“คอกแคะๆ……” ชางหลิงที่กำลังดื่มชาก็แทบกระอักกับคำพูดของโหมวยู่
“ช้าหน่อย” โหมวฉี่รีบยื่นผ้ามาให้เธอ
“นายพูดอะไรน่ะ?” การเข้าใจภาษาจีนออโรร่ามีจำกัด ไม่รู้ว่าโหมวยู่จะสื่ออะไร “หัวนายมีสีอะไร? ไม่ใช่สีดำเหรอ?”
อาหารโต๊ะชางหลิงก็มาเสิร์ฟแล้ว ชางหลิงถือตะเกียบสะอาดขึ้นมา คีบเนื้อให้โหมวฉี่ “คุณชายฉี่ลองชิมดูสิคะ ฉันได้ยินว่าพ่อครัวที่นี่ฝีมือไม่เลวเลย วันนี้คุณมาดูการแข่งขันของฉันคงเหนื่อยแย่ กินเยอะๆเลยนะคะ”
โหมวฉี่รู้ว่าเธอตั้งใจทำให้โหมวยู่ดู เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ขอบใจนะ”
เขาแอบเหลือบมองโหมวยู่ เป็นดังที่คิดไว้ เขาก็คีบผักขึ้นมา ไปไว้ในจานของออโรร่า “วันมะรืนเธอต้องขึ้นเวทีอีก กินข้าวเยอะๆนะ”
ออโรร่าปลื้มใจ มองดูผักบนจาน แม้ตัวเองจะไม่ชอบกิน แต่โหมวยู่คีบให้เธอเองกับมือ แต่คีบอะไรมาให้ ไม่สำคัญแล้ว
“นายวางใจได้ ฉันจะต้องชนะแน่นอน” ออโรร่าเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ
ชางหลิงแทบจะกระอักเลือดเพราะโหมวยู่ ในใจด่าไปถึงบรรพบุรุษเขาได้หลายรอบแล้ว แต่ใบหน้ากลับยังคงมีรอยยิ้มบางๆอยู่
“คุณทานเยอะๆเลยนะครับ” โหมวฉี่คีบผักให้เธอ “ช่วงนี้คุณผอมลงไปมาก แม้งานจะยุ่งมากแค่ไหนก็ต้องระวังรักษาสุขภาพด้วยสิครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ชางหลิงกินเนื้อเข้าไปเต็มคำ “ขอแค่ออกห่างจากใครบางคน ฉันกินอะไรก็อร่อยหมด ร่างกายสุขภาพจิตก็ดีมากเลยด้วยค่ะ”
เสียงดัง “ปัง” โหมวยู่วางตะเกียบลงโต๊ะอย่างแรง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มใจไม่ไปจับตัวชางหลิงลุกขึ้นจากตรงนั้น
ออโรร่าตกใจ ผักที่กำลังจะกินก็ตกลงไป
“คนบางคนไม่มีสามัญสำนึกเลยนะ ในที่สาธารณะก็ชม้อยชม้ายชายตาให้กับผู้ชาย ไม่กลัวว่าคนอื่นจะเห็นหรือไงกัน?” โหมวยู่พูดอย่างเย็นชา
“นาย……นายกำลังว่าฉันเหรอ?” ออโรร่าสงสัย
“นี่มันยุคไหนแล้ว กินข้าวกับเพื่อนแล้วยังไง? คนบางคน อยู่กับผู้หญิงในห้องสองต่อสองจนคนเขาลือกันไปทั่วยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีก” ชางหลิงว่าแล้วก็กินอาหารในจานไปด้วย
ออโรร่าเข้าใจแล้วล่ะ เธอวางช้อนส้อมลง อิงพนักเก้าอี้ กอดอกมองโหมวยู่
โหมวยู่โมโหจนหน้าแดงไปหมด แต่ชางหลิงกลับไม่สนใจเขา เธอตั้งใจคีบหมูสามชั้นชิ้นใหญ่มากิน กินจนปากมันไปหมด
“ข้าวที่ได้กินพร้อมคุณชายฉี่ อร่อยกว่าปกตินะคะ” ชางหลิงมองโหมวยู่อย่างท้าทาย สุดท้าย ก็มองโหมวยู่ด้วยรอยยิ้ม “คุณชายฉี่ พวกเราต้องมากินข้าวด้วยกันบ่อยๆนะคะ วันนี้ฉันกินอร่อยกว่าปกติมากเลยค่ะ”
“ถ้าคุณอยาก ผมก็มาได้ตลอดเลย” โหมวฉี่พูดเอาใจเธอ
สุดท้ายโหมวยู่ทนไม่ไหว เขาลุกขึ้น หยิบผักหนึ่งจาน ไปวางไว้ตรงจานของชางหลิง
ชางหลิงไหวตัวทัน รีบถอยหลังออกไป เกือบโดนซุปในจานกระเด็นใส่ตัว แต่การกระทำแบบนี้ของเขา ก็ทำให้เธอโมโหเหมือนกัน
“นายทำอะไรน่ะ? บ้าไปแล้วหรือไง” ชางหลิงเงยหน้ามองเขา
“ไหนว่าอร่อยไง? กินผักหน่อย เสริมโภชนาการในร่างกาย” โหมวยู่จ้องเธอด้วยแววตาที่แหลมคม “เสริมวิตามิน อาจจะทำให้สมองเธอกระจ่างมากกว่านี้”
ชางหลิงลุกขึ้นยืน มองกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ ฉันจะเสริมหรือไม่เสริมโภชนาการเกี่ยวอะไรกับนาย? คุณชายรองโหมวให้เงินเดือนฉันแล้วยังจะมายุ่งเรื่องอาหารของฉันอีกเหรอ ถ้าอุดมการณ์ไม่เหมือนกัน อยู่ทางใครทางมันดีกว่า
“นายพูดมาอีกทีสิ?” อุดมการณ์ไม่เหมือนกันงั้นเหรอ? ไม่ได้ลงโทษเธอมาหลายวันเลยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแล้วสินะ?
“พอแล้ว!” ออโรร่าลุกขึ้น มองโหมวยู่กับชางหลิงด้วยสายตาที่โมโห
เธอเทียบกับชางหลิงไม่ได้ตรงไหน โหมวยู่ชวนเธอกินข้าวก็เพื่อประชดชางหลิง!
“พวกเธอจะจบได้หรือยัง?” ออโรร่าพูดแทรกพวกเขา
“ไม่จบ”
“ไม่จบ!” ทั้งสองประสานเสียงกันอีกครั้ง
ออโรร่าก็เป็นคนอารมณ์ร้อน เธอกำหมัดเอาไว้แน่น มองโหมวยู่กับชางหลิง หยิบชาที่เย็นชืดแล้วบนโต๊ะ สาดใส่หน้าโหมวยู่เต็มๆ
ทั้งโลกเงียบสนิท
ใบหน้าของโหมวยู่เต็มไปด้วยน้ำชา และกระเด็นไปที่ตัวชางหลิงเล็กน้อย ทำเอาคนที่นั่งอยู่นั้นตกใจกันใหญ่
ออโรร่าเป็นลูกคุณหนูอย่างแท้จริง ปกติก็ทำตามใจตัวเองจนชิน ถึงแม้จะเป็นโหมวยู่ เธอก็กล้าทำทั้งหมด
“ฉันไม่ชอบกินผัก!” ออโรร่าพูดย้ำอีกครั้ง และมองชางหลิงอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็เดินออกไปทันที
น้ำชาไหลลงมาจากใบหน้าของโหมวยู่ และไหลลงบนคอเสื้อของเขา มองไปแล้ว ยังมีไออุ่นลอยออกมา
“ฮ่าๆ” ชางหลิงกลั้นอยู่นานมาก สุดท้ายก็หัวเราะออกมา เธอปรบมือเบาๆ รู้สึกชื่นชมกับการกระทำของออโรร่า “คิดไม่ถึงเลยนะ ชีวิตนี้จะได้เห็นคุณชายรองถูกคนอื่นสาดน้ำ อาหารมื้อนี้ คุ้มมากจริงๆ”
คิดแบบนี้แล้ว ออโรร่าเป็นฮีโร่หญิงจริงๆ เธอรู้สึกได้ถึงความน่ารักบนตัวของหล่อน
โหมวฉี่ไม่ได้พูดอะไร ยื่นกระดาษไปนิ่งๆ โหมวยู่ไม่ได้ปฏิเสธ หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดหน้าตัวเอง
สายตาเขาเปลี่ยนไปแล้ว ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยคำว่า “เดี๋ยวจะโดน” ชางหลิงก็รีบหุบยิ้มทันที เธอหยิบกระเป๋าและรีบวิ่งหนีออกจากสถานที่น่าอึดอัดนั้น
“คุณชายฉี่ ฉันนึกได้ว่ายังมีธุระ ไปก่อนนะคะ ครั้งหน้าค่อยเลี้ยงอาหารคุณ บายๆ”
เธอพูดไปด้วยและวิ่งไปด้วย ไม่นานก็หายไปจากสายตาของเขา
ผู้ชายสองคนนั่งด้วยกัน มองดูอาหารบนโต๊ะ ทั้งเนื้อทั้งผัก และเงียบสงบ
บรรยากาศน่าอึดอัดมาก โหมวยู่ก้มหน้าลง มองโหมวฉี่ตาขวาง และหึอย่างเย็นชาในลำคอ
“ในเมื่อพี่ใหญ่ชอบเลี้ยงอาหารคนอื่นดีนัก โต๊ะของฉันก็รบกวนด้วยนะ”
โหมวฉี่ยิ้ม ยังคงมองอารมณ์ของเขาไม่ออก “สมควรอยู่แล้ว”
——
ชางหลิงวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
พอมาถึงชั้นห้องตัวเอง แน่ใจว่าโหมวยู่ไม่ได้ตามมาแล้ว เธอก็ถึงถอนหายใจออกมายาวๆ
“ชิ” ชางหลิงสะบัดผมตัวเอง “ผู้ชายบ้า อยากทำให้ฉันโกรธงั้นเหรอ นายยังอ่อนไป”
ชางหลิงอารมณ์ดีมาก เดินสะบัดก้นตัวเองเหมือนออโรร่าเข้าไปในห้อง พอเลี้ยวเข้ามา ก็เห็นโจวลี่ลี่ที่เดินมาจากทางเลี้ยวนั้น เธอตกใจจนหัวใจเต้นเร็ว
“เฮ้ย!” ชางหลิงถอยหลังไปหลายก้าว ตกใจจริงๆ “โจวลี่ลี่เธอทำอะไรน่ะ? ทุกครั้งก็เดินมาเงียบๆตลอดเลย ฉันตกใจแทบแย่”
โจวลี่ลี่อึ้ง เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้ายังมีคราบน้ำตาเปื้อนอยู่
พอเห็นชางหลิง เธอก็รีบคว้าแขนเสื้อเธอเอาไว้ เหมือนเป็นความหวังสุดท้าย “ชางหลิง ช่วยฉันด้วย”