ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 127 ผู้หญิงของฉินซาง

บทที่ 127 ผู้หญิงของฉินซาง

สายตาของโม่โม่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทว่าเธออดทนมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มีการระเบิดออกมา

และทางฝั่งในห้องแต่งตัว ไทเลอร์เดินโขยกเขยกกุมแผลออกมา ยืนตรงประตูมองชางหลิง

“คุณอีกแล้วเหรอ” ต้นขาของไทเลอร์ยังคงมีเลือดไหล ดูเหมือนว่าเมิ่งเคอก็ทำร้ายเขาอย่างสาหัสเช่นกัน

หลังจากนั้นมือข้างหนึ่งของผู้หญิงก็มาเกาะกรอบประตู เมิ่งเคอที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเดินโซซัดโซเซออกมา ใบหน้าของเธอบาดเจ็บอีกแล้ว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ในมือข้างหนึ่งยังคงกำเศษกระจก

“ชางหลิง…” เมิ่งเคอเห็นชางหลิง แววตาที่สิ้นหวังไปแล้วเกิดมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

“ชางหลิง” โม่โม่ส่งเสียงเยาะ “คุณคิดว่าสามารถพาเธอออกไปจากที่นี่ได้งั้นเหรอ ความจริงที่ว่าเธอขโมยสร้อยข้อมือเพชรของฉัน และยังแย่งชิงจนมันพัง สร้อยข้อมือมีมูลค่ายี่สิบล้าน คุณคิดว่าเธอมีเงินชดใช้ไหมล่ะ”

“โอ้จริงเหรอ” เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังชางหลิง “แค่ยี่สิบล้าน ผมจ่ายให้เธอเอง”

ชางหลิงหันไป ชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มในดวงตาเรียวรีราวสุนัขจิ้งจอก กำลังเดินเนิบช้าเข้ามาหาพวกเขา

ฉินซางงั้นเหรอ

ชางหลิงก็ชะงักไป ไม่คิดว่าฉินซางจะมาปรากฏตัวในเวลานี้

“อ้าว พวกคุณทำอะไรกันน่ะ” ฉินซางเดินเข้าไปใกล้พวกเธอ กอดอกทำท่าทางเหมือนกำลังดูละครสนุกๆ “ชางหลิง คุณตัวก็แค่นี้ ทำไมช่างดุร้ายและเจ้าคิดเจ้าแค้น เอาของมีคมไปจี้คอผอ.โม่”

ฉินซางพูดอย่างนั้นแล้วเอื้อมมือไปหยิบเศษแก้วในมือของชางหลิง “สาวน้อย เล่นของแบบนี้มันอันตรายมากนะ ผิวเนื้อมันบอบบาง ถ้าลื่นเข้าหน้ามันจะแย่เอา”

ชางหลิงทำตามที่ฉินซางพูด คลายมือออก

โม่โม่กระโดดหนีจากการควบคุม รีบดึงตัวออกห่างจากชางหลิง

“ฉินซาง คุณหมายความว่ายังไง นี่เป็นเรื่องภายในของเซิ่งซื่อเรา ฉันแนะนำให้คุณอย่ายื่นมือเข้ามายุ่งดีกว่า” โม่โม่มองเขาอย่างระวังตัว

“ผมอย่ายุ่งงั้นเหรอ” ฉินซางทำหน้าโอเวอร์ “ก็ได้ เอางี้ คุณกลับไปตำแหน่งเดิม เดี๋ยวของในมือเธอแทงคอคุณ แม้แต่รถพยาบาลก็จะไม่เรียกให้คุณนะ”

พูดอย่างนั้นแล้วฉินซางก็จะยื่นมือไปดึงโม่โม่กลับมา

โม่โม่รีบก้าวถอยหลัง ส่วนชางหลิงมองไปยังเมิ่งเคอที่สภาพจิตใจย่ำแย่ แล้วจึงวิ่งเข้าไปหาเธอ

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามจะขวางเธอ แต่ฉินซางเหล่มองด้วยสายตาคมเฉียบอย่างที่สุด พลังอำนาจนั้นทำให้พวกเขาตกใจทันที

ใครๆ ก็รู้ว่าฉินซางเป็นพี่น้องสนิทของโหมวยู่ ทั้งยังออกมาจากกองทัพ ฝีมือการต่อสู้ไม่มีข้อกังขา บรรดาพวกเขาหลายคน ไม่พอจะทำให้เขาเหงื่อออกด้วยซ้ำ

“เมิ่งเคอ” ชางหลิงเข้าไปหา ประคองเมิ่งเคอที่ร่างหายซวนเซ “คุณไม่เป็นไรนะ”

เมิ่งเคอส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”

เธอไม่อยากให้โม่โม่ถ่ายคลิปอนาจารของเธอ จึงพยายามต่อสู้ดิ้นรนอย่างเต็มที่ หลังจากช่วงเวลาที่ใช้แรงเต็มกำลังไปนานมากแล้วได้มาเห็นชางหลิง การป้องกันตัวในหัวใจจึงลดลงทันที เป็นผลให้ทั้งร่างกายเริ่มสั่นเทา

ชางหลิงถอดเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมตัวเมิ่งเคอ

“เราไปเถอะ” ชางหลิงประคองเธอ พาออกห่างจากไทเลอร์

“หยุดนะ!” โม่โม่ตะโกน “คุณไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดเมื่อครู่เหรอ”

ชางหลิงไม่สนใจเธอ ยังคงก้าวเดินต่อไป

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามไปขวางหน้าชางหลิงกับเมิ่งเคอ เมิ่งเคอขาอ่อนแรงในขณะที่ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง และในเวลานั้นเอง ฉินซางก็เข้าไปรับตัวเธอไว้ทันพอดี และดึงเธอจากมือของชางหลิงมา

“ผอ.โม่” ใบหน้าของฉินซางกลับมาเป็นรอยยิ้มตามปกติ “ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่ไว้หน้าผม เรื่องนี้ก็จะจบ ยี่สิบล้านนั่นผมจะโอนเข้าบัญชีคุณเอง”

“ฉินซาง คุณถือดีอะไรมาบอกฉันไม่ให้เอาเรื่อง” โม่โม่หันหน้าไปมองไทเลอร์ที่อยู่ข้างหลัง “ฉันจำได้ว่าเมิ่งเคอคนนี้เป็นแฟนของผอ.ไทเลอร์ เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะพาเธอไป”

“แฟนอะไร พวกเขาเลิกกันไปตั้งนานแล้ว” ชางหลิงสบตาฉินซางก่อนจะพูดว่า “ตอนนี้ เมิ่งเคอเป็นแฟนของฉินซาง”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ไม่ต้องพูดถึงโม่โม่ ขนาดฉินซางยังอึ้ง

เมิ่งเคอเป็นแฟนของเขาตั้งแต่เมื่อไร เขาแค่มายุ่งเรื่องของคนอื่น แล้วทำไมอยู่ดีๆ มาถูกจัดฉากซึ่งๆ หน้าแบบนี้

“เป็นไปไม่ได้!” ไทเลอร์ร้องออกมาอย่างขมขื่น “อย่ามาพูดไร้สาระ!”

ชางหลิงยิ้มเยาะ “ผอ.ไทเลอร์ ฉันพูดไร้สาระหรือไม่ตัวคุณไม่รู้หรือไง เป็นผู้ชายน่ะทำตัวให้มันง่ายหน่อย เลิกกันไปแล้วอย่าเข้ามาพัวพัน ไม่อย่างนั้นมันจะเสียหน้า ก่อนหน้านี้ข่าวลือเรื่องเมิ่งเคอพบผู้ชายลึกลับตอนดึกๆ ดื่นๆ ที่เป็นข่าวดัง ตอนนี้ผู้ชายลึกลับคนนั้นอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว คุณคงจะไม่ใช่ว่าไม่รู้จักหรอกนะ”

“คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร เขาไม่ใช่…” ไทเลอร์ก้าวขึ้นหน้าไปสองก้าว แต่กลับหยุดกะทันหันตอนที่กำลังจะบอกความจริง

“เขาไม่ใช่อะไร” ชางหลิงเชิดคางขึ้น “ความหมายของคุณคือ คุณรู้เหรอว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร งั้นไม่สู้คุณพูดความจริงออกมาเลยล่ะ”

ไทเลอร์เป็นใบ้พูดไม่ออก

ถ้าเวลานี้เขาบอกว่าชายลึกลับคนนั้นเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของเขา เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถปกปิดเรื่องที่เขาส่งเมิ่งเคอไปให้เป็นของขวัญได้ ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีคนมากมายเท่าไรที่บอกว่าเขาสวมเขาให้ตัวเอง และอาจต้องตกงานเลยก็ได้

“ใช่ ที่จริงเราเลิกกันนานแล้ว” ไทเลอร์ยอมรับโดยไม่สำนึก

ร่างกายของเมิ่งเคอสั่นเทา เธอมองชายตรงหน้าที่เคยช่วยเธอออกมาจากขุมนรก น้ำตาที่ทนกักเก็บไว้มานานเอ่อล้นหลั่งริน

ฉินซางรู้สึกถึงความผิดปกติของผู้หญิงในอ้อมแขน ทันทีที่ก้มหน้าลงมองก็เห็นหยาดน้ำตาที่ดวงตาของเธอในสายตาเข้าพอดี

ไม่รู้ว่าทำไม เขาเกลียดน้ำตาของผู้หญิงที่สุด หัวใจเหมือนถูกลวดที่มองไม่เห็นบีบรัด ความรู้สึกเจ็บปวดเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

“พูดไร้สาระอะไร” ทันที่คิดว่าผู้ชายน่าขยะแขยงตรงหน้าทำให้ผู้หญิงที่สวยงดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องอย่างเมิ่งเคอเป็นแบบนี้ ฉินซางก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด “อย่าโทษที่ผมจะไม่เตือนอย่างเป็นมิตร เมิ่งเคอเป็นผู้หญิงของผม ครั้งนี้ผมจะคิดว่าเป็นเธอเองที่ไม่รู้ประสีประสา แต่ถ้ายังมีครั้งหน้า ถ้าใครสัมผัสแม้ปลายเส้นผมของเธอ ได้เห็นดีกันแน่!”

เมิ่งเคอหลับตา กลิ่นEau de Cologneจางๆ จากตัวเขาลอยมาที่ปลายจมูกของเธอ เธอเงียบไม่ปริปาก แม้ว่าฉินซางจะพาเธอออกจากหลังเวทีไปก็ตาม

“ผอ.โม่” ไทเลอร์ยังไม่ค่อยอยากจะยินยอม “จะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เหรอ”

โม่โม่เหล่สายตาไม่พอใจมองเขา “หรือคุณจะไปขวางล่ะ”

แม้ตระกูลฉินจะไม่ใช่ตระกูลสูงศักดิ์ แต่ฉินซางมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมในแถบเมืองหนาน ในมือของเขามีศิลปินนับไม่ถ้วน เมื่อปีที่แล้ว เขายังได้อันดับสามในการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลแห่งปีของเมืองหนาน ส่วนอันดับหนึ่งและสองคือโหมวยู่และโหมวฉี่

ชายที่อาศัยแค่ตัวเองก็สามารถเริ่มจากศูนย์ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดในเมืองหนานได้ มีแค่ฉินซางเป็นคนแรก ดังนั้นตระกูลโม่ของเธอยังต้องเกรงกลัวเขาอยู่หลายส่วน การเอาเรื่องเขาอย่างโจ่งแจ้งมันเป็นไปไม่ได้

มู่ซานกังวล “งั้นจะทำยังไงดี คราวนี้จัดการไม่ได้ เกรงว่าต่อไปพวกเขาจะเตรียมพร้อมรับมือ ลงมือยากเข้าไปอีก”

“กลัวอะไร” โม่โม่แววตาเหี้ยมโหด “แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถหยุดการไปมิลานของเธอได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเมื่อเธอถึงมิลานแล้วมันจะราบรื่น”

โม่โม่หันไป เธอโน้มตัวลงและดึงเสื้อของตัวเอง เพื่อตรวจสอบดูว่ามีรอยแผลตรงช่วงคอหรือไม่

ลำคอที่เรียบเนียนมีเพียงรอยแดงจางๆ โม่โม่ยิ้ม ก่อนจะกวาดสายตาไปที่มีดกันคิ้วบนโต๊ะ

ความหมายของคุณคือ…

“ไม่ใช่ว่ายังมีแอวริลกับหยูหวั่นเอ๋อหรอกเหรอ” โม่โม่หยิบมีดกันคิ้วขึ้นมา “พวกเธอเป็นศัตรูคู่แค้นของเมิ่งเคอ เมื่อถึงต่างประเทศ ภาษาไม่แข็งแรง ระยะทางไกลแสนไกลจากที่นี่ ใครยังจะสามารถไปสืบเช็กถึงที่นั่นได้อีกล่ะ”

มีดกันคิ้วคมกริบกรีดลงที่ลำคอเธอเบาๆ เลือดสีแดงสดไหลซึม

“ผอ.!” มู่ซานกับโจวหลินต่างตกใจมาก

โม่โม่กุมคอของตัวเอง อดกลั้นความเจ็บ แต่กลับส่งเสียงหัวเราะออกมา

ชางหลิง…โหดร้ายพอตัวก็จริง แต่ว่าตั้งแต่เล็กจนโต ไม่มีใครสามารถโหดร้ายไปกว่าเธออีกแล้ว

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท