครียดในดวงตาของเขาก็คลายลง

“คุณพ่อครับ” โหมวฉี่ดันรถเข็นเข้าไปใกล้พวกเขาอย่างเคารพนบนอบ “ผมได้ยินมาว่าคุณพ่อกับคุณลุงโม่ตั้งใจให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ของเราดำเนินงานที่โรงน้ำชา นี่อาจจะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ การคิดเองทำเองมันไม่สมเหตุสมผลเลยนะครับ ทั้งยังพาดีไซเนอร์คนอื่นมาปาร์ตี้สนุกสนานกันที่วิลล่าใกล้ๆ นี้อีก คุณพ่อดูสิ คุณพ่อจะไปพูดอะไรหน่อยไหม?”

โหมวเจิ้งถิงจ้องโหมวฉี่อยู่นาน ในที่สุด ก็หัวเราะออกมา “ลูกทำอะไรก็มักจะรอบคอบอยู่เสมอ พ่อเองก็โล่งใจมากแล้วล่ะและพ่อคงจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของพวกวัยรุ่นล่ะ”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้… ” ดวงตาของโหมวฉี่หยุดอยู่ที่ตัวชางหลิง “ทุกคนยังรอให้ชางหลิงกลับทีมนะครับ พอดีว่าผมจะไปผ่านด้วยเดี๋ยวก็ให้เธอไปกับผมด้วยกัน”

“รีบขนาดนี้ลูกคิดว่าพ่อจะทำอย่างไรกับนังหนูคนนี้ดีล่ะ?” โหมวเจิ้งถิงถามโหมวฉี่

รอยยิ้มบนใบหน้าของโหมวฉี่ค่อยๆ หม่นมัวลง ครู่หนึ่งบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมา

“แค่แม่หนูคนหนึ่ง มาดื่มชากับคนแก่อย่างพ่อ ต้องถึงกับให้ลูกมาช่วยแก้หน้าให้เธออย่างรีบร้อนเลยเหรอ?” โหมวเจิ้งถิงพูดพร้อมกับค่อยๆ หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมา

“บาดแผลพวกเธอคงจะหายดีและลืมความเจ็บปวดไปแล้วล่ะสิจึงอยากมาท้าทายความอดทนของนายท่านใหญ่อย่างพ่อ”

โหมวฉี่ไม่ตอบโหมวเจิ้งถิงยกถ้วยน้ำชาเข้าปากและในขณะนั้นเอง ชางหลิงกลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอยื่นมือออกไป แล้วห้ามไม่ให้โหมวเจิ้งถิงดื่มชา

“ไม่เจียมตัว!” การกระทำที่ไร้เหตุผลของชางหลิงทำให้โหมวเจิ้งถิงโกรธ จากนั้นเขาก็วางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ แล้วถลึงตามองเธอด้วยความโกรธ

“คุณพ่อครับ!” กลัวจนหัวใจแทบพุ่งออกจากลำคอ ชางหลิงนี่จะกล้าหาญเกินไปแล้วการยั่วยุเขาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ นี่ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายเหรอ?

“ท่านประธานคะ ท่านเข้าใจผิดคุณชายฉี่แล้ว” ชางหลิงมือสั่นเล็กน้อย แต่หล่อนก็ยังปริปากพูดออกมา “คุณชายฉี่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยแก้หน้าให้ฉัน แต่มาเพื่อช่วยคุณต่างหากล่ะ”

สายตาโหมวเจิ้งถิงมืดครึ้ม ราวกับว่าเขาจะเข้าใจในบางอย่างขึ้นมา จากนั้นก็จ้องไปที่ถ้วยน้ำชาซึ่งอยู่ตรงหน้าเขา

ชางหลิงถือถ้วยน้ำชานั้นขึ้นมาแล้วเทชาลงไปในอ่างน้ำ จากนั้นก็เห็นแค่เจ้าเต่าพลิกตัวไปมาในน้ำ หลังจากนั้นไม่นาน ตัวมันก็ไม่ดิ้นอีก

“นี่เธอ…” โหมวเจิ้งถิงสีหน้าซีดเซียว

โหมวฉี่ยิ่งตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

“นี่เธอทำอะไรไป?” โหมวเจิ้งถิงชี้ไปที่ชางหลิง

ชางหลิงยิ้ม พร้อมกับถอดแหวนออกจากมือ แล้วบิดมันเล็กน้อย จากนั้นฝาของเพชรที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนั้นก็ถูกเธอเปิดออกมา แล้วเผยให้เห็นโครงสร้างที่ว่างเปล่าภายใน

“โปแตสเซียมไซยาไนด์ แค่ยาพิษนิดหน่อย” ชางหลิงยิ้ม

เมื่อเธอพูดแบบนี้ออกไป โหมวฉี่ก็ตัวสั่น

โปแตสเซียมไซยาไนด์! นี่มันยาพิษร้ายแรงเลยนะ! ถ้าประมาทแค่นิดเดียวแล้วเผลอสูดดมเข้าโพรงจมูกและกลืนกินลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะ นายท่านใหญ่มักจะระมัดระวังตัวอยู่เสมอ แต่วันนี้เขากลับโดนเล่ห์เหลี่ยมของชางหลิง

“นี่เธอจะทำร้ายฉันเหรอ?” โหมวเจิ้งถิงจ้องเธอ แม้ในใจจะรู้สึกกลัวเล็กน้อย

อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะดื่มชาถ้วยนี้แล้ว แม้ว่าเมื่อถึงนั้นโจวฝูจะจับเธอได้ แต่เขาก็เสียชีวิตแล้วและเขาก็จะสูญเสียทุกอย่างไป

“หนูพูดไปแล้วว่า หนูจะเตรียมของขวัญให้คุณลุงสักหน่อย คุณลุงควรคิดได้นะ เพราะอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นคุณลุงก็จะเอาชีวิตของหนูไปด้วยเหมือนกัน ของขวัญที่หนูได้เตรียมไว้ให้คุณลุง จะไม่ด้อยไปกว่าแน่นอน” ใบหน้าชางหลิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา “อย่างที่คุณลุงพูดไว้ไงว่า คนรุ่นหลังไร้ฝีมือ และมันก็เป็นการชอบเล่นหยอกล้ออะไรที่ฉลาดๆ นิดหน่อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หนูก็เป็นแค่วัยรุ่นที่ตรงไปตรงมา และเกลียดชังคนชั่วและสิ่งชั่วพอๆ กับเกลียดชังศัตรูของตน โดยเฉพาะคนที่เคยข่มเหงหนูมาก่อน และแค้นนี้ หนูต้องเอาคืนให้ได้”

“โจวฝู!” โหมวเจิ้งถิงส่งเสียงเรียก

โจวฝูรีบพาคนเข้ามาทันที แล้วล้อมรอบห้องน้ำชาทั้งหมดอย่างแน่นจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านเข้าไปไม่ได้

“กล้าลงมือกับฉันเหรอ แกคิดว่าวันนี้แกจะออกจากห้องนี้ได้เหรอ?” โหมวเจิ้งถิงโกรธ

ไม่เคยมีใครกล้ากระทำต่อเขาแบบนี้มาก่อนเลย และเขาก็มีชีวิตมาตั้ง 60 ปีนี้แล้วแต่วันนี้กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของนังหนูไร้เดียงสาคนหนึ่ง!

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท