ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 166 โชว์รอยเท้าเลือด

บทที่ 166 โชว์รอยเท้าเลือด

การแข่งขันรอบที่สามได้เริ่มขึ้นแล้ว

ชางหลิงเข้าสู่ความยุ่งไม่ได้หยุด มีแค่ตอนที่ยุ่ง เธอถึงสามารถวางเรื่องของโหมวยู่ลงได้ จิตใจได้พบกับความสงบที่ตามหาขึ้นมาบ้าง

เมิ่งเคอเปลี่ยนชุดแล้ว ซูเสี่ยวเฉิงช่วยจัดการทรงผมให้เธอ เมิ่งเคอมองไปยังชางหลิงที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่าง แล้วลดเสียงเบาลง

“เธอเป็นอะไรเหรอ”

เห็นได้ชัดว่าวันนี้ชางหลิงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่พูดอะไรสักคำ ท่าทางผิดปกติมาก

ซูเสี่ยวเฉิงส่ายหน้า “เมื่อวานตอนเช้าโม่โม่มาทานอาหารเช้ากับเธอ แล้วไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ก็กลายเป็นแบบนี้”

“โม่โม่เหรอ” เมิ่งเคอเลิกคิ้ว

ผู้มาเยือนเจตนาไม่ดี สงสัยว่าโม่โม่ต้องกดดันเธออีกแล้วแน่ๆ

“ชางหลิง” เมิ่งเคอเดินเข้าไปใกล้เธอ เอื้อมมือไปแตะไหล่ของเธอ “ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ก็ยังมีพวกเราอยู่นะ”

ชางหลิงตื่นจากความฝัน เธอหยุดนิ่งทันที ทั้งสมองของเธอคิดแต่เรื่องของโหมวยู่ คำพูดกะทันหันของเมิ่งเคอ ทำให้เธอใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้สติ

“อืม” เธอพยักหน้า

ที่จริงแล้วหลังจากรู้เรื่องที่โหมวยู่ทำ ความจริงเธอคิดจะยอมแพ้ มีชั่วขณะหนึ่งที่เธอก็รู้สึกว่าการพยายามปีนขึ้นไปมันไม่ได้น่าอภิรมย์ แต่ทว่า…

เมื่อมองเมิ่งเคอกับซูเสี่ยวเฉิงตรงหน้าแล้วเธอก็มีแรงจูงใจขึ้นมาอีกครั้ง

นี่ไม่ใช่การแข่งขันของเธอเพียงคนเดียว ถ้าเธอชนะ เมิ่งเคอจะประสบความสำเร็จ ส่วนซูเสี่ยวเฉิง ก็สามารถผ่านช่วงทดลองงานไปได้อย่างราบรื่น ได้อยู่ในเซิงซื่อ

พวกนางแบบเริ่มเข้าไปในพื้นที่ ชางหลิงมองดูเมิ่งเคอเดินเข้าไป

เมื่อหมุนตัวหันไป เธอก็ปะทะเข้ากับสายตาของเจสัน เขาดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม กอดอกท่าทางเหมือนกำลังดูละครสนุกๆ

ทันใดนั้นชางหลิงก็เกิดความไม่สบายใจ

ชุดของวันนี้ไม่มีปัญหา ซูเสี่ยวเฉิงได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้วน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรอกนะ

เมิ่งเคอเข้าไปรอในพื้นที่ ครั้งนี้เธอปรากฏตัวในลำดับที่สอง เดินจบไปตั้งแต่เนิ่นๆ ใจที่กังวลอยู่ก็สามารถวางลงได้อย่างรวดเร็ว

นางแบบคนแรกเข้าสนามแล้ว เมิ่งเคอเดินไปที่ปากบันไดของเวที แต่ขณะที่เธอเดินขึ้นไปข้างบน เท้ากลับลื่นกะทันหัน เธอสะดุดลื่นจนต้องรีบยกมือเกาะพยุงตัวเอาไว้

เธอตกใจมาก เมื่อตั้งสติได้ ถึงได้พบว่าส้นรองเท้าหัก ตะปูของส้นดูเหมือนจะถูกคนถอดออก เวลานี้รองเท้าสูงต่ำไม่เท่ากัน แน่นอนว่าไม่สามารถใส่มันได้อีก

เสียงเพลงเริ่มเปลี่ยน นางแบบคนแรกกำลังจะถอยออกฉาก เมิ่งเคอรีบลุกขึ้นยืน มีเจ้าหน้าที่มาช่วยเธอ หลังจากเช็ครองเท้าของเธอแล้ว จึงเอารองเท้าสีคล้ายกันอีกคู่มาให้

“โชคดีที่พบก่อนขึ้นเวที รีบเปลี่ยนรองเท้าเถอะ” เจ้าหน้าที่บอกแล้วเอารองเท้าที่พังของเมิ่งเคอออกไป

นางแบบถอยออกฉากมาแล้ว โฮสต์กำลังอ่านชื่อนักออกแบบและนางแบบ เมิ่งเคอมองรองเท้าคู่ที่คล้ายกัน ไม่ได้คิดอะไรมาก สวมรองเท้าแล้วขึ้นเวทีไป

เสียงปรบมือล่างเวทีดังขึ้นแล้ว เธอยืดตัวเดินตรงเข้าสู่สายตาของทุกคน บนใบหน้าประดับรอยยิ้ม

แต่หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว ที่ใต้ฝ่าเท้าก็กลับเกิดความเจ็บปวดพุ่งขึ้นมา เหมือนใบมีดคมเฉือนเข้าเนื้อ ทุกย่างก้าวล้วนแล้วแต่ทำให้เธอเจ็บปวดรวดร้าว

เมิ่งเคอขมวดคิ้วเล็กน้อย ชะลอตัวลง แต่ไม่ได้หยุด

เธอสวมชุดยาวที่ดัดแปลงมาจากยุคราชวงศ์หมิง แสงจันทร์ขาวทำให้เธอถูกปกคลุมไปด้วยเงาสีขาวภายใต้แสงไฟ งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ชางหลิงก็รู้สึกได้ ทุกครั้งที่เห็นการเดินโชว์ของเมิ่งเคอก็ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่สวยงาม แม้ว่าเธอจะเผชิญกับใบหน้าที่เย้ายวนใจเช่นนี้ทุกวัน ก็ยังรู้สึกว่าเธอมีอารมณ์ที่แตกต่างกันทุกครั้ง

แต่ว่า…

รอยยิ้มบนใบหน้าของชางหลิงแข็งค้าง

การก้าวเดินของเมิ่งเคอช้าลง

เมื่อเธอรู้สึกได้แน่ชัดแล้วว่าเธอมีบางอย่างผิดปกติ เธอจึงลุกขึ้น เพ่งมองดูอย่างละเอียด สุดท้ายความสนใจก็หยุดที่เท้าของเธอ

รองเท้า…ส้นสูงสีขาวคู่นี้ แม้ว่าจะคล้ายกับรองเท้าที่เมิ่งเคอใส่คู่เดิม แต่แค่แวบเดียวชางหลิงก็มองออก

เพื่อที่จะให้เมิ่งเคอเดินได้อย่างปลอดภัย เธอจึงเลือกรองเท้าที่มีปลายหัวแหลมและส้นหนา แต่คู่นี้เห็นได้ชัดว่าส้นแหลม ส้นรองเท้าที่เล็ก มันจะรวมกำลังทั้งหมดของร่างกายไว้ที่ปลายเท้า ถ้าเป็นแบบนี้…

เมิ่งเคอเดินไปถึงกลางเวที เธอยิ้มให้ผู้ชมอย่างมั่นใจ สะบัดกระโปรงหมุนตัว และเดินกลับไป

เสียงปรบมือของฝูงชนดังไม่มีที่สิ้นสุด แต่ว่าหัวใจของชางหลิงกังวลหนัก

ทุกก้าวที่เมิ่งเคอเดินไป เหมือนจะราบรื่น แต่ร่างกายของเธอกลับค่อนข้างไม่มั่นคง ถึงขั้นที่ว่า…ตอนที่เธอถอยออกฉากเดินขึ้นบันได รอยเท้าของเธอก็เปื้อนเลือดอยู่แล้ว

แย่แล้ว…

ชางหลิงแทบไม่คิดอะไรมาก ลุกออกจากที่นั่งดีไซเนอร์ไปทันที รีบตรงไปที่หลังเวที

เมื่อเมิ่งเคอออกจากสายตาของผู้ชมแล้ว แทบจะทันทีที่เธอทรุดลงคุกเข่า

รองเท้าช้างซ้ายเลอะไปด้วยเลือด เธอเหงื่อออกกายจากความเจ็บปวด ถึงขั้นไม่กล้าสัมผัสเท้าของตัวเอง

“เมิ่งเคอ!” ชางหลิงวิ่งเข้ามา เห็นเธอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกหนังศีรษะชาขึ้นมาทันที

ซูเสี่ยวเฉิงยิ่งตื่นตระหนกจนพูดไม่ออก เดินตัวสั่นเทาไปหาเมิ่งเคอ

เมิ่งเคอสีหน้าซีดขาว ชางหลิงยืดขาของเธอ ทำให้เลือดไหลออกมาจากเท้าจนหยดลงเปื้อนพื้น

มือของชางหลิงค่อนข้างสั่น เธอค่อยๆ ถอดรองเท้าที่เท้าของเมิ่งเคอออกอย่างระมัดระวัง ในที่สุดเมิ่งเคอก็ทนไม่ไหว กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ใบมีดคมที่ฝังอยู่ตรงพื้นรองเท้า ในเวลานี้ฝังเข้าฝ่าเท้าของเมิ่งเคอไปเรียบร้อยแล้ว!

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท