ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 136 ฉันเป็นคนจริงจัง

บทที่ 136 ฉันเป็นคนจริงจัง

คนทั้งสองก็ออกมาจากห้องทำงาน แต่แทนที่จะขึ้นไปชั้นบนกลับเดินตรงออกจากบริษัทเซิ่งซื่อ จากนั้นถงเอินก็เข้าไปในรถ แล้วลดหน้าต่างตรงเบาะที่นั่งข้างคนขับ

“นี่เป็นเวลาทำงานนะคะ ผู้อำนวยการกำลังจะทำอะไรกัน?” ชางหลิงก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“เพราะฉันน่ะเห็นคิดว่าเธออารมณ์ไม่ดีไง? ทะเลาะกับไอ้คนดื้อรั้นอีกแล้วสินะ” เธอผลักประตูรถออก พร้อมกับส่งสัญญาณให้ชางหลิงขึ้นนั่ง

“ข่าวของเธอมันไวขนาดนี้เลยเหรอ?” ชางหลิงขึ้นรถ

“เมื่อคืนนี้ ทันทีที่เราลงเครื่องฉู่ฉือก็ถูกผู้ชายคนนั้นเรียกตัวไปเลยดังนั้นเมื่อฉันอ่านข้อความที่ส่งกันในกลุ่มเมื่อวานนี้ ก็คาดว่าเธอต้องทำผิดอีกแล้วแน่” ถงเอินพูด พร้อมกับเหยียบคันเร่งออกไป

“ดังนั้น เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับการเป็นคนกลางที่ช่วยติดต่อให้ ครั้งนี้ ให้ฉันช่วยเธอจากความทุกข์แล้วกันนะ”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา…

“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ชางหลิงอดไม่ได้ที่จะใช้คำหยาบคาย

ในห้องโถงของคลับที่วิจิตรตระการตา และจากประตูไปจนถึงที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ มีชายหนุ่มที่ทำให้ชางหลิงลานตาไปหมดยืนกันเป็นกลุ่ม พวกเขาทุกคนรูปร่างสูงแข็งแรงและบึกบึน หน้าตาหล่อเหลามาก

มีทั้งสไตล์เย็นชาเข้มงวด สไตล์สง่างามน่ามอง สไตล์เท่ สไตล์ระงับความอยาก… ก็สไตล์นักธุรกิจผู้ใหญ่ หรือสไตล์สดใสอ่อนโยนขี้อ้อน และสไตล์แบดๆ ร้ายๆ หน่อย…

การมองออกไปครั้งนี้ มันช่างโอ่อ่ายิ่งใหญ่เหลือเกิน

ชางหลิงกลืนน้ำลงอย่างอดไม่ได้ ราวกับว่าเธอได้เข้าสู่แดนสวรรค์

“เป็นไงบ้าง?” ถงเอินชนไหล่เธอ

“ดีงาม ดีงามมาก…” น้ำลายที่ไหลของชางเกือบจะตกลงมาแล้ว แต่ไม่นาน เธอก็รู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นเธอก็ยืนตัวตรง “นี่เหรอที่ผู้อำนวยการบอกว่าจะช่วยฉันให้ออกจากความทุกข์?”

“ก็ใช่” ถงเอินตอบเธอย่างตรงไปตรงมา “ยังจะมีวิธีไหนที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเพศชายที่อยู่ตรงหน้าล่ะ?”

เอ๊ะ? ? ? ชางหลิงไม่เข้าใจ

นี่มันวงจรสมองอะไรกันเนี่ย?

“มาๆ” ถงเอินลากเธอเดินไปรอบๆ กองผู้ชายกองนั้น “เธอเลือกมาสักคนสิ เอ่อไม่สิ ถ้าเธอชอบ จะเลือกกี่คนก็ได้”

ฉางหลิงสาบานได้เลยว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอเลยนะที่มีผู้ชายมากมายจ้องมองเธอพร้อมๆ กัน! พวกผู้ชายชุดดำที่คลับ Nova คราวก่อน เพราะพฤติกรรมเกินมาตรฐานเกินไปดังนั้นในจิตสำนึกของเธอ จึงไม่นับว่าพวกเขาเป็นผู้ชาย…

(ผู้ชายชุดดำ อะไรกัน?)

แต่พวกตรงหน้านี้หน้าแต่ละคนแทบไม่ได้เขียนคำว่า “เลือกฉัน” เลยนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?

“นี่มัน… ไม่เหมาะสม” ชางหลิงอับอายจนเหงื่อตก “เพราะฉันเป็นคนจริงจัง”

“เธอคิดว่าฉันไม่เหมือนคนจริงจังเหรอ?” ถงเอินถามเธออย่างจริงจัง

ชางหลิงพูดไม่ออก เธอรู้สึกคิดยังไงกัน ดูเหมือนว่าถงเอินไม่ได้มาช่วยเธอเลย ยิ่งกว่านั้น การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้โลกเธอพังยับเยินเร็วขึ้นเท่านั้น

ณ ห้องส่วนตัว

ชางหลิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียว และมีผู้ชาย 5 คนยืนตรงข้ามเธออย่างเรียบร้อย และนี่ก็เป็นคนที่ถงเอินเลือกให้กับเธอ และในขณะนั้นเอง เธอก็เผชิญกับสายตาที่อยากรู้อยากเห็นทั้งห้า เธอเก้อเขินจนเกือบหารูเข้าไปแทรกไม่ได้

“ไม่อย่างงั้น นั่งลงก่อนสิ?” ชางหลิงออกคำสั่งก่อน

พวกผู้ชายก็ฟังเธอ และนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามเธอ

และในห้องก็เงียบลง

เมื่อเผชิญกับสายตาทั้งห้าคู่นี้ ชางหลิงเหมือนไม่มีสมองแล้ว และไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เธอยกถ้วยชาขึ้นมา และแสร้งทำเป็นสงบ

“อะแฮ่ม…” เธอส่งเสียงไอเล็กน้อย เพื่อทำลายสถานการณ์หยุดชะงัก “พวกคุณ ทำงานด้านนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”

ชายในชุดสูทคนหนึ่งเหลือบมองพวกเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ไปแวบหนึ่ง “ผมมีประสบการณ์มา 7 ปีแล้ว ผมเริ่มทำงานพาร์ทไทม์พวกนี้เป็นบางครั้งตอน 16 ปีมาแล้วครับ”

พัฟ !

ชางหลิงเกือบสำลักตายด้วยชาคำนี้แล้ว

“เริ่มทำตั้งแต่อายุ 16 เลยเหรอ?” เด็กขนาดนี้เลย แน่ใจเหรอว่าตอนนั้นโตเต็มไวแล้ว? ยิ่งกว่านั้น ประสบการณ์ 7 ปี! อายุยังน้อยอยู่เลยนะ แบบนี้จะรับไหวจริงเหรอ?

“ปกติคนที่ซื้อพวกคุณ อายุเยอะไหม?” ชางหลิงยังคงซักไซ้ไล่เลียงต่อไป

คนที่ถูกถามต่างพากันมองหน้ากัน และหนุ่มหล่อที่อายุน้อยกว่าเล็กน้อยก็พูดว่า “ปกติไม่เด็กหรอกครับ อย่างไรเสีย คนที่สามารถมาเลือกคนที่นี่ได้ล้วนเป็นคนที่มีสถานะกันทั้งนั้น คงไม่เด็กหรอกครับ”

“มีที่อายุ 50 ขึ้นไปไหม?” ชางหลิงเบิกตากว้าง

“มีครับ” เด็กหนุ่มปริปากตอบ “อายุ 50 ไม่นับประสาเป็นอะไรหรอกครับ เดือนที่แล้วผมยังเจอคนหนึ่งอายุ 70 ​​ปีเลย… สาวๆ อย่างคุณพี่นี่ผมเพิ่งเห็นครั้งแรกเลยนะครับ”

อายุ 70 เลยเหรอ!

ชางหลิงรู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังจะหยุดเต้นแล้ว เธอจ้องไปที่เด็กหนุ่มตรงหน้าเธอ แล้วรู้สึกว่าสายตาตัวเองจะไม่ดีสะแล้ว

“งั้น…ทำไมพวกเธอถึงอยากทำสิ่งนี้ล่ะ? หน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ จะทำอะไรนิดหน่อยก็สามารถประทังชีวิตต่อไปได้แล้ว” ชางหลิงไม่เข้าใจความคิดของพวกเขาเลย

“เพราะว่าวัยรุ่นยังมีเงินทุนทำสิ่งนี้อยู่บ้าง ถ้ารอให้โต กว่านี้ ใครจะมาหาพวกเราล่ะ” ชายคนหนึ่งที่แต่งตัวแนวฮิปฮอป ตอบ “อีกอย่าง สิ่งนี้จะได้เงินเร็ว เพราะถ้าเร็วก็จะสามารถจัดการในคลับได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง และถ้าช้าคือต้องออกไปข้างนอกสักสองสามวัน และค่าใช้จ่ายแค่ครั้งเดียวก็เท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆแล้ว แล้วใครจะไม่อยากได้เงินรวดเร็วล่ะครับ?”

ชางหลิงแทบหยุดหายใจ

“แต่ไม่ใช่แค่หาเงินเท่านั้นนะครับ สำหรับผมแล้ว การทำงานด้านนี้ เป็นเรื่องของความศรัทธามากกว่า” ชายที่สวมเสื้อยืดฮาราจูกุสีดำก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

“ความศรัทธาเหรอ?” ชางหลิงประหลาดใจ

คนหนุ่มสาวปัจจุบันนี้ความคิดเปิดกว้างและกล้าหาญขนาดนี้เลยเหรอ?

“พวกคุณรู้ว่า ฉันเลือกพวกคุณมาทำอะไรไหม?” ชางหลิงไม่อยากจะสิ่งที่เธอได้ยินเลยนี่ฉันกำลังฟังคำพูดโหดร้ายอยู่เหรอ?

คนไม่กี่คนนั้นต่างมองหน้ากันไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทยอยกันลุกขึ้น และเริ่มถอดเสื้อผ้าบนตัวออก

!!!

ชางหลิงตกใจจนถึงที่สุด เธอรู้สึกไม่สบายใจ และกำลังจะลุกขึ้น แต่ในขณะนั้น ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก และมีผู้จัดการคนหนึ่งเดินนำหน้าเข้ามาที่ประตู จากนั้นถงเอินก็ถือจานผลไม้พร้อมกับเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

“โอ้! เริ่มกันแล้วเรอ” เมื่อถงเอินเห็นการเคลื่อนไหวของทุกคนเธอก็รีบเดินไปที่ข้างๆ ชางหลิง และกดเธอไว้ที่โซฟา

“ผู้อำนวยการกำลังจะทำอะไรกันคะ?” ชางหลิงเบิกตากว้าง

“ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ?” ถงเอินไม่มีความผิด “แค่เข้าร่วมกับเธอเอง ซึ่งฉันเป็นคนเลือกหนุ่มๆ เหล่านี้เองและฉันก็มีสิทธิ์ชมด้วย”

ถือว่าวันนี้ชางหลิงได้เปิดหูเปิดตาก็แล้วกันนะ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคน… เรื่องแบบนี้พูดไปก็มีแต่จะอายสะเปล่า

ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินแต่คนพูดว่ามีคลับแบบนี้ด้วย แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะมาที่นี่ด้วยตัวเองในวันนี้

ชางหลิงปิดหน้าผาก แต่กลับแอบมองผู้ชายที่เปลื้องเสื้อผ้าผ่านช่องนิ้วมือของตัวเอง

ต้องบอกว่า รูปร่างของพวกเขา ดีเกินไป…

นี่มันเหมือนกับนายแบบที่ออกมาจากนิตยสารอย่างไงอย่างงั้นเลย

“ผู้อำนวยการมาที่นี่บ่อยเหรอคะ?” ชางหลิงเอนตัวเข้าใกล้ข้างหูถงเอิน

“ใช่” ถงเอินหยิบแตงโมชิ้นหนึ่งเข้าปากเธอ “คงอย่างน้อยมาเดือนละครั้ง เมื่อมีความต้องการ ก็จะมาหลายครั้ง”

ชางหลิงไม่เข้าใจ จากนั้นเธอก็กวาดตามองไปที่ถงเอิน และรู้สึกว่าเธอมันเป็นคนไม่ดีคนหนึ่ง

“ฉู่ฉือรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?” ชางหลิงถามเธอ

“รู้สิ” ถงเอินตอบอย่างเป็นกันเอง “แล้วฉันมาที่นี่มันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยเหรอ? แม้ว่าฉู่ฉือจะรูปร่างดี แต่ก็ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย สำหรับเรื่องมืออาชีพนั้น มันต้องหาคนที่มีความเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว”

ชางหลิงแทบจะสลบ

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท