แอวริลยืนอยู่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา
“เป็นคุณเหรอ” ชางหลิงขมวดคิ้ว “คุณมาหาโหมวยู่เหรอ”
“ฉันเป็นคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ไหนเลยจะสามารถมาหาคุณชายรองได้ แน่นอนว่ามาหาคุณ” แอวริลไม่แสดงท่าทีตะขิดตะขวงแม้แต่น้อย และมีความทะเยอทะยานที่ซ่อนไม่มิดอยู่ในรอยยิ้ม
“มาหาฉันเหรอ” ชางหลิงไม่เข้าใจอย่างมาก เธอเหลือบมองกลับไป โหมวยู่กำลังถือโทรศัพท์มือถือไม่รู้ว่าดูอะไรอยู่ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากยื่นมือเข้ามายุ่ง
“อยากไปนั่งที่ร้านกาแฟข้างล่างไหม” แอวริลเสนอเชิญเธอ
“ลืมมันไปเถอะ ฉันกลัวคุณวางยาฉัน” ก่อนหน้านี้ที่อยู่เซิ่งซื่อ เธอเคยขัดแย้งกับแอวริล แอวริลกับเมิ่งเคอเป็นศัตรูกัน โดยธรรมชาติแล้วจึงรู้ว่าเธอยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเมิ่งเคอ
“ก็ได้” แอวริลไม่ได้มีความกระอักกระอ่วนกับคำพูดของเธอสักนิด ยักไหล่แล้วชี้ไปยังจุดพักผ่อนที่อยู่ไม่ไกล “แค่คุยไม่กี่คำ ขอเวลาฉันสักครู่ได้ไหม”
ชางหลิงไม่เข้าใจเจตนาของเธอ แต่ก็ยังสงสัยว่าเธอมาหาตัวเองเพราะอะไรกันแน่ จึงปิดประตูแล้วเดินออกไปยังจุดพักผ่อน
เธอนั่งลงบนโซฟา เบี่ยงขาไขว่ห้าง เตรียมเพลิดเพลินกับการแสดงของแอวริล ไหนเลยจะคาดคิดว่าอีกฝ่ายไม่ตื่นตระหนกสักนิด หาที่นั่งนั่งลงตรงข้ามเธอด้วยท่าทีสบายๆ เช่นกัน
“ฉันได้ยินว่าการแข่งขันหลายครั้งหลังสุดของคุณ ไม่ค่อยได้ดังใจใช่ไหม” แอวริลไม่อ้อมค้อม
“การแข่งขันของฉันเป็นยังไงเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ที่คุณควรใส่ใจคือผลการแข่งขันของดีไซเนอร์ของคุณ” ชางหลิงเลิกคิ้ว
แอวริลยิ้มสดใส เพิ่งโชว์กลับมา เธอล้างเครื่องสำอางที่ขึ้นเวทีออกไปแล้ว เวลานี้หน้าตาสะอาดสะอ้านนั่งตรงหน้าชางหลิง ทำให้ชางหลิงรู้สึกว่าใบหน้าของเธอมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
“ฉันรู้ว่าผลงานของคุณยอดเยี่ยมมาก ถ้าเมิ่งเคอยังอยู่ คุณจะสามารถก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของการแข่งอย่างเลี่ยงไม่ได้” แอวริลพูดอย่างใจเย็น “แม้ว่าตอนนี้คุณก็มีโมเดลของตัวเอง แต่พวกนั้น ท้ายที่สุดแล้วล้วนถูกคัดออกหลังจากดีไซเนอร์คนอื่นตกรอบ และไม่มีทางตีความสาระสําคัญของผลงานคุณได้”
“คุณอยากพูดอะไรกันแน่” ชางหลิงถามเธอ
แอวริลไม่พูด เธอมองชางหลิงอยู่นานก่อนจะยิ้ม
“ฉันคิดว่าฉันชัดเจนแล้วนะ” แอวริลพูด “คุณอยากชนะ ฉันก็อยากชนะ คุณมีพรสวรรค์มาก สามารถดีไซน์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้ ภายในขอบเขตของคุณ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
ในที่สุดชางหลิงก็ได้ยินเธอพูดประโยคนี้ ความจริงเธอเข้าใจเจตนาของแอวริลอยู่ก่อนแล้ว แค่รอดูว่าเธอจะใช้ทัศนคติแบบไหนพูดมันออกมา
“คุณมั่นใจดีนะ” ชางหลิงยิ้มเย็นชา
“ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยขาด และคุณก็รู้ว่าแม้ความโดดเด่นของฉันจะค่อนข้างแตกต่างจากเมิ่งเคอ แต่กลับไม่ด้อยกว่าเธอ ไม่อย่างนั้นก็คงมามิลานไม่ได้” แอวริลตอบเธอ
“แต่ตอนนี้คุณมีดีไซเนอร์แล้ว ฉันคิดว่าเขาต้องปรับเปลี่ยนผลงานให้เข้ากับรูปร่างและความโดดเด่นของคุณแล้ว ถ้าตอนนี้คุณทิ้งเขาแล้วมาอยู่ในความดูแลของฉัน สำหรับเขาแล้วเรียกว่าเป็นความเสียหายที่เกินแก้ไข” ชางหลิงสีหน้าท่าทางสงบเยือกเย็น
“ในเมื่อฉันเปลี่ยนดีไซเนอร์คนแรกได้ โดยธรรมชาติแล้วก็เปลี่ยนคนที่สองได้” แอวริลยิ้มเล็กน้อย “นกฉลาดรู้จักเลือกกิ่งไม้เกาะ ตราบใดที่มีใครสามารถทำให้ฉันขึ้นไปยืนบนเวทีที่สูงกว่าได้ ฉันก็เลือกคนนั้น”
ช่างเป็นคนทะเยอทะยาน ชางหลิงมองดูแอวริลที่อยู่ตรงหน้า ในแวดวงนี้ เหมือนจะมีคนแบบเธออยู่มาก แต่สามารถทำความคิดตัวเองให้ชัดเจนออกมาขนาดนี้ได้ ชางหลิงเห็นว่ามีแค่เธอคนแรก
“งั้นคุณแน่ใจได้ยังไงว่าฉันเป็นกิ่งไม้ของคุณ” ชางหลิงกอดอกพลางถาม
“ดีไซเนอร์คนปัจจุบันของฉันคือหลินจอ ความจริงเป็นผู้เป็นเลิศในเซิ่งซื่อ แต่เขาอยู่เซิ่งซื่อมาหกปีแล้ว ตั้งหกปี แต่เขาไม่ได้เลื่อนขั้นจากดีไซเนอร์เหรียญทองขึ้นไปสักที ฉันสามารถบอกคุณได้เลย ว่าจริงๆ แล้วผลงานของเขาธรรมดามาก ไม่มีทางมีคุณสมบัติพอจะเข้าถึงสามอันดับแรกของการแข่งขันแน่นอน”
ชางหลิงฟังคำพูดของแอวริลแล้วเริ่มขมวดคิ้วทีละน้อย
เข้าไม่ถึงสามอันดับแรกงั้นเหรอ แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นคนที่เข้าสู่รอบแปดของการแข่งขันแล้วนะ
“คุณคิดว่าบรรดาผู้เข้าแข่งขันของเซิ่งซื่อที่ถูกคัดออก ยังไม่ได้กลับประเทศแล้วอยู่ทำอะไรที่นี่ บริษัทลงทุนจ่ายไปมากเพื่อให้พวกเขาพักในโรงแรมระดับเจ็ดดาว ให้พวกเขากินและดื่มฟรี เพื่อให้พวกเขาหยุดพักผ่อนเหรอ” มีร่องรอยเยาะเย้ยในสีหน้าของแอวริล
“คุณหมายความว่ายังไง” ชางหลิงไม่เข้าใจ
แอวริลก้มหน้า เธอส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ชางหลิง
“คุณไปดูห้องของพวกเขาสิ มีใครที่ถอนตัวจากการแข่งจริงๆ บ้าง ต่อให้ถูกคัดออกแล้ว แต่คุณค่าของพวกเขากลับยังคงดำเนินต่อไป พวกเขายังต้องส่งแบบร่างการดีไซน์ของตัวเอง เพื่อปูทางให้ผู้เหลือรอดในสนามแข่งขัน” แอวริลบอกอย่างชัดเจน “ที่การแข่งขันดำเนินต่อจนถึงตอนนี้ คุณคิดว่าเป็นความสามารถของตัวดีไซเนอร์แต่ละคนเหรอ นี่เป็นการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีระหว่างบริษัทแน่นอนอยู่แล้ว….”
“เดี๋ยวนะ” ชางหลิงขัดคำพูดของแอวริล เริ่มเข้าใจความหมายในคำพูดของแอวริลแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ การแข่งเลื่อนขั้น มีกฎในผลงานไว้ตั้งแต่แรกแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างทาง” ชางหลิงแปลกใจมาก
“กฎเหรอ” แอวริลรู้สึกขำ “ถ้ามีกฎกำหนดไว้อย่างว่าจริง ตอนรอบแรกที่คุณเปลี่ยนผลงาน ก็ถูกคัดออกไปแล้ว”
“กฎน่ะ แต่ไหนแต่ไรมามันก็ถูกกำหนดขึ้นโดยคนมีเงิน คุณแค่โชคดีที่เป็นคนมีเงินคนนั้นพอดีก็เท่านั้น” แอวริลมองเธออย่างมั่นคง
ชางหลิงตกใจมาก
ดังนั้น ตอนนี้…บรรดาคนที่ถูกคัดออกก่อนหน้านี้ จึงอยู่ด้วยการเป็นมือปืนรับจ้างให้ดีไซเนอร์ที่เหลือรอดอย่างนั้นเหรอ
ไม่แปลกใจที่ถงเอินขอให้หลิวจื่อเวยอยู่ ไม่แปลกใจที่หลิวจื่อเวยมองเธอด้วยสายตาแบบที่มีความไม่พอใจอยู่เป็นจำนวนมาก
“หลินจอ….” ชางหลิงนึกภาพไม่ออก “ผลงานของเขาในตอนนี้ ล้วนเป็นคนพวกนั้น….”
แอวริลหัวเราะแต่ไม่พูด
ชางหลิงถูกข้อเท็จจริงนี้ทำให้มึนเบลอ
ฉะนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ ความจริงแล้วมีเพียงเธอคนเดียวที่เข้าแข่งขันอย่างจริงจัง เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากเพื่อเตรียมการแข่ง แต่ทว่าที่เผชิญหน้ากับเธอ กลับไม่ใช่พวกคนที่ยืนอยู่บนเวที แต่มีคนนับสิบหรือถึงขั้นหลายร้อยคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาอย่างนั้นเหรอ
“ไม่ยุติธรรมเลย” หัวชางหลิงกำลังจะระเบิด “นี่มันโกงไม่ใช่เหรอ”
“ถ้าโกงกันทุกคน มันก็เป็นความยุติธรรมอีกรูปแบบหนึ่งไงล่ะ หรือว่าไม่จริง” แอวริลย้อนถามเธอ
นี่มัน….ชางหลิงขยี้หัวตัวเอง นี่เธอรู้สึกว่าที่แอวริลพูดมีเหตุมีผลมากงั้นเหรอ
“อีกอย่างนะ คุณคิดว่าคุณสามารถสะอาดหมดจดได้จริงเหรอ ที่คุณสู้กับเจสันในเกมแข่งขัน คุณคิดว่าคนพวกนั้นไม่รู้เหรอ ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดว่าการปรากฎตัวของคุณจะทำลายกฎที่มองไม่เห็นได้ แต่จนกระทั่งเรื่องของคุณกับคุณชายรองโหมวเปิดเผยออกมา ฉันถึงได้เข้าใจ ว่าที่จริงแล้วตั้งแต่เริ่มคุณก็อยู่ในกฎนี้แล้ว”
“ฉัน?” ชางหลิงงุนงง
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชายรองโหมว คุณคิดว่าคุณจะสามารถเดินมาได้อย่างราบรื่นจนถึงตอนนี้เหรอ”
ชางหลิงอึ้ง เธอสามารถเดินมาได้จนถึงตอนนี้ ไม่ใช่ว่าอาศัยพลังของเธอเองหรอกเหรอ มันเกี่ยวอะไรกับโหมวยู่ด้วย
“ที่จริงน่ะ คนที่สามารถอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครที่ไม่มีคนอยู่เบื้องหลังนะ ฉันเคยคิดว่าหรือไม่หลินจอจะสามารถพึ่งพาความพยายามของทุกคนเพื่อผลักเขาขึ้นไปได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสามารถของคนอื่นก็มาได้เพียงแค่นี้ ฉันไม่อยากเสี่ยงกับเขาอีกต่อไป ดังนั้นการมาหาคุณ ถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุด”
“พรสวรรค์ด้านการออกแบบของคุณ แถมด้วยคนที่อยู่เบื้องหลังคุณ ถึงสามารถพอจะเป็นปัจจัยสำคัญให้ชนะการแข่งขันได้ และสถานการณ์ในตอนนี้มันรุนแรง การแข่งขันของทุกฝ่ายเริ่มเดือด ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณเองก็ต้องทำการปกป้องตัวเองให้มากขึ้น จริงไหม”
แอวริลเอียงศีรษะ รอคอยคำตอบของชางหลิง