เสียงของโหมวฉี่ยังคงอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนเดิม เหมือนแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ “จัดการให้เรียบร้อยให้เร็วที่สุด”
“ครับ!”เซียวฉู่ตอบรับเหมือนหุ่นยนต์
เซียวฉู่อ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ แต่พอเห็นว่าโหมวฉี่หันหลังให้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
คุณชายฉี่เป็นคนที่พูดอะไรเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดว่าเขาพูดมากก็มีแต่จะทำให้เขารำคาญเท่านั้น
อีกทางด้านหนึ่ง ชางหลิงที่เห็นฉู่ฉือกลับมาอีกครั้งก็รู้สึกสงสัย ป๋ายจื๋อยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ยังไม่กลับอีกเหรอครับ?”
“เมื่อกี้หลิวเย่นฟางสร้างเรื่องอยู่ด้านนอก ผมให้คนจัดการเธอเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวตำรวจก็คงมา”
ชางหลิงพยักหน้า ไม่ได้ตอบรับอะไรมากมาย
พวกเธอยังหาหลักฐานไม่ได้ ต่อให้ตำรวจมาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างมากก็แค่เตือนไม่กี่ประโยคเท่านั้น
ฉู่ฉือหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับยื่นเอกสารให้เธอ “นี่คือหลักฐานที่คุณชายรองต้องไปตามหาจากโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านของหลี่กุ้ยเฟินทั้งหมด นี่คือภาพวิดีโอทั้งหมด มันสามารถพิสูจน์ได้ว่าการบาดเจ็บของหลี่กุ้ยเฟินเกี่ยวข้องกับพวกคุณรึเปล่า”
ชางหลิงรับแฟ้มเอกสารมา แล้วก็รู้สึกประหลาดใจ
เธออ่านเอกสารพวกนั้น พอเห็นเนื้อหา ก็มีความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันอยู่ในหัวใจ
อาการบาดเจ็บของหลี่กุ้ยเฟิน……มันมีอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ตอนแรกเธอก็ให้ป๋ายจื๋อไปสืบเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่า โหมวยู่จะเร็วกว่าเธอ หนึ่งก้าว
แต่ว่า เขาไม่เชื่อเธอไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม……ถึงได้ช่วยเธอล่ะ?
“ ขอบคุณค่ะ” ชางหลิงมึนงง
“เห็นได้ชัดเลยว่าคุณชายรองเป็นห่วงคุณมาก แล้วอีกอย่าง ในใจของคุณก็มีคุณชายรองอยู่ ระหว่างสามีภรรยา ถ้าเกิดว่ามีเรื่องเข้าใจผิดกัน ก็ต้องอธิบายกันให้เคลียร์” ฉู่ฉือพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าทุกคำที่เขาพูดนั้นมันล้วนออกมาจากใจ
ชางหลิงตาแดง แล้วก็พยักหน้าเงียบๆ
“คุณชาง คุณจะกลับไปตอนไหน ให้ผมมารับไหม? ” ฉู่ฉือพยายามตีเหล็กตอนร้อน
ชางหลิงก้มหน้า ระหว่างเธอกับโหมวยู่ยังมีเรื่องอีกมากมาย ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะกลับไป
“คุณกลับไปก่อนเถอะ!”
ฉู่ฉือเห็นใบหน้าที่ดื้อรั้นของชางหลิงก็รู้ว่าเขาไม่สามารถเรียกเธอได้ ก็เลยจำใจต้องกลับไปยังไม่มีทางเลือก
ป๋ายจื๋ออ่านเอกสารที่ฉู่ฉืออย่างจริงจัง เขาดูผ่อนคลายขึ้นเยอะมาก “ผมไปจัดการก่อนนะ”
“ฉันไปด้วย”
หลิวเย่นฟางตื๊อเก่งจะตาย ชางหลิงกลัวว่าป๋ายจื๋อจะรับมือกับการเล่นแง่ขนาดนี้ไม่ไหว
“ร่างกายของคุณไหวจริงๆ เหรอ?”ใบหน้าของป๋ายจื๋อดูเรียบเฉย แต่ว่าคำพูดที่พูดออกมามันเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
ชางหลิงยิ้มพร้อมกับเอามือลูบท้องของตัวเอง “ไม่เป็นไรหรอก ลูกของฉัน ก็ต้องอยากไปสนามรบกับฉันอย่างแน่นอน”
ป๋ายจื๋อเห็นว่าใบหน้าของชางหลิงเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างแล้ว ก็พยักหน้าตอบรับ
ตำรวจมาเร็วมาก ป๋ายจื๋อกวาดสายตามองหลิวเย่นฟางอย่างเยือกเย็น แล้วก็เอาหลักฐานที่โหมวยู่หามาได้มอบให้ตำรวจ
“หลักฐานนี้เป็นเรื่องจริง นี่คือวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลในชุมชน” หลังจากตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับแล้ว ตำรวจก็อธิบายอย่างกระอักกระอ่วน “ขอโทษด้วยนะครับคุณชาง ครั้งที่แล้วที่เราไปกล้องวงจรปิดที่นั่นมันเกิดข้อขัดข้อง แถมหมอกับพยาบาลวันนั้นก็เข้ากะพอดี พวกเราก็เลยไม่ได้สืบค้นความจริงได้ในทันที เลยสร้างปัญหาให้กับคุณ ขอโทษมากๆ เลยนะครับ”
“เข้าใจค่ะ พวกเราก็เคยไปโรงพยาบาลนั้นเหมือนกัน”
ชางหลิงพยายามฝืนยิ้มยังข่มขืน คราวนี้ฝ่ายตรงข้ามจัดการเรื่องได้อย่างแนบเนียนไร้ที่ติ ถ้าเกิดว่าไม่มีโหมวยู่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะสามารถลบล้างข้อกล่าวหาไปได้
ตำรวจทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่มีทางเลี่ยง พวกเขาจ้องเขม็งไปที่หลิวเย่นฟางที่กำลังถูกบอดี้การ์ดควบคุมตัวอยู่ “หลิวเย่นฟาง หมอและพยาบาลพร้อมกับบันทึกประวัติคนไข้ในโรงพยาบาล สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าอาการบาดเจ็บของแม่คุณหลี่กุ้ยเฟินเกิดขึ้นก่อนที่จะเจอรถของคุณชาง”
หลิวเย่นฟางยังไม่ทันจะได้โต้ตอบ ตำรวจก็พูดต่อ “และพวกเราก็พบพยานของอุบัติเหตุทางรถยนต์ของหลี่กุ้ยเฟินแล้วด้วย คนที่ขับรถชนแม่ของคุณก็คือสามีของคุณเองเฉียนจื้อหย่วน เพราะคุณปฏิเสธการรักษาของแม่ แถมยังพยายามทำร้ายคุณชาง พวกคุณปลอมหลักฐาน ขู่กรรโชก ทำผิดกฎหมาย มากับพวกเราเดี๋ยวนี้!”
กุญแจมือเย็นๆ ส่องเป็นประกาย หลิวเย่นฟางตื่นตระหนกแล้ว เธอหันไปมองชางหลิงด้วยสายตาที่อ้อนวอน และขอร้องด้วยเสียงที่แหบแห้ง “คุณชาง ฉันขอร้องล่ะค่ะครั้งนี้ปล่อยพวกเราไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แม่ฉันโดนรถชน ฉันไม่มีเงิน ฉันไม่อยากดูแม่รอความตายไปต่อหน้าต่อตา มีคนบอกว่าให้แม่ฉันนอนรออยู่ที่ถนนแล้วจะให้เงินมารักษา พวกเรารู้สึกสับสนก็เลยยอมทำตามนั้น”
ร่างกายที่ผอมแห้งของหลิวเย่นฟางสั่นเทา ผมถึงขาวแห้งและชี้ฟู ยุ่งเหยิงกระจัดกระจายตกลงมาปิดใบหน้าของเธอ รูปลักษณ์ที่น่าสังเวชนี้ช่างแตกต่างกับคนก่อนหน้านี้ ที่เต็มไปด้วยคำหยาบคาย และเอาแต่บอกว่าจะจับชางหลิงเข้าคุก
ชางหลิงหันหน้าไปทางอื่นไม่อยากมองหน้าเธอ
ตอนนี้หลิวเย่นฟางน่าสงสารมาก แต่ว่าสิ่งชั่วร้ายที่เธอได้ทำก่อนหน้านี้มันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว และไม่สามารถที่จะลบล้างได้
“ฉันรับคำขอโทษของคุณ แต่ว่าฉันไม่ให้อภัยสิ่งที่คุณทำร้ายฉัน ส่วนจะลงโทษคนยังไงนั้น มันเป็นเรื่องของตำรวจ”
“แก······ทำไมแกถึงได้ชั่วร้ายแบบนี้ฮะ!ฉันขอโทษแล้ว แกยังจะเอายังไงอีก?”
ดวงตาสีแดงก่ำของหลิวเย่นฟางเต็มไปด้วยความดุร้าย จ้องมองตรงไปที่ชางหลิง ชางหลิงถอยไปด้านหลังโดยอัตโนมัติเพื่อปกป้องลูกในท้อง
ป๋ายจื๋อขวางอยู่ตรงหน้าของชางหลิง ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม
โหมวฉี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ชางหลิงตั้งแต่ต้นขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วก็หันหน้าไปหาตำรวจ “รบกวนด้วยนะครับ”
“พวกเราจะกลับไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”
ชางหลิงถอนหายใจออกมาอย่างไม่มีทางเลือก มองดูแผ่นหลังของตำรวจ แล้วก็พูดกับป๋ายจื๋อ “ตอนนี้น่าจะเหลืออีกไม่มากแล้ว คุณไปโพสต์เพื่อเผยแพร่ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วกัน”
พอชางหลิงคิดถึงเรื่องความรุนแรงในโลกอินเทอร์เน็ตช่วงนี้ก็รู้สึกปวดหัว เธอเบื่อหน่ายที่ต้องซ่อนอยู่ด้วยความกลัว
“ได้” ป๋ายจื๋อพยักหน้า
“แล้วก็ยังมีพวกสื่อที่ชอบกระพือให้เรื่องขยายใหญ่โตลุกลามออกไปอีก” แววตาของชางหลิงเยือกเย็นขึ้น “ในเมื่อพวกเขาชอบสร้างเรื่อง งั้นก็ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่หน่อยแล้วกัน”
“ความหมายของคุณคือ……” พอโหมวฉี่ได้ยินคำพูดของเธอ ก็ถามด้วยความสนใจ
ชางหลิงมองหน้าป๋ายจื๋อ แล้วก็ยิ้ม
“ในฐานข้อมูลของพวกเขา น่าจะยังมีข่าวร้อนอีกมากมายที่ยังไม่ได้เผยแพร่ด้วยสาเหตุหลายประการ” ปาปารัสซี่ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ ต้องมีอะไรซุกอยู่บ้างแหละ บ้างก็อาจจะโดนผู้มีอำนาจกดเอาไว้ บ้างก็อาจจะเก็บไว้เรียกเงิน
“เปิดโปงเรื่องพวกนั้นออกมา ก็เป็นเรื่องที่ถูกใจมวลชนมากเลยไม่ใช่เหรอ? ใครจะไม่ชอบกันล่ะ”ชางหลิงตบไหล่ป๋ายจื๋อ “ถ้ามีข่าวพวกนี้ ความสนใจของมวลชนก็จะถูกเบี่ยงเบนอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณทำได้ไหม?”
“อืม” ป๋ายจื๋อพยักหน้า
โหมวฉี่นั่งอยู่ข้างๆ มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป สุดท้ายเขาก็คลี่ยิ้มออกมาเหมือนกัน
เฉียนจื้อหย่วน สามีของหลิวเย่นฟางถูกจำคุก หลิวเย่นฟางเองก็ถูกกักตัวเอาไว้และมอบการศึกษาให้
หลังจากที่ป๋ายจื๋อกลับมาแล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึม นิ้วของเขาเคาะบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ไม่นาน ข่าวที่เกี่ยวกับชางหลิงก็ถูกจัดการอย่างเรียบร้อย และถูกแทนที่ด้วยพายุลูกใหญ่
ดาราสาวชื่อดังมีเสี่ยเลี้ยง พี่ใหญ่ของวงการมีลูกนอกสมรส ดารานำชายชื่อดังเป็นเกย์……
ข่าวในโทรศัพท์ก็เด้งขึ้นไม่หยุด งานแถลงข่าวของสื่อก็ถูกจัดขึ้นในทันที
ชางหลิงที่เป็นผู้นำอยู่เบื้องหลังนั้นก็นอนอยู่บนเตียง กินผลไม้ สบายใจอย่างมาก
เรื่องของเธอจบแล้ว ถงเอินกลับเมิ่งเคอก็ส่งข้อความมาถาม แม้แต่โจวลี่ลี่ก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยเหมือนกัน
มีเพียงแค่โหมวยู่ แม้แต่ข้อความเดียวก็ไม่มี
ชางหลิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเปิดเบอร์ของโหมวยู่แล้วก็กดออก เธอลังเลอยู่นับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายก็ไม่ได้กดปุ่มโทรออก
ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะรู้ตัวว่าป๋ายจื๋อยืนอยู่ข้างๆ เธอมาตลอด “ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือเปล่า?”
“อืม หลี่กุ้ยเฟินเสียชีวิตในโรงพยาบาลแล้ว”
“เป็นไปได้ยังไง?”สมองของชางหลิงเบลอไปหลังจากที่ได้รับข่าวที่กะทันหัน
ถึงแม้ว่าหญิงชราคนนั้นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ว่าก็ถูกส่งเข้าไปในโรงพยาบาลนานแล้ว พวกเธอให้เงินตั้งมากมาย หญิงชราก็ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ได้ยินมาว่าอาการก็ดีขึ้นมากแล้ว แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้เสียชีวิตได้?