ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 161 จะเชื่อฟังมากกว่าเธอ

บทที่ 161 จะเชื่อฟังมากกว่าเธอ

“คุณทำอะไร” ชางหลิงก้าวถอยหลัง

โจวลี่ลี่เช็ดน้ำตาสะอึกสะอื้น “ฉัน…หลิวจื่อเวยใส่ร้ายฉัน ตั้งแต่เกิดเรื่องกรรไกรก่อนหน้านี้ การขัดแย้งกันในเรื่องเล็กน้อยระหว่างเรามีไม่หยุดหย่อน ฉันคิดมาตลอดว่าต้องชดใช้ความผิดอย่างไร วันนี้ในระหว่างแข่งขัน ฉันตัดผลงานของเธอ…”

“อะไรนะ” ชางหลิงตกใจ

“เธอไม่ได้เข้ารอบที่สาม ตอนนี้ปัญหานี้ไปถึงผอ.โม่แล้ว ชางหลิง คุณต้องช่วยฉันนะ เพราะฉันโกรธจริงๆ ถึงได้ทำลงไป คุณไม่รู้หรอก เธอคนนั้น ทั้งทั้งที่ภายนอกเป็นเพื่อนฉัน แต่เพราะฉันเป็นผู้ช่วยของเธอ แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยไว้หน้าฉันเลย ทำเหมือนฉันเป็นคนรับใช้ หลังจากที่เธอใส่ร้ายฉันก็ไม่เคยรู้สึกผิดเลยสักนิด แถมยังขู่ฉันว่าถ้าฉันพูดออกไป จะทำให้ฉันอยู่ในเซิ่งซื่อไม่ได้อีกต่อไป จริงๆ นะฉัน…ฉันถูกบังคับ…”

“คุณทำลายงานของเธอ ก็เท่ากับทำลายชีวิตของเธอด้วย” ชางหลิงขมวดคิ้ว “คุณก็รู้ การมีคุณสมบัติมาได้ถึงมิลานมันไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้กลายเป็นปัญหาแบบนี้แล้ว เธอไม่เกลียดคุณสิแปลก”

“ฉันรู้” โจวลี่ลี่ร้องไห้ “ดังนั้นฉันจึงได้แต่มาขอร้องให้คุณช่วยฉัน”

โจวลี่ลี่พูดอย่างนั้นแล้วก็คุกเข่าให้เธอ “คุณช่วยฉันด้วยนะ ผอ.โม่ต้องไม่ปล่อยฉันไปแน่ ถ้าฉันต้องติดคุกด้วยข้อหาอะไรที่เป็นเชิงเท็จ ต่อไปชีวิตฉันต้องจบเห่แน่เลย”

“ฉันจะช่วยคุณได้ยังไง” ชางหลิงไม่เข้าใจความหมายของเธอ “ฉันเป็นแค่เด็กฝึกงาน ลำพังตัวเองยังยากจะรับประกันเลย”

ชางหลิงประคองเธอขึ้น มองไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านหลัง “ไปนั่งสักพักเถอะ คุณทั้งร้องไห้ทั้งคุกเข่าอยู่ตรงนี้ ใครไม่รู้จะคิดว่าฉันทำอะไรคุณ”

พูดอย่างนั้นแล้วเธอจึงเดินนำไปก่อน แล้วไปนั่งลงบนโซฟาอย่างสุภาพเรียบร้อย

และตรงกันข้ามกับโจวลี่ลี่ที่นั่งลงอย่างระวังกิริยา

“ชางหลิง” โจวลี่ลี่นั่งลงข้างเธออย่างระมัดระวังแล้วสะอึกะอื้น “ฉันรู้ว่าคุณไม่เหมือนพวกเรา ฉันมั่นใจว่าคุณปกป้องฉันได้แน่นอน ฉันไม่ได้ขออะไรเลย ขอแค่ปลอดภัยในช่วงวันที่อยู่ในมิลาน รอกลับประเทศแล้ว ฉันจะลาออกเอง จะไม่อยู่ในสายตาคุณอีก”

ชางหลิงยิ้ม จัดระเบียบเส้นผมยุ่งของตัวเอง

“งั้นคุณคิดจะทำยังไง” ชางหลิงถามเธอ “คุณคิดว่าฉันสามารถช่วยคุณได้ยังไง”

โจวลี่ลี่ลังเลครู่หนึ่ง เธอมองไปรอบๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใคร จึงมองที่ชางหลิงอย่างกระตือรือร้น “คุณไปยื่นคำร้อง ให้ย้ายฉันออกจากหลิวจื่อเวย ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว ฉันแน่ใจว่าไม่มีทางอยู่กับเธอต่อไปได้อีกแล้ว”

ชางหลิงเลิกคิ้ว

“ย้ายเหรอ…ย้ายไปไหน”

“ย้ายมาแผนกคุณ” โจวลี่ลี่รีบบอก “ตอนนี้ทุกคนกำลังดูเรื่องตลกของฉัน ไม่มีใครยอมรับฉันหรอก ฉันทำเรื่องพวกนี้ ก็เพื่อระบายความโกรธให้คุณด้วยนะ ตอนนี้หลิงจื่อเวยถูกคัดออกแล้ว จึงอาละวาดอีกไม่ได้แล้ว คุณก็ตัดคู่แข่งไปได้หนึ่งคน มันก็ดีกับคุณด้วยไม่ใช่เหรอ”

“ที่จริงฉันกับหลิวจื่อเวยก็ไม่ลงรอยกันมาตลอด แต่ไม่ว่าจะยังไง เธอก็เป็นดีไซเนอร์ของเซิ่งซื่อ เราเดินทางมาจากบริษัทเดียวกัน หลังจากนี้ไม่ว่าใครจะชนะรางวัล ก็เป็นเกียรติยศแก่เซิ่งซื่อทั้งนั้น คุณทำให้เซิ่งซื่อสูญเสียแม่ทัพไปหนึ่ง เป็นการดึงอัตราการชนะของเราลง คุณคิดว่าฉันควรขอบคุณคุณเหรอ” ชางหลิงไม่เห็นด้วย

โจวลี่ลี่ชะงักไป

“แต่ว่าก่อนหน้านี้คุณพูดไม่ใช่เหรอว่าอยากดูการแสดงของฉัน” ความหมายที่เธอเข้าใจไม่ใช่ว่าอยากแก้แค้นหลิวจื่อเวยหรอกเหรอ

“การแสดงที่ฉันพูดถึงคือหวังให้คุณหยุดการเล่นไม่ซื่อของหลิวจื่อเวย ไม่ได้บอกให้คุณไปทำไม่ดีเสียเอง” ชางหลิงยิ้มอย่างหมดหนทาง “จะพูดอีกครั้ง ตัวฉันมีความแข็งแกร่งอะไรอยู่ ฉันรู้แก่ใจดี หลิวจื่อเวยไม่มีทางเป็นคู่แข่งของฉันได้หรอก”

โจวลี่ลี่นิ่งอึ้ง คำพูดของชางหลิงทำให้สติหายโดยสมบูรณ์

“คุณ คุณจะไม่ช่วยฉันเหรอ” โจวลี่ลี่เสียงสั่น “เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นแล้ว คุณเพิ่งบอกว่าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นการขุดหลุมฝังฉันเหรอกเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ช่วย แต่ช่วยไม่ได้” ชางหลิงบอกเธอตามตรง “ฉันมีผู้ช่วย ไม่มีตำแหน่งว่างเหลือแล้ว”

“ซูเสี่ยวเฉิงจะทำอะไรได้” โจวลี่ลี่ร้อนใจ “เธอสะเพร่าและไม่รู้ขอบเขต ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเพื่อนของคุณ โควต้าการมามิลานครั้งนี้จะเป็นคิวของเธอได้ยังไง”

โจวลี่ลี่ดึงชายเสื้อของชางหลิง “ชางหลิง เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ต่อให้ไม่ได้เป็นผู้ช่วยของคุณ เธอก็ยังสามารถอยู่ในมิลานต่อได้ เหมือนเดินทางเที่ยวเดียว แต่ฉันไม่เหมือนกัน ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน เมื่อกลับไปฉันจะมีชีวิตรอดหรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้ ชางหลิง ฉันขอร้องล่ะ”

“ฉันขอร้อง ให้ฉันเป็นผู้ช่วยคุณนะ ฉันจะพยายามให้มากกว่าซูเสี่ยวเฉิง จะเชื่อฟังมากกว่าเธอ จะไม่ทำให้มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย ขอร้องนะ”

ชางหลิงขมวดคิ้ว คำร้องขอของโจวลี่ลี่ความจริงก็คือให้ย้ายคน และเธอพูดถูกมาก หลิวจื่อเวยเป็นคนของโม่โม่ ถ้าเธอไม่ยื่นมือออกไปเวลานี้ โจวลี่ลี่ต้องถูกต้อนให้จนมุมเป็นแน่

“ชางหลิง…” โจวลี่ลี่สะอื้น

“ฉันจะลองดู จะให้ห้องแยกคุณต่างหากก่อน” ชางหลิงผ่อนลมหายใจ

โจวลี่ลี่ดีใจ เริ่มตื่นเต้นยิ่งขึ้น

แต่ว่าตรงหัวมุม มีร่างหนึ่งในเวลานี้กำลังอ้างว้าง ซูเสี่ยวเฉิงพิงกำแพง ในมือถือถุงอาหารที่นำมาให้ชางหลิงด้วย ฟังสิ่งที่โจวลี่ลี่กับชางหลิงคุยกันแล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง ดวงตาแดงเรื่อทันที

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท