จ้าวจื่อฉีหัวเราะ เปลี่ยนเรื่องพูด “คุณชาง บริษัทของเราทำนิยายออนไลน์ก็ไม่ใช่ปีสองปีแล้ว หนังสือที่ดังมีมากมาย สิ่งที่ให้คุณดู พวกเราก็รับประกันคะแนนความนิยม…..”
“ฉันมาเพราะหนังสือเล่มนั้นโดยเฉพาะเลย” ชางหลิงพูดตัดคำพูดเธอ “ในเมื่อพวกคุณถอดออกแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว”
พูดไป ชางหลิงก็อยากลุกขึ้นจากไป
“เดี๋ยวก่อน” จ้าวจื่อฉีเห็นเธอจะจากไป ก็รีบขวางเธอไว้
นี่เป็นถึงคนของเซิ่งซื่อ ในเมืองหนานมีบริษัทไหนไม่อยากไปจับกิ่งไม้อย่างเซิ่งซื่อ ถ้าหากได้รับการลงทุน เป้าหมายของบริษัทเขาไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองอย่างแน่
“บอกคุณตามตรง” จ้าวจื่อฉีถอนหายใจ “หนังสือเล่มนี้ ตอนแรกบริษัทของเราไม่คิดจะทำได้แล้ว”
“คุณก็เป็นคนฉลาด แน่นอนก็ต้องรู้ว่าทุกสาขาอาชีพก็มีระเบียบของสาขาอาชีพนั้น เว็บไซต์ของเราก็ต้องหาเลี้ยงชีวิต ผู้อ่านก็คือพระเจ้าของเรา แน่นอนว่าพวกเขาชอบอ่านอะไรเราก็เขียนอย่างนั้น”
“หนังสือเล่มนี้ระยะแรกยังดี แต่พอถึงระยะหลัง นักเขียนก็เขียนได้ไกลจากท้องตลาดทั่วไปเกินไปแล้ว พวกเราเพื่อคำนึงถึงยอดขาย และตักเตือนเธอไปหลายครั้งแล้ว แต่ว่านักเขียนพวกนี้ แต่ละคนก็คิดว่าตัวเองเขียนอะไรได้หน่อยก็หยิ่งยโสมาก พูดยังไงก็จะเขียนสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่พวกเราก็ไม่สามารถให้เธอใช้ทรัพยากรของเราเพื่อความสุขของเธอเพียงคนเดียว”
“หนังสือเล่มนี้สามารถมีผลตอบรับดี ล้วนเป็นเพราะการโฆษณาของเรา ไม่อย่างนั้นนักเขียนท้องตลาดอย่างเธอแบบนั้น ยังคิดว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน?”
ชางหลิงหรี่ตาเล็กน้อย “นี่คือหนังสือของเธอ เธอคือผู้เขียน เธออยากเขียนให้มันเป็นแบบไหนก็เขียนแบบนั้น พวกคุณมีสิทธิ์อะไรไปแทรกแซงเธอ?”
“คำพูดมันพูดแบบนี้ไม่ได้” จ้าวจื่อฉีแก้ไขคำพูดเขา “เว็บไซต์เป็นของพวกเรา จะวางขายหรือโฆษณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับพวกเรา พวกเราทำแค่สิ่งที่ตลาดต้องการ ถ้าหากเธอไม่เชื่อฟัง พวกเราก็สามารถปิดการขายได้ตลอด”
“ฉันเคยอ่านหนังสือเริ่มนั้น……” ชางหลิงเงยหน้า “พระเอกนางเอกต่างก็นิสัยโดดเด่น เพราะฉะนั้น ถ้าหากตามความคิดของพวกคุณ ต่อจากนี้ พวกคุณอยากให้เธอเขียนยังไง?”
“ก็ต้องทำแผนการท้องตลาดของเรา” จ้าวจื่อฉีตบต้นขา “พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณหนูตระกูลร่ำรวยอีกคน ทั้งสองคนรักกันอย่างลำบาก ระหว่างพากันหนี รถตกเหว นางเอกโชคดีรอดชีวิต พระเอกสูญเสียความทรงจำ…….”
ชางหลิงมุมปากกระตุก
“นิทานนี้ มันต้องมีขึ้นมีลงถึงมีจุดดึงดูด ฉันทำบรรณาธิการมานานขนาดนี้แล้ว ทุกคนอยากดูอะไรฉันรู้ดี เธอเป็นนักเขียนใหม่คนหนึ่ง ยังมาพูดอะไรความรู้สึกพลังบวกพวกนี้กับฉัน ยังอยากพลิกผันให้นางเอกกลายเป็นนักธุรกิจผู้ยอดเยี่ยม”
“ตลาดในตอนนี้ ใครจะอยากไปดูว่าคุณร่ำรวยขึ้นมายังไง? สร้างนางเอกออกมามากมายขนาดนี้ แต่สุดท้ายที่โด่งดัง ก็เป็นพวกนางเอกที่น่ารักใจดีอ่อนโยนพวกนั้น สิ่งที่ทุกคนชอบดู คือบทละครที่นางเอกพระเอกรักกันจะเป็นจะตายพวกนั้น”
ชางหลิงขมวดคิ้ว เธอถอดแว่นกันแดดออก ยิ้มแล้วมองจ้าวจื่อฉี
จ้าวจื่อฉีมองหน้าใบนี้ที่ค่อนข้างคุ้นเคย ตะลึงไปนิดหน่อย สักครู่ก็นึกขึ้นมาได้
“คุณชาง…….พวกเรา เคยเจอกันที่ไหนมาก่อนใช่ไหม”
ผู้ช่วยสาวนึกขึ้นมาได้ รีบเขย่าแขนของจ้าวจื่อฉี พูดอยู่ข้างหูของเธอ
“คุณคือ……” สุดท้ายจ้าวจื่อฉีก็นึกออกแล้ว
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือประธานเซิ่งซื่อมีแฟนคนธรรมดาทั่วไป ทิ้งคู่หมั้นของตัวเองอย่างใจร้าย ทำให้คุณหนูตระกูลโม่ใจสลายฆ่าตัวตาย
รูปถ่ายที่พวกสำนักข่าวถ่ายมาได้ รูปถ่ายของผู้หญิงคนนั้น…….
“คุณก็คือ…….ชางหลิง” จ้าวจื่อฉีตกใจ
ชางหลิงเอียงคอเล็กน้อย ยิ้มเล็กน้อยให้กับจ้าวจื่อฉี
“ดูท่าแล้ว คุณเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว ถ้าเช่นนั้น ก็ต้องเคยได้ยินข่าวลือบางอย่างแล้ว” ถ้าเดาไม่ผิด ตอนนี้เธออยู่ในสายตาคนนอก คงเป็นฆาตกรมือที่สามที่ชื่อเสียงเน่าเหม็น
“รู้…….โอ้ไม่ ปกติฉันก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้” จ้าวจื่อฉีรีบโบกมือ
“ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่า นางเอกในนิยายเรื่องนี้ เหมือนฉันไหม?” ชางหลิงถามเธอต่อ
“เป็นไปได้ยังไง……” จ้าวจื่อฉีปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ แต่ว่า…….เดี๋ยวก่อน
ประธานผู้เด็ดขาด นักออกแบบอัจฉริยะมือใหม่ คู่หมั้นตระกูลผู้ดีไฮโซร่ำรวย……..
ตัวละครพวกนี้ ทำไมฟังดูคุ้นหูแบบนี้ นั่นไม่ใช่…….
จ้าวจื่อฉีค่อยๆอ้าปากกว้างขึ้น ถูกการค้นพบของตัวเองทำให้ตกใจพูดอะไรไม่ออก
ชางหลิงไม่ได้พูดมาก เธอหยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง ระยะนี้ เธอทั้งโกงทั้งหลอกมาจากโหมวยู่ไม่น้อยแล้ว พอเพียงสำหรับเธอที่จะซื้อลิขสิทธิ์ของหนังสือเล่มนี้แล้ว
“คุณจ้าว หนังสือเล่มนี้ ถูกใจฉันมาก เพราะฉะนั้น ตั้งแต่วันนี้ มันก็เป็นของฉันแล้ว” ชางหลิงยื่นบัตรธนาคารไปให้จ้าวจื่อฉี ยื่นมือให้ป๋ายจื๋อ ป๋ายจื๋อเข้าใจ หยิบสัญญาการซื้อลิขสิทธิ์ออกมาหนึ่งฉบับ
“ตัวเลขนี้ คิดว่าคงไม่ได้ทำให้คุณผิดหวังหรอกนะ ส่วนที่เกินมา ก็ถือว่าเป็นส่วนที่ฉันวางหนังสือเล่มนี้ในเว็บไซต์ของบริษัทพวกคุณชั่วคราว ฉันหวังว่า ไม่ว่าฉันกดเข้าไปในเว็บไซต์เมื่อไหร่ หนังสือเล่มนี้ต้องอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น คุณคิดยังไง?”
จ้าวจื่อฉีมองดูตัวเลขบนสัญญาฉบับนั้น อดที่จะเบิกตากว้างไม่ได้
ราคานี้ สามารถซื้อลิขสิทธิ์ละครของหนังสือหลายเล่มแล้ว
“คุณชาง…….” จ้าวจื่อฉีรู้สึกเหมือนตัวเองเกิดภาพหลอน “คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้? หนังสือเล่มนี้…….เป็นไปได้สูงมากว่าสุดท้ายผลตอบรับจะไม่ใช่อย่างที่คิด ไม่คุ้มกับราคาที่คุณให้”
“ฉันไม่ต้องการให้มันได้รับผลตอบรับดี” ชางหลิงยื่นปากกาให้จ้าวจื่อฉี
“ฉันไม่เข้าใจการตลาดของพวกคุณ และไม่รู้ว่าหนังสือแบบไหนจะดัง แต่ว่า ฉันเคยทำความเข้าใจ ประเทศของเรามีคนหลายสิบล้านที่ทำงานเขียนออนไลน์ ถ้าหากทุกคนต่างทำตามความต้องการของตลาด ถ้าอย่างนั้นหนึ่งเล่มกับหนึ่งพันเล่มมันต่างกันยังไง?”
“ฉันเชื่อ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมไปทำเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบ แต่เพราะชีวิตบังคับ ไม่มีทางเลือก พวกเราสามารถที่จะไม่เข้าใจไม่เห็นด้วยกับความคิดของพวกเขา แต่ว่า จะขัดขวางทำลายไม่ได้ ใช่ไหม?”
ชางหลิงยังจำได้ว่าซูเสี่ยวเฉิงเคยพูดคำพูดพวกนี้
ชั้นประถมปีที่สามวิชาเรียงความครั้งแรก หัวข้อคือ (พวกเราหลังจากยี่สิบปี)
ครูเคยอ่านเรียงความของซูเสี่ยวเฉิง เธอพูดว่า อนาคตเธอจะเป็นนักเขียน เปิดร้านหนังสือ เขียนสิ่งที่ตัวเองอยากเขียน ขายหนังสือที่ตัวเองรัก
หญิงสาวใสซื่อที่ดูภายนอกไร้เดียงสาคนนั้น ชอบเคโกะ ฮิงาชิโนะ ชอบหยูหัว บอกว่าตัวเองจะเป็นคนที่เหมือนกับลู่ซุน
จ้าวจื่อฉีลังเลไปนานมาก สุดท้าย เธอก็รับปากกามา เซ็นชื่อของตัวเองบนสัญญา ประทับตราบริษัท
“เรียบร้อย” ชางหลิงลุกขึ้น ใส่แว่นกันแดดกลับไปใหม่ เดินออกไปข้างนอก
พอถึงประตู เธอก็หยุดเดิน หันกลับไป “เรื่องนี้ หวังว่าคุณจ้าวจะรักษาความลับ อย่าบอกกับนักเขียนคนนั้น จากนี้ไป หนังสือเล่มนี้เธออยากเขียนยังไงก็ให้เธอเขียน”