ชางหลิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งดีไซเนอร์ ช่วงเวลาครึ่งเดือน คนที่นั่งตรงโซนนี้น้อยลงเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ทางเดินที่แต่เดิมเคยแออัดกว้างขวางขึ้นมาก
เธอมองไปที่เหล่าผู้ชม โหมวยู่กำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ ดูไม่ค่อยสนใจเกมบนเวทีเท่าไรนัก
ชางหลิงยักไหล่พลางหัวเราะ
ใช่สิ ทำไมเขาต้องสนใจล่ะ บางทีเขาอาจรู้ผลการแข่งขันอยู่ก่อนแล้ว
โมเดลบนเวทีเปลี่ยนคน ในที่สุดโมเดลของชางหลิงก็ขึ้นเวที
ในประวัติศาสตร์การออกแบบของชางหลิง น้อยมากที่จะมีการประดับตกแต่งในประเภทสวยงาม แม้ว่าเธอจะมีบุคลิกที่เปิดเผย แต่กลับไม่ค่อยชอบความหรูหราบนเสื้อผ้า แต่ชุดซิ่วเหอในคราวนี้ ตั้งแต่บนลงล่างของมันล้วนเป็นงานปักดอกไม้ที่วิจิตรงดงาม
เต็มไปด้วยมังกรและหงส์ ส่วนใหญ่เป็นสีทองและสีฟ้าคราม ชุดส่วนบนเป็นปกคอกลม ส่วนล่างเป็นกระโปรงที่ดัดแปลงมาจากกระโปรงจับจีบสมัยราชวงศ์ชิง ฝีเข็มเย็บละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หางหงส์นั้นเสมือนจริงเป็นอย่างมาก ภายใต้แสงไฟ ขณะที่โมเดลกำลังเดิน จะเหมือนนางฟ้าเดินลงมาจากก้อนเมฆ กระทั่งกลายเป็นหญิงงาม เดินไปหาสามีในอุดมคติของตัวเอง
ในที่สุดโหมวยู่ก็วางโทรศัพท์มือถือลง ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความทึ่งของผู้ชม เขาเงยหน้าขึ้นมองดูโมเดลถือพัดทอง เดินเข้ามาหาเขาในชุดแต่งงาน
ระหว่างที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ โมเดลที่ไม่คุ้นหน้าจู่ๆ ก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ ใบหน้าของเธอ มันถูกแทนที่ด้วยหน้าตาของชางหลิง เธอสวมชุดแต่งงานที่ทำด้วยมือตนเอง ค่อยๆ เดินช้าๆ เข้ามาหาเขา
ทุกอากัปกิริยา ทั้งหมดล้วนเป็นในแบบที่เขาคิดว่าภรรยาของเขาควรจะเป็น
โหมวยู่เห็นชางหลิงทำชุดนี้ด้วยตาตัวเอง ดูเธอใช้กรรไกรอย่างชำนาญ ฟังเสียงของการตัดผ้าที่คมชัด และเสียงการทำงานของจักรเย็บผ้า เธอเย็บปักถักร้อยยุ่งเหยิงบนเสื้อผ้า แต่ละฝีเข็มแต่ละเส้นด้ายล้วนเคร่งเครียดจริงจัง….
ที่แท้ผู้หญิงของเขาช่างยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ สองมือของเธอ เห็นได้ชัดว่าแสนจะบอบบาง แต่ฝีมือของเธอ กลับสามารถประดิษฐ์ชุดที่ตระการตาขนาดนี้ออกมาได้
เมื่อโหวยู่สติกลับมา โมเดลบนเวทีก็เดินจบแล้ว และชางหลิงเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วในขณะนี้
ดีไซน์เนอร์ต้องขึ้นไปอธิบายเชื่อมโยงบนเวทีทันที ในอดีตทุกครั้งจะมีดีไซเนอร์มาอธิบายแนวคิดในการดีไซน์เช่นนี้ แต่วันนี้ ชางหลิงกลับค่อนข้างสงบนิ่งกว่าแต่ก่อน
เธอรับไมโครโฟนมาจากพิธีกร มองดูกลุ่มผู้ชมล้นหลามล่างเวที ด้วยรอยยิ้มอันสดใส
ในหมู่คนเหล่านี้ มีตัวแทนแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำทุกประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีรุ่นก่อนที่ได้รับรางวัลการออกแบบ และเพื่อนร่วมงานที่เคยพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับเธอบนเวที และอีกมากที่เป็นเหมือนกับเธอ ผู้มีความฝัน ดีไซเนอร์ธรรมดาๆ ที่คิดว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการพยายามอย่างหนัก
พวกเขาอาจจะไม่มีคุณสมบัติที่จะยืนอยู่บนเวทีนี้ ดังนั้นแววตาของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความศรัทธาและความริษยา โดยวาดหวังว่าตัวเองจะสามารถยืนขึ้นได้บ้างในสักวัน….
“สวัสดีทุกคน” ชางหลิงถือไมโครโฟน เมื่อเธอพูดจบ บนเวทีฝั่งหนึ่งจะแปลคำพูดของเธอเป็นภาษาอังกฤษ
“ฉันคือชางหลิง มาจากบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปของประเทศจีน” เธอโค้งคำนับให้คนด้านล่างเวที ล่างเวทีเกิดเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง
เธอหันไป เริ่มแนะนำชุดที่ออกแบบบนตัวโมเดล “ผลงานชิ้นนี้ ในประเทศของเราถูกเรียกว่าชุดแต่งงาน ตลอดมาถึงปัจจุบัน ยังมีหญิงสาวสมัยใหม่สวมชุดแบบนี้แต่งงานมากมาย สวมใส่มันเดินเข้าแต่งงานในโบสถ์”
“มันได้รับการสืบสานมาจากสมัยปลายราชวงศ์ชิง ที่จริงแล้วมันมีการดัดแปลงไปมาก ชุดนี้บนตัวโมเดล อันที่จริงมันเป็นสไตล์ที่พัฒนาร่วมสมัยให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดและดูเป็นผู้ใหญ่ ในสายตาของฉัน มันไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ที่โดดเด่นจริงๆ คืองานปักบนมัน”
โมเดลยกแขนและหมุนรอบตัว แสดงลวดลายบนนั้นต่อหน้าผู้ชม
“เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงกลางของการแข่งขัน ดังนั้นที่จริงฉันไม่มีส่วนร่วมในรายการรอบแปด ชุดนี้ฉันจึงใช้เวลาสองวันรีบทำมันออกมา”
เมื่อชางหลิงพูดจบประโยคนี้ คนด้านล่างเวทีอดไม่ได้ที่จะอุทาน เพราะถึงอย่างไรชุดที่วิจิตรละเอียดละออเช่นนี้ ไม่ว่าในกรณีใดก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำการปักงานหนักเหล่านี้ให้เสร็จในเวลาอันสั้น
“ฉันคิดว่าทุกคนคงต้องคิดว่าฉันโกหก เพราะลวดลายพวกนี้ เวลาสองวันไม่มีทางปักมันออกมาได้ ที่จริงฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น ลวดลายพวกนี้ ความจริงแล้วคุณแม่ของฉันใช้เวลาหลายปี ถึงขั้นหลายสิบปีปักมันออกมา แต่ละเข็มแต่ละด้าย ล้วนแล้วแต่ลงมือด้วยตัวเอง”
เสียงด้านล่างเวทียิ่งดังขึ้นอีก ทุกคนพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กระซิบกระซาบกัน มีเพียงโหมวยู่ เขาเอาแต่จ้องชางหลิง สีหน้านิ่งไร้การแสดงออก
“คุณแม่ของฉันบอกฉันว่า ผู้หญิงในบ้านเกิด พวกเธอปักเสื้อผ้าให้ตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกฝีเข็ม ล้วนจินตนาการถึงความรักและการแต่งงาน ต่อมาเมื่อคุณแม่ของฉันเสียไป ของพวกนี้จึงตกเป็นของฉัน ทุกคนคงรู้ว่าธีมหลักในการแข่งครั้งนี้คือสืบสาน สืบสานวัฒนธรรมที่หลงเหลือจากสมัยโบราณ นอกจากนี้ยังสืบสานความคาดฝันจากคนรุ่นก่อนมาสู่ลูกหลานอีกด้วย”
“วันนี้ ฉันนำสิ่งที่เป็นมรดกที่คุณแม่ทิ้งไว้ให้ฉันมาแสดง ทำชุดแต่งงานที่ท่านทำไม่สำเร็จในชีวิตเพื่อท่าน ทั้งยังนำสิ่งที่อ่อนช้อยและงดงามที่สุดในประเทศของเรามาสู่สายตาชาวโลกด้วย เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความสามารถของผู้หญิงในเจียงหนาน และขอบคุณทุกคนที่ให้พื้นที่เวทีนี้กับฉัน ให้ฉันเติมเต็มความปรารถนาของคุณแม่ให้เป็นจริง เพื่อกลายเป็นความภาคภูมิใจของคุณแม่ของฉัน”
ชางหลิงน้ำตาคลอ เธอเกิดก้อนสะอื้น ทำได้เพียงโค้งคำนับต่ำให้ทุกคน
“ขอบคุณค่ะ”
เสียงปรบมือของผู้ชมล่างเวทีดังสนั่นเป็นเวลานาน ชางหลิงยืดตัวขึ้น รอคณะกรรมการตัดสินคะแนน
เป็นไปตามคาด ผลงานของชางหลิงได้คะแนนสูงมาก มันสูงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มีคะแนนสูงก่อนหน้านี้ เพียงแต่ชางหลิงไม่สามารถบอกความแตกต่างเบื้องหลังคะแนนนี้ได้ ว่ามันคือความสามารถที่แท้จริงของเธอ หรือผู้ตัดสินรู้สึกประทับใจกับเรื่องราวของเธอ หรือบางที มันก็แค่เงินของโหมวยู่เท่านั้นที่แสดงบทบาท
พิธีกรรายงานผลคะแนนสุดท้าย ผู้ชมทั้งหมดกำลังเดือด และก็ไม่ต้องสงสัย ชางหลิงกลับมาได้ในเกมสุดท้าย เข้าสู่การแข่งรอบชิงชนะเลิศสำเร็จ
“คุณชางหลิง คะแนนของคุณครั้งนี้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในงานเทศกาลแฟชั่น การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเปิดประตูให้คุณแล้ว รบกวนให้ความเห็นสักหน่อยได้หรือไม่” พิธีกรถามเธอด้วยรอยยิ้มที่สดใส
ชางหลิงกำไมโครโฟนในมือแน่น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก กลั้นน้ำตาให้ไหลย้อนกลับ
ในที่สุดบนใบหน้าของโหมวยู่ก็มีรอยยิ้มเล็กน้อย เขามองดูเธอบนเวทีด้วยความรู้สึกที่โล่งอก
“คุณชายรองครับ คุณชางทำได้แล้ว เธอน่าทึ่งจริงๆ” ฉู่ฉือก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความตื่นเต้น
เป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับคุณชายรองของเขา สามารถเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ธรรมดาจริงๆ
“ฉันขอประกาศ ถอนตัวจากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศค่ะ”