ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 234 ตราบเท่าที่ผมมี และตราบเท่าที่คุณต้องการให้

บทที่ 234 ตราบเท่าที่ผมมี และตราบเท่าที่คุณต้องการให้

ชางหลิงกลับไปที่โรงแรม

ในห้องที่มีเศษผ้าที่ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปทั่วห้องนั้นถูกโหมวยู่ทำเก็บกวาดแล้วและแม้แต่ของส่วนตัวก็ยังถูกเขาเก็บใส่ไว้ในกล่องแค่รอเธอกลับมาก็สามารถกลับประเทศได้เลย

ชางหลิงหาของในกล่องนั้นอยู่ครู่หนึ่ง อยู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้เธอจึงรีบหยิบมือถือออกมาเพื่อโทรหาโจวลี่ลี่ เพียงแต่ ยังไม่ทันได้โทรติดโหมวยู่ก็ได้ผลักเปิดประตูแล้วเข้ามาพร้อมกับถือถุงของขวัญสีแดงไว้ในมือ

“กำลังหาอะไรอยู่เหรอ?” โหมวยู่ถามเธอ

ชางหลิงไม่ได้ตอบแต่โหมวยู่กลับยื่นถุงของขวัญให้เธอก่อนแล้ว

ชางหลิงกดวางสายแล้วรับถุงในมือของเขาหลังจากที่เปิดออกแล้ว เธอก็เห็นเสื้อผ้าที่ถูกพับเก็บไว้อย่างเรียบร้อยอยู่ข้างใน

“ทำไมมันถึงอยู่ในมือคุณได้ล่ะ?” นี่เป็นชุดยกน้ำชาสีแดงที่เธอทำเพราะก่อนหน้านี้เธอกลับจากสนามแข่งอย่างเร่งรีบเกินไป จนลืมนำมันกลับมาด้วย

ซึ่งมันก็ไม่ใช่สิ่งของล้ำค่าอะไรแต่นี่ล้วนเป็นความพยายามอันอุตสาหะของแม่และมันก็จะทำหายไม่ได้เลย

“ไหนบอกเป็นของที่แม่ยายเก็บไว้ไม่ใช่เหรอ?” โหมวยู่นั่งลง “ฉันต้องเก็บรักษามันให้ดีอยู่แล้ว”

“ขอบคุณนะคะ” ชางหลิงรู้สึกซาบซึ้งอย่างจริงใจ

เมื่อพูดถึงแม่ ชางหลิงก็นึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็นั่งลงข้างๆ โหมวยู่

“ใช่แล้ว สำหรับแม่ของฉันฉันรู้ข่าวใหม่เกี่ยวกับแม่ของฉันด้วยนะ”

โหมวยู่หันหน้ามาแล้วมองเธอพร้อมกับวางมือไว้บนไหล่ของเธอ

“ออโรร่าบอกว่าเมื่อ 15 ปีก่อนเธอเห็นแม่ของฉันด้วยตอนนั้นเธอเป็นพี่เลี้ยงที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองของเย่นเจิ้งหยางด้วยฉันเลยคิดว่าเรื่องนี้ มันอาจมีความเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ฉัน”

“เย่นเจิ้งหยางงั้นเหรอ?” โหมวยู่ประหลาดใจไปครู่หนึ่ง

แต่ต้องรู้ว่า ตำแหน่งของเย่นเจิ้งหยางในสหรัฐอเมริกาเป็นตำแหน่งที่สำคัญซึ่งมีผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมนะ เพราะเขามีอุตสาหกรรมน้ำมันขนาดใหญ่ที่ตะวันออกกลาง และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีอยู่ในมือของเขาก็มีอีกมากมายเมื่อตระกูลโหมวเทียบกับเขาก็คงเป็นได้แค่ของที่เล็กเมื่อเปรียบเทียบของที่ใหญ่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ค่อยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเลยและไม่ค่อยปรากฏในความสนใจของสื่อด้วยซึ่งก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าเขามีทรัพย์สมบัติมากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม คนที่ไร้อุปสรรคขวางทางโลกธุรกิจของสหรัฐอเมริกาอย่างนี้ จะไปอยู่กับแม่ของชางหลิงได้ยังไงกัน?

“ฉันก็รู้ว่ามันเหลือเชื่อเช่นกันแต่เมื่อคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนมันจะอย่างที่มันบังเอิญอยู่บ้างเพราะแม่ของฉันฆ่าตัวตายด้วยโรคซึมเศร้าหลังจากพบกับไม่นานหลังจากพบกับเย่นเจิ้งหยางได้ไม่นานและตู้เว่ยหรันคนสนิทข้างกายเธอที่ตอนนี้ก็อยู่ที่ลอสแอนเจลิสสหรัฐอเมริกาซึ่งครอบครัวของออโรร่าและเย่นเจิ้งหยางก็อยู่ในลอสแอนเจลิสด้วย…”

ชางหลิงพูดความสงสัยของตัวเอง

ก่อนหน้าที่มักจะถูกเรื่องของโม่โม่รบกวนใจตลอด เลยไม่มีจิตใจที่จะไปตรวจสอบเรื่องแม่ของฉันได้มากขนาดนี้ แต่ตอนนี้ฉันก็มีเวลาว่างแล้วและความลึกลับนี้ก็ทำให้เธอสับสนมานานเกินไป ซึ่งเธอก็รอไม่ไหวที่จะไขปริศนานี้แล้ว

“คุณคิดว่าตู้เว่ยหรันมีความเป็นไปที่จะมีความเกี่ยวข้องกับเย่นเจิ้งหยางคนนี้?” โหมวยู่ถามเธอ

“ก่อนหน้านี้คุณก็เคยตรวจสอบแล้วไม่ใช่เหรอ? ตู้เว่ยหรันคนนี้ ไม่มีลูก เพราะเธอก็อยู่เป็นโสดมาทั้งชีวิตแล้ว และเขาก็ไม่ได้มีธุรกิจที่จะอยู่รอดได้ในสหรัฐอเมริกาเลย ทำไมเขาถึงทิ้งบ้านเกิดไปอยู่ลอสแอนเจลิสล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็ทุกข์ทรมานจากโรคอัลไซเมอร์ที่บ้านพักคนชราและนี่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลย แล้วเงินเหล่านี้ ใครจะเป็นคนรับภาระกันล่ะ?”

โหมวยู่คิดเกี่ยวกับสิ่งที่ชางหลิงพูดอย่างรอบคอบแล้วก็รู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลเช่นกัน

“มันบังเอิญจริงๆ ด้วย” โหมวยู่ลูบผมของชางหลิง “ไว้ฉลองปีใหม่เสร็จก่อนเราคอยไปสหรัฐอเมริกาด้วยกันเพื่อดูว่าจะหาเบาะแสเพิ่มเติมได้ไหม”

“ค่ะ” ชางหลิงพยักหน้า

“ดังนั้นการที่คุณมามิลานด้วยระยะทางที่ยาวไกลขนาดนี้ก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่บ้าง” โหมวยู่พูด

อย่างน้อยฉันก็ได้รู้จักออโรร่าและได้ทราบข่าวเกี่ยวกับแม่ของเธอจากปากของเธอ

ชางหลิงลืมตาขึ้นพร้อมกับมองไปที่โหมวยู่ซึ่งหนวดของเขาก็ไม่ได้โกนมาสักระยะหนึ่งแล้วและมีขนแข็งๆ ขึ้นที่คางของเขาเธอยื่นมือออกไปพร้อมกับใช้ปลายนิ้วมือลูบที่คางด้วยสายตาที่ใสแจ๋ว

“ขอโทษด้วยนะโหมวยู่ที่ฉันเอาแต่ใจเกินไปเพื่อการแข่งขันที่มิลานคุณช่วยฉันมากมายขนาดนั้น แต่ฉันกลับทำให้คุณผิดหวัง”

คนที่บอกว่าจะมาคือเธอเองคนที่บอกว่าต้องการชนะก็คือเธอ และคนที่บอกว่าจะยอมแพ้การแข่งขันก็เป็นเธอเช่นกัน

“คุณไม่จำเป็นต้องสนใจหรอกว่าจะทำให้ผมผิดหวังหรือไม่” เพราะโหมวยู่เองก็ทำอะไรคุณไม่ได้ “แต่ขอแค่ตัวคุณมีความสุขก็ดีแล้ว”

แม้ว่าเขาจะเสียดายแทนเธอก็ตามแต่แค่ให้เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันก็เพื่อให้เธอมีความสุข ในเมื่อการยอมแพ้การแข่งขันก็ทำให้เธอมีความสุขแล้ว งั้นไม่แข่งก็ไม่ต้องแข่งแล้ว

“ทำไมคุณถึงดีกับฉันขนาดนี้ด้วย” ชางหลิงยังคงไม่เข้าใจสิ่งนี้ความอดทนของโหมวยู่ที่มีต่อเธอ ทำให้เธอนิสัยเสียไปแล้ว เธอกลัวมากถ้าอยู่ๆ วันหนึ่งเขาจะต้องทวงคืนความดีทั้งหมดไป เธอจะต้องเสียใจขนาดไหน

“อยากรู้เหรอ?” โหมวยู่พูดพร้อมกับโอบตัวเธอไว้โดยวางพนักพิงศีรษะของเธอไว้บนตักของเขาตามทิศทางผมของเธอ

“อืม” ชางหลิงพยักหน้า

ตาของโหมวยู่มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกับกำลังหวนนึกถึงเรื่องราวอดีตที่ลึกซึ้ง

“เมื่อตอนยังเด็ก ผมได้เห็นโศกนาฏกรรมของแม่ด้วยตาของตัวเอง ซึ่งเธอก็อาศัยอยู่ในบ้านที่หรูหราที่สุด เรื่องกิน เรื่องใช้ ล้วนเป็นของที่หรูหราทั้งนั้น แต่เธอกลับไม่มีความสุขเลย เพราะเธอแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่รักเธอ”

เพราะโหมวเจิ้งถิงเพียงต้องการโภคทรัพย์ของตระกูลเซิ่งเท่านั้น ภายนอกเขาแสดงท่าทีเป็นสามีที่มีความรักความผูกพัน และพ่อที่พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่แต่กลับไม่เคยเป็นฝ่ายที่จะดูแลแม่ของผม หรือบางที ในสายตาของเขาการที่ให้เงินแม่ใช้และไม่ปล่อยให้แม่หนาวและหิวโหยก็ถือว่าตัวเองได้รับผิดชอบอย่างเต็มที่แล้วซึ่งเท่าที่ผมจำได้แม่ผมน้ำตาอาบแก้มทุกวันและนับตั้งแต่นั้นมาผมก็คิดว่า…”

“ถ้ามีวันหนึ่งผมมีภรรยาเป็นของตัวเอง ผมจะใช้ทุกความสามารถเพื่อทำให้เธอมีความสุข”

ชางหลิงรู้สึกอบอุ่นใจเธอรู้สึกแสบจมูกเล็กน้อยเธอหันหน้าหนีเพราะไม่อยากให้โหมวยู่เห็นท่าทางที่ไม่มีเหตุผลของเธอ

“คุณสามารถให้ฉันได้ทุกอย่างเลยเหรอ? แม้ว่าฉันจะไม่เชื่อฟังและไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรขนาดนี้?”

“ในตอนแรกผมรู้สึกไม่ค่อยชินจริงๆ”โหมวยู่ยิ้มเบาๆ “แต่หลังจากประสบมามากมายขนาดนี้แล้ว ผมก็เกือบจะเสียคุณไปตั้งหลายครั้งผมเลยเข้าใจมันแล้วและคงไม่มีอะไรที่จะสำคัญไปกว่าการที่คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและความสุข”

“ตราบเท่าที่ผมมีและตราบเท่าที่คุณต้องการ”

ชางหลิงสั่งจมูก พร้อมกับเอื้อมมือออกไปเกี่ยวคอของโหมวยู่แล้วเริ่มเงยหน้าขึ้น พร้อมกับจิกปากของเขาอย่างหนักไปทีหนึ่ง

“พรุ่งนี้กลับประเทศคุณเตรียมใจพร้อมหรือยัง?” โหมวยู่ถามเธอ

“เตรียมใจเหรอ?” ชางหลิงสับสน

แล้วมองไปที่สายตาของโหมวยู่ชางหลิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ใช่แล้วตอนนี้พวกเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างอิสระทั้งคุณและฉัน เพราะสวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล

แต่ถึงอย่างนั้นแค่โม่โม่เพียงคนเดียวก็เกือบจะทำให้เธอพ่ายแพ้ยับเยินแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดเลยเมื่อกลับประเทศแล้วก็ยังมีโหมวเจิ้งถิงที่รอพวกเขาอยู่

ตอนนี้ทั้งสองก็ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้วและโหมวเจิ้งถิงจะต้องโกรธอย่างแน่นอน

ทันทีที่นึกถึงสายตาที่ดุร้ายคู่นั้นชางหลิงก็ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้ ถึงขั้นที่เธอต้องเหงื่อแตกเลยทีเดียว

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท