จี้เหยากวงรีบวิ่งออกไปจากห้อง แล้วก็เห็นชางหลิงกลับป๋ายจื๋อกำลังเดินเข้ามาจากหน้าประตูคฤหาสน์
พอนึกถึงตอนหลังจากที่ชางหลิงเอาไป เธอคิดย้อนไปถึงวันเวลาที่เธออยู่กับโหมวยู่ 2 คนในคฤหาสน์แห่งนี้ มุมปากของจี้เหยากวงก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุข
เธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
ยังกลับมาทำอะไรอีก!
ที่นี่ไม่ต้องการชางหลิงแล้ว มีแค่เธออยู่กับโหมวยู่คนเดียวก็พอแล้ว
มีแสงที่ดุร้ายส่องประกายอยู่ในตาของจี้เหยากวง เธอหันหลังแล้ววิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนทันที
พอเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่คุณเคย ชางหลิงก็เรียกถามคนใช้ที่คุ้นตา “คุณชายรองอยู่บ้านไหม? ”
“คุณชายร้องอยู่ในห้องนอนค่ะ” เสียงของคนรับใช้ที่ตอบนั้นสั่นเล็กน้อย เธอมองชางหลิงแป๊บเดียวแล้วก็รีบก้มหน้าลงทันที นิ้วมืออดไม่ได้ที่จะกำชายเสื้อของตัวเองแน่น
ชางหลิงไม่ทันสังเกตท่าทางที่ตื่นตระหนกของคนใช้ เธอรีบเดินขึ้นไปชั้นบนทันที
พอขึ้นไปถึงชั้นห้องนอน ชางหลิงก็หยุดเดิน แล้วก็หันหลังไปพูดกับป๋ายจื๋อที่เดินตามหลังเธอมานาน “นายกลับไปพักผ่อนที่ห้องนายก่อนเถอะ ฉันไปหาโหมวยู่คนเดียวได้”
ป๋ายจื๋อเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเองด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
หน้าประตูห้องนอนหลักนั้น ชางหลิงกำลังจะยกมือขึ้นขอบประตู แต่ว่าพอแตะเบาๆ ประตูที่ไม่ได้ล็อกก็ค่อยๆ เปิดออก
ไม่ได้ล็อกประตู!
ชางหลิงมองประตูที่แง้มเปิดเล็กน้อยตรงหน้าของเธอ ความรู้สึกแปลกๆ ก็ถาโถมเข้ามาในหัวใจ
เธอยกมือขึ้นมา ลังเลอยู่คู่หนึ่ง จับลูกบิดประตูแน่นแล้วก็ผลักประตูเข้าไป
จะกลัวไม่ได้เด็ดขาด
ไม่แน่ว่าเจ้าโหมวยู่คนนั้นอาจจะรอหัวเราะเยาะเธออยู่ข้างในก็ได้!
เมื่อเห็นเครื่องเคลือบลายครามที่แตกละเอียดกับเสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย หัวใจของชางหลิงก็เริ่มเป็นกังวลทันที
เกิดอะไรขึ้นข้างในนี้?
โหมวยู่ตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า?
เกิดอะไรขึ้นกับพ่อบ้าน เสียงดังขนาดนี้ในห้องของโหมวยู่ไม่มีใครได้ยินหรือไงกัน?
ชางหลิงรีบก้าวเดินเข้าไปในห้องนอน ตอนที่เธอเห็นภาพบนเตียงนั้น หน้าอกของเธอก็เหมือนโดนหินก้อนใหญ่กดทับไว้ เธอเอามือที่สั่นเทาพิงผนังไว้พยายามจะยืนให้ไหว
“พวกคุณ······ พวกคุณทำอะไรกัน!” ชางหลิงหมดเรี่ยวแรงไปทั่วทั้งร่างกายจนเกือบจะพูดไม่ออก
บนเตียงที่รกรุงรัง หญิงสาวที่กำลังเปลือยกายหันหน้ามาอย่างกะทันหัน พอเห็นชางหลิงแล้วก็ตกใจจนตัวสั่น
จี้เหยากวงรีบมุดเข้าไปอยู่ข้างๆ โหมวยู่ มือเล็กๆ ของเธอกำผ้าห่มแน่น น้ำตาก็ไหลลงมา ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะกล้าพูดออกมายังขี้ขลาด
“ ขอโทษด้วยนะคะพี่ชางหลิง อย่าไปโทษพี่ยู่เลยนะคะ มันเป็นความผิดของฉันเอง หลายวันมานี้พี่ยู่อารมณ์ไม่ค่อยดี ดื่มเข้าไปเยอะมาก ฉันแค่อยากจะเอาซุปแก้เมามาให้เขา ไม่คิดเลยว่าจะกลายเป็นแบบนี้ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ค่ะ พี่ชางหลิง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ฉันจะไปให้ไกลเลย ต่อไปนี้ฉันจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าพี่กับพี่ยู่อีกโอเคไหม พี่อย่าโทษพี่ยู่เลยนะ เขาเมา ไม่รู้อะไรทั้งนั้นล่ะค่ะ”
ผมเผ้าของจี้เหยากวงยุ่งเหยิง เธอพูดไปด้วยพร้อมกับขยับไปข้างเตียง
“ได้ ถ้าอย่างนั้นหลังจากวันนี้เป็นต้นไปคุณหายตัวไปซะ เรื่องวันนี้ฉันก็จะไม่เอาเรื่อง”
พอได้ยินเสียงที่เย็นชาของชางหลิง จี้เหยากวงก็ซื่อบื้อไปในทันที!
ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้?
ชางหลิงควรจะฉีกหน้าโหมวยู่ เราก็ด่าด้วยความโมโหไม่ใช่เหรอ?
ตอนที่จี้เหยากวงกำลังมึนงงอยู่นั้น ชางหลิงก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเตียง พร้อมกับกระชากจี้เหยากวงลงมาที่พื้น แล้วก็จ้องเธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น “ฉันจะให้ป๋ายจื๋อไปส่งคุณเอง!”
จี้เหยากวงเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นแล้วเอามาวางตรงหน้าอกไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโมโห
มีสิทธิ์อะไรมาไล่เธอไป!
คนที่ควรจะไปก็คือชางหลิงต่างหาก
“ที่นี่คือคฤหาสน์ของพี่ยู่ พี่ยู่เคยบอกว่าจะมอบคฤหาสน์หลังนี้ให้ฉัน พี่มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันไป” ตอนที่แน่ใจแล้วว่าโหมวยู่ยังไม่ตื่น จี้เหยากวงก็ต้องชางหลิงอย่างดื้อรั้นเราพูดว่า “พี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ยังกลับมาทำอะไรอีก”
“ในที่สุดก็เลิกแสดงได้แล้ว!นี่คือห้องของฉัน ไสหัวออกไปซะ” เธอไม่มีอารมณ์จะมาพูดจาไร้สาระกับจี้เหยากวงให้มากความ แค่อยากให้เธอออกไปให้พ้นสายตาของตัวเอง
ชางหลิงรู้ดีว่า จนกว่าจี้เหยากวงจะเลิกยาได้ เธอไม่สามารถกำจัดยัยปลาสเตอร์หนังหมาที่อยู่ข้างกายของโหมวยู่ได้หรอก
หลังจากที่จี้เหยากวงออกไปจากห้องด้วยความไม่พอใจแล้วนะ ชางหลิงยืนอยู่ตรงหัวเตียงแล้วก็มองโหมวยู่ที่นอนนิ่งไม่ขยับอยู่บนเตียง เธอก็โมโหจนเจ็บหน้าอกไปหมด ผู้ชายคนนี้ยังหลับอีกเหรอ!
กินเหล้ารอโชยมาตรงหน้าเธอ ชางหลิงขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบ
อยู่กับผู้หญิงคนอื่นสองต่อสอง ยังกล้าดื่มจนเมา
ชางหลิงมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาที่แทบจะไม่มีข้อบกพร่องของโหมวยู่ เธอใช้แรงทั้งหมดของเธอ ตบลงไปที่หน้าของโหมวยู่
“เพียะ!” ความเจ็บปวดบนใบหน้าทำให้โหมวยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
พอโหมวยู่เห็นชางหลิงที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หัวเตียง สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขทันที เขาพูดด้วยเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อย “กลับมาแล้วเหรอ!”
ชางหลิงขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม สายตาของโหมวยู่ร้านสดใสมาก ไม่เหมือนคนที่เมาเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วกลิ่นเหล้าในห้องนี้มันมาจากไหน
เธอแต่หมอนที่เปียกชื้นเล็กน้อย แล้วชางหลิงก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง เธอถามด้วยสีหน้าที่เย็นชา “คุณดื่มเหล้าเหรอ!”
“เปล่า!”โหมวยู่โต้ตอบอย่างจริงจังในทันที
ตอนนี้หัวของเขายังไม่กระจ่างเท่าไหร่นะ แต่ว่าทุกเรื่องที่เขาเคยรับปากกับชางหลิงนั้นเขาแกะสลักไว้ในใจอย่างดี สามารถมั่นใจได้ว่าเขาไม่มีทางแอบดื่มอย่างแน่นอน
ชางหลิงหยิบหมอด้านข้างแล้วโยนใส่หน้าของโหมวยู่ “ลองดมดูสิ!”
“หยุดวุ่นวายได้แล้วผมไม่ได้ดื่ม!”
แล้วตาของโหมวยู่มืดมน แล้วก็โยนหมอนไปด้านข้าง
“ไม่ได้ดื่มแต่คุณก็ขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนอื่นเนี่ยนะ”
ขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ?
เธอพูดอะไรกัน ทั้งๆ ที่เขาหมดสติไปเพราะอาการกำเริบ
โหมวยู่หันไปมองเสื้อผ้าผู้หญิงที่กระจัดกระจายอยู่ข้างเตียง เสื้อผ้าพวกนี้เหรอ? เหมือนกับว่าจะเป็นของจี้เหยากวง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจในทันที
เขาเงยหน้ามองผู้หญิงที่แววตาเต็มไปด้วยความโมโห เขากำลังจะอธิบายแต่สุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไร
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? ปล่อยให้เธอเข้าใจผิดไปแหละดีแล้ว เป็นแบบนี้เธอก็จะเสียใจ ผิดหวังในตัวเขาอย่างสิ้นเชิง ถ้าเป็นแบบนี้แล้วเธอจะได้จากเขาไป แล้วก็ใช้ชีวิตของตัวเองได้
“ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ!”
เสียงของโหมวยู่เย็นชาไร้ความรู้สึก ชางหลิงรู้สึกน้ำตาคลอด้วยความผิดหวัง
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีเหตุผลอื่นถึงได้เมินเธอ ผลักไสเธอออกไปข้างนอก แต่พอได้ยินคำพูดที่ไร้ความรู้สึกเหล่านี้ออกมาจากปากของเขาเอง หัวใจของเธอก็เหมือนถูกมีดกรีด
“ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ยุ่งแล้ว คุณอยากจะทำอะไรก็ทำแบบนั้นแหละ แต่ว่าคุณต้องให้บ้านที่สมบูรณ์กับลูกในท้องของฉัน นี่คือเส้นตายของฉัน”
เธอไม่รู้ว่าโหมวยู่ไปเจออะไรมากันแน่ถึงได้ผลักไส แต่ว่าตอนนี้เธอแค่อยากจะพาลูกมาอยู่กับเขา เรื่องที่ทำให้เขาผิดปกติคงจะเป็นเรื่องยากมาก!เธอไม่อยากจะให้เขาเผชิญหน้ากับมันคนเดียว
นี่เธอหมายความว่ายังไงกัน ใจเย็นกับเรื่องที่จี้เหยากวงนอนกับเขาได้ขนาดนี้เลยเหรอ!มันเพิ่งจะผ่านมาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เธอก็เห็นโหมวฉี่ดีกว่าเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ?
อยู่คฤหาสน์ของเขา ถ้าเธอจะไปก็ไปเลย แต่พอไปอยู่ที่คฤหาสน์ป้านซานกลับโหมวฉี่ก็ไม่อยากย้ายออกมาแล้วงั้นเหรอ
เสียงของโหมวยู่ขุ่นมัว สีหน้าก็มืดมนลงเรื่อยๆ “ ใครจะไปรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของผมจริงหรือเปล่า คุณอย่าลืมนะ พวกเราป้องกันตลอด”
ในใจของโหมวยู่เต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย ใบหน้าของเขาเฉยเมยไร้อารมณ์ ดวงตาที่ลึกซึ้งก็นิ่งสงบ
“ไอ้เลว!”
นี่โหมวยู่บอกว่าเด็กนี่ไม่ใช่ลูกของเขา!
ชางหลิงไม่สามารถสงบได้อีกต่อไปแล้ว เธอหยิบหมอนขึ้นมาปาใส่โหมวยู่
โหมวยู่รับหมอนไป และไม่พูดอะไรสักคำ
ชางหลิงโกรธจนกัดฟันกรอด เธอพูดออกมาทีละคำ “โหมวยู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง?”
เพราะเห็นว่าเธอโกรธจนตัวสั่น โหมวยู่ก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก แต่ว่าตอนนี้เขาจำเป็นต้องทำให้เธอหมดความรู้สึกกับเขา “ผมก็พูดไปชัดเจนมากแล้วนะ ผมไม่สนใจหรอกว่าลูกในท้องจะเป็นของใคร ไปเอาเด็กออกซะ แล้วผมจะยอมฝืนทนให้คุณย้ายกลับมา”