ชางหลิงยิ้มเล็กน้อย
“ฉันเองก็คิดว่าเขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เลย แต่ทว่า ขอเพียงแค่เขาไม่มาทำให้กระทบกับการแข่งขันของฉัน เรื่องอื่นๆ นั้นเขา ฉันก็ไม่สนใจหรอก”
“จริงสิ” ชางหลิงคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ก่อนจะหันไป เพื่อมองไปทางหลีซิน “คุณรู้จักออโรร่าไหม?”
“ออโรร่างั้นเหรอ?นางแบบชาวต่างชาติคนนั้นน่ะเหรอ?” หลีซินคิดถึงชื่อนั้นขึ้นมา แต่ทว่าเพียงไม่นาน ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“สามปีก่อนหน้านี้ เธอกับคนของL&Wมาร่วมงานกับเซิ่งซื่อ ฉันได้เจอในงานเลี้ยงน่ะ”
ชางหลิงจ้องดวงตาของหลีซิน เขาโกหกไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ เพียงแค่รู้สึกกังวลก็จะกลอกตาไปมา แต่มันก็มีเพียงเท่านั้นในตอนนี้
“แล้วโหมวยู่ล่ะ?เขาเองก็เคยเจอแค่ในงานเลี้ยงเท่านั้นใช่ไหม?” ชางหลิงถามเขาต่อ
“คือ……ฉัน ฉันเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน” หลีซินพูดอย่างคลุมเครือ
“บอกมา” ชางหลิงเองเครื่องดื่มวางลงบนโต๊ะเล็กๆ ตรงกลางระหว่างพวกเขา “ฉันเพียงแค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ไม่ไปหาเรื่องโหมวยู่หรอก”
หลีซินลูบหัวเล็กน้อย ก่อนจะลังเลอยู่สักพัก “นั่นมันเป็นเรื่องที่เด็กสาวต้องการเพียงเท่านั้นเอง”
“ก่อนหน้านี้สามปีนั้น พี่ใหญ่เพิ่งจะได้รับเซิ่งซื่อมา การร่วมงานนั้นมันสำคัญมาก ตอนแรกนั้น เรื่องนี้มันสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าจู่ๆ ก็มีออโรร่าออกมา เธอเป็นคนที่เปิดเผยพอสมควร เลยสารภาพรักกับพี่ใหญ่ต่อหน้าทุกคน ดื่มเหล้าเล็กน้อย แถมยังกอดคนอื่นก่อนด้วย คุณเองก็รู้ ว่าพี่ใหญ่ไม่ชอบโดนตัวผู้หญิง……”
หลีซินจ้องชางหลิงสักพัก จากนั้นก็รีบเปลี่ยนคำพูด “ฉันหมายความว่า ไม่ชอบโดยตัวผู้หญิงคนอื่นนอกจากคุณ เขาสะบัดเธอออกไปทันที คนของL&Wเลยทำได้เพียงไกล่เกลี่ย แต่ใครจะไปคิด ว่าออโรร่าจะไม่ยอมแพ้ แล้วใส่ยาลงไปในแก้วเหล้าของพี่ใหญ่ในวันที่สอง……”
“วางยางั้นเหรอ?” ชางหลิงเบิกตาโพลง “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?แล้วหลังจากนั้นล่ะ?”
“ยังไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นหรอก” หลีซินอธิบาย “ฉู่ฉือพบเข้าพอดี เลยพาพี่ใหญ่ออกไป พี่ใหญ่เลยไม่ร่วมงานแล้ว ออโรร่าเป็นลูกสาวของประธานบริษัทของL&W ถึงแม้ว่าความคิดที่พวกเขาอยากจะให้เซิ่งซื่อเอาสินค้าใหม่เข้ามาตีตลาดนั้นมันพังลง แต่ทว่ากลับทำอะไรออโรร่าไม่ได้”
“อย่างนี้นี่เอง~” ชางหลิงคิดออกทันที “แต่ทว่า โม่โม่ไม่ได้เห็นผู้หญิงที่เข้าหาโหมวยู่เป็นศัตรู แล้วทำไมเธอไม่ลงมืออะไรกับเธอเลยล่ะ?”
“ตอนนั้นแม่ของโม่โม่เพิ่งเสียไป มันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า อีกอย่าง ทั้งฐานะและตัวตนของออโรร่านั้น ต่อให้เป็นตระกูลโม่สิบตระกูลก็สู้ไม่ได้ เธอนั้นไม่พอใจอยู่ในใจ แต่ก็ทำอะไรคุณนายผู้ร่ำรวยคนนั้นไม่ได้”
ชางหลิงครุ่นคิด
งั้นก็หมายความว่า ถึงจะเป็นโม่โม่ เมื่อเผชิญหน้ากับออโรร่า ก็ทำอะไรได้ไม่เท่าไหร่งั้นเหรอ?
“คุณไม่โกรธเหรอ?” เมื่อหลีซินเห็นท่าทีของเธอ ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
“ทำไมฉันต้องโกรธด้วยล่ะ?” ชางหลิงไม่ได้ใส่ใจ “ใครจะไม่มีเรื่องในอดีตบ้างล่ะ?แต่ก็น่าเสียดายอยู่ไม่น้อย คนหัวทึบอย่างโหมวยู่นั้น เขาจะไม่ชอบโม่โม่ฉันก็เข้าใจ ในเมื่อผู้หญิงร้ายๆ แบบนั้นไม่เข้ากับเขาอยู่แล้ว แต่ว่าออโรร่า……”
“หน้าตาดี หุ่นดี ไม่ต้องพูดถึงพื้นเพครอบครัวเลย ใครได้เป็นลูกเขยของL&W จะต้องสู้ไปกี่ชาติกันนะ”
“พี่ใหญ่ไม่ใช่คนที่สนใจหน้าตากับพื้นฐานครอบครัวสักหน่อย” หลีซินเบือนหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ
ชางหลิงขมวดคิ้วแน่น “คุณพูดซะ ฉันคิดว่าคุณกำลังแซวฉันอยู่เสียอีก?”
“ฉันจะไปกล้าได้อย่างไรกัน” หลีซินรีบช่วย “ถึงอย่างไรฉันก็อยู่ข้างพี่ใหญ่มานานแล้ว ไม่เคยเห็นใครที่เหมือนกับการเป็นภรรยาของเขาเท่ากับคุณเลยล่ะ”
ชางหลิงมีสีหน้าสงสัย
“แน่นอน ว่าคุณเป็นเข้าถึงง่าย ไม่เคยวางมาด และก็จริงใจกับพวกเรามากด้วย อีกอย่าง นิสัยของพี่ใหญ่อุดอู้ซะขนาดนั้น จะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่ออยู่กับคุณเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นโม่โม่หรือออโรร่า ก็เพื่อผลประโยชน์และความสดใหม่เท่านั้น ถึงพื้นฐานครอบครัวกับหน้าตาจะดี แต่ก็ไม่มีใครที่รู้ใจเขาจริงๆ”
เมื่อได้ยินหลีซินพูดออกมาอย่างจริงจัง สมองของชางหลิงก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องที่ซูเสี่ยวเฉิงพูดกับเธอบนเครื่องบิน
คนที่อยู่ตรงหน้านั้นหวังให้เธอกับโหมวยู่คบกันนั้น จะมาชอบเธอได้จริงๆ เหรอ?
ซูเสี่ยวเฉิงน่าจะคิดผิดแล้วล่ะ
“หลีซิน” ชางหลิงยกแก้วขึ้นมา ก่อนจะกระดกใส่ปากของตัวเอง “คุณกับโหมวยู่นั้นอายุพอๆ กัน อีกไม่กี่ปีก็อายุสามสิบแล้ว ทำไมตัวเองไม่คิดจะหาแฟนบ้างล่ะ”
“ห๊ะ?” หลีซินชะงักกับคำถามที่ชางหลิงถามขึ้นมา
“ปกติฉันเอาแต่ได้ยินอะไรๆ คุณเรียกแต่พี่ใหญ่ ถึงพวกคุณสองคนจะสนิทกันแค่ไหน คุณเองก็ไม่จำเป็นต้องรักเขาขนาดนั้นก็ได้มั้ง” ชางหลิงถามเขาอย่างจริงจัง “เห็นอยู่ว่าคุณก็เก่งไม่เบา ทำไมถึงไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองล่ะ?”
ดวงตาของหลีซินค่อยๆ มืดลงท่ามกลางคืนที่มืดมิด เขามองชางหลิงอย่างแน่นิ่งอยู่นาน สุดท้าย ก็หันไป พลางถอนหายใจ
“พี่ใหญ่เป็นคนที่มีบุญคุณกับฉัน” น้ำเสียงของเขามันหนักแน่นขึ้น “คุณเองก็เห็น พวกเราสี่คนพี่น้อง พี่รองต้วนนั้นอยู่ในตระกูลที่มีอำนาจบาตรใหญ่ มีวิธีต่างๆ มากมาย แล้วก็มีเพียงเขาที่อดทนกับพี่ใหญ่และเป็นพี่น้องที่แน่นแฟ้นที่สุด ส่วนฉินซาง ถึงแม้ว่าพื้นเพจะธรรมดา แต่ว่าเขาก็มีหัวด้านธุรกิจ เมื่อยืมมือของพี่ใหญ่ ใช้เวลาเพียงสามปี ก็สามารถขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ในเมืองหนานได้แล้ว ความเจ้าเล่ห์นั้น ทำให้เขาอยู่ที่ไหนก็เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ มีเพียงฉัน……”
หลีซินก้มหน้าลง “ฉันเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่เสียไปตั้งนานแล้ว โตมาในบ้านที่ยากจน ค่าเล่าเรียนก็ใช้ทุนทั้งนั้น ตอนแรกที่สอบโรงเรียนทหารได้ ก็เพราะปีนั้นกฎไม่เข้มงวดเท่าไหร่ คนที่คะแนนดีก็สามารถเรียนมหาวิทยาลัยฟรีได้ถึงสี่ปีเลยล่ะ”
ชางหลิงเงียบไป
ทำไมเธอคิดไม่ถึงเลย ว่าในพวกเขาสี่คนนั้น หลีซินที่ดูเหมือนจะอยู่ในความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ไม่คิดเล็กคิดน้อย กลับเป็นคนที่ลำบากที่สุดกันนะ
“การได้เจอพี่ใหญ่ ถือเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดในชีวิตฉัน ตั้งแต่เข้าเรียนโรงเรียนทหารจนเข้ากรมไป สำหรับฉันนั้น เขาเป็นทุกอย่าง หลังจากออกจากกรมแล้ว ฉันก็ไม่มีที่ไป ก็มีเขานี่แหละที่รับฉันเอาไว้ เขากับพี่รองต้วนเตรียมจะเปิดNova บอกว่าอยากจะลองตลาดสักหน่อย อันที่จริงฉันก็รู้ ว่าพวกเขานั้นทำเพื่อหาอนาคตดีๆ ให้ฉัน พี่รองต้วนเข้าทำอสังหาริมทรัพย์ ฉินซางก็รู้จักคนมากมายในแวดวงบันเทิง พี่ใหญ่เป็นถึงประธานของเซิ่งซื่อ ไม่มีใครเห็นว่าNovaสำคัญ เท่ากับฉัน……ฉันมีชีวิตได้ก็เพราะNova นั่นเป็นบ้านของฉัน เป็นเหมือนรากฐานของฉัน”
เมื่อพูดจบ หลีซินก็หันกลับมายิ้มให้ชางหลิง “คิดว่าฉันมันไร้ประโยชน์มากเลยใช่ไหม อันที่จริงฉันเองก็คิดว่าตัวเองไร้ประโยชน์……ดังนั้น ฉันเลยต้องลงแรงกับเรื่องอื่นให้มาก ถึงจะทำให้ฉันคิดว่า ตัวเองยังมีคุณค่าอยู่บ้าง”
ภายใต้คืนที่มืดมิด ชางหลิงมองเห็นประกายใจดวงตาของเขา ชายที่ส่องสว่างเหมือนพระอาทิตย์ ก็มีบาดแผลที่เจ็บปวดเหมือนกัน
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” ชางหลิงเองก็ยิ้มขึ้นมา “คุณดูตอนนี้สิ พวกเขาสามคนกำลังใช้คนอื่นทำอยู่ คุณเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการNovaได้ดีขนาดไหนแล้ว ถ้าจะให้พูดจริงๆ ตัวคุณเองก็เก่งมากแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้จักคนเก่งๆ มากมายขนาดนี้หรอก”
เธอกระโดดลงมาจากชิงช้า น้ำพุตรงหน้ามีสีสันหลากหลาย เธอเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะพูดกับหลีซิน
“เขาดีมากเลย น่าจะเป็นเพราะดีเกินไป คนที่ตามพวกเรามาทางด้านหลัง เลยต้องเดินตามเร็วหน่อย แต่ทว่า……” ชางหลิงหันหลังไป ก่อนจะยิ้มแฉ่ง “พวกเราเองก็ไม่สามารถไม่สนใจชีวิตตัวเอง เพียงเพราะอยากจะตามเขาได้ทัน อย่างแรกก็ต้องทำให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีเสียก่อน ถึงจะใช้ชีวิตนี้ได้อย่างคุ้มค่า”
หลีซินได้ฟังคำของชางหลิง เธอหันหลังให้กับน้ำพุ แสงสีก็อยู่ทางด้านหลัง ตอนนั้นเอง เขารู้สึกว่ามันเป็นคืนวันที่ดีเหลือเกิน
ยุ่งมาทั้งวัน การได้มาคุยกับหลีซินอยู่ตรงนี้สักพัก ชางหลิงก็รู้สึกเหมือนว่าจะลำบากเล็กน้อย เธอหาวเล็กน้อย ก่อนจะเตรียมกลับไป
“พรุ่งนี้การแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว ฉันต้องรีบนอนก่อนแล้ว” ชางหลิงบิดขี้เกียจ
หลีซินยืดตัว ก่อนจะเตรียมเดินกลับไปพร้อมกับเธอ
ด้านบนตึกในส่วนของสวนลอยฟ้านั้นกำลังจัดงานเต้นรำ ในตอนนั้น ชายหญิงหนุ่มสาวกำลังดื่มด่ำอย่างครึกครื้น ชางหลิงเดินเข้าไปในโรงแรม จากนั้น ในตอนนั้น บนเวทีก็มีของสิ่งหนึ่งตกลงมา ตรงกับหัวของชางหลิง
ของคมกริบนั้นกระทบกับแสงอยู่ หลีซินกวาดตามองเล็กน้อย ก่อนจะพบว่ามันเป็นกรรไกรด้ามคมด้านหนึ่ง!