ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 245 ฉันอดทนมาพอแล้ว

บทที่ 245 ฉันอดทนมาพอแล้ว

การกระทำชั่วอึดใจนี้ ทำให้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุล้วนตกตะลึง

ชางหลิงตื่นเต้นจนแทบกระโดดโลดเต้น

มันเจ๋งมาก นี่สิถึงเป็นความกล้าที่ผู้ชายควรมี

แต่แล้ววินาทีถัดมา ซูเสี่ยวเฉิงก็ลืมตาโพรงขึ้นมาฉับพลัน เมื่อเธอเห็นหลีซินที่อยู่ตรงหน้า ก็เกิดอาการช็อกสุดขีด

เขากำลังทำอะไร

“ฉันว่าแล้ว เสี่ยวเฉิงจื่อต้องชอบหลีซินแน่ๆ ใช่ไหม” ชางหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม

ทุกคนต่างหัวเราะ โดยเฉพาะฉินซางที่กอดอกทำหน้าเหมือนว่ากำลังดูละครสนุกๆ

“เสี่ยวเฉิง…” หลีซินเปิดปากพูด

ซูเสี่ยวเฉิงอายมาก เธอหน้าแดง ก้าวถอยหลัง ภายใต้ความกดดัน ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นและตบลงไปบนใบหน้าของหลีซินอย่างแรง

เสียงคมชัด รอยยิ้มบนใบหน้าของชางหลิงแข็งค้าง

ซูเสี่ยวเฉิงมองเธอ สายตาเจ็บปวดแบบนั้นแทงทะลุหัวใจของชางหลิงอย่างหนัก ชางหลิงปล่อยมือของโหมวยู่แล้วลุกขึ้นยืน

“ขอโทษ” หลีซินบอกขอโทษเธอ “ผมแค่….”

ไม่มีทางทนยอมรับให้เธอจูบคนอื่นต่อหน้าเขา

ซูเสี่ยวเฉิงน้ำตาเอ่อเต็มดวงตา เวลานี้ตอนนี้ เสียงหัวเราะของทุกคนเป็นเหมือนหนามแหลมคม แทงเธอจนเป็นแผลช้ำเลือดช้ำหนองบาดเจ็บไปทั้งกาย

นี่มันอะไร หลังจากที่เขายอมรับว่าชอบชางหลิง แต่ตอนนี้มาจูบเธอต่อหน้าทุกคน

เขารู้ไหมว่าตอนที่เธอเลือกคนอื่นมันต้องใช้ความกล้าหาญมากแค่ไหน ในเมื่อไม่ชอบเธอ ทำไมต้องมากวนเธออีก เธอไม่ได้ต้องการให้เขาช่วยเธอ เธอไม่ได้ต้องการความเมตตาของเขา

“พวกคุณเล่นกันไปเถอะ ฉันไปก่อนนะ” ซูเสี่ยวเฉิงพยายามควบคุมอารมณ์อย่างที่สุด หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาแล้วหมุนตัวเดินจากไป

“เสี่ยวเฉิง!” ทันใดนั้นชางหลิงก็ตระหนักได้ทันทีว่าเรื่องตลกของตัวเองมีความจริงจังแค่ไหน เธอทิ้งโหมวยู่ไว้แล้วรีบตามไป

หลีซินมองตามหลังซูเสี่ยวเฉิง หัวใจทั้งดวงจมลง ลมหายใจของหญิงสาวดูเหมือนยังคงหลงเหลืออยู่ในปากของเขา แต่ใบหน้าที่เจ็บปวดแสบร้อนก็เป็นความจริงที่ลบไม่ออก

เธอไม่ชอบเขา ถึงขั้นเกลียดเขา

ตั้งแต่เริ่มแรกก็เป็นแบบนี้

“พี่ใหญ่ ผมดื่มมากแล้ว ขอกลับไปพักผ่อนก่อน” หลีซินค่อนข้างไร้แรงกำลัง แล้วก็หันตัวเดินจากไป

“ทำไม” ฉินซางประท้วงก่อนใคร “ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้มันทำให้สถานการณ์เปลี่ยนยังไง”

เมิ่งเคอเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ฉินซางได้รับคำเตือนทางสายตา จึงหุบปากอย่างหงุดหงิด

การก้าวเดินของซูเสี่ยวเฉิงรวดเร็วมาก ตอนที่ชางหลิงไล่ตามเธอทัน ก็ถึงนอกประตูNovaแล้ว

“เสี่ยวเฉิง!” ชางหลิงตามเข้าไปจับมือเธอไว้ “เธออย่าเพิ่งไป!”

ซูเสี่ยวเฉิงน้ำตาไหลลงมาแล้ว เธอสะบัดมือของชางหลิงออกอย่างแรง ในที่สุดอารมณ์ก็ปะทุขึ้นหลังจากอดทนมานาน

“ชางหลิง ตอนนี้เธอพอใจแล้วใช่ไหม”

ชางหลิงชะงักไป ไม่เข้าใจว่าทำไมซูเสี่ยวเฉิงถึงพูดแบบนี้

“เสี่ยวเฉิง….” เธออยากอธิบาย

“เมื่อครู่ฉันบอกเธอแล้วว่าอย่าวุ่นวายเป็นแม่สื่อจับคู่ที่ไม่เหมาะสมกัน อย่ายื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของฉันอีก” ซูเสี่ยวเฉิงแผดเสียงดังลั่น “เธอคิดว่ามันตลกมากใช่ไหม ทั้งที่เธอรู้ว่าหลีซินชอบเธอ ทั้งที่เธอรู้ว่าถ้ามีโหมวยู่อยู่ด้วยเขาต้องหลบเลี่ยงความสงสัย ที่เขาใช้ฉันเป็นโล่ซ่อนความรักที่มีต่อเธอ เธอรู้สึกเหนือกว่ามากเลยใช่ไหม”

“ฉันเปล่า” ชางหลิงไม่เข้าใจ “เสี่ยวเฉิง ทำไมเธอคิดอย่างนั้นล่ะ”

“แล้วฉันต้องคิดยังไง” ซูเสี่ยวเฉิงย้อนถามเธอ

“ถูกต้อง ตั้งแต่เด็กจนโต เธอมีดีกว่าฉันทุกอย่าง เธอได้เกรดดีกว่าฉัน สวยกว่าฉัน อยู่โรงเรียนก็ยิ่งถูกเด็กผู้ชายชื่นชอบ ฉันอยู่ข้างเธอ แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นเพียงผู้ติดตาม แต่ฉันเป็นคน เป็นคนที่มีเลือดมีเนื้อ ฉันก็มีชีวิตที่ตัวฉันต้องการ มีสิ่งที่ฉันอยากทำเหมือนกัน! เธออาศัยอะไรมาควบคุมชีวิตของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า!”

“เพราะเธอชอบหยูเฉิน อยากอยู่ใกล้ๆ เขา ทั้งหมดที่ฉันทำก็คือการเลือกวิทยาศาสตร์เป็นเพื่อนเธอ แต่ทั้งที่เธอรู้ว่าฉันไม่ค่อยชอบการคำนวนมาโดยตลอด ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยฉันทำคะแนนคณิตศาสตร์ได้แค่ห้าคะแนน เพราะเธอมีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ ฉันไม่อยากให้เธอไปสถานศึกษาใหม่โดยไม่มีเพื่อน จึงเลิกเรียนวรรณกรรมของตัวเองแล้วมาเรียนออกแบบแฟชั่นเป็นเพื่อนเธอ สุดท้ายก็จบการศึกษาอย่างยากลำบาก กลัวว่าเธออยู่เซิ่งซื่อแล้วจะถูกรังแกจึงเข้ามาอยู่กับเธออีกโดยที่ฉันไม่ได้สนใจบริษัทนี้เลย อายุเต็มยี่สิบสองปี เมื่อเธอมีความรักราบรื่นก็ไม่ต้องการฉัน ฉันก็หายตัวไปอย่างสิ้นเชิงโดยไม่รบกวนเธอ ตอนที่พวกเธอทะเลาะกัน โทรมาแค่สายเดียวฉันก็ไปบ้าเป็นเพื่อนเธอ ฉันยืนหยัดช่วยเธอต่อสู้ ช่วยเธอเขียนจดหมายรัก…ตลอดชีวิตของฉัน รอบตัวมีแต่เธอคนที่ชื่อชางหลิง!”

ซูเสี่ยวเฉิงสะอึกสะอื้นจนไร้เสียงร้องไห้

เมื่อชางหลิงได้ยินคำพูดจากหัวใจของเธอ ก็ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ น้ำตาพรั่งพรูดั่งเขื่อนแตก

“โม่โม่เคยขอให้ฉันทำร้ายเธอ ตอนนั้นเพื่อที่อยากชนะการแข่งขันเธอพูดไม่ดีใส่ฉัน ตอนนั้นระหว่างฉันกับโจวลี่ลี่เธอเลือกโจวลี่ลี่…แต่ฉันไม่ทำ เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เหตุผลที่ฉันถูกโม่โม่ลักพาตัวไป เป็นเพราะฉันอยากคว้าเธอไว้เพื่อให้คามสัมพันธ์ระหว่างเราคลี่คลายลง ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นกับดัก ฉันไม่รู้ว่าเธอต้องการชีวิตของฉัน แต่ถึงแม้ว่าโม่โม่ต้องการให้ฉันตายเพื่อเธอ ฉันก็จะไม่โทษเธอเลย ฉันกลัวตาย แต่ฉันยิ่งกลัวมากกว่าว่าโม่โม่จะเอาฉันเป็นตัวประกันไปทำร้ายเธอ!”

“ฉันรู้….” ชางหลิงอยากพูดแต่พูดไม่ออกราวกับมีก้างปลาติดคอ

“เธอไม่รู้หรอก!” ซูเสี่ยวเฉิงแผดเสียงลั่นด้วยความโกรธอีกครั้ง

“ชางหลิง ฟังฉันให้ดีนะ ฉันทนมาพอแล้ว ทนมาพอแล้วกับความรู้สึกของการเป็นเครื่องประดับของเธอที่ต้องทำอะไรโดยไม่เป็นตัวของตัวเอง ฉันซูเสี่ยวเฉิงเป็นสมบัติล้ำค่าที่พ่อแม่ประคับประคองไว้ในฝ่ามือ เป็นหญิงสาวดีเลิศที่มีความฝันที่อยากไล่ตาม ไม่ต้องการความเห็นอกเห็นใจที่คิดไปเองของเธอ ไม่ต้องเอาทั้งสิ่งของทั้งคนที่เธอไม่ต้องการมาให้ฉัน!”

ซูเสี่ยวเฉิงเหมือนระบายทั้งหมดออกมาเป็นคำพูดเหล่านี้ สายตาที่ห่างเหินแบบนั้นทำให้หัวใจของชางหลิงเจ็บปวดเหมือนโดนมีดกรีด

เธอไม่รู้ว่าซูเสี่ยวเฉิงคิดอะไรอยู่ แต่ที่เธอตระหนักได้คือเมื่อเธอพยายามไล่ตามอะไรบางสิ่ง เธอคิดเอาเองว่ามีมิตรภาพที่แข็งแกร่ง แต่เพราะความเห็นแก่ตัวและความคิดไปเองของเธอส่งผลให้เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่

“ฉันไปได้หรือยัง” ซูเสี่ยวเฉิงถามเธอ

มือชางหลิงที่ยื่นออกไปค่อยๆ ถอนกลับมา เธอตาแดงก่ำ ถ้อยคำนับพันสุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป

ซูเสี่ยวเฉิงก้าวกว้างจากไป ไม่อยู่ต่ออีก ชางหลิงมองตามหลังเธอ น้ำตาไหลพรากจนสายตาพร่ามัว

เธอค่อยๆ ทรุดลง ฉับพลันที่ถูกความรู้สึกอ่อนแอกัดกร่อน

ทำไมเป็นแบบนี้…เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง

ทั้งทั้งที่เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าซูเสี่ยวเฉิงชอบหลีซิน แต่เพราะอะไรกัน ซูเสี่ยวเฉิงถึงได้คิดว่าเธอเอาสิ่งของที่ตัวเองไม่ต้องการไปยัดใส่มือเธอ

หลีซินเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่สิ่งของที่เธอไม่ต้องการ เธอต้องการให้ซูเสี่ยวเฉิงได้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ถึงได้ทำทุกอย่างนี้ต่างหาก

โหมวยู่เดินออกประตูมา การก้าวเดินอย่างร้อนใจในคราแรกช้าลงเมื่อเห็นชางหลิงที่หน้าประตู เขาเดินเข้าไปข้างๆ ชางหลิง เมื่อเห็นท่าทางเศร้าโศกใจสลายของเธอก็พลันขมวดคิ้ว

แม้เขาจะไม่เข้าใจความคิดของพวกผู้หญิง แต่สิ่งที่เขาแน่ใจก็คือ ที่ซูเสี่ยวเฉิงมีปัญหากันแบบนี้ก็เพราะผู้ชายคนอื่น

“โหมวยู่” ชางหลิงสะอื้น “ฉันผิดจริงเหรอ”

โหมวยู่มือไพล่หลัง ท่าทีเฉยเมย

“อืม” เขาส่งเสียงตอบ

ชางหลิงเงยหน้าขึ้นมองเขา

“ฉันไม่เคยสงสัยในตัวเธอกับหลีซิน เพราะฉันรู้จักเขาดี ต่อให้เขาชอบเธอ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแย่งคนที่รัก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักเขา และไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักเธอ”

หลายคนคิดว่าหลีซินชอบเธอ แต่เธอกลับไม่ได้ตระหนักเลยว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาร้ายแรง ปล่อยให้มันเป็นไปจนถึงตอนนี้ การที่ซูเสี่ยวเฉิงมีปฏิกิริยาเช่นนี้จึงเป็นเรื่องปกติ

“ฉันจะไปพูดกับเธอให้ชัดเจน” พูดอย่างนั้นแล้วชางหลิงก็ต้องการจะลุกขึ้นและวิ่งออกไป

“เรื่องนี้เธอแก้ปัญหาไม่ได้” โหมวยู่ห้ามเธอไว้ “ใครเรียนผูกคนนั้นก็ต้องเรียนแก้ ไม่ใช่เธอ”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท