ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 157 ฉันช่วยเธอฆ่าหล่อน

บทที่ 157 ฉันช่วยเธอฆ่าหล่อน

ประตูห้องถูกเปิดออก ซูเซี่ยวเฉิงยื่นหัวเข้ามามองดูรอบๆห้อง แน่ใจว่าโหมวยู่ไม่อยู่แล้วถึงจะเข้ามา

“ฉันเอาข้าวมาให้น่ะ รีบมากินตอนยังร้อนสิ” ซูเสี่ยวเฉิงเอากล่องข้าววางไว้บนโต๊ะ

ชางหลิงถอนหายใจ รับตะเกียบที่ซูเสี่ยวเฉิงยื่นมาให้ คีบเนื้อยัดเข้าปาก

“พวกเธอทะเลาะกันเหรอ?” ซูเสี่ยวเฉิงเอ่ยถาม เพราะยังไงเธอกำลังเขียนนิยายแถมต้องลงแล้วด้วย ก็ต้องรู้ความสัมพันธ์ของนางเอกกับประธานสุดโหดสิ

ชางหลิงยัดอาหารเข้าปากจนแก้มป่อง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ “พวกเราจะทะเลาะกันได้เหรอ?”

มีแต่เขาที่มีสิทธิ์โกรธ ถึงแม้เธอจะโมโหแค่ไหน เขาก็จะพูดเรียบเฉยให้เรื่องนี้ผ่านไป

“สงครามเย็น” ชางหลิงเคี้ยวอาหารในปาก ด้วยน้ำเสียงสะอื้น

ที่จริงเธออยากจะให้เขาตอบอะไรตัวเองสักอย่าง ในตอนที่เธอโวยวายเสร็จแล้ว แม้จะอธิบายสักหน่อย แต่เขาไม่ ทุกครั้งก็ทำท่าเย็นชา ให้เธอไปคิดเองคนเดียว

ซูเสี่ยวเฉิงรู้ว่าเธออารมณ์ไม่ดี ก็จึงไม่ได้ถามมาก หยิบแก้วชงนมให้เธอ

น้ำร้อนเทเข้าไปในแก้ว ไอร้อนลอยขึ้นมา ด้วยอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป แก้วสีดำก็เริ่มมีรูปแมวสีขาวปรากฏขึ้นมา ชางหลิงถูกสะกดไว้ในทันที “สุดยอดไปเลย”

ซูเสี่ยวเฉิงมองตามสายตาของชาวหลิง หัวเราะแหะๆ “สวยใช่ไหม ฉันซื้อที่ร้านขายของชำเมื่อวาน บอกว่าถ้าเจอความร้อนก็จะเปลี่ยนสีได้ ก็เลยซื้อมา” ว่าแล้ว ซูเสี่ยวเฉิงดันแก้วไปตรงหน้าช่างหลิง

ชางหลิงรับแก้วมา มองดูอย่างตั้งใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหา

“เสี่ยวหลิงหลิง” ซูเสี่ยวเฉิงเห็นอารมณ์เธอเริ่มคงที่แล้ว ก็ยื่นมือไปหยิกแก้วและถามเธอ “ต่อไปเธอจะทำยังไง? เจสันนั่นเห็นได้ชัดว่าอยู่ข้างๆ ฉันคิดว่าเขาไม่ล้มเลิกง่ายไปหรอก”

“ฉันรู้” ชางหลิงวางแก้วลง อ่านข้อมูลบนมือถืออย่างละเอียด

“งั้นเธอคิดวิธีรับมือได้หรือยังล่ะ?” ซูเสี่ยวเฉิงสงสัย

ชางหลิงส่ายหน้า “ก่อนหน้านั้นไม่มี แต่ตอนนี้มีแล้วล่ะ” เธอจ้องโทรศัพท์ ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมา “แต่ว่า ไม่น่าจะเร็วขนาดนั้น”

ชางหลิงถ่ายรูปแก้วใบนั้น แล้วส่งให้หลีซิน

“ห๊ะ? เธอคิดได้แล้วเหรอ?” ซูเสี่ยวเฉิงคิดตามชางหลิงไม่ทัน

“โหมวยู่พูดถูก คนอย่างเจสัน สามารถเป็นดีไซเนอร์ลำดับต้นๆของL&Wได้ ก็ต้องมีด่านเก่งของเขา ถ้าสังคมและตำแหน่ง ฉันสู้เขาไม่ได้ แต่ว่า ถ้าเทียบกับฝีมือเล็กไปน้อยๆแล้ว ใครแพ้ชนะก็ไม่แน่แล้วล่ะ” ชางหลิงแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คนที่ยิ่งอยู่สูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นหน้าตาและชื่อเสียงสำคัญกว่าสิ่งอื่น”

“คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้เขาปีนสูงขึ้นไป จากนั้นตกลงมากระแทกพื้นแรงๆ”

การแข่งขันรอบที่สองจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ครั้งนี้เป็นนายแบบ ใช้โอกาสที่ซูเสี่ยวเฉิงไปเอาชุดจากทางผู้จัด ชางหลิงก็พูดอธิบายแนวคิดของการออกแบบครั้งนี้กับป๋ายจื๋อ

“นายไม่ต้องระวังมากเกินไป บุคลิกของนายเหมาะสมกับผลงานฉันมาก พอขึ้นเวที ไม่ต้องตื่นเต้น ก็ทำเหมือนเป็นเวทีเดินแบบธรรมดา” ชางหลิงอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ป๋ายจื๋อพยักหน้า

“ฉันแต่งหน้าให้นายเพิ่มนะ” ชางหลิงจับตัวป๋ายจื๋อนั่งลง หยิบที่เขียนคิ้วแต่งเติมคิ้วให้ป๋ายจื๋อ

ตรงหน้ากระจก ใบหน้าของป๋ายจื๋อเรียนเนียนจนไร้ที่ติ เธอมั่นใจมากกว่า การเดินแบบครั้งนี้ของเขาต้องเป็นที่ตะลึงมาก ชางหลิงจับหัวเขาไว้ ปัดแก้มของเขาเบาๆ คอนทัวร์โครงหน้าให้เขาเพิ่มเติม

“เธอไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเหรอ?” ป๋ายจื๋อถามขึ้นกะทันหัน

ชางหลิงชะงัก เธอเงยหน้าขึ้น มองดูกระจกตรงหน้า

ป๋ายจื๋อก็ยังคงหน้านิ่งเหมือนเดิม ไม่มีอาการสีหน้าใดๆ เหมือนคำพูดเมื่อกี้เขาไม่ได้เป็นคนพูด

“นายพูดถึงใคร?” ชางหลิงไม่เข้าใจ

“โม่โม่” ป๋ายจื๋อตอบเธออน่างจริงจัง

ชางหลิงหัวเราะ กระตุกยิ้มมุมปาก ทำงานในมือตัวเองต่อไป “ใช่ ฉันไม่ชอบหล่อน นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดี”

“ทำไมล่ะ?” ป๋ายจื๋อถามอีก

รู้จักกับป๋ายจื๋อไม่นาน แต่ช่วงนี้ที่ได้อยู่กับเขา เขาพูดน้อยจนเธอคิดว่าเขาเป็นออทิสติก แต่มาวันนี้ เขากลับพูดกับเธอก่อน แล้วยังพูดเรื่องโม่โม่อีก?

“เพราะหล่อนเป็นคนชั่ว” ชางหลิงไม่ปิดบัง “หล่อนทำเรื่องชั่วมามาก ไม่คุ้มค่าต่อการให้ฉันชอบหรอกนะ”

ป๋ายจื๋อเอียงหัวเล็กน้อย คงกำลังครุ่นคิดคำพูดของชางหลิง

“ฉันช่วยเธอได้นะ” เงียบไปสักพัก ป๋ายจื๋อก็พูดขึ้นอีกครั้ง

ชางหลิงรู้สึกตลก “ช่วยฉัน? นายไม่ใช่พนักงานเซิ่งซื่อ จะช่วยอะไรฉันได้?”

“ฉันช่วยเธอ ฆ่าหล่อนได้”

คำพูดของป๋ายจื๋อชัดเจนแจ่มแจ้ง ทุกคำพูดดังเข้าหูชางหลิง แปรงปัดแก้มในมือเธอสั่นเทา เธอนั่งตัวตรง มองผู้ชายร่างสูงตรงหน้านิ่งๆ

“นายพูดอะไรน่ะ?” ชางหลิงกระตุกยิ้ม “ฆ่าอะไรกัน นั่นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ยิ่งไปกว่านั้น มิตรภาพระหว่างพวกเรา จะให้นายช่วยเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?”

ป๋ายจื๋อมองข้างหน้าตรงๆ เขามองดูด้านในกระจก ชางหลิงยืนอยู่หลังเขา สีหน้าบนใบหน้ามีความตกใจเล็กน้อย

“ขอแค่เธอบอก ฉันพร้อมลุยเสมอ” ป๋ายจื๋อพูดช้าๆ ตอบเธอชัดๆเน้นๆทุกคำพูด

ชางหลิงขมวดคิ้ว เธอยื่นมือออกไป แตะไปที่หน้าผากของป๋ายจื๋อ แน่ใจว่าอุณหภูมิในตัวเขาเป็นปกติ สุดท้าย ลูบคลำที่คอเขาอย่างแปลกใจ

“ทำไมเหรอ?” ป๋ายจื๋อไม่เข้าใจกับการกระทำของเธอ

“ฉันขอตรวจสอบก่อน นายเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกสั่งอะไรมาเป็นพิเศษหรือเปล่า” ชางหลิงตรวจสอบตัวเขาอย่างละเอียด “ช่วงนี้ฉันได้ดูหนังเกี่ยวกับหุ่นยนต์ ฉันคิดว่าการกระทำของนาย มีข้อน่าสงสัยนี้”

ป๋ายจื๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก

เสียงประกาศดังขึ้น พนักงานกำลังเร่งนายแบบเตรียมขึ้นเวทีได้แล้ว ชางหลิงเหมือนตื่นจากฝัน ก็ถึงรู้ตัวว่าซูเสี่ยวเฉิงที่ไปเอาเสื้อผ้ายังไม่กลับมาสักที

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูเสี่ยวเฉิง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นด้านหลังเธอ

ซูเสี่ยวเฉิงรีบออกไป ไม่ได้พกโทรศัพท์ไปด้วย ระยะทางก็ไม่กี่นาที ตามหลักแล้วควรกลับมาได้แล้วสิ

ไม่รู้ว่าทำไม ชางหลิงรู้สึกไม่สบายใจมาก ขนาดหัวใจยังเต้นเร็วตามไปด้วย

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท