โหมวยู่เดินออกจากโรงพยาบาล ด้วยความโมโห พอถึงหน้ารถตัวเอง ความโมโหยิ่งรุนแรง ถีบล้อรถอย่างหนัก
จนทำให้เสียงนิรภัยของรถดังขึ้น โหมวยู่เอามือเท้าสะเอว สงบสติอารมณ์ หยิบโทรศัพท์ออกมา
“คุณชายรอง” เสียงของฉู่ฉือดังขึ้นมา
“ไปสืบผู้หญิงคนนั้น ดูว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอทำ” โหมวยู่หมดความอดทน “ผมไม่ห่วงว่าเธอจะเป็นหรือตาย ขอแค่เธอกล้าแตะต้องชางหลิงแม้แต่ปลายขน ผมจะให้ครอบครัวเธอถูกฝังไปด้วย”
น้ำเสียงเคร่งขรึมมาก เขาจับมือถือไว้ เสมือนจะบีบมันให้ละเอียด
“ได้ครับคุณชายรอง” ความจริงฉู่ฉือก็รู้สึกสงสัย แต่ฟังจากน้ำเสียงของโหมวยู่ ต้องเป็นเพราะเกิดอะไรขึ้นกับชางหลิง เขาจึงรีบตอบรับ ไม่กล้าทำให้โหมวยู่โกรธ
ชางหลิงเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคืน หญิงชราเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เข้าห้องพักฟื้นธรรมดา ตำรวจมาสอบปากคำ ตอนที่ฟ้าสว่างแล้ว ชางหลิงที่นอนอยู่ที่โต๊ะถูกปลูกจากเสียงดังกึกก้อง
“แม่ แม่เป็นยังไงบ้าง?” คนทั้งกลุ่มเข้ามาพร้อมกัน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงอายุประมาณสามสิบ เริ่มร้องไห้ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าคนป่วย “แม่ผู้โชคร้ายของหนู ใครมันที่ไม่มีตามาชนแม่จนเป็นแบบนี้”
ชางหลิงลุกขึ้น ห้องที่กว้างขวางจากการบุกเข้ามาของคนกลุ่มนี้แคบไปทันที
“สวัสดีค่ะ” ชางหลิงท่าทางจริงใจ มองไปที่ผู้หญิงคนนั้น “ไม่ทราบว่าคุณคือ…….”
ผู้หญิงตาแดงทั้งสองข้าง พอเห็นชางหลิง ก็ตบหน้าเธออย่างไร้วี่แววทันที
ตบนี้กะทันหันจนไม่ทันตั้งตัว ชางหลิงรู้สึกถึงอาการแสบร้อนเจ็บปวดบนหน้า รู้สึกตกใจมาก “คุณตบคนอื่นทำไม?”
“ฉันตบเธอยังถือว่าเบาไป เธอมันฆาตกร เธอชนแม่ฉันจนกลายเป็นแบบนี้ ฉันจะให้เธอชดใช้ด้วยชีวิต” ผู้หญิงตะโกนเสียงดัง คนข้างกายเธอก็พากันช่วยเธอพูด ต่างพากันต่อว่าชางหลิง
“ฉันไม่ได้ชน” ชางหลิงอธิบาย “เธอล้มอยู่หน้ารถของฉันเอง”
“ล้มอยู่หน้ารถของเธอเอง? ถ้าอย่างนั้นเธอก็หมายความว่าพวกเราใส่ร้ายเธอ? แม่ฉันถูกชนจนขนาดนี้แล้ว ซี่โครงหักแล้ว เธอยังจะแก้ตัว? อีกอย่าง ถ้าหากไม่ใช่เธอชน ทำไมเธอต้องส่งเขามาโรงพยาบาลด้วย? ก็เพราะเธอรู้สึกผิดไง?”
ชางหลิงรู้สึกว่าคำพูดแบบนี้ตลกสิ้นดี เพราะว่าเธอส่งแม่เธอมาโรงพยาบาล เพราะฉะนั้น เธอก็คือผู้ก่อเหตุ?
“คุณรู้ได้ยังไงว่าแม่ของคุณอยู่ที่นี่?” ชางหลิงมือกอดอก
“ก็ต้องเป็นเพราะตำรวจบอกฉันไง แม่ฉันออกไปซื้อกับข้าว นานขนาดนี้ไม่กลับบ้าน ฉันหาอยู่ตั้งนาน ใครจะไปรู้ กลับถูกคนจิตใจโหดอย่างเธอขับรถชน” ผู้หญิงแสดงท่าทางจะร้องไห้อีก
ชางหลิงหมุนตัว หันไปถามตำรวจ “คุณตำรวจ ตอนที่คุณแจ้งกับญาติ ได้พูดถึงอาการบาดเจ็บหรือเปล่าว่าเจ็บตรงไหน?”
ตำรวจก็รู้สึกแปลกใจ ส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้น พี่สาวท่านนี้ ไม่ทราบว่าคุณรู้ได้ยังไงว่าแม่คุณถูกชนจนซี่โครงหัก?” ชางหลิงถามเธอ
“เธอ…….” ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้จะพูดยังไง “เธอไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง”
“อีกอย่าง คุณบอกว่าแม่คุณออกไปซื้อกับข้าว แต่ว่าจุดเกิดเหตุคือหนานวาน ถนนเส้นนั้น ทะลุไปได้ที่เดียว นั่นก็คือคฤหาสน์หนานวาน เพราะฉะนั้น แม่ของคุณจะไปซื้อกับข้าวอะไรที่หนานวาน?”
ชางหลิงตัดสินได้ว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกบ้านในเขตคฤหาสน์ ไม่ใช่เพราะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่เพราะว่าราคาบ้านที่นั่นแพงมาก คนที่สามารถซื้อบ้านที่นั่นได้ ต้องร่ำรวยมาก ถ้ามีเงินซื้อบ้านที่นั่น บ้านไหนจะไม่มีคนใช้แม่บ้านบ้าง ใครจะไปให้แม่อายุหกสิบออกไปซื้อกับข้าวเอง?
“คุณตำรวจ คุณต้องช่วยพวกเรานะคะ คนอย่างพวกเขา มีเงินนิดหน่อยก็ดูถูกพวกเรา แม่ของฉันเป็นชาวสวนมาทั้งชีวิต ซื่อสัตย์จริงใจ อาการบาดเจ็บบนตัวนี้คงไม่ใช่เรื่องปลอมแล้ว มีใครที่ไหนเพื่อหลอกเงินทำให้ตัวเองบาดเจ็บขนาดนี้?”
เรื่องนี้ก็เป็นจุดที่ชางหลิงไม่เข้าใจ อาการบาดเจ็บของเธอมาจากไหน?
บาดเจ็บหนักขนาดนี้ ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล กลับตั้งใจมารอรถของพวกเขา จากนั้นก็ล้มอยู่หน้ารถเธอ?
“ถ้าหากฉันเป็นคนชน ฉันต้องรับผิดชอบแน่ แต่ว่าถ้าไม่ใช่ฉันชน คุณบีบบังคับกันแบบนี้ ยังลงมือทำร้ายคนอื่น ฉันฟ้องคุณหมิ่นประมาทแน่” ชางหลิงตั้งแต่เด็กก็โต “หล่อหลอม” ขึ้นมาด้วยมือของผู้หญิงปากร้ายอย่างจ้าวหลันจือ ไม่ได้กลัวว่าคนพวกนี้จะมองเธอยังไง
“เธอนี่มันอวดดีนัก” ผู้หญิงตะโกน พุ่งเข้าไปจะดึงตัวชางหลิง “เธอยังอยากฟ้องฉัน วันนี้ฉันก็อยากดูเหมือนกัน ว่าใครฟ้องใครกันแน่”
ชางหลิงถอยหลังอีกก้าว ป๋ายจื๋อเดินเข้ามาจากข้างนอก ขวางตัวข้างหน้าชางหลิง ตำรวจเห็นสถานการณ์แล้วก็รีบดึงผู้หญิงคนนั้นไว้ ไม่ให้เธอก่อเรื่อง
“คนที่ขับรถคือผม” ป๋ายจื๋อผู้ด้วยสายตาเย็นชา “พวกคุณจะเจาะจงก็มาที่ผมเลย”
ผู้หญิงกวาดตามองป๋ายจื๋อทีหนึ่ง จากนั้นยังคงจ้องชางหลิงอย่างโหดเหี้ยม “ฉันไม่สนว่าใครขับรถ ไม่ว่ายังไงพวกเธอใครก็หนีไม่รอด”
ชางหลิงถอนหายใจ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนแบบนี้อีก
ป๋ายจื๋อขวางไว้ไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้เธอ เธอถอยออกจากห้องผู้ป่วย
“คุณตำรวจ เรื่องนี้จะจัดการยังไง?” ชางหลิงพูดกับตำรวจด้วยน้ำเสียงที่ดี
“พวกคุณไม่มีหลักฐาน เรื่องนี้ก็ค่อนข้างจัดการยาก” ตำรวจรู้สึกลำบากใจ “เพราะว่าเขาบาดเจ็บคือเรื่องจริง”
“ผมดูแล้ว ตรงปากทางมีกล้องวงจรปิด น่าจะบันทึกเหตุการณ์ได้” ป๋ายจื๋อตามเข้าไป
ตำรวจมองหน้ากัน ยิ่งลังเล
“ต้องขอโทษด้วย เมื่อกี้เราไปขอภาพกล้องวงจรปิดที่กรมขนส่งแล้ว แต่ว่ากล้องหนึ่งในนั้น เมื่อวานถูกคนทำลายเสียหายแล้ว เพราะว่าเป็นช่วงตรุษจีน เพราะฉะนั้นช่างก็เลยยังไม่ได้ไปซ่อม……”
“กล้องวงจรปิดเสียหาย?” ชางหลิงตะลึง “ทำไมบังเอิญขนาดนี้?”
“ใครเป็นคนทำลาย?” ป๋ายจื๋อถาม
“อันนี้……คนคนนั้นใส่เสื้อมิดชิด หลังจากกล้องเสียหายแล้ว ก็ไม่สามารถบันทึกภาพได้ เพราะฉะนั้น พวกเราก็ยังหาไม่เจอ……”
ชางหลิงยิ่งอยู่ยิ่งสงสัยแล้ว
“กล้องหน้ารถของเราก็ถูกคนทำลาย แล้วยังบังเอิญขนาดนี้ ถนนจุดเกิดเหตุ ก้องก็เสียงพอดี?”
นี่มันไม่ใช่เหตุการณ์จงใจเหรอ? ก็เพื่อสร้างเรื่องให้พวกเขาต้องถูกว่าขับรถชนคน
ชางหลิงอันกลับไปมอง คนกลุ่มนั้นที่อยู่ในห้องผู้ป่วย
ใช่พวกเขาไหม? แต่ว่าเธอมั่นใจได้ ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้จักพวกเขา ทำไมพวกเขาต้องทำร้ายเธอด้วย?
“ผมแนะนำให้พวกคุณเจรจากับญาติก่อน ฟังความต้องการของพวกเขาก่อน ทางเราจะพยายามหาหลักฐานอย่างเร็วที่สุด ถ้าหากว่าไม่ใช่พวกคุณทำ พวกเราไม่ให้พวกคุณถูกใส่ร้ายแน่” ตำรวจพูดปลอบชางหลิง
ชางหลิงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก
รอตำรวจจากไป ชางหลิงอันไปมองป๋ายจื๋อ “กล้องตัวนั้น คุณกู้คืนได้ไหม?”
ป๋ายจื๋อส่ายหน้า “ฝ่ายตรงห้ามเตรียมตัวไว้แล้ว ถ้าหากเป็นเพียงแค่ปัญหาสัญญาณขัดข้อง ผมสามารถกู้ข้อมูลคืนได้ แต่ว่ากล้องถูกทำลายจนเสียหาย ไม่ได้บันทึกภาพไว้ ผมจัดการไม่ได้”
“ก็หมายความว่า เรื่องนี้ พวกเราต้องเป็นแพะรับบาปแล้ว?”