“ยังไม่เห็นศพจะด่วนตัดสินไม่ได้” โหมวยู่ใจเย็นกว่าชางหลิงมาก
เขากำสร้อยคอในมือแน่น มองดูชางหลิงที่นั่งกองอยู่บนพื้น และสั่งกับฉู่ฉือว่า “ตรวจสอบต่อไป มิลานกว้างใหญ่ขนาดนี้ ถึงต้องหาทุกบ้านทุกห้อง ก็ต้องหาพวกเขาสองคนให้เจอ”
“ครับ” ฉู่ฉือตอบรับ
และในตอนที่เขากำลังกลับหลังหันออกไป ชางหลิงที่นั่งอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นมากะทันหัน เธอผลักฉู่ฉือออกไป และพุ่งออกจากห้องไปก่อน
“หลิงเอ๋อ!” โหมวยู่ตื่นตระหนก รีบวิ่งตามชางหลิงออกไป
ชางหลิงไม่สนใจเสียงเรียกของโหมวยู่ ในตอนที่ฉู่ฉือเอาสร้อยเส้นนั้นให้โหมวยู่ เธอก็เห็นแล้ว
อยู่กับหลีซินมานานขนาดนี้ เธอเห็นเขาสวมสร้อยเส้นนี้ไว้ตลอด และเธอยังเคยหัวเราะเยาะว่าไม่สวยเลย ตอนนั้นหลีซินยังเคอธิบายกับตัวเองว่า สร้อยเส้นนี้ไม่ใช่เครื่องประดับ แต่เป็นมิตรภาพระหว่างพวกเขากับหัวหน้าที่จากไปแล้ว
ด้วยนิสัยของหลีซิน ของสำคัญขนาดนี้ เขาไม่มีทางโยนหรือทำลายมันทิ้งแน่ นอกจากว่า เขาถึงขั้นที่ปกป้องตัวเองไม่ได้แล้ว
ชางหลิงพุ่งไปที่ห้องโม่โม่อย่างไม่สนใจอะไร เธอผลักประตูเข้าไป ชายชุดดำด้านในยังเฝ้าหน้าประตูห้องนอนอยู่ ชางหลิงคว้ากาน้ำชาบนโต๊ะขึ้นมา เปิดประตูห้องเข้าไป
ในตอนนี้ โม่โม่กำลังนั่งอยู่บนพรมในห้อง ผมลอนสีทองของหล่อนยุ่งเหยิงเพราะการต่อสู้เมื่อครู่ ฟุบหัวลงไปอย่างหมดแรง
พอเห็นชางหลิงที่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง สายตาที่ไร้แสงประกายของหล่อนก็เปล่งขึ้นมาอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ
ทั้งสองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร แววตาของชางหลิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น และโม่โม่พอเห็นแววตานั้นแล้ว กลับหัวเราะออกมาอย่างได้ใจ
“ทำไมเหรอ?” โม่โม่หัวเราะ ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงท้าทาย “ได้ข่าวการตายของซูเสี่ยวเฉิงแล้วสิท่า”
“จึ๊ๆๆ” โม่โม่ยันขอบเตียงและลุกขึ้นมา เดินไปช้าๆ “ถึงว่า นานขนาดนี้ เธอควรมาหาฉันได้แล้ว”
ชางหลิงมองท่าทีของโม่โม่ อยากจะเข้าไปตบซะเดี๋ยวนี้ เธอไม่พูดอะไร ในมือที่ถือกาน้ำชาไว้ก็ฟาดไปที่โม่โม่อย่างแรง
โม่โม่เห็นท่าทีของเธอ แต่กลับหลบไม่ทัน หาน้ำชาฟาดไปที่หัวของหล่อนอย่างแรง โม่โม่ถอยหลังไปหลายก้าว ไม่นาน เลือดอุ่นๆก็ไหลลงมาจากหน้าผากของหล่อน
“โม่โม่ ฉันจะฆ่าเธอ!” ชางหลิงโมโหจนตาแดง เธอพุ่งไปทางโม่โม่ อารมณ์ในขณะนั้นคิดว่าจะเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
“ชางหลิง!” โหมวยู่มาทันเวลาพอดี เขารีบวิ่งเข้าไปจับตัวชางหลิงเอาไว้ “เธอใจเย็นก่อน!”
“ใจเย็น? ฉันจะใจเย็นได้ยังไง!” ชางหลิงแกะมือเขาออก อยากจะออกจากอ้อมกอดเขา “หล่อนฆ่าซูเสี่ยวเฉิง หล่อนยังทำให้หลีซินตายไปด้วย ฉันจะให้หล่อนชดใช้ ฉันจะแก้แค้นแทนพวกเขา!”
ชางหลิงถูกความโกรธเข้าครอบงำ เธอขัดขืนสุดฤทธิ์ อยากจะพุ่งไปทางโม่โม่อย่างเดียว
“ฆ่าหล่อนไปจะมีประโยชน์อะไร? ในมือเธอจะเปื้อนเลือดคน จะกลับประเทศยังไง จะกลับบ้านยังไง?” โหมวยู่กอดเธอเอาไว้แน่น ไม่ปล่อยเลยสักนิด
กลับบ้าน…….
ท่าทีของชางหลิงเบาลงเรื่อยๆ เธอมองโม่โม่ที่ตอนนี้เลือดอาบหัว ความรู้สึกเศร้าโศกก็ผุดขึ้นมา
เธอเงยหน้าขึ้น จ้องมองโหมวยู่ น้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง
“กลับประเทศ กลับบ้าน……โหมวยู่ นายคิดว่าฉันยังกลับบ้านได้อีกเหรอ?” ชางหลิงขาอ่อนทรุดตัวลงไปกองกับพื้น
“ซูเสี่ยวเฉิงตายแล้ว หลีซินก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง เมิ่งเคอกับป๋ายจื๋อก็ยังมาบาดเจ็บอีก นายบอกฉันมาสิ ฉันจะกลับบ้านได้ยังไง?”
เธอจะกลับไปยังไง? จะเผชิญหน้ากับพ่อแม่ซูเสี่ยวเฉิงยังไง? ท่านทั้งคู่ที่ทั้งน่ารักและใจดีขนาดนั้น พวกเขาดีกับเธอมาก รักเธอประดุจดั่งลูกสาวแท้ๆ เชื่อใจปล่อยให้ซูเสี่ยวเฉิงมากับเธอ แต่ว่า……
ซูเสี่ยวเฉิงกลับไปไม่ได้ เธอจะมีหน้ากลับไปได้ยังไง?
“ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว……กลับไปไม่ได้แล้ว……” ความอดทนของชางหลิงได้หมดลง เธอทรุดตัวลงไปกองกับพื้น ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
โหมวยู่นั่งลงไปข้างๆเธอ มองดูท่าทีของเธอแบบนี้ เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
โม่โม่มองเห็นท่าทีแบบนี้ของชางหลิง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ร่าเริงขึ้นมากว่าเดิม เธอแสยะยิ้มด้วยหัวที่เต็มไปด้วยเลือด
“ชางหลิง ไม่คิดเลยนะ ว่าเธอจะมีวันนี้ด้วย” โม่โม่ยื่นมือไป เช็ดเลือดบนใบหน้าตัวเองออก จะได้ไม่กระทบถึงการมองเห็นของตัวเอง แต่พอเธอเช็ดออก ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยคราบเลือด สยองน่ากลัวกว่าเดิมอีก
“ฉันบอกแล้วไง ซูเสี่ยวเฉิงตายแล้ว หลีซินก็หนีไม่รอดหรอก ฉันวางกับดักไว้ที่นั่นหมดแล้ว ไม่มีใครหนีไปได้สักคน”
โหมวยู่เงยหน้าขึ้น สายตาเฉียบคมคู่นั้นจับจ้องไปที่โม่โม่ มีความเยือกเย็นจับใจ
แต่โม่โม่ในตอนนี้กลับบ้าคลั่งไปแล้ว เธอไม่หวาดกลัวเลย และเดินเซไปหาพวกเขา
“ฉันทำได้แล้ว” ปากเธอพึมพำอยู่อย่างนั้น เธอเดินมั่นคงขึ้น ตอนที่ถึงปลายเตียง เธอก็เดินเซจนล้มคะมำลงไปกองอยู่บนพื้น
“ฉันบอกแล้วไง ถ้าฉันไม่เป็นสุข พวกเธอก็อย่าคิดจะอยู่ดีเลย ฉันทำได้แล้ว” โม่โม่พึมพำ ไม่รู้ว่ากำลังพูดกับพวกเขาหรือพูดกับตัวเอง “พวกเขาสมควรตาย ทุกคนสมควรตาย……”
โม่โม่ยันข้างเตียงลุกขึ้นมา และยังคงเดินไปทางชางหลิง “ชางหลิง ฉันจะดูสิ เธอกับโหมวยู่จะอยู่ด้วยกันยังไงอีก! หยูเฉินตายแล้ว ซูเสี่ยวเฉิงตายแล้ว หลีซินตายแล้ว! พวกเขาตายเพราะเธอทั้งหมด ก็เพราะเธอดึงดันจะอยู่กับโหมวยู่ พวกเขาเลยถูกฆ่าทั้งหมด!”
“กินหมั่นโถวเลือดคนแบบนี้ เธอยังกินลงไหม? ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้โหมวยู่ วิญญาณของพวกเขาก็จะมองดูพวกเธอ ทุกคืนจะพัวพันอยู่กับเธอไม่ห่างไปไหน!”
“หุบปากนะ!” ชางหลิงปิดหูตัวเอง ไม่อยากฟังที่โม่โม่พูดอีก
“ชางหลิง เธออย่าเสแสร้งไปเลย เธอก็เป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนฉัน ทั้งที่เธอก็รู้ว่าอยู่กับโหมวยู่จะผิดกับฉัน ทั้งที่เธอก็รู้ว่าฉันจะทำร้ายคนรอบข้างเธอ รู้ทั้งรู้ว่าบนเขามีเสือร้าย แต่ยังดื้อจะเดินขึ้นเขา เธอไม่เคยเห็นค่าของชีวิตพวกเขาเลย ยังจะมาทำเป็นรักใคร่ไมตรีลึกตรงนี้อีก น่ารังเกียจจริงๆเลยนะ!” โม่โม่ยังคงพูดต่อไป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด พร้อมกับดวงตาเบิกโพลง ก็เหมือนกับปีศาจหญิงที่คลานหนีออกมาจากนรก
“โม่โม่!” ความอดทนโหมวยู่ถึงขีดสุดแล้ว ความพลุ่งพล่านที่อดกลั้นไว้ไม่อยู่กับพุ่งขึ้นมาในหัว เขาปล่อยชางหลิงออก เดินเข้าไปบีบคอโม่โม่เอาไว้แน่น
หลายปีมานี้ เขาไม่เคยแตะต้องหญิงอื่นนอกจากชางหลิงเลย โดยเฉพาะโม่โม่ ทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้เขาก็จะรู้สึกรังเกียจ แต่ครั้งนี้ เขาอยากจะให้เธอปิดปากตัวเองไปซะ อยากให้เธอหายไปจากโลกใบนี้ หายไปจากสายตาของเขาและไม่มีทางทำร้ายชางหลิงได้อีกตลอดไป
แรงของโหมวยู่เทียบกับของชางหลิงแล้วประดุจดั่งฟ้ากับเหว โม่โม่เสียการเคลื่อนไหวตัวไป เลือดบนหัวก็ไหลออกมาเร็วยิ่งขึ้น ใบหน้าแดงก่ำจนแทบจะอยู่ในอาการโคม่าแล้ว
เธอจ้องโหมวยู่ด้วยแววตาที่ทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว
ตกใจเพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่โหมวยู่เข้าใกล้เธอ ระหว่างพวกเขาได้สัมผัสใกล้ชิดกันแล้ว ที่หวาดกลัวคือเป็นการสัมผัสครั้งเดียว……ที่แทบจะคร่าชีวิตเธอไป