ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่178 ปล่อยซูเสี่ยวเฉิง

บทที่178 ปล่อยซูเสี่ยวเฉิง

แสงไฟในเมืองยามค่ำคืนกลายเป็นลำธารน้ำยาวลงไป บนลานนั้นมีคนสวมชุดยูนิฟอร์มกำลังยุ่งอยู่กับงาน พื้นที่โล่งขนาดใหญ่นั้นว่างเปล่า มีดอกกุหลาบสีแดงสดวางเรียงกัน แสงไฟดวงดาวสว่างไปตั้งแต่ข้างถนนไปจนสุด เหลือที่ว่างไว้ตรงทะเลดอกไม้

โหมวยู่สวมชุดสูทหล่อเหลา ในมือก็ถือดอกกุหลาบช่อใหญ่ไว้ ยืนอยู่ในพื้นที่โล่ง สายตาก็มองไปข้างลานนั้น

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองดูใบหน้าตัวเองตรงจอโทรศัพท์ เขาพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ลองยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง

ชางหลิงเคยบอกว่า เวลาเขายิ้มนั้นหล่อมาก วันนี้ เขาอยากยิ้มให้กับเธอดีๆ

และอีกด้าน……

ชางหลิงพิงกระจกรถและหลับไป ตลอดทางนั้นรถติดมาก เคลื่อนที่สักพักก็ต้องหยุดลง

ชางหลิงไม่ได้พักผ่อนดีๆมาหลายวันแล้ว เธอรู้สึกง่วงขึ้นมาและได้หลับลงไป

แต่ทว่า เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้น ชางหลิงหยิบขึ้นมาดูอย่างสะลึมสะลือ ไม่ดูเลยด้วยซ้ำก็เอาไว้ข้างหูแล้ว

“ฮัลโหล……”

“เหอะๆ” ด้านนั้นมีเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังขึ้น

ชางหลิงขนลุกกับเสียงหัวเราะของหล่อน และเริ่มตื่นขึ้นมาทันที เธอมองจอโทรศัพท์อีกครั้ง แน่ใจว่าเป็นเบอร์แปลกหน้าของต่างประเทศ

“ถ้าเดาไม่ผิดละก็ ตอนนี้เธอน่าจะอยู่กับหลีซินนะ ใช่ไหม?” ทางด้านนั้นมีเสียงดังขึ้นมา

ชางหลิงนั่งตัวตรง เสียงนี้ เธอรู้จักดี นอกจากโม่โม่แล้ว ก็ไม่มีใครอีกแล้วล่ะ

ชางหลิงกำลังจะพูด โม่โม่ก็พูดขึ้นก่อน “เธอฟังก็พอแล้ว อย่าพูด”

ชางหลิงรู้สึกแปลกใจ โทรศัพท์กลับสั่นอีกครั้ง เบอร์โทรศัพท์แปลกหน้าส่งข้อความมา เธอเปิดดู ก็แทบจะหยุดหายใจทันที

ภาพนั้น หญิงสาวคนหนึ่งกองอยู่กับพื้นด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเลือด ถูกชายชุดดำคุมตัวไว้ทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าตายหรือยัง

ซูเสี่ยวเฉิง……

ชางหลิงตะลึง

เธอกำโทรศัพท์ไว้แน่นจนมือสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาทันที

“โหมวยู่จะรอเธอที่ลานใหญ่ คืนนี้ เขาจะขอเธอแต่งงาน” โม่โม่พูดอย่างเรียบเฉย “เธอก็เห็นแล้ว ซูเสี่ยวเฉิงอยู่ในมือฉัน เธอวางใจได้ ตอนนี้หล่อนยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับเธอด้วย”

ชางหลิงกระวนกระวาย หลีซินมองเธอจากกระจกมองหลัง และถามอย่างเป็นห่วง

“ใครโทรมาเหรอ?”

ชางหลิงอึ้ง เธอรีบหลบสายตา ปิดโทรศัพท์ลง มองไปยังนอกหน้าต่าง “ไม่มีอะไร แค่โทรมาผิดน่ะ”

“เป็นอะไรไปเหรอ?” หลีซินรู้สึกว่าเธอแปลกๆไป

เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “รู้สึกเมารถน่ะ”

หลีซินไม่ได้คิดมาก จึงเปิดหน้าต่างให้ ลมเย็นพัดเข้ามา ชางหลิงพิงหน้าต่างไว้ ควานหาของในกระเป๋าอยู่นาน และใส่หูฟังบลูทูธให้ตัวเอง

เธอเคาะหน้าจอโทรศัพท์ ด้านนั้นก็พูดขึ้นมาต่อ

“เธอรู้หน้าที่ดีนี่” โม่โม่ยังคงยิ้มอยู่ เสียงนั้นดังเข้ามาในหูฟังบลูทูธของชางหลิง ทำเอาเธอเนื้อตัวสั่นเทา

ซูเสี่ยวเฉิงที่กำลังบาดเจ็บในรูปนั้น ถึงแม้จะไม่โดนจุดสำคัญ แต่ถ้าชักช้ามากไปกว่านี้ ก็จะเสียเลือดจนตายได้

——เธออยากทำอะไร?

ชางหลิงส่งข้อความหาเบอร์ที่ส่งรูปมา

“ปฏิเสธโหมวยู่” โม่โม่บอกเงื่อนไขของตัวเอง “ปฏิเสธเขาต่อหน้าทุกคน ใช้วิธีที่โหดร้ายมากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ให้คืนนี้เขาข้อแต่งงานไม่สำเร็จ”

นิ้วมือชางหลิงชะงัก

“เธอน่าจะรู้ดีนะว่าเขาเห็นอะไรสำคัญมากที่สุด” โม่โม่พูดต่อไป “ดังนั้น คืนนี้ โหมวฉี่ก็จะอยู่ท่ามกลางผู้คนด้วย”

——ปล่อยซูเสี่ยวเฉิง

นิ้วมือชางหลิงพิมพ์อยู่ตรงหน้าจอโทรศัพท์

“ฉันบอกแล้วไง ว่าขึ้นอยู่กับเธอ” โม่โม่ตอบกลับ “ถ้าเธอทำได้ไม่ดี หรือยังไม่ถึงเครื่อง งั้นทั้งชีวิตนี้เธอก็อย่าได้เจอซูเสี่ยวเฉิงอีกเลย”

——ชั้นต่ำ!

“จะเรียกว่าชั้นต่ำได้ยังไง? เพราะยังไงซูเสี่ยวเฉิงมาตกอยู่ที่มือฉันก็เพื่อเธอเลยนะ หล่อนน่าจะสำคัญกับเธอมาก โหมวยู่ก็สำคัญมากสำหรับฉัน นี่เรียกว่าการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน”

“อ้อใช่แล้ว อย่าคิดบอกเรื่องที่ว่าซูเสี่ยวเฉิงอยู่ในมือฉันให้กับโหมวยู่ เพราะฉันจะจับตาดูเธอตลอด ถ้าฉันรู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรละก็ ฉันไม่กล้ารับประกันนะว่าเพื่อนสนิทเธอคนนี้จะตายยังไง”

ชางหลิงกำหมัดในมือแน่น อยากจะพุ่งไปตรงหน้าโม่โม่ตอนนี้ และข่วนใบหน้าที่ชั่วร้ายของผู้หญิงคนนี้ให้เละไปเลย

“เสี่ยวหลิง ถึงแล้ว” หลีซิน

ชางหลิงนั่งตัวตรง ในมือก็มีเหงื่อชุ่มฝ่ามือไปหมด

“ฉันบอกแล้ว ตำแหน่งคุณนายโหมว เป็นของฉัน ถ้าเธออยากแย่ง ก็อย่าหาว่าฉันร้ายแล้วกัน” โม่โม่พูดกับทางสายนั้นด้วยน้ำเสียงที่เชื่องช้า

ชางหลิงไม่ได้ตอบกลับ

โม่โม่ให้ความสำคัญกับการขอแต่งงานของโหมวยู่ขนาดนี้ เพราะเธอยังไม่รู้สินะว่าเธอจดทะเบียนสมรสกับโหมวยู่แล้ว

เธอแสยะยิ้มเย็นชา น้ำตาเอ่อล้นอยู่เต็มขอบตา

——ได้

ชางหลิงตอบกลับเธอ

——อย่าทำร้ายซูเสี่ยวเฉิง ไม่อย่างนั้น ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่

ทางนั้นวางสายไป เสียงในหูฟังก็หายไปในทันที ชางหลิงลงจากรถ เป็นไปตามนั้น ยืนอยู่นอกลาน ขนาดระยะทางที่ไกลมาก ยังเห็นสีแดงสดตรงใจกลางนั้นเลย

“ไปเถอะ” หลีซินเตือนเธอ

ชางหลิงดวงตาแดงก่ำ เธอจ้องมองหลีซิน และมองรอบๆอย่างระแวง

สถานที่ที่คนเดินไปมา เธอเหมือนจะรู้สึกได้ถึงผู้คนที่คอยจ้องการกระทำของเธอ ขอแค่เธอพูดกับหลีซิน ก็จะมีคนรายงานกับโม่โม่ในทันที และซูเสี่ยวเฉิงก็จะถูกทำร้ายอีกครั้ง

“ทำไมเหรอ?” หลีซินที่เคยเป็นทหาร ก็รู้สึกได้ว่าชางหลิงผิดปกติไป

“ฟังจากคนอื่นว่า ตอนที่เมารถดมกลิ่นส้มจะทำให้สบายมากขึ้น ตอนนายกลับไป ถามพนักงานในโรงแรม ว่าที่ไหนมีส้มสดๆขายบ้าง” ชางหลิงพูดแล้ว เป็นไปตามนั้น สายตาหนึ่งจ้องมองมาที่เธอจริงๆ

ชางหลิงรีบเดินออกไป หลีซินมองดูแผ่นหลังของเธอ ยังคงมีท่าทีแปลกใจ

ส้ม……ทำไมอยู่ๆก็พูดถึงส้มล่ะ?

หลีซินกลับไปบนรถ กำลังจะขับรถออกไป กลับเห็นหูฟังบลูทูธที่ชางหลิงลืมไว้หลังเบาะรถ

หูฟังไม่ได้ปิด มีไฟสีแดงสว่างอยู่ด้านหลังนั้น แสดงว่าเมื่อกี้เธอได้ใช้มันไปแล้ว

หลีซินลืมตาโต หรือว่าสายเมื่อกี้?

เขานึกย้อนคำพูดของชางหลิงอยู่ตลอดเวลา……

เฉิงจื่อ……เฉิงจื่อ! ซูเสี่ยวเฉิง!

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท