ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 152 ไม่มีคนร้ายหรอก

บทที่ 152 ไม่มีคนร้ายหรอก

“นาย……นายกำลังทำอะไร?” เสียงของชางหลิงสั่นคลอน

เธอสู้กับการแข่งขันอย่างขาดใจ แต่ผู้ชายเลวคนนี้ กำลังทำอะไรกับผู้หญิงคนอื่น……

เสียงหายใจทางนั้นก็เริ่มกดลงมาได้ เสียงของโหมวยู่แหบเล็กน้อย “มีอะไรเหรอ?”

ชางหลิงจ้องจอโทรศัพท์อย่างมึนงง ยังไม่ได้สติจากผลงานที่เสียหายไป ก็ต้องโกรธขึ้นมากับอีกเรื่อง

“นายอธิบายมาสิ ตอนนี้นายกำลังทำอะไร?” ชางหลิงพยายามข่มความโกรธเอาไว้

โหมวยู่ไม่ได้โง่ ก็ต้องรู้ว่าชางหลิงอาจจะเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ได้รีบอธิบาย แต่ไปกระแอม

“ก็ต้องทำเรื่องที่ผู้ชายชอบทำน่ะสิ” เขาตั้งใจตอบเธอไปแบบนั้น “ใครใช้ให้เมื่อคืนเธอหนีไปล่ะ”

ชางหลิงมองตาโต

เธอหันหน้าไป เมิ่งเคอกับซูเสี่ยวเฉิงกำลังมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ เธอถือโทรศัพท์ไว้และเดินเข้าไปในห้องน้ำ แทบจะกัดฟันกรอดได้

“ดังนั้น ฉันตั้งใจออกมาแข่งขันด้านนอกอย่างลำบาก นายมีชู้ในโรงแรมงั้นเหรอ?”

โหมวยู่อึ้งไปชั่วขณะ

มีชู้? เป็นศัพท์ใหม่ที่ใช้กับตัวเขาเลยนะ

“เธอมีข้อสงสัยเหรอ?” เสียงของโหมวยู่ออกแนวท้าทาย

“ไม่” ชางหลิงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง เธอกระตุกยิ้มเย็นชา “นายก็เพลิดเพลินไปกับมันเองแล้วกัน”

ผู้ชายที่วิ่งอยู่บนเครื่องลู่วิ่งก็ต้องเคลื่อนตัวช้าลง โหมวยู่กดหยุดเครื่องไว้ กำลังจะพูดตอบ แต่เธอกลับตัดสายไปเสียก่อน

โหมวยู่เอาหูฟังออก จ้องหน้าจอโทรศัพท์ และขมวดคิ้วเป็นปม

โกรธจริงเหรอ?

เมื่อคืน เขายังจำที่เธอไม่ได้ถอดกุญแจมือให้เขา พอโม่โม่ไปแล้ว เขาก็รีบคว้ากุญแจตามออกไป แต่ไม่คิดว่า หาอยู่นานกลับเห็นเธอนั่งอยู่กับโหมวฉี่ คงไม่ต้องการกุญแจของเขาแล้วล่ะ

เขายังไม่ทันโกรธเลย เธอกลับมาถามไถ่โทษเขาแล้ว?

……

ชางหลิงบีบโทรศัพท์ในมือไว้แน่น

พูดมาแล้ว ที่ผลงานของเธอพัง ก็เพราะโหมวยู่? ถ้าไม่ใช่เขา เธอก็คงไม่ถูกโม่โม่เกลียด และคงไม่มีเจสันอะไรนั่น ที่เข้ามาทั้งหมดนี้ก็เหมือนกับเป็นฝีมือโหมวยู่!

และตอนนี้ ในช่วงเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด เขาทำอะไรอยู่?

ชางหลิงค้นหาเพื่อนในโทรศัพท์ และโทรหาป๋ายจื๋อ

การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทรงผมดัดลอนของเมิ่งเคอก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย ริมฝีปากแดงสดคู่กับคิ้วเส้นเล็กโค้งสวย ทำให้เมิ่งเคอที่เป็นสาวชาวตะวันออกดูมีชีวิตชีวาสวยงามมากขึ้น

ชางหลิงเฝ้าอยู่หน้าประตู พวกนางแบบเริ่มต่อแถวเข้างานกันแล้ว เธอมองดูนาฬิกา ในใจก็ร้อนรนไม่หยุด

เสียงประกาศแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง ให้ดีไซเนอร์ทุกคนเข้าประจำที่นั่ง ประตูสุดทางถูกเปิดออก เจสันเดินออกมา แสยะยิ้มให้กับชางหลิงอย่างสะใจ

ชางหลิงขมวดคิ้ว

“เป็นผลงานที่ไม่เลวเลยจริงๆ” เจสันเดินมาข้างๆเธอ หยุดก้าวเดิน “ตามหลักแล้ว น่าจะเข้ารอบต่อไปได้ แต่น่าเสียดาย เดี๋ยวเธอก็ต้องเก็บของกลับบ้านเกิดแล้ว”

ชางหลิงแสยะยิ้ม เธอเงยหน้าขึ้น สายตาแหลมคมจ้องไปที่ใบหน้าของเจสัน “ที่บ้านเกิดฉัน มีแต่ผู้หญิงที่จะใช้วิธีสกปรกแบบนี้ นายเป็นถึงผู้ชายอกสามศอก กลัวว่าฉันจะทำให้นายตกรอบเลยไม่กล้าให้ฉันขึ้นเวทีเหรอ?”

เจสันไม่ได้โกรธเพราะคำพูดเธอ แต่กลับยิ้ม “ประเทศจีนของพวกเธอมีสุภาษิตหนึ่งเรียกว่า ‘การทหารไม่เบื่อหน่าย​กลอุบาย’ ผู้ชนะดูแค่ผลลัพธ์ แต่ผู้แพ้น่ะสิที่ติดตามขั้นตอน”

สายตาเขากวาดมองไปที่ประตูด้านหลังชางหลิงที่ปิดแน่น และยิ้มกว้างกว่าเดิม เดินยืดอกออกไปด้านนอกต่อ

“เสี่ยวหลิงหลิง” ซูเสีย่วเฉิงถือกล่องกระดาษวิ่งเข้ามาจากหลังประตู “มาแล้วๆ”

ด้านนอกมีฝนตก ป๋ายจื๋อตามหลังซูเสี่ยวเฉิงมา เดินเข้ามาด้วยความเยือกเย็น

“รีบไปเปลี่ยนชุดให้เธอเร็ว” ชางหลิงสั่งซูเสี่ยวเฉิง และเดินไปข้างป๋ายจื๋อ

“ขอบใจนะ” เธอพูดอย่างจริงใจ

“อืม” ป๋ายจื๋อกลับยังคงเย็นชาเหมือนเดิม เขาตอบกลับสั้นๆแค่คำเดียว นำความลำบากของตลอดทั้งทางเก็บซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย

เสียงประกาศดังเร่งขึ้นอีกครั้ง ชางหลิงถอนหายใจยาวๆ และเดินไปทางที่เจสันเดินออกไป

โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่นขึ้น ชางหลิงหยิบขึ้นมาดูเป็นชื่อโหมวยู่ ก็รีบปิดเครื่องไปทันที

เธอรู้สึกหงุดหงิดใจ โรคกลัวผู้หญิงบ้าอะไรกัน ก็แค่คำพูดดูดีของเขาเท่านั้น ใครจะรู้ว่าจริงหรือหลอก?

ชางหลิงนั่งประจำที่ตัวเอง หันข้างไป เห็นสายตาเจสันที่รอดูอย่างสะใจ

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ผลงานดีไซเนอร์ทั้งห้าสิบคนมีนางแบบสวมและออกมาเดินโชว์ ชางหลิงนั่งมองอย่างตื่นเต้นด้านล่างเวที ดีไซเนอร์พวกนี้ เป็นลำดับต้นๆแต่ละประเทศในโลก ความสามารถย่อมไม่เหมือนกับที่แข่งขันเล็กๆภายในประเทศ

ชางหลิงมองดูรอบๆ ดีไซเนอร์ห้าสิบคนนี้ สุดท้ายแล้วมีแค่เศษหนึ่งส่วนห้าเท่านั้นที่จะได้เข้ารอบสุดท้าย ยี่สิบคน……ในการแข่งขันทั้งแปดนี้ จึงต้องถูกคัดออก

พวกเขาทุกคนเตรียมมาแปดชุด แต่บางคนในนี้อาจจะมีโอกาสแสดงมันแค่ครั้งเดียว

เป็นสนามแข่งที่โหดร้ายมาก แต่ก็ยังมีดีไซเนอร์มากมาย ที่พยายามเข้ามาร่วมงานให้ได้ อยากจะมีชื่อเสียงโด่งดังกันหมด

เสียงดนตรีจีนบรรเลงขึ้น ชางหลิงนั่งตัวตรง เมิ่งเคอเดินขึ้นมาบนเวทีช้าๆ เดินได้มาตรฐาน เธอเดินอย่างอ่อนช้อยเหมือนสาวตะวันออก

มีเสียงปรบมือดังขึ้นทั่วงาน โดยเฉพาะกรรมการหญิง แต่ละคนต่างก็ชื่นชมหุ่นกับกี่เพ้าตัวนี้ที่เมิ่งเคอสวมใส่อยู่

ชางหลิงรู้ว่า ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความสวยของชุดกี่เพ้าจีนได้ ของที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมา ความสวยของมันสามารถแบกรับเวลาที่ผ่านไปได้

เจสันหน้าเสียไปทันที เขาหันหน้ามา หรี่ตาลง

ชางหลิงรับรู้ได้ถึงสายตาของเขา ก็จึงมองกลับไปอย่างท้าทาย แม้เอาผลงานของด้านหลังมาแสดงก่อน แต่ว่า ถ้ารอบแรกผ่านไปไม่ได้ งั้นผลงานด้านหลังจะดีแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาออกมาประกวดได้อย่างเต็มที่

เจสันหึอย่างเย็นชาในลำคอ และหันหน้ากลับไป

การแข่งขันรอบแรกที่ใช้ระยะเวลาไปนานถึงห้าชั่วโมงก็ได้จบลง เป็นไปตามที่คาดไว้ ชางหลิงเข้ารอบสอง มีผู้เข้าแข่งขันห้าคนถูกคัดออก

“ตกใจมากเลย” ซูเสี่ยวเฉิงตกใจจนเหงื่อแตกท่วมตัว เธอรอชางหลิงกับเมิ่งเคอหลังเวที น้ำเสียงที่ดูก็มีความสั่นคลอนด้วย

ชางหลิงถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งใจ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ ความตื่นเต้นเมื่อกี้ก็ได้คลายตัวลง

เปลี่ยนผลงานก่อนขึ้นเวทีเป็นความผิด ตามหลักแล้วจะไม่อนุญาต แต่ผลงานของชางหลิงถูกทำลายในตู้เซฟ ทางผู้จัดมีความรับผิดชอบเรื่องนี้ ก็จึงยอมให้

แต่ว่า เป็นแบบนี้แล้ว ชางหลิงก็เหลือผลงานแค่แปดชิ้น ถ้าเธอราบรื่นตลอดทาง งั้นก็แปลว่าภายในสิบหกวันนี้ เธอต้องทำชุดใหม่ออกมา

“ต่อไปพวกเราจะทำยังไงกันดี เวลาเร่งขนาดนี้ วัสดุที่เอามาก็มีจำกัด จะไปหาผลงานชิ้นที่แปดจากไหนกัน?” ซูเสี่ยวเฉิงคิดวิตกไม่หยุด

“อย่ากังวลไป” ชางหลิงทำใจเย็น ถ้าเธอลนลานขึ้นมา ซูเสี่ยวเฉิงคงได้ร้องไห้ตายแน่

“เสี่ยวเฉิงจื่อ เรื่องที่ผลงานพวกเราถูกทำลาย จะต้องป่าวประกาศออกไป ให้คนรู้เยอะๆยิ่งดี” ชางหลิงพูดอย่างใจเย็น

“แบบนี้จะหาตัวคนร้ายได้เหรอ?” เมิ่งเคอสงสัย

“ไม่มีคนร้ายหรอก” ชางหลิงบอกกับพวกเขาอย่างเสียดาย “ทางผู้จัดอนุญาตให้ฉันเปลี่ยนผลงาน ก็เปิดใจมากแล้ว พวกเราต่างก็รู้ดีว่าคนร้ายคือใคร แต่ว่าถ้าเขาเสียชื่อเสียงในงานนี้ เกรงว่าพวกเราคงไม่ได้ดีอะไร”

เจสันเป็นดีไซเนอร์ของL&W ด้วยความสามารถของL&W ถึงแม้จะฟ้องร้องในนามของเซิ่งซื่อ อาจจะไม่ชนะก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เซิ่งซื่อไม่มีทางทะเลาะกับL&Wเพื่อเธอแน่นอน

“ให้ทุกคนรับรู้เรื่องนี้ ก็เพื่อให้ดีไซเนอร์ทุกคนระวังตัวเอาไว้ คนที่สามารถทำอะไรก็ได้ภายใต้สายตาของทางผู้จัด ทุกคนก็จะระแวงกันทั้งนั้น ความระแวงนี้ จะเปลี่ยนเป็นความโกรธของทุกคนแทน และจะกลายเป็นแรงวัดความยุติธรรมของทางผู้จัด ฉันเชื่อว่า หลังจากครั้งนี้ไปแล้ว นอกจากจะมีคนทิ้งระเบิดลงมา ไม่งั้น จะไม่มีใครกล้าทำลายผลงานของคนอื่นอีก” ชางหลิงพูดอย่างจริงจัง

“งั้น พวกเราจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปเหรอ?” ซูเสี่ยวเฉิงโมโห

ชางหลิงกระตุกยิ้มเบาๆ ดวงตาเปล่งประกาย

“การทหารไม่เบื่อหน่าย​กลอุบาย?” เธอแสยะยิ้มเย็นชา “สุภาษิตของคนจีน ก็ต้องมีพวกเราชาวจีนที่ใช้เองสิ”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท