ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 204 มอบหัวใจให้คุณ

บทที่ 204 มอบหัวใจให้คุณ

ซูเสี่ยวเฉิงนอนอยู่บนเตียงมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกและไม่สามารถขยับได้ แต่เธอก็เคลื่อนไหวอยู่เสมอ ซึ่งหลังจากที่หลับไปนานขนาดนี้ กระดูกทั้งร่างกายของเธอก็เริ่มปวดเมื่อยขึ้นมา

ฟ้ามืดแล้ว และเธอก็นั่งดูทีวีอยู่บนเตียงอย่างเบื่อหน่ายเธอกดเปลี่ยนช่องไปช่องแล้วช่องเล่า และภาษาที่ไม่ฟังเข้าใจนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

และหลีซินที่อยู่บนเตียงข้างๆ ก็ยังไม่ฟื้นซูเสี่ยวเฉิงก็มองดูนาฬิกาและมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ

บอกว่าได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสมากไม่ใช่เหรอ?แต่นี่มันก็แค่ความอ่อนล้าทางกายเท่านั้น แต่ฉันก็หลับไปนานมากนะ ทำไมยังไม่ฟื้นคืนสภาพสักทีล่ะ?

คงไม่…

ทันทีที่ซูเสี่ยวเฉิงนึกได้ความกระวนกระวายก็พุ่งเข้ามาทันที เธอกุมหน้าอกตัวเองไว้ แล้วลุกจากเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับไปที่เตียงของหลีซิน

แม้ว่าจะทานยาแก้ปวดแล้ว แต่ความเจ็บปวดบนร่างกายกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันดีอะไรบ้างเลย ซูเสี่ยวเฉิงออกแรงเล็กน้อยและเกือบจะถูกความเจ็บปวดนี้บังคับให้จากโลกที่สวยงามนี้ไปในสถานที่เกิดเหตุแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังเดินไปถึงข้างๆ หลีซิน

ชายบนเตียงหลับตาอย่างสนิท และหันหน้าไปทางหน้าต่างซูเสี่ยวเฉิงขมวดคิ้วและจ้องเขา พร้อมกับยื่นมือออกไปจากนั้นก็วางมันไว้ใต้จมูกของเขาอย่างสั่นเทา

พระเจ้าข้า ขออย่าให้เป็นไปอย่างที่ลูกคิดไว้เลย

ซูเสี่ยวเฉิงกลั้นหายใจจนนิ้วมือของเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่อบอุ่น

ยังดีที่ยังมีลมหายใจอยู่ ซูเสี่ยวเฉิงจึงวางใจลง

แต่ทำไมเขาไม่ฟื้นล่ะ?

ซูเสี่ยวเฉิงประคับประคองไม่อยู่จึงทำได้แค่นั่งลงข้างเตียงของหลีซินอย่างตรงไปตรงมา

สีหน้าของผู้ชายที่อยู่ความหลับใหลนั้นอ่อนโยนแต่ก็ไม่เหมือนกับท่าทีน่ารังเกียจที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอเสมอเมื่อเขาครั้งที่เขาได้สติในเวลาปกติ

ซูเสี่ยวเฉิงมองมาที่เขาอย่างระมัดระวัง คาดว่าการพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างตัวเองกับหลีซินก็เป็นเพียงเรื่องตลกที่ไร้สาระเรื่องหนึ่งเท่านั้น ซึ่งในตอนนั้น เพื่อให้ชางหลิงสามารถออกจาก Nova ได้อย่างราบรื่น และที่เธอบอกว่าตัวเธอเองเป็นแฟนของเขาที่นั่นก็เพื่อการหลอกใช้ประโยชน์จากเขา และดึงดูดการมุงดูของฝูงชนเท่านั้น

ผู้ชายที่ร่างใหญ่ขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแต่เขากลับไม่ได้ทำร้ายเธอเลย

ต่อมา เขาก็ขังเธอไว้ที่ Nova ทั้งวัน และเธอก็ส่งเสียงดังลั่นในห้อง แต่เขากลับย้ายม้านั่งมานั่งเฝ้าที่ประตูและปล่อยให้เธอคอยทุบตีอยู่อย่างนั้น แต่ไม่ยอมปล่อยเธอออกไปซึ่งเธอกลัวถึงขั้นที่เธอคิดว่าชางหลิงไปติดหนี้เงินดอกเบี้ยเกินอัตราที่ไหนมาจนเธอต้องมาชดใช้หนี้แบบนี้

เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านั้น ซูเสี่ยวเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับตัวเอง

เธอจ้องหน้าหลีซิน และมองไปยังใบหน้าที่บอบบางของเขา ซึ่งเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปอย่างตั้งใจ

ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้มันดูเหมือนผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อายุ 28 ปีตรงไหนกันและถ้าจะบอกว่าเขาอายุแค่ 18 เธอยังเชื่อเลย

คิ้วหนาและเรียบร้อยพร้อมด้วยนัยน์ตาดอกท้อคู่หนึ่งที่เมื่อยิ้มแล้วสามารถสะกดให้ผู้คนได้ จมูกที่โด่ง และ…ริมฝีปากที่ดูนุ่มนวลนั้น…

เขาเติบโตมาแบบนี้มันก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะคิดอย่างไม่ถูกต้องว่าเขากับโหมวยู่ถึงจะเป็นบุพเพสันนิวาสต่อกัน

แต่…สายตาซูเสี่ยวเฉิงก็เหลือบมองไปแวบหนึ่ง และสมองของเธอก็กลับนึกถึงฉากที่หลีซินต่อสู้อย่างกล้าหาญ

เขาเหมือนกับฮีโร่อย่างไงอย่างงั้นเลย เพราะทุกครั้งเขามักจะยืนข้างหน้าชางหลิงและบุกตะลุยโจมตีศัตรูเพื่อเธอซึ่งเมื่อคืนนี้เองเขายังดึงเธอออกจากประตูนรกเพื่อช่วยให้เธอรอดพ้นจากการย่ำยีของไอ้พวกสัตว์ร้ายเหล่านั้น

“ถ้าเป็นในสมัยโบราณ…” ซูเสี่ยวเฉิงคงจะอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ “คุณช่วยฉันขนาดนี้จนฉันอยากมอบหัวใจให้คุณเลย”

แต่แค่ คนตรงหน้านี้เขาชอบชางหลิง

แม้ว่าชางหลิงจะกลายเป็นภรรยาของโหมวยู่ไปแล้ว แต่ผู้ชายที่ชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง เธอจะไปคิดเลยเถิดอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะ?

ซูเสี่ยวเฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ในใจซึ่งเธอก็ลังเลอยู่นาน แต่เธอก็ยังยื่นมือออกไป แล้วใช้ปลายนิ้วลูบแก้มของเขาเบาๆด้วยความระมัดระวัง ที่ปะปนไปด้วยความดีอกดีใจและความหยั่งเชิง

ถ้าเป็นสามารถทำได้ เธอก็อยากจะมีความรักที่มั่นคงแข็งแรงเหมือนกับชางหลิงและใช้ชีวิตที่ทะเลาะกันบ้างรักสุดซึ้งซึ่งกันและกันบ้าง ไปกับคนที่สดใสและจิตใจดีอย่างหลีซิน

และในที่สุดปลายนิ้วมือก็หยุดอยู่ที่ริมฝีปากของหลีซินจากนั้นเธอก็แตะริมฝีปากของเขาเบาๆ และทันทีที่กำลังจะขดมือกลับ ก็เห็นว่าคนที่เดิมทีควรจะหลับอยู่นั้นกลับกำลังมีการเคลื่อนไหว

ลูกกระเดือกของเขาขยับ เหมือนกับว่ากำลังกลืนน้ำลายอย่างงั้นเลย ซูเสี่ยวเฉิงตกใจ และรีบขดมือกลับมา

เธอจ้องเขาด้วยความประหลาดใจ แต่หลีซินยังไม่ลืมตา แต่หูทั้งใบก็แดงขึ้นอย่างมาก

เขาคงจะยังไม่ฟื้นหรอกนะ!

ซูเสี่ยวเฉิงตระหนักถึงบางสิ่ง เธอกินปูนร้อนท้อง และอยากจะออกไปในทันที แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเลยว่าร่างกายเธอยังได้รับบาดเจ็บอยู่เธอลุกขึ้นอย่างหักโหมเกินไปจนความเจ็บปวดที่รุนแรงก็พุ่งเข้ามา เธอจึงไม่สามารถยืนนิ่งอยู่ได้ จากนั้นก็ล้มลงไปด้านข้าง

“ระวัง!” หลีซินที่นอนอยู่บนเตียงก็กระโดดขึ้นมาทันทีเขายื่นมือออกไปคว้าแขนของซูเสี่ยวเฉิงไว้

ซูเสี่ยวเฉิงตกใจจนไม่สามารถหยุดนิ่งได้ เธอกุมหน้าอกตัวเองไว้ แล้วมองไปอย่างหลีซินที่อยู่อีกด้านหนึ่งด้วยความประหลาดใจ

“นี่คุณ…คุณฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เมื่อกี้ที่เธอพูดไปว่าจะมอบหัวใจให้นั้น เขาคงไม่ได้ยินนะ

หลีซินก็รู้สึกอับอายมากเช่นกัน เมื่อรอให้ซูเสี่ยวเฉิงยืนนิ่ง เขาก็ยื่นมือออกไป แล้วเกาหลังศีรษะอย่างเก้อเขิน

“เมื่อกี้นี้” เขากำลังอธิบาย “ทันทีที่ผมฟื้นก็เห็นว่าคุณกำลังจะล้ม และปฏิกิริยาสะท้อนกลับเลย…มาคว้าคุณไว้”

เหลวไหล!

เขาฟื้นนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้

และก็ไม่รู้ด้วยว่าซูเสี่ยวเฉิงจำได้หรือเปล่า แต่เขากลับจำได้อย่างลึกซึ้งเลย เพราะเขาดูร่างกายของเธอตอนที่เขาช่วยพันแผลให้ และเขาก็ยังคงคิดอยู่ว่าหลังจากฟื้นแล้วเขาจะเผชิญหน้ากับเธอยังไง

แต่ยังไม่ทันให้เขาได้คิดหาวิธีโต้ตอบเลย ซูเสี่ยวเฉิงก็เดินมาถึงข้างเตียงเขาแล้วไม่เพียงแต่เล่นลูกไม้กับเขาเท่านั้น ยังพูดคำแปลกๆ เหล่านั้นอีกด้วย

“เอ่อ” ซูเสี่ยวเฉิงกลับไปถึงที่เตียงของตัวเองแล้วนั่งลงไป

ทั้งคู่ก็ต่างคนต่างนั่งบนเตียงของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครมองใครเลย ดังนั้นบรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยจึงเริ่มแปลกขึ้นมา เหลือไว้เพียงเสียงดังในทีวีเท่านั้น

“นั่น…”

“นั่น…”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ทั้งคู่ก็ออกเสียงพร้อมกัน พวกเขาสบตากัน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซูเสี่ยวเฉิงก็รีบหลบสายตาไปอย่างรวดเร็วทันที

“คุณพูดก่อนเลย” หลีซินมองเธอ แล้วยิ้มไปอย่างเซ่อๆ

ซูเสี่ยวเฉิงหัวใจเต้นรัวและมือของเธอก็จับผ้าปูที่นอนไว้ ซึ่งในที่สุดเธอก็มีความกล้าหาญที่เพียงพอ

“ขอบคุณนะคะ” เธอสบตาเข้ากับสายตาเขา “เมื่อคืนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ บางทีฉันคงนั่งอยู่ที่นี่ไม่ได้”

“ไม่เป็นไรครับ” หลีซินตอบเธอ “คุณคือ…”

หลีซินกำลังจะพูดออกไป แต่ก็รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ไม่เหมาะสม เขาจึงเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว “คุณคงเป็นเพื่อนของชางหลิงสินะ ซึ่งการที่จะปกป้องพวกคุณ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”

เหมือนว่าหัวใจของซูเสี่ยวเฉิงจะถูกทิ่มแทงไปด้วยบางอย่าง เธอมองหลีซินแต่เธอกลับไม่สามารถซ่อนความเดียวดายในสายตาของเธอได้

เพื่อนของชางหลิง…หน้าที่…

ใช่แล้วครับ ทุกสิ่งที่เขาทำ ก็เพื่อชางหลิงเท่านั้น

แล้วเธอจะไปขอร้องจนเกินควรไปทำไมกันล่ะ?

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท